ตอน 1
EP.1
ในตึกผู้ป่วย
อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์กระจัดกระจายเต็มพื้น ตามผนังเกาะไปด้วยฝุ่นหนา
บนเตียงโรงพยาบาล เด็กหนุ่มคนหนึ่งในชุดผู้ป่วยนอนนิ่ง สองตาหลับสนิท ใบหน้าขาวไร้เลือดฝาด ริมฝีปากซีดเผือดไร้สีสัน
บนป้ายประจำตัวผู้ป่วยที่ติดอยู่ข้างเตียง มีชื่อของเด็กหนุ่มเขียนเอาไว้ --ฉู่เซวียน
ระหว่างนั้นเอง หางตาของฉู่เซวียนเริ่มสั่นเทาเบาๆ ปลายนิ้วเขากระตุกเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน เปลือกตาของเด็กหนุ่มค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นคู่ดวงตาสีแดงฉาน ผู้หลับใหลได้สติกลับมาอีกครั้ง ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง
ฉู่เซวียนรู้สึกว่าข้อต่อตามส่วนต่างๆของร่างกายเขาราวกระดูกผุ มันเกิดเสียงกร๊อบแกร๊บคล้ายไม่สามารถทนรับน้ำหนักได้
เจ้าตัวค่อยๆนึกทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ความรู้สึกปวดแผ่ซ่านออกมาจากสมองเขา คล้ายเส้นประสาทกำลังถูกกระตุ้นไม่หยุด
ฉู่เซวียนอดขมวดคิ้วไม่ได้ ความทรงจำประทังเข้ามาดั่งคลื่นยักษ์ถาโถม ในที่สุดเขาก็นึกออกว่าทำไมตนถึงมาอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้
ช่วงเวลานั้น จอโฆษณาข้างถนนได้ตัดเข้าประกาศข่าวด่วน
เนื้อหาประมาณว่า นักวิทยาศาสตร์จากประเทศ M ประสบความสำเร็จในการสร้างอุโมงค์รูหนอน สามารถเชื่อมต่อกับสิ่งมีชีวิตที่มีวิทยาการขั้นสูงจากอีกฟากฝั่งหนึ่ง
คนเดินเท้าหยุดมอง รับฟังรายงานข่าวด้วยความตื่นตกใจ มีหลายคนยกมือถือขึ้นถ่ายรูปและส่งต่อให้เพื่อนๆ
ตัวฉู่เซวียนเองก็ไม่ต่างกัน เขาจำได้ลางๆ ว่าระหว่างกำลังก้มหน้าจดจ่ออยู่กับมือถือ คล้ายมีลำแสงสีเงินสายหนึ่งร่วงหล่นจากท้องฟ้า ตกลงเหนือหัวเขาอย่างกะทันหัน
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของฝูงชน สติของเขาค่อยๆเลือนหายไป ...
สำหรับตัวตนของฉู่เซวียน เขาเป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาๆคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยตงเฉิง ไม่มีพ่อหรือแม่ แต่โชคดีที่มีแฟนสาว ชีวิตวัยรุ่นเลยไม่ได้มีแต่เรื่องขมขื่นจนเกินรับไหว ยังพอเป็นอย่างที่ควรจะเป็นเหมือนคนอื่นๆ
‘แสงสีเงินในตอนนั้นมันคืออะไรกัน?’ ความคิดนี้ผุดเข้ามาในใจฉู่เซวียน แต่ไม่ทันได้คาดเดาต่อ หัวเขากลับเกิดเสียงวิ้งงง~ แล้วความคิดทุกอย่างก็หายวับไป
ฉู่เซวียนแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตนโดยไม่รู้ตัว ความหิวโหยจากช่วงท้องแทรกแซงจิตใจเขา กระเพาะคล้ายถูกเข็มแหลมทิ่มแทงไม่หยุด
เขาฝืนลากร่างแข็งทื่อลงจากเตียงโรงพยาบาล เหลือเพียงความคิดเดียวร่ำร้องในใจนั่นคือ--
‘--หิว!’
ในช่วงเวลาสั้นๆนับแต่ฉู่เซวียนตื่นขึ้นมา ความหิวโหยค่อยๆกลืนกินจิตใจเขา นัยน์ตาสีแดงฉานยิ่งนานยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ
เขาค่อยๆแง้มประตู กลิ่นคาวเลือดผสมกับกลิ่นเหม็นของเนื้อเน่าตีสวนเข้ามาทันที
ทว่าฉู่เซวียนไม่ได้รู้สึกว่ากลิ่นเหล่านี้ฉุนแสบจมูกแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เขากลับสูดหายใจเข้าเต็มปอดราวกับต้องการเพลิดเพลินไปกับมัน
อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมโดยรอบทำให้เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย
เห็นแค่เพียงขยะเกลื่อนกลาดกระจัดกระจายทั่วทางเดิน เลือดสีแดงเข้มเปรอะเปื้อนเต็มผนังโรงพยาบาลที่เดิมมีสีขาวราวหิมะ มองไปทางไหนก็สกปรกเปรอะเปื้อน ดูวุ่นวายไปหมด ทั้งยังเงียบงันราวกับโลกทั้งใบได้ตายไปแล้ว
และบนพื้นทางเดินไม่ไกลจากจุดที่ฉู่เซวียนเปิดประตู มีศพที่เต็มไปด้วยเลือดนอนนิ่งอยู่กับพื้น สังเกตจากสภาพที่เน่าเปื่อยก็พอระบุได้ ว่าน่าจะตายมาซักระยะหนึ่งแล้ว
บางทีอาจเป็นเพราะมีศพอยู่ตรงหน้าเขา หรือไม่ก็เพราะสภาพแวดล้อมอันแปลกประหลาดนี้ ทำให้สติของฉู่เซวียนที่กำลังจะหายไปฟื้นคืนกลับมาเล็กน้อย
“ฮือ ..!”
เสียงคำรามดังขึ้นอย่ากะทันหัน ศพบนพื้นลุกพรวดขึ้นมา ดวงตาสีแดงฉานของมันเหลือบมองมาทางฉู่เซวียน
“ซอมบี้!?”
ดวงตาของฉู่เซวียนหดลีบลง เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นเหม็นเน่าที่เล็ดลอดออกมาจากปากซอมบี้ได้อย่างชัดเจน
มันกระโจนเข้ามาชนิดไม่คิดให้เขาตั้งตัว กดร่างเขาลงกับพื้น และอ้าปากกัดลงเต็มลำคอ
กล่าวกันว่าภายใต้สภาวะวิกฤต มนุษย์มักระเบิดศักยภาพที่แฝงอยู่ในตัวออกมาได้
ฉู่เซวียนใช้สองมือบีบคอซอมบี้แน่น แม้ดันออกไปได้ แต่ฟันแหลมของมันยังคงทิ้งบาดแผลบนลำคอเขาไว้หลายจุด
บางทีอาจเป็นเพราะได้กลิ่นคาวเลือด เจ้าซอมบี้จึงคล้ายมีพละกำลังเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน ศีรษะที่เดิมถูกดันถอยออกไปคืบหนึ่งกดกลับลงมา งับเข้าที่คอของฉู่เซวียนอีกครั้ง
ความเจ็บปวดหลั่งไหลเข้ามาอีกระลอก ฉู่เซวียนกัดฟันกรอด นัยน์ตาสีแดงฉานของเขา เวลานี้กลายเป็นสีแดงก่ำ เอ่อล้นไปด้วยเจตนาฆ่า
แต่ในเวลานั้นเอง จู่ๆรัศมีสีเงินพลันทอแสงออกมาจากร่างเขา
ในอากาศที่ว่างเปล่า เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นอย่างช้าๆ
“เริ่มทำการเชื่อมต่อระบบไฮเปอร์ฟิวชั่น ...”
“กำลังตรวจสอบสภาวะเจ้าของร่าง ...”
“เจ้าของร่างอยู่ในสภาวะตรงตามเงื่อนไข ระบบไฮเปอร์ฟิวชั่นเชื่อมต่อเสร็จสิ้น ....”