449 - สั่นสะเทือนภาคเหนืออีกครั้ง
"บูม"
หยางอี้ยกมือขึ้นแล้วฟาดออกเป็นวงกลมทำให้แสงสีเงินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แสงสีเงินสว่างวาบและส่งเสียงดังก้องทำให้สวรรค์และปฐพีสั่นสะเทือน
ดาบวัชระไล่ตามเย่ฟ่านในขณะที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องกลายเป็นคมดาบที่มีความยาวมากกว่าพันจ้าง
"บูม!"
ประกายสีเงินราวกับหิมะพร่างพราย ดาบวัชระตกลงมาและกระแทกหม้อพลังงานปราณปัฐพีต้นกำเนิด เกิดเสียงดังสนั่น บาดหู ภาพแห่งวันสิ้นโลกคล้ายกับจะมาถึงได้ตลอดเวลา
ภายใต้การจู่โจมที่สั่นสะเทือนสวรรค์ เย่ฟ่านถูกโจมตี หม้อวิเศษที่อยู่อยู่เหนือศีรษะของเขาหมุนคว้างอย่างรุนแรง
"อาวุธนี้น่ากลัวเกินไป มันต้องเป็นสิ่งที่ผสมผสานระหว่าง "เต๋า" และ "กฏ"! เย่ฟ่านหัวใจหนาวเหน็บ
เมื่อคิดว่าคมมีดนี้ถูกสร้างขึ้นโดยแก่นแท้เงินอันยิ่งใหญ่ และถูกสร้างขึ้นมาจากภายในของอาวุธเต๋าสุดขั้ว เขาก็รู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นไปอีก
"บูม"
การระเบิดครั้งที่สองมาถึง แม้ว่าแรงระเบิดครั้งนี้จะอยู่ไกลออกไปนับพันจ้าง แต่คลื่นกระแทกที่ซัดสาดออกไปด้านนอกก็ยังทำให้ใบหน้าของเย่ฟ่านเปลี่ยนสีเล็กน้อย
โครม!
บนพื้นดินมีหลุมลึกขนาดใหญ๋ เย่ฟ่านถูกโจมตีโดยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบและเขาไม่มีความสามารถในการหลบหนีได้ทัน
ในตอนนี้เขาได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ ความแข็งแกร่งของดาบวัชระนั้นเกินความคาดหมายของเขา แม้ว่าเขาจะใช้ญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้าแต่มันก็ยังยากที่เขาจะเอาตัวรอดได้
"ปัง!"
แส้ศักดิ์สิทธิ์ถูกเหวี่ยงไปหาหยางอี้ที่บินอยู่บนท้องฟ้า
"หลุมพรางนี้เจ้ายังคิดว่ามันจะได้ผล!"
เสียงดังกึกก้องทั่วท้องฟ้า หยางอี้ไม่ได้ลุกไล่ต่อแต่เขาวกดาบวัชระกลับมาปกป้องตัวเอง
ปัง!
การปะทะกันเกิดขึ้นอีกครั้งและหยางอี้ไม่ได้ถูกโจมตีทะเลสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตามที่คาด
เย่ฟ่านใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย เขารีบตรวจสอบแส้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะกลัวจะได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่มันยังคงเป็นแบบเดิมและไม่มีอะไรผิดปกติ
“เจ้าบ้า เจ้าทำให้บิดาคนนี้โกรธแล้ว!” เย่ฟ่านเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
หยางอี้เพิกเฉยต่ออารมณ์ของเย่ฟ่านและกระตุ้นดาบวัชระอีกครั้ง แสงศักดิ์สิทธิ์แวววาวบินเข้าหาเย่ฟ่านโดยตั้งใจจะทำการชี้ผลแพ้ชนะในเวลาอันสั้น
"บูม"
แผ่นดินสั่นสะเทือน เศษดินเศษหินพุ่งทะลุท้องฟ้า ที่ด้านล่างของบริเวณที่อาวุธทั้งสองปะทะกันเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่!
เย่ฟ่านรู้สึกหูอื้อและเวียนศีรษะเกือบจะกระอักเลือดออกมา หยางอี้คนนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคือผู้ที่แข็งแกร่งไม่เป็นรองบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงอย่างไม่ต้องสงสัย
เย่ฟ่านระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง หม้อวิเศษของเขาบินไปข้างหน้าในขณะที่เขาถือแส้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือพร้อมกับพุ่งเข้าหาหยางอี้
แผ่นดินสีแดงกำลังสั่นสะเทือน คลื่นพลังจากการระเบิด พลังศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านซัดกระจายออกไปหลายสิบลี้ ทำให้บริเวณสนามรบมีลักษณะเหมือนจุดศูนย์กลางของพายุ
เย่ฟ่านรู้ดีว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายและความเร็วของเขานั้นเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นเขาจึงบังคับให้หยางอี้ปะทะกันตรงๆกว่าสิบครั้ง
สวรรค์และปฐพีสะเทือนอย่างรุนแรง และเมื่ออิทธิพลของญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้าถูกแสดงออกมาในจุดสูงสุด ใบหน้าของหยางอี้ก็ขาวโพลนไร้สีเลือด
ความว่างเปล่าสั่นทะเทือน ดาบวัชระตั้งอยู่ในอากาศ และแสงสีเงินส่องประกาย
“อาวุธที่มีพลังของสวรรค์และปฐพีเชื่อมโยงกันนั้นน่ากลัวเกินไป!”
เย่ฟ่านกระแทกพัดขนนกห้าสีที่ขโมยมาให้ปะทะกับดาบวชิรโดยตรง
"บูม"
อย่างไรก็ตาม พัดขนนกเมื่อเปรียบเทียบกับดาบวัชระดูเหมือนจะกลายเป็นเศษขยะอย่างรวดเร็ว เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นไม่กี่ครั้งเมื่ออาวุธทั้งสองปะทะกันและพัดขนนกก็ได้รับความเสียหายเล็กน้อยในทันที
“บรรพบุรุษของเจ้า ไอ้สารเลวนั่นข้าจะไม่มีทางไว้ชีวิตมัน”
เย่ฟ่านรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก เริ่มที่เขาไม่ได้มีความขัดแย้งกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นเพราะผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผลักดันให้เกิดขึ้น
ในตอนนี้เมื่อไม่อาจสังหารฝ่ายตรงข้ามในขณะที่ญาณวิเศษลึกลับของเขาก็เริ่มหมดพลัง เย่ฟ่านจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากผลักดันพัดขนนกและหม้อวิเศษโดยหวังจะจู่โจมแลกชีวิตกับหยางอี้
“ข้าลืมบอกอะไรเจ้าบางอย่าง อาจารย์ของข้าเป็นคนรุ่นเดียวกันกับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์เมื่อแปดร้อยปีที่แล้ว การที่เจ้าต้องตายที่นี่ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว!”
ใบหน้าของหยางอี้เขียวคล้ำและพยายามกดดันเย่ฟ่านด้วยวาจา พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาถูกใช้มากเกินไป แม้ว่าดาบวัชระจะทรงพลัง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถใช้ออกได้ตามใจปรารถนา
เย่ฟ่านไม่พูดอะไร สภาพของเขาตอนนี้กำลังได้เปรียบอยู่เล็กน้อยทำให้เขารีบร้อนต้องการปิดบัญชี
"ตาย!"
ภายใต้การต่อต้านอย่างเต็มที่ ในที่สุดเขาก็กระแทกดาบวัชระให้เบี่ยงเบนออกไปด้านข้าง ในเวลาเดียวกันแส้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ทุบลงไปกลางหน้าผากของหยางอี้โดยตรง
พลังศักดิ์สิทธิ์ของหยางอี้นั้นแทบจะหมดแล้วและไม่สามารถป้องกันตัวเองได้อีกต่อไป เมื่อแส้ศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านมาถึงเขาก็ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้อย่างสมบูรณ์
เสียงอันแหลมคมตัดผ่านความว่างเปล่า หยางอี้พยายามดิ้นรนด้วยการใช้แขนของตัวเองเพื่อปกป้องบริเวณจุดกึ่งกลางหน้าผาก แต่มันก็เป็นเพียงการต่อต้านที่ไร้ประโยชน์
พลั่ก!
แขนของหยางอี้ถูกบดขยี้ไปพร้อมกับกะโหลกของเขา
ศีรษะของเขาแตกสลาย สมองสีขาวสาดกระเซ็นไปทั่วทุกทิศทาง
เย่ฟ่านบินกลับลงมาที่พื้นและถอนหายใจยาว ในที่สุดการต่อสู้ก็จบลง พลังของดาบวัชระนั้นเหนือจินตนาการจริงๆ
อย่างไรก็ตาม การเก็บเกี่ยวก็มีมากเช่นกัน ในอนาคตเขาจะใช้แส้ศักดิ์สิทธิ์ในการโจมตีระยะใกล้ และดาบวชิรของเขาจะกลายเป็นอาวุธที่ใช้โจมตีในระยะไกล
เย่ฟ่านไม่กล้าที่จะประมาทเขาตรึงดาบวชิระให้อยู่บนพื้นพร้อมทั้งใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขากวาดไปทั่วเพื่อมองหาร่องรอยวิญญาณของผู้อาวุโสดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงช่วงซึ่งอาจจะฝังไว้ในดาบวชิระ
เมื่อสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านไปถึงส่วนที่ลึกที่สุดของดาบวัชระกลิ่นอายอันตรายก็พุ่งออกมา
เย่ฟ่านถอยห่างไปด้านหลัง และแส้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาโจมตีอย่างต่อเนื่องสามครั้งส่งผลให้วิญญาณของใครบางคนที่ฝังอยู่ด้านในถูกทำลายในทันที
จากนั้นเขาก็ดำดิ่งลงไปในดาบวัชระอีกครั้ง มันสะอาดภายใต้การชะล้างของพลังศักดิ์สิทธิ์ มันไร้ที่ติ ไร้มลทิน งดงาม และสดใสราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
จนถึงตอนนี้ เย่ฟ่านถึงค่อยโล่งใจที่ได้ครอบครองอาวุธวิเศษชิ้นนี้ หลังจากการต่อสู้ที่สุดลงเขาก็สลักตัวอักษรเย่ลงบนพื้น จากนั้นเขาก็เดินเข้าสู่ส่วนลึกของทะเลทรายสีแดงอย่างไร้ร่องรอย
สามวันต่อมา มีข่าวมาจากแคว้นเหวินว่ายอดฝีมือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงสองคนถูกฆ่าอย่างน่าสังเวช ร่างกายของพวกเขาเหลือเพียงเถ้าถ่าน ในขณะที่ศีรษะของพวกเขาถูกห้อยไว้บนต้นไม้
ที่ด้านข้างของศีรษะทั้งสองมีใบไม้จารึกตัวอักษรเย่ซึ่งเต็มไปด้วยเจตนายั่วยุอย่างถึงที่สุด
ข่าวที่ว่าเย่ฟ่านฆ่าศิษย์จากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงในแคว้นเหวินกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว หลายคนรีบเข้ามาที่นี่ทันทีที่ได้ยินข่าว
เย่ฟ่านและศิษย์ของดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงสร้างมหาสงคราม แม้แต่ดาบวัชระหยางอี้ก็ยังถูกฆ่าตายไปแล้ว
ทันทีที่ข่าวนี้ออกมา ผู้คนจำนวนมากก็สั่นสะเทือน โดยเฉพาะผู้คนที่อยู่ในสำนักใหญ่ ทุกคนรู้ว่าดาบวัชระเป็นอาวุธเช่นไร ในขณะที่หยางอี้ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงคนใหม่
“เกิดอะไรขึ้น? เย่ฟ่านครอบครองอาวุธวิเศษของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงได้อย่างไร”
“เจ้ายังไม่รู้ ดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงเป็นนิกายใหญ่ที่ประกอบด้วยตระกูลมากมาย ตระกูลใหญ่เหล่านี้ล้วนส่งทายาทที่เข้มแข็งที่สุดของพวกเขาออกมาล่าตัวเย่ฟ่าน
ว่ากันว่าหากผู้ใดเอาศีรษะของเย่ฟ่านกลับมาได้ พวกเขาจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงช่วงคนใหม่.”
ในพื้นที่สีเขียวแห่งนี้ผู้ฝึกตนมากมายต่างก็สนทนากันอย่างเข้มข้น