ตอนที่ 4 ชายเสื้อคลุม
ตอนที่ 4 ชายเสื้อคลุม
ด้วยการใช้งานแขนของเขาเพียงข้างเดียวคิรันจึงจำเป็นใช้ต้องเวลาพอสมควรในการทำความสะอาดบาดแผลและแต่งตัว เขาจำไม่ได้เลยว่าเขานั้นเกือบที่จะสลบไปกี่ครั้งจากความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าที่เขาได้รับ
เวลาได้ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดเขาก็ล้างสำเร็จ จากนั้นเขาก็เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่อย่างระมัดระวัง
ตอนนี้มีสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องทำ และนั่นก็คือการดื่มยาขาว
ความรู้ของคิรันในการเล่นแร่แปรธาตุนั้นอยู่ระดับปานกลาง แต่อย่างน้อยก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะรู้จักระดับและผลของยาส่วนใหญ่
ตอนนี้หากนักเล่นแร่แปรธาตุคนอื่น ๆ รู้มาตรฐานความรู้ในการเล่นแร่แปรธาตุปานกลางของคิรัน พวกเขาอาจจะต้องเริ่มพิจารณาสิ่งที่พวกเขาทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะการที่จะจำแนกระดับและผลของยาได้โดยไม่ต้องทำการทดสอบนั้นต้องอาศัยประสบการณ์ในการเล่นแร่แปรธาตุเป็นเวลาหลายปี
อย่างไรก็ตามคิรันนั้นคิดว่าความรู้ของเขานั้นธรรมดาเพราะเขารู้จักสมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิดและไม่มีประสบการณ์ในการทำยาปรุงยาหรือแม้แต่การใช้สมุนไพรเลย
ตัวอย่างเช่นเขารู้ว่ายาขาวนี้เป็นยารักษาระดับกลาง และในขณะที่เขาสามารถเลือกยารักษาคุณภาพสูงกว่าในกระเป๋าได้ เขาก็เลือกยานี้เพราะผลของยานี้ ยานี้สามารถรักษาบาดแผลระดับต่ำถึงกลางได้เช่นเดียวกับการซ่อมกระดูกที่หัก
แต่ในขณะที่เขารู้เรื่องนี้ เขาก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเขาควรดื่มทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และถ้าเป็นบางส่วนควรดื่มไปเท่าไหร่?
คิรันนั้นขมวดคิ้วและมองไปที่ยา เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ได้เปิดฝาของขวดออกมาเหมือนเดิม
เขาจิบยาขาวและประหลาดใจที่พบว่ารสชาติของมันค่อนข้างหวานไปหน่อย แต่มันยังมีกลิ่นเหมือนกัน แต่ก็จะพอทนได้
หลังจากสัมผัสได้ถึงยาที่เข้าสู่ร่างกายของเขา คิรันก็จึงได้ปิดฝายาและตัดสินใจตรวจสอบผลลัพธ์ของยาก่อนที่จะดื่มยาที่เหลืออยู่
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาที คิรันก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่แสบร้อนที่แผ่ออกมาจากกลางหน้าอกของเขาและมันก็กระจายไปยังทุกส่วนของร่างกาย
ตอนแรกนั้นมันก็ยังปกติ แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งนาทีต่อมา ความรู้สึกที่แสบร้อนก็ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น
คิรันคร่ำครวญ เขารู้สึกว่ากระดูกของเขานั้นได้ร้าวจากความร้อน
“อ๊าก!” เขาได้หมอบลงอยู่บนพื้น กระดูกและผิวหนังของเขานั้นร้อนวูบวาบและความร้อนก็ได้กระจายไปทั่วร่างกายในที่สุด
“มะ ไม่... ผลลัพธ์จะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร? ฉันเพิ่งจิบมันนิดเดียวเองนะ หรือว่ามันมากเกินไปหรือเปล่า”
คิรันหันความสนใจไปที่ร่องน้ำที่อยู่ใกล้เขา ความร้อนเริ่มมากเกินกว่าที่จะทนไหว และเขายังมีความคิดที่น่ากลัวว่าเขาจะละลายไป ถ้าหากเขาไม่สามารถบรรเทาความร้อนได้
คิรันรวบรวมกำลังทั้งหมดที่เขาทำได้และลากร่างกายของเขาเข้าไปที่ร่องลึกเล็ก ๆ
ทันทีที่เขากระโดดลงไปในน้ำ ความร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาทำให้น้ำนั้นเดือดพล่าน ทีแรกเขาคิดว่าการที่เขาแช่น้ำเย็นนั้นจะสามารถตอบโต้ความร้อนจากร่างกายของเขาได้ แต่อุณหภูมิของน้ำนั้นมันกลับได้เพิ่มขึ้นจนไปถึงจุดเดือดในทันที
เสียงของน้ำที่เดือดได้กลบเสียงกรีดร้องของคิรันไปหมด เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหลังจากที่เอาชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้แต่เขาก็ยังต้องตายอยู่ดี
ที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาอาจจะจมน้ำตายก็ได้!
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่สมาคมทหารรับจ้าง กลุ่มทหารรับจ้างได้รวมตัวกันรอบ ๆ กระดานค่าหัวที่มีชื่อเสียง ทุกคนต้องการยืนยันข่าวลือที่แพร่กระจายไปเมื่อคืนนี้และตอนนี้พวกเขาได้เห็นภารกิจใหม่ของชายหนุ่มที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำแต่กลับมีค่าหัวเป็นหินวิญญาณระดับสูงนับล้านก้อนเป็นรางวัล ฝูงชนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงโห่ร้อง
หินวิญญาณมีค่ามากสำหรับพวกเขา แม้แต่หินวิญญาณระดับต่ำก็สามารถดึงราคาสูงได้ในตลาดได้ ไม่ต้องพูดถึง ถือว่าเป็นสกุลเงินทางเลือกสำหรับสถานที่ประกอบการส่วนใหญ่
นอกจากนั้น หินวิญญาณยังมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีเวทมนตร์หรือไม่ก็ตาม พวกเขาสามารถเสริมความแข็งแกร่งด้วยหินวิญญาณโดยการดูดซับหรือรวมเข้ากับไอเท็มเวทมนตร์ หรือแม้จะใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการสร้างอาวุธ
“เขาดูเด็กมาก”
“นั่นมันหินวิญญาณระดับสูง! มันข้ามรางวัลระดับกลางไปเลยด้วยซ้ำ!”
“หินวิญญาณระดับสูงหนึ่งล้านก้อน… เทียบเท่ากับหินวิญญาณระดับกลาง 100 ล้านก้อนหรือหินวิญญาณระดับต่ำหนึ่งพันล้านก้อน…. และถ้าเราแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญทองล่ะ…..”
ดวงตาของทหารรับจ้างแต่ละคนส่องประกายอย่างโลภมาก
หินวิญญาณระดับต่ำหนึ่งอันมีค่าเท่ากับสองเหรียญทอง หากพวกเขาแลกเปลี่ยนกัน พวกเขาก็สามารถเกษียณอายุได้อย่างมีความสุขและใช้ชีวิตอย่างหรูหราได้ตลอดชีวิต
“ฮิฮิ พวกคุณพลาดแล้ว”
ชายในวัยยี่สิบปลาย ๆ เข้ามาใกล้ฝูงชน
“ฮะ?” พวกทหารรับจ้างหันมาจ้องที่ชายคนนั้น แต่แล้วทุกคนก็ตัวสั่นเมื่อเห็นว่าเขาเป็นใคร
ชายคนนั้นมีผมสีเงินยาวและตาสีฟ้าอ่อน เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวสง่าและดาบที่บางและมีสีเงินน้ำเงินติดอยู่ที่เอวของเขา เขามีบรรยากาศของขุนนางจากวิธีที่เขาถือตัวเองและใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาสามารถดึงดูดผู้หญิงคนใดก็ได้
“นั่นสิลาส นักดาบคริสตัล!”
พวกทหารรับจ้างก็ยอมหลีกทางทันที
สิลาสเข้ามาใกล้กระดานรางวัล เขาจ้องไปที่ใบคำขอภารกิจใหม่ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ และกล่าวว่า “ประเด็นนี้ไม่ใช่ที่รางวัล แต่เป็นชายหนุ่มคนนี้ ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครทำไมต้องใช้เงินรางวัลมหาศาลในการจับเขา”
จากนั้นเขาก็ดูข้อมูลที่ด้านล่างของใบคำขอและยิ้มเยาะ “พวกเขาต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ด้วย น่าสนใจจริง ๆ”
“คุณจะบอกว่ามันเป็นปัญหาเหรอ!” เสียงที่ดัง ดังมาจากข้างหลังเขา
ตาของสิลาสหรี่ลงเมื่อเขาหันไปมองชายร่างใหญ่ที่เดินเข้ามาจากด้านหลัง
ชายคนนี้เป็นคนหัวล้านและมีแผลเป็นแตกต่างกันทั่วศีรษะและที่จมูกของเขา นัยน์ตาของเขาเป็นสีแดงเข้ม ท่อนบนของเขาเปลือยและเผยให้เห็นร่างกายที่กระชับและมีกล้ามเนื้อ ในขณะที่กางเกงขนสัตว์ของเขาโอบรับขาอันใหญ่ที่แข็งแรงของเขาด้วย เขายังมีขวานขนาดใหญ่สองอันห้อยอยู่ที่หลังของเขา
“เกจ” สิลาสทักทายอย่างเฉยเมย
“ดูสิ นี่มันขวานคู่ไททันเกจ!” มีคนตะโกนในหมู่ทหารรับจ้าง
เกจยืนข้างสิลาสและมองดูภารกิจ
“เขาดูผอมและอ่อนแอมาก” เขาพึมพำ
“ฮึ่ม” สิลาสหันความสนใจกลับไปที่ใบคำขอ “คุณสังเกตเห็นแต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ”
“ฮะ?” เกจจ้องมองที่เขา
“ความจริงที่ว่าพวกเขาให้เงินรางวัลมากขนาดนี้หมายความว่าเด็กคนนี้มีต้องความสามารถ”
“ฮึ่ม ไม่เป็นไร ถ้าฉันเห็นเขา ฉันจะหักขาเขาเป็นสองท่อน ให้เขาก็เดินไม่ได้เลย”
“นั่นแหละ ฉันแน่ใจว่าใครก็ตามที่อยากได้เงินรางวัลนี้ได้คิดแบบนั้นแล้ว แต่เด็กคนนั้นก็คงจะหนีออกไปได้ ภูมิหลังของชายหนุ่ม… อาจมีมากกว่านั้น”
ทันใดนั้น มีมือปรากฏขึ้นระหว่างทั้งสองคนและคว้าใบคำขอ
ทั้งสิลาสและเกจถึงกับชะงัก พวกเขาไม่ทันได้รู้สึกว่าคนผู้นี้เข้ามาใกล้จากด้านหลัง
“ฉันจะเอาเอง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
สิลาสและเกจหันกลับมามองเจ้าของเสียง
เขาตัวเล็กกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเกจ แต่เขาก็ยังตัวใหญ่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาสวมเสื้อคลุมสีเข้มขนาดใหญ่ พวกเขาจึงไม่สามารถระบุหรือเดาได้ว่าเขานั้นเป็นใคร
ชายที่สวมเสื้อคลุมไม่รอให้สิลาสหรือเกจตอบแล้วหันหลังเดินจากไปทันที แต่หลังจากก้าวไปสามก้าว มือที่มีขนาดใหญ่ก็คว้าไหล่ของเขาไว้และหยุดเขาไว้
“เฮ้.”
เป็นเกจที่หยุดเขา
ชายที่สวมเสื้อคลุมหยุดและหันศีรษะเล็กน้อยราวกับมองไปที่เกจ
“เงินรางวัลนั้นต้องเป็นของฉัน” เกจคำราม
ทหารรับจ้างที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกว่าอุณหภูมิลดลงระหว่างทั้งสามและถอยกลับทันที
ดวงตาของสิลาสหรี่ลงเมื่อเขามองไปที่เกจ ก่อนที่เขาจะอ้างว่าเขาเป็นคนที่เห็นภารกิจก่อน ชายในชุดคลุมก็พูดขึ้น
“ใช่เหรอ?” ชายที่สวมเสื้อคลุมมองดูใบคำขอแล้วพลิกไปรอบ ๆ ราวกับว่ากำลังตรวจสอบมัน “ฉันไม่เห็นชื่อคุณบนนี้เลย โอ้ ใช่ ฉันไม่รู้ชื่อคุณ ฉันอาจจะกำลังเข้าใจผิด ว่าแต่คุณเป็นใคร”
ฝูงชนที่ชมต่างกลั้นหายใจ
ชายที่สวมเสื้อคลุมคนนี้กล้าได้กล้าเสีย!
“ย๊าก!” เกจคำรามและพุ่งกำปั้นเข้าโจมตีชายที่สวมเสื้อคลุมทันที
“ชิ” สิลาสถอยออกไปทันที
ทหารรับจ้างที่เฝ้ามองพร้อมกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นหมัดของเกจกระทบกับชายที่สวมเสื้อคลุม
อย่างไรก็ตาม ชายที่สวมเสื้อคลุมก็ก้าวออกไปและหลบเลี่ยงการโจมตีของเกจอย่างง่ายดาย
“ฮึ่ม” ชายในชุดคลุมส่งเสียงออกมา และมีเงาคล้ายหมอกเล็ดลอดออกมาจากใต้เสื้อคลุมของเขา
'เงา?' สิลาสหรี่ตาลง และเขาก็ชักดาบออกจากฝักทันที
เกจคำรามเมื่อเงาที่เหมือนหมอกปกคลุมเขา เขาคว้าขวานคู่ของตนแล้วเหวี่ยงไปทางชายที่สวมเสื้อคลุม
ชายที่สวมเสื้อคลุมก็กระโดดกลับมาเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของเกจ เขากระตุ้นเงาที่เหมือนหมอก และมันก็ห่อหุ้มขาของเกจไว้ทันที หลังจากนั้นเขาก็ได้สอดมือเข้าไปในเสื้อคลุมแล้วหยิบหน้าไม้ออกมาแล้วก็เล็งไปที่หัวของเกจ
เกจคำรามและสกัดลูกศรด้วยขวานของเขา เขากระทืบเท้าซ้าย และเงาคล้ายหมอกที่ผูกมัดเขาไว้ก็ถูกทำลายลงได้ในทันที
“ขอร้องล่ะ!” เกจคำราม
ค่ายกลเวทมนตร์สีแดงเข้มปรากฏขึ้นและหมุนเวียนรอบขวานคู่ของเกจ ใบมีดเปลี่ยนเป็นไฟ และเขารีบวิ่งไปที่ชายที่สวมเสื้อคลุม
ชายที่สวมเสื้อคลุมยิ้มเยาะ เงาคล้ายหมอกที่เล็ดลอดออกมาจากใต้เสื้อคลุมของเขากลายเป็นหนามสีดำที่หนาแน่น มันปรากฏขึ้นและมันเล็งไปที่เกจ
“หยุดนะทั้งสองคน!” เสียงของสิลาสดังขึ้น วงเวทย์สีฟ้าอ่อนวนรอบดาบของเขา เหวี่ยงดาบไปที่ช่องว่างระหว่างเกจกับชายที่สวมเสื้อคลุม สิลาสได้เรียกใช้เวทมนตร์ของเขาและสร้างกำแพงน้ำแข็ง
อย่างไรก็ตาม หนามสีดำจากการโจมตีของชายที่สวมเสื้อคลุมได้ทะลุกำแพงนี้และเดินตรงไปที่เกจ
“พลังทะลุทะลวงมากถึงขนาดนี้!” สิลาสตกใจมาก
“รอว์ก!” เกจยังเหวี่ยงขวานไปที่หนามแหลมสีดำที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขาและเขาวางแผนจะทุบให้แตกด้วยแรงของเขา
อย่างไรก็ตาม หนามแหลมสีดำก็ทะลุคมมีดของขวานได้เช่นกัน ดวงตาของเกจ เกือบที่จะแตกเมื่อเขามองดูปลายแหลมที่อยู่ใกล้ใบหน้าของเขา
“เพียงได้แล้ว!”
พลังอันทรงพลังปะทุขึ้นและเวทมนตร์ที่เรียกออกมาทั้งหมดก็หายไป
จากพื้นค่ายกลเวทมนตร์สีเหลืองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น
มันคือกลุ่มต่อต้านเวทมนตร์ขนาดใหญ่ของสมาคมทหารรับจ้าง
สิลาส เกจ และชายที่สวมเสื้อคลุมหยุดในทันทีและมองดูชายวัยกลางคนที่ปรากฏตัวที่ระเบียงของที่ชั้นสอง
เขามีผมสีเทายาวประบ่าและนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน เขาสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวที่มีเสื้อซับในสีทอง ที่แขนเสื้อด้านขวาของเขาเป็นตราเพชรของสมาคมทหารรับจ้าง
“ปรมาจารย์โซเรน” สิลาสเป็นคนแรกที่คำนับชายวัยกลางคน
“ฮึ่ม” เกจ ครวญคราง แต่เขาก็เอาขวานออก
ชายที่สวมเสื้อคลุมยังคงนิ่งและมองดูโซเรนอย่างเฉยเมย
ทหารรับจ้างที่เฝ้าดูกลั้นหายใจ ปรมาจารย์แห่งสมาคมทหารรับจ้างไม่ค่อยได้ปรากฏตัว ในบางครั้งที่เขาปรากฏตัวก็มักจะจบลงด้วยไม่ดี
ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของพวกเขา โซเรนเพียงแค่ยิ้มให้ทั้งสามคน
“ฮ่าฮ่าฮ่า สุภาพบุรุษ ได้โปรด ไม่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อภารกิจ สักหน่อย” เขากล่าวและเดินลงบันได เขามองทั้งสามอีกครั้ง
“เงินรางวัลเปิดให้ทหารรับจ้างทุกคน การรับภารกิจไม่ได้หมายความว่าคำขอจะเป็นสิทธิ์เฉพาะผู้รับ” โซเรนกล่าวเสริม
สิลาสรู้สึกว่าพลังของเขาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
พวกเขาน่าจะทำให้ชัดเจนตั้งแต่เนิ่น ๆ!
“อืม” จู่ ๆ ชายในชุดคลุมก็พูดขึ้น "ฉันรู้อยู่แล้ว."
ทหารรับจ้างที่เฝ้าดูเกือบทั้งหมดแถบจะล้มลง
สิลาสและเกจก็ดูตลกเช่นกัน
“ถ้ารู้แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกล่ะ” สิลาสกล่าวตำหนิ
“คุณได้ถามเหรอ”
ผู้ชายคนนี้!
เกจขมวดคิ้วเช่นกัน “ทำไมคุณถึงเอาใบคำขอนั้นไป ถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่ามันไม่จำเป็น”
ทันใดนั้นชายที่สวมเสื้อคลุมก็ดูเหมือนจะจ้องไปที่เกจ “คุณเป็นคนโง่เหรอ แน่นอน ฉันเอามันไปเพราะฉันต้องการมัน”
"คุณ!" เกจคำรามออกมา
ชายสวมเสื้อคลุมหันมาทางโซเรน “ไม่เป็นไร ว่าแต่เอาไปได้เลยใช่ไหม”
“ก็ใช่ ไม่ได้มีข้อห้ามว่าห้ามเอาใบคำขอไป แต่ถ้าคุณเอาไปคนอื่นอาจจะคิดว่าคุณต้องการทำอะไรสักอย่าง”
“ไม่ ไม่ได้มีอะไรแอบแฝงใด ๆ ทั้งนั้นแหละ ฉันแค่จำหน้าคนไม่เก่ง ฉันก็เลยต้องการสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ถ้าหากไม่มีอะไรแล้ว”
หลังจากนั้น ชายที่สวมเสื้อคลุมก็หันหลังเดินจากไป
สมาคมทหารรับจ้างก็ได้ทั้งหมดเงียบลง
โซเรน สิลาส และเกจมีสีหน้างุนงง
คนแปลกหน้าอย่างเขา!