ตอนที่ 359+360 สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
“สถานการณ์ที่เลวรายที่สุดคือความตาย พี่ลู่อยากตายในอ้อมแขนของเจียงเหยา หากเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น สามารถช่วยชีวิตเขาได้ ภรรยาของเขาก็มีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะอยู่ที่นี่ เจียงเหยาเป็นคนใจเย็นและเป็นผู้ใหญ่พอ เธอไม่ขัดขวางอะไรหรอก” โจวเหวยฉีพูดด้วยความไม่พอใจและหยิบโทรศัพท์ออกมา “ถ้าไม่มีใครต้องการบอกเธอ ฉันจะทำเอง ทุกคนไม่รู้หรอกว่าเมื่อสองามวันที่เขาบอกลากัน นั่นมันเป็นคำสัญญาของพวกเขา”
โจวเหวยฉีพูดถึงสถานการณ์ที่เลวรายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นกับลู่ชิงสี แม้จะเป็นคำพูดที่ไม่เป็นทางการ แต่ก็บีบหัวใจของเขาไว้บนหินที่หนักอึ้งและกลิ้งตกไปในก้นบึ้งที่ลึกที่สุด
ขณะที่เขากำลังจะกดเบอร์ของเจียงเหยา เหลียงเยวื่อจือกล่าวออกมาเบา ๆ “ที่ได้ยินเกี่ยวกับชิงสี เขามีบาดแผลกระสุนปืนสองนัดที่หน้าอกใกล้กับตำแหน่งหัวใจ เลือดไหลไม่หยุดตั้งแต่ตอนนั้น เราไม่แน่ใจว่าเขาจะมีสติจนมาถึงที่นี่ไหม”
มือของโจวเหวยฉีสั่น แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดสิ่งที่เขากำลังทำ เขากดเบอร์โทรออกหาเจียงเหยา และรอให้เธอรับสาย
โทรศัพท์ดังขึ้นสองสามครั้งก่อนที่ปลายสายจะรับ ทุกวินาทีผ่านไป โจวเหวยฉีรอคอยอย่างทรมาน
“เจียงเหยา พี่ลู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และกำลังเดินทางกลับมาโรงพยาบาล มาที่นี่เร็ว กุญแจรถอยู่บนโต๊ะกาแฟ รถจอดที่โรงจอดรถ เราจะรออยู่ที่นี่ ขับช้า ๆ ระวังด้วย”
เท่าที่ขารู้ ทุกคนรอบตัวเขามีใบขับขี่เมื่อพวกเขามีสิทธิ์ขับรถ เขาไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าเจียงเหยาขับรถเป็นหรือไม่ โดยคิดไปเองว่าเธอขับได้
เมื่อได้รับสาย เจียงเหยาเกือบจะเป็นลม เธอรู้สึกราวกับโลกรอบตัวของเธอกำลังพังทลายลง
ความกลัวที่เลวร้ายที่สุดของเธอได้กลายเป็นจริงแล้ว
คันเร่งถูกกระแทกอย่างแรงจนสุด เธอเร่งรถด้วยความเร็วที่เกือบจะทำลายมาตรวัดความเร็ว
เธอต้องการไปให้ถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
จิตใจของเธอจมลึกอยู่แต่กับลู่ชิงสี
หลังจากวางสายโจวเหวยฉีและคนอื่น ๆ ก็ขึ้นไปบนดาดฟ้าของโรงพยาบาล แพทยี่เข้ากะเตรียมพร้อมสำหรับการช่วยชีวิต เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลงจอด
ไม่นานพวกเขาก็ได้ยินเสียงใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ มันดังขึ้นเมื่อพวกเขาเฝ้าดูอย่างใจจดใจจ่อ รอให้มันร่อนลง
หมอสองคน คนหนึ่งผมสีบรอนด์และผิวขาว อีกคนผมดำและผิวดำเป็นคนแรกที่ลงจากเครื่องบินเมื่อเครื่องบินจอดสนิท เสื้อคลุมสีขาวของพวกเขาย้อมไปด้วยสีแดงสดของเลือด
พวกเขายกเปลหามลงจากเฮลิคอปเตอร์ โดยมีลู่ชิงสีอยู่บนนั้น ใบหน้าและร่างกายของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด
“คุณครับ พวกเขามาถึงเมืองจินโดแล้ว อย่าหลับ!” หมอผมสีบลอนด์ร้องออกมาอย่างเป็นกังวล
“ผู้ป่วยมีอาการอย่างไรบ้าง” ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารถาม
“ผู้ป่วยมีบาดแผลกระสุนปืน 2 นัดใกล้กับหัวใจของเขา เราไม่แน่ใจว่าอวัยวะสำคัญ ๆ ในตอนนี้ได้รับบาดเจ็บไปด้วยหรือเปล่า ระหว่างทางมาที่นี่ เขาช็อคไปถึงสองครั้ง เราต้องช่วยเขาเดี๋ยวนี้” หมอผมบลอนด์พูดเร็วโดยไม่นใจว่าเพื่อนต่างชาติของเขาจะเข้าใจภาษาของเขาหรือไม่ “ผู้ป่วยรายอื่นมีกระดูกหักหลายจุดที่ขาซ้ายของเขา เตรียมตัวให้พร้อมสำหับขั้นตอนการตัดขา เราอาจจะต้องทำ”
__
ตอนที่ 60 จะสำเร็จกี่เปอร์เซ็น
“ชิงสี!” เหลียงเยวื่อจือตัวสั่นเมื่อมองไปที่คนที่อยู่บนเปลหาม เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลู่ชิงสี ซึ่งตอนนี้มีเลือดสีแดงเลอะเทอะอยู่เต็มตัว เกิดอะไรขึ้นกับทหารที่เก่งที่สุดในกองทัพ ชายผู้แข็งแกร่งคนนี้?
“ภรรยาของฉันล่ะ?” ลู่ชิงสีเปิดตาของเขาช้า ๆ การกระทำง่าย ๆ เช่นนี้กลายเป็นเรื่องยากและยากเย็นแสนเข็ญสำหรับเขาที่จะทำ หน้าอกของเขาเจ็บมากจนร่างกายของเขาสั่นทุกครั้งที่หายใจ
เขาเข้าใจอย่างคลุมเครือว่าเขากำลังจะจากไป จึงพยายามแข่งขันกับเวลาและโชคชะตา
ดังนั้นแม้ว่าเขาจะตาย เขาต้องการตายในประเทศของเขาเอง ตายในอ้อมแขนของคนที่เขารักมากที่สุด เขาสัญญากับเธอก่อนจะจากไป
“พี่ลู่ เจียงเหยากำลังมา พี่ผ่าตัดเสร็จจะได้เจอเธอ พี่ต้องอดทนไว้นะ” โจวเหวยฉีเกือบจะร้องไห้ในขณะที่ให้ความมั่นใจกับลู่ชิงสี
บ่อยครั้งที่เขาเห็นลู่ชิงสีกลับมาจากภารกิจด้วยอาการบาดเจ็บ นับตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาเป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยมเสมอ โดยทำภารกิจเดี่ยวตั้งแต่เขาเข้าร่วมกองทัพ
ในความคิดของโจวเหวยฉี ลู่ชิงสีนั้นอยู่ยงคงกระพันเหมือนกับซุปเปอร์แมน ทุกครั้งที่เขาได้รับบาดเจ็บ นอกจากเพื่อนของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครรู้
โดยเฉพาะครอบครัวทางภาคใต้ของเขา เขาจะไม่ยอมให้ใครในกองทัพแจ้งไปที่บ้าน เขามักจะอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลเพียงลำพังเสมอ ไม่แสดงอาการกลัวหรือเศร้าใด ๆ
โจวเหวยฉีรู้ดีว่าคราวนี้สิ่งต่าง ๆ แตกต่างออกไป
ลู่ชิงสีที่แน่วแน่และภาคภูมิใจกำลังถูกหามกลับบ้าน และกำลังพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
เขาถูกพาไปที่ห้องผ่าตัดที่เตรียมไว้ เมื่อมองไปที่แสงผ่าตัดสีขาวที่ส่องสว่างมาที่เขา แพทย์กำลังเตรียมยาสลบ เขาก็ร้องออกมา
“อัตราความสำเร็จของการผ่าตัดอยู่ที่เท่าไหร่” ลู่ชิงสีชี้ไปที่บาดแผลของเขา “ฉันอยากฟังความจริง”
“ร้อยเอกลู่ เราไม่แน่ใจเพราเรายังไม่สามารถประเมินได้ว่ากระสุนเจาะอวัยวะสำคัญของคุณหรือเปล่า” หมอมีข้อสันนิษฐานของตัวเองอยู่แล้ว ตามที่หมอผมบลอนด์กล่าว ลู่ชิงสีช็อคถึงสองครั้งระหว่างทางที่มาที่นี่ หมอพยายามรักษาชีวิตของเขาให้รอดอย่างหนัก แต่เพราะสูญเสียเลือดจำนวนมาก มีเพียงคำว่า ‘ปาฏิหาริย์’ เท่านั้นที่สามารถใช้บรรยายว่าลู่ชิงสีจะรอดชีวิตได้
เมื่อมองดูสิ่งต่าง ๆ หมดสันนิษฐานว่ากระสุนอาจทะลุอวัยวะสำคัญของลู่ชิงสีแม้ว่าจะไม่ได้ฆ่าชีวิตของเขาในทันทีก็ตาม
การไม่มีเวลาเหลือ ผลักดันให้หมอเหล่านี้เสี่ยงและเริ่มดำเนินการทันที ถ้าจะส่งไปตรวจก่อนแล้วรอผลตรวจถึงจะผ่าตัด คงไม่อาจยื้อชีวิตของเขาได้ ณ จุดนี้ เวลาคือทุกสิ่ง พวกเขาแข่งขันกับเวลาอย่างไร้ประโยชน์ พยายามฉวยชีวิตของเขากลับมาจากยมฑูต