ตอนที่ 377+378 ครอบครัวของเขา
“ฉันทำอะไรผิดไปเหรอ? เรื่องที่ฉันเอาเจียงเหยาไปเทียบกับสุนัขเหรอ?” โจวเหวยฉีทำหน้างงและมองไปที่เฉินซวีเหยาด้วยใบหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราว “เธอเบาจริง ๆ นะ ถ้าไม่เชือ่ ก็ลองไปอุ้มดูเอาเองสิ!”
“ฉันไม่คิดจะฆ่าตัวตายหรอก ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย” เฉินซวีเหยากลอกตาไปที่เจ้าบ้าที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา
ตอนนั้นเองที่โจวเหวยฉีตระหนักถึงความหายทั้งหมดของสิ่ที่เขาทำและพูด เขาหน้าซีดและยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามอย่างแผ่วเบาว่า “พี่ลู่ไม่ใช่คนใจแคบหรอกใช่ไหม? ฉันไม่มีเจตนาอื่นกับเจียงเหยาเลยนะ ปฏิบัติกับเธอด้วยความเคารพที่สุด อีกอย่างเธออายุน้อยกว่าฉัน ฉันปฏิบัติกับเธอเหมือนน้องสาว!”
“หึหึ...” เฉินซวีเหยายิ้ม “นายไม่รู้เหรอว่าพี่ลู่หวงสักแค่ไหน”
“ก็ฉันทำไปแล้ว” โจวเหวยฉีเกาหูของเขา “นายต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าให้พี่ลู่รู้ว่าฉันอุ้มเจียงเหยาตอนที่เขายังไม่ฟื้นนะ! ถ้าเขารู้ เขาต้องถลกหนังฉันทั้งเป็นแน่”
นายพลเหลียง ย่าเหลียงและคนอื่น ๆ ต่างหัวเราะเมื่อได้ยินคำอ้อนวอนของเขา “แค่ความหึงหวงของเขาก็เพียงพอที่จะฆ่านายได้ ถึงแม้นายจะไม่มีเจตนาอะไรกับเจียงเหยาก็เถอะ”
“บางทีชิงสียังไม่มีโอกาสอุ้มเจียงเหยาเสียด้วยซ้ำ” หลัวเหลาหรุนเข้าร่วมวงด้วย ทำให้โจวเหวยฉีแทบจะระเบิด
เมื่อเจียงเหยาตื่น ท้องฟ้าก็มืดสนิท ระหว่างทางกลับบ้านเธอผล็อยหลับไปและรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้งีบหลับ
โชคดีที่ผลข้างเคียงเพียงอย่างเดียวของการดำเนินการเหนือใบอนุญาตของเธอคือความอ่อนล้า สามารถแก้ไขได้ง่ายด้วยการหลับลึก
เธอมองดูเวลาและโทรหาโจวเหวยฉี
“ที่โรงพยาบาลเป็นยังไงบ้าง” เธอกังวลมากที่สุดเกี่ยวลู่ชิงสี แม้ว่าเธอจะรู้ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว แต่เธอก็ยังอยากรู้ว่ามีอะไรระหว่างที่เธอไม่อยู่บ้าง หลังจากได้ยินโจวเหวยฉีเล่าถึงอาการของลู่ชิงสี ในที่สุดเธอก็พอใจ
“เจียงเหยา เธอเหนื่อยมากแล้ววันนี้ คืนนี้ไม่ต้องมาหรอก ฉันจะอยู่เฝ้าพี่ลู่ที่นี่เอง อยากกินอะไรไหม ฉันจะสั่งร้านให้เอาเข้าไปส่ง”
“ไม่เป็นไร ฉันจะออกไปกินข้างนอก” เจียงเหยาพูดต่อหลังจากคิดครู่หนึ่ง “พี่ลู่เขาคงอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาลอีกสักพักใหญ่ ฉันจะกลับไปที่กองทัพ เพื่อเอาของใช้ส่วนตัวและสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ของเขา ฉันจะขับรถไปเอง เสร็จแล้วจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดและมาเปลี่ยนเวรกับคุณ”
“คุณช่วยฉันถามคุณนายหลินให้หน่อยสิ ว่าจะกลับไปกองทัพกับฉันด้วยไหม? ฉันคิดว่าลูกของเธอน่าจะยังอยู่ที่นั่น”
คุณนายหลินรีบมาโดยไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาด้วย อีกอย่างเมืองจินโดก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองจินมากนัก จึงทำให้สามารถขับรถไปมาระหว่างเมืองได้ง่าย ๆ
หลังจากได้รับคำตอบจากคุณนายหลิน โจวเหวยฉีก็ให้เจียงเหยาแวะทานข้าวเย็นก่อนขึ้นมาโรงพยาบาลและแวะรับคุณนายหลิน
เจียงเหยาอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะเรียกรถให้ไปส่งที่โรงพยาบาล เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เธอเข้าไปที่ห้องพักผู้ป่วย เพื่อตรวจดูอาการของลู่ชิงสี จากนั้นเธอก็ไปที่ห้องผู้ป่วยของพันเอกหลิน และทำสิ่งเดียวกัน เมื่อเธอออกจากห้องพัก เธอเห็นคุณหลินยืนอยู่กับคู่สามีภรรยาสูงวัย
__
ตอนที่ 378 กล้าหาญ
เมื่อเห็นเจียงเหยา คุณหลินยืนแน่นิ่ง รีบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังคู่สามีภรรยาสูงวันทันที เหมือนกับหนูที่เพิ่งเห็นแมว ร่างกายของเธอสั่นสะท้านและเธอมองไปที่เจียงเหยา เห็นได้ชัดว่าการข่มขู่โดยการตบไปสามครั้งของเธอได้ผล
“เจียงเหยา พวกเขาเป็นพ่อแม่สามีของฉัน” คุณนายหลินแนะนำพวกเขาอย่างเย็นชา
เจียงเหยาพยักหน้าให้คู่สามีภรรยาสูงวันหลังจากเห็นท่าทีที่เย็นชาของคุณนายหลิน และกล่าวว่า “ผู้พันหลินอาการดีขึ้นแล้วค่ะ”
คุณนายหลินยิ้มเมื่อมีคนพูดถึงสามีของเธอ “เขาฟื้นมาตอนบ่าย หลังจากได้ยินว่าขาของเขาไม่เป็นไร ก็ยิ้มอย่างกับเด็ก ๆ แหนะ”
อาการบาดเจ็บของพันเอกหลินนั้นเบากว่าลู่ชิงสีมาก เขาฟื้นหลังจากฤทธิ์ของยาสงบหายไป อย่างไรก็ตาม สำหรับลู่ชิงสีอาการบาดเจ็บที่รุนแรงนั้น ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามเจียงเหยาไม่ได้เร่งรีบเพราะนี่หมายความว่าร่างกายของเขากำลังฟื้นตัวและฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ มันจะดีกว่าที่เขาได้นอนพักหลังจากการผ่าตัด
เจียงเหยาบอกลาโจวเหวยฉี ก่อนออกจากโรงพยาบาลไปพร้อมกับคุณนายหลิน
กระทั่งรถเข้าใกล้ทางออกของโรงพยาบาล เจียงเหยาก็ตระหนักว่าเธอไม่มีใบขับขี่
เธอส่งข้อความหาโจวเหวยฉีและเดินทางต่อไปยังเมืองจิน โดยหวังว่าเธอจะโชคดีพอที่จะไม่ถูกตำรวจจราจรเรียกให้จอด
โจวเหวยฉีเกือบจะเป็นลมเมื่ออ่านข้อความของเจียงเหยา
เจียงเหยาต้องการความช่วยเหลือในการรับรองใบขับขี่
เธอไม่มีใบขับขี่!
เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าขับรถยังไง ถ้าเธอไม่มีมัน!
แม้ว่าเธอจะไม่มีใบขับขี่ แต่เจียงเหยาก็มั่นใจในความสามารถการขับขี่ของเธอ เธอยิ้มพยายามจินตนาการถึงปฏิกิริยาของโจวเหวยฉี หลังจากที่ได้รับข้อความจากเธอ
“เจียงเหยา” คุณนายหลินมองไปที่เจียงเหยา ประหลาดใจที่เธอยังคงอารมณ์ดีได้ขนาดนี้
“กังวลเกี่ยวกับอาการของผู้พันหลินเหรอคะ? ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ อย่างเร็ว สองเดือนก็หาย หรือถ้าช้ากว่านั้นก็ประมาณสามเดือน ถ้าออกจากโรงพยาบาล ก็ไม่มีผลต่ออาชีพของเขาหรอกค่ะ ขาของเขาก็ทำงานได้เหมือนเดิม” เจียงเหยาคิดว่าคุณนายหลินกังวลเกี่ยวกับพันเอกหลิน ดังนั้นเธอจึงปลอบใจอีกฝ่าย
“ขอบคุณคุณพระคุณเจ้า” คุณนายหลินยิ้ม “เธอรู้ไหม? ตอนที่ฉันรู้ข่าวอาการบาดเจ็บสาหัสของเขา ฉันหวังเพียงให้เขามีชีวิตรอด ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องขาของเขาเลย ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ ครอบครัวเราก็จะได้อยู่ด้วยกัน และทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
คุณนายหลินไม่ได้รอเจียงเหยาตอบ เธอพูดต่อ “คุณหลิน เธอไม่ใช่น้องสาวจริง ๆ ของเขาหรอก เธอเป็นลูกติดแม่เลี้ยงของเขา ครอบครัวหลินพึ่งพาสามีของฉันเพื่ออนาคตของพวกเขา พอรู้ว่าเขาต้องถุกตัดขา เธอไม่อยากจะเซ็นยินยอมเพราะกลัวว่าเขาะจกลายเป็นภาระแทนหลังจากถูกตัดขา ทำให้เธอและสามีของเธอต้องลำบาก เธอสนใจเพียงผลประโยชน์ของเธอเองเท่านั้น ชีวิตของเขาไม่เคยอยู่ในความกังวลของเธอเลย”