ตอนที่ 1 การแสวงหา
ตอนที่ 1 การแสวงหา
ชายหนุ่มในเสื้อกันลมสีดำและกางเกงขายาว ขณะที่เขาวิ่งเข้าไปในป่าที่มืดทึบ เขาได้หายใจรุนแรงขณะจับแขนที่หักและมีเลือดออก ผิวของเขาซีดเซียวไม่ว่าจะจากการสูญเสียเลือดหรือเพราะจากแสงจันทร์ก็ตาม
ห่างออกไปสองสามกิโลเมตร ชายชุดแดงกำลังค้นหารอยเท้าของเขาอย่างบ้าคลั่ง คนเหล่านี้มาจากหน่วยควบคุมเวทมนตร์ต้องห้ามของกองทัพ
“กัปตัน ฉันพบรอยเลือดที่นี่!” หนึ่งในนั้นตะโกน
ชายร่างใหญ่ที่มีผมสีแดงเข้มและนัยน์ตาสีเขียวได้วิ่งเข้าไปหาชายคนนั้นทันทีหลังจากที่เขาได้ยิน ชายคนนี้มีตราทองสัมฤทธิ์ปักบนเสื้อกั๊กซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตำแหน่งของเขา
ในขณะที่เขากำลังเดินเข้ามา มือของเขาก็เริ่มกลายเป็นสีแดง และวงเวทย์เล็ก ๆ ก็หมุ่นวนรอบข้อมือของเขาขณะที่เปลวไฟสีแดงเข้มที่เร้าร้อนปรากฏขึ้นบนบริเวณฝ่ามือของเขา เขาได้ยิงเปลวไฟไปที่รอบ ๆ บริเวณที่มีรอยเลือดและควบคุมให้มันค้นหาเจ้าของรอยเลือดที่อยู่ลึกเข้าไปในป่า แต่หลังจากนั้นประมาณสิบฟุตและรอยเลือดก็ได้หายไป
ชายร่างใหญ่กัดฟัน เขาโกรธมากอย่างเห็นได้ชัด เขาพยายามที่จะควบคุมเปลวไฟที่เรียกออกมาและค้นหาต่อไปอีกครั้ง แต่มันก็ไม่เป็นผล ชายร่างใหญ่นั้นได้เผาต้นไม้ที่อยู่บริเวณโดยรอบ ทำให้มีแสงส่องสว่างไปทั่วบริเวณ
เปลวไฟสีแดงนั้นทำให้สีหน้าของชายร่างใหญ่นั้นดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าจุดประสงค์หลักของพวกเขาในการโจมตีคฤหาสน์ของตระกูลรีจิส จะสามารถทำให้เขาได้แสดงเวทมนตร์ของเขาออกมาได้และจากรายงาน เด็กหนุ่มนั้นไม่ได้ร่วงรู้ถึงการมีอยู่เวทมนตร์ของเขา เขาได้ใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์ทั่วไป ซึ่งนั่นสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเครื่องตรวจจับเวทมนตร์ในพื้นที่ของพวกเขาไม่พบเวทมนตร์ต้องห้ามนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนกระทั่งเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน ตราประทับเวทมนตร์ที่ผนึกเวทมนตร์ต้องห้ามนี้มันได้อ่อนกำลังลง และเขาได้ใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการระบุตำแหน่งของเด็กหนุ่ม
ไม่กี่วันต่อมา ในที่สุดกองทัพหลวงก็ได้พบหลักฐานว่าตราประทับเวทมนตร์นั้นมาจากคฤหาสน์ของตระกูลรีจิสและมาจากตัวของเด็กหนุ่มและพวกเขายังพบว่าครอบครัวของเด็กหนุ่มนั้นได้ผนึกเวทมนตร์ของเขาไว้หลายปี แต่ตราประทับได้อ่อนกำลังลง และวันนี้ ในที่สุดพวกเขาก็สามารถบุกเข้าไปในที่คฤหาสน์เพื่อจับกุมพวกเขาทั้งหมด ท้ายที่สุด แม้ว่าดูเหมือนว่าเด็กชายคนนี้จะเป็นเพียงคนเดียวที่มีเวทมนตร์ต้องห้าม แต่ความจริงที่ว่าทั้งตระกูลซ่อนมันไว้ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมด และกองทัพไม่สามารถทนต่อการกระทำดังกล่าวได้
ผู้ใช้เวทย์มนตร์ต้องห้ามและผู้สมรู้ร่วมคิดต้องถูกจับกุมโดยไม่มีข้อยกเว้น ทั้งหมดนี้เพื่อความสงบสุขของจักรวรรดิอิลฟาน
“นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใช้เวทมนตร์ เขาได้รับบาดเจ็บด้วย เขาไม่สามารถไปได้ไกล” ชายร่างใหญ่กล่าว เขามองไปที่ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาและถามว่า "หน่วยติดตามยังไม่ได้มาถึงที่นี่อีกหรอ? “
“จากการอัพเดทครั้งล่าสุด พวกเขามาถึงที่คฤหาสน์ของตระกูลรีจิสแล้วและเรากำลังให้พิกัดของเรากับพวกเขาอย่างต่อเนื่องครับ”
“แล้วพวกเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไร”
ชายคนนั้นหยุดและหยิบแผ่นเสียงสีเงินออกมา มันเป็นสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่กองทัพหลวงใช้ในการสื่อสารกับหน่วยอื่น ๆ โดยใช้การส่งเวทมนตร์แบบเข้ารหัส
“อย่างน้อยก็สิบห้านาทีที่แล้วครับท่าน”
ชายร่างใหญ่จ้องมาที่เขา “บอกให้พวกเขาเร่งฝีเท้า มิฉะนั้นฉันจะเผาร่างพวกเขาทิ้ง! ทางเข้าสู่คฤหาสน์ของตระกูลรีจิสอยู่ห่างจากตำแหน่งปัจจุบันของเราเพียงสิบนาทีถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้เวทมนตร์ความเร็วก็ตาม พวกเขากำลังทำบ้าอะไรอยู่?”
“อารมณ์ของคุณยังร้อนแรงพอ ๆ กับเวทมนตร์ของคุณเลยนะดิออร์”
ชายผมสีบลอนด์และนัยน์ตาสีฟ้าเข้มและใส่ชุดเครื่องแบบสีเขียว กระโดดลงมาจากต้นไม้ใกล้ ๆ เขามองดูชายร่างใหญ่ที่ชื่อดิออร์อย่างไร้กังวล
“ลูก้า ในที่สุด คุณก็ตัดสินใจปรากฏตัวเสียที” ดิออร์พ่นลมหายใจออกมา
“ฮ่าฮ่า คุณทำเสียงเหมือนผมอยู่ที่นี่ตลอดเวลา”
ผู้ชายในชุดเครื่องแบบสีเขียวปรากฏตัวข้างหลังลูก้ามากขึ้น
“ไปทำหน้าที่ของพวกคุณซะ เด็กคนนั้นได้บาดเจ็บสาหัสแล้วเขายังคงอยู่ที่นี่แน่นอน”
ลูก้าถอนหายใจและส่ายหัว “บาดเจ็บแล้วแต่พวกคุณยังปล่อยให้เขาหนีไปได้อีกหรองั้นตอนนี้เท่ากับว่าเราต้องทำความสะอาดหลังจากคุณงั้นสินะ”
ดิออร์หรี่ตาเมื่อได้ยินการเสียดสีในคำพูดของลูก้า อย่างไรก็ตามเขาไม่ตอบเพราะมันเป็นเรื่องจริง
เมื่อพวกเขาบุกเข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลรีจิสเมื่อเย็นวันนี้ เขามั่นใจว่าพวกเขาจะทำภารกิจให้สำเร็จโดยที่ไม่เกิดเหตุการณ์ใด ๆ เขาไม่ได้คาดหวังเลยว่าตระกูลรีจิสจะมีแนวป้องกันที่ซับซ้อนมากขนาดนี้ในใจกลางของคฤหาสน์ มันทำให้เกิดความล่าช้าอย่างมากในที่จะการจับกุมเด็กหนุ่ม
ดิออร์และคนของเขาได้เตรียมตัวมาเป็นอย่างดี พวกเขาได้ล้อมพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมดและติดตั้งสมาชิกแต่ละคนในทีมด้วยเครื่องตรวจจับเวทมนตร์ขนาดเล็ก เช่นเดียวกับการร่ายเวทย์มนตร์ต่อต้านการร่าย แม้ว่าเด็กชายจะไม่สามารถใช้เวทย์มนตร์ของเขาได้ แต่ตราประทับเวทมนตร์ของเขาบ่งบอกว่ามันเป็นเวทมนตร์ต้องห้ามที่ทรงพลังและลำบากที่สุดประเภทหนึ่ง
แต่ตอนนี้ เมื่อเห็นว่าเด็กคนนี้สามารถหนีจากการไล่ล่าของพวกเขาได้ ทำให้เขาสามารถใช้เวทย์มนตร์ของเขาได้ในระดับหนึ่ง และยังพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของพวกเขาเกี่ยวกับเวทมนตร์ของเด็กชายด้วย
“ดูเหมือนว่าเขาจะได้เข้าใจวิธีการใช้เวทมนตร์ของเขาแล้ว” ดิออร์เตือนลูก้า
“อย่างงั้นเหรอ?” ลูก้ามองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา เขาทราบถึงภูมิหลังของเด็กชายคนนี้หลังจากที่ทีมของดิออร์ได้แบ่งปันข้อมูลทั้งหมดเมื่อตอนที่พวกเขาขอกำลังเสริม “มันดูจะไม่เลวร้ายกับพวกเราหน่อยหรอ?”
เส้นเลือดดูเหมือนจะแตกที่หัวของดิออร์ “นั่นคือเหตุผลที่ฉันบอกให้คุณเร่งรีบหน่อย!”
ลูก้าหัวเราะ “โอเค โอเค ใจเย็น ๆ”
เขาหันกลับมามองคนของเขา และบุคลิกที่ไร้กังวลของเขาก็กลายเป็นจริงจัง
“เด็กคนนี้ต้องถูกจับกุมให้ได้ อย่าประมาทเพียงเพราะเขาเป็นเด็ก เราต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อจับเขา”
“ครับกัปตัน”
ลูก้าและทีมของเขาแยกทางกัน
ดิออร์มองดูขณะที่พวกเขาจากไป แม้ว่าหน่วยสืบราชการลับของกองทัพจะมีชื่อเสียงดี แต่เขาไม่สามารถสลัดความรู้สึกที่เด็กหนุ่มได้หนีไปจากการจับกุมของพวกเขาแล้ว
===================
ไม่กี่นาทีต่อมา
ห่างออกไปหลายไมล์เด็กชาย ก็สะดุดล้มหลังจากชนกับรากไม้ เขาล้มลงกับพื้นด้วยเสียงคร่ำครวญเขารวบรวมกำลังที่เหลืออยู่ทั้งหมดเพื่อลุกขึ้นอีกครั้งใบหน้าซีดขาวของเขาดูเหมือนจะซีดลงไม่ต้องพูดถึง แขนของเขาชาจากความเจ็บปวดแล้ว
ไม่สิ ร่างกายของเขาชาไปหมดแล้ว
“เริ่มไม่ดีแล้ว” เขาคิด การมองเห็นของเขาเริ่มเบลอและสติของเขาก็ค่อย ๆ ล่องลอยไป
เขากัดริมฝีปากของเขาในขณะที่เขาพยายามเพื่อให้ตื่น เขายืนขึ้น และเมื่อเขากำลังจะวิ่ง ค่ายกลเวทมนตร์สีเขียวเล็ก ๆ ก็สว่างขึ้นที่ฝ่าเท้าของเขา มันเติบโตด้วยความเร็วที่น่าตกใจเมื่อมันวนเท้าของเขาขึ้นไปถึงขาของเขา
“แกร๊ก”
ชายหนุ่มกระตุ้นเวทมนตร์ของเขา เขาหมดแรงแล้วแต่ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พละเฮือกสุดท้ายของเขาเนื่องจากจะมีอันตรายได้เกิดขึ้นกับตัวเขา วงแหวนสีม่วงจาง ๆ ปรากฏขึ้นที่ด้านบนศีรษะของเขาขณะที่เวทมนตร์ของเขาเริ่มหมุนวนไปรอบศีรษะของเขา
เหนือศีรษะของเขาสองฟุต หินสีดำหกเหลี่ยมปรากฏขึ้น และวงแหวนสีม่วงดูเหมือนจะสูญเสียพลังไป
“บัดซบเอ้ย” ชายหนุ่มสบถเมื่อเห็นไอเทมเวทมนตร์ต่อต้านการร่ายเหนือศีรษะของเขา
ค่ายกลเวทมนตร์สีเขียวปรากฏขึ้นรอบตัวเขามากขึ้น
“คุณถูกล้อมแล้ว การต่อสู้ก็ไร้ประโยชน์”
เสียงหนึ่งดังก้องอยู่รอบตัวเขา
“เรื่องของฉัน!” ชายหนุ่มโต้กลับ
เขากระตุ้นเวทมนตร์ของเขาต่อไป
แครก!
เกิดรอยร้าวบนสิ่งประดิษฐ์เวทย์มนตร์ต่อต้านการร่ายเมื่อเวทมนตร์ของชายหนุ่มปะทุขึ้น
“เป็นไปได้อย่างไร?” ลูก้าจ้องได้มองอย่างไม่เชื่อสายตา แม้แต่ชุดเวทมนตร์ที่ควบคุมไว้และสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ต่อต้านการร่ายของเขาก็มีสัญญาณของการแตกหัก
“อ๊าก!” ชายหนุ่มคร่ำครวญเมื่อแหวนสีม่วงงอกขึ้นและห่อหุ้มเขาไว้
เมื่อใดก็ตามที่วงแหวนสัมผัสกับค่ายกลเวทมนตร์สีเขียวรอบตัวเขา ค่ายกลเวทย์มนตร์ก็สูญเสียผลของมันไปทันที
“เร็วเข้า! เสริมกำลังเดี๋ยวนี้!” ลูก้าสั่งคนของเขา
ชายในเครื่องแบบสีเขียวปรากฏตัวขึ้นรอบตัวชายหนุ่มค่ายกลเวทย์มนตร์สีเขียวจำนวนมากขึ้นและมีหลายขนาด ต่างก็ล้อมรอบเขา
แต่ว่า!
บูม!
ชุดควบคุมชุดแรกแตกพร้อมกับสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ป้องกันการร่าย
อากาศรอบ ๆ ชายหนุ่มแตกร้าวเมื่อรอยแยกปรากฏขึ้นบนวงแหวนสีม่วง
เมื่อคนที่อยู่ใกล้เขาได้ลองมองดูรอยแยกเหล่านั้น บางคนรู้สึกเหมือนกำลังมองเข้าไปในเหวลึก คนอื่น ๆ รู้สึกว่าพวกเขากำลังมองเข้าไปในจักรวาลอันกว้างใหญ่
“เปิดใช้งานแอนตี้แคสต์ทั้งหมดของพวกคุณเดี๋ยวนี้!” เสียงของลูก้าขัดจังหวะความคิดของพวกเขา
ก่อนที่เขาจะออกคำสั่ง คนของเขาเกือบทั้งหมดได้นำสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ของพวกเขาออกมาและเปิดใช้งาน พวกเขาทั้งหมดกลัวสิ่งที่อยู่เหนือรอยแยกเหล่านั้น
ถึงกระนั้น รอยแยกที่อยู่รอบ ๆ ชายหนุ่มก็ไม่ลดลง แต่กลับเติบโตในขนาดที่น่าตกใจ ทำลายค่ายกลควบคุมเพิ่มเติมและแม้กระทั่งสร้างความเสียหายให้กับสิ่งประดิษฐ์เวทย์มนตร์ต่อต้านการร่าย
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาพร้อมกับมีนัยน์ตาสีแดงอมม่วงของเขา เขาใช้แขนของเขากระตุ้นแหวนสีม่วงและโอบล้อมทุกคนที่อยู่ใกล้เขา
“ล่าถอย!” ลูก้าออกคำสั่งแต่เขามาช้าไปเป็นวินาที
เสียงกรีดร้องดังขึ้น วงแหวนสีม่วงกลายเป็นความว่างเปล่าขนาดใหญ่ ขจัดทุกสิ่งที่สัมผัสมัน ชายหนุ่มเป็นศูนย์กลางของความว่างเปล่านี้และไม่ได้รับผลกระทบจากความสามารถของมัน
===================
บูม!
ห่างออกไปไม่กี่ไมล์ ดิออร์และคนของเขาได้ยินเสียงของความโกลาหล
พวกเขาทั้งหมดหันไปทางเสียงและตกใจเมื่อเห็นหลุมดำขนาดใหญ่ปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของป่าไว้