ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 6 เอเบิลส์ บล็องก์
ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 6 เอเบิลส์ บล็องก์
หลังจากที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งจากระบบแล้ว ของที่อยู่ในร้านค้าก็ไม่สามารถถูกทำลายได้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นจิ่วเซินจึงไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวอีกต่อไป
รอยยิ้มของจิ่วเซินดูน่ากลัวขึ้นมาในขณะนั้น แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าจิ่วเซินแค่ยิ้มเยาะเพราะหลังจากที่เขาล้มลงกับพื้นชายอ้วนคนนี้ดูตลกจริง ๆ
จิ่วเซินได้ปรับตำแหน่งการนั่งของเขาซึ่งทำให้ทหารรับจ้างรุ่นเก๋าหลายคนต้องก้าวถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก ใครจะมาตำหนิพวกเขาหลังจากเห็นชะตากรรมของชายอ้วนคนนั้น?
“ฟังให้ดี ข้าไม่มีเวลาพอที่จะมานั่งรอพวกเจ้าที่นี่ทั้งวัน ดังนั้นหากพวกเจ้าไม่ต้องการสั่งอะไร... ก็รีบหลบสายตาของข้าไปเสีย!”
ริมฝีปากของทหารรับจ้างต่างกระตุกตามด้วยคำพูดที่เย่อหยิ่งของเขา แต่พวกเขาไม่กล้าแสดงความโกรธเลยแม้แต่น้อย เพราะเกรงว่าเจ้าของร้านเลือดร้อนคนนี้อาจจะฆ่าพวกเขาทันที
หลังจากเห็นชะตากรรมของเพื่อนของพวกเขา พวกเขาคิดว่าชายที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาแข็งแกร่งกว่าหัวหน้าสการ์ของพวกเขาหลายเท่า ความแข็งแกร่งของเขาอย่างน้อยควรเป็นขอบเขตที่ 7 ระดับจักรพรรดิ!
ความแข็งแกร่งเช่นนี้สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคนได้อย่างง่ายดาย แต่ใครจะมาคิดว่าบุคคลดังกล่าวได้ตัดสินใจสร้างร้านค้านิรนามในจุดที่มีประชากรน้อยกว่าในเมืองหลวงเช่นนี้
จิ่วเซินไม่ได้โกรธจริง ๆ เขาแค่หงุดหงิดที่ทหารรับจ้างเหล่านี้ทำให้เขาต้องเสียเวลาการบ่มเพาะ แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้สั่งอะไรเลย ดังนั้นเขาก็จึงรำคาญ
หัวหน้าสการ์ฝืนยิ้มและเหลือบมองไปทางกระดานดำ ริมฝีปากของเขาสั่นเมื่อเห็นราคาไวน์ที่ดูราวกับเรื่องไร้สาระ เขาอดไม่ได้ที่จะจ้องมองที่หลิวซิ่วเฟิงที่ได้พาพวกเขามาที่นี่ แต่เขากลับยักไหล่และเดินไปหาเจ้าของร้านที่น่ากลัว
“ปรมาจารย์ไวน์จิ่วเซิน โปรดให้อภัยการกระทำที่หยายคายของสหายของข้าด้วย พวกเขาแค่ไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่ของไวน์ของท่าน ข้าขอเอเบิลส์ บล็องก์สักขวดได้หรือไม่ ข้าเคยลองไวน์หยกเร้นลับเมื่อสองวันก่อน ข้าก็เลยอยากลองอะไรใหม่ ๆ บ้างเช่นกัน” หลิวซิ่วเฟิงยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงรสชาติของหยกเร้นลับของจิ่วเซิน
หัวหน้าสการ์รู้สึกสับสนกับหลิวซิ่วเฟิงเป็นอย่างมาก เพราะผู้ชายคนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ประหยัดอดออม แต่การกระทำในปัจจุบันของเขาตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับหลิวซิ่วเฟิง เว้น... แต่ว่าไวน์จะมีผลตามอย่างที่เขาพูดจริง ๆ
“ปรมาจารย์ไวน์จิ่วเซิน ข้าอยากสั่งเอเบิลส์ บล็องก์หนึ่งขวดด้วยเช่นกัน และขอหยกเร้นลับสิบสองขวดให้พี่น้องของข้าด้วยได้หรือไม่” สการ์พูดขึ้นอย่างอ่อนโยน แม้ว่าไวน์อาจไม่ได้มีผลเท่ากับคำพูดของหลิวซิ่วเฟิงก็ตาม แต่เขาก็ยังต้องการที่จะไขปริศนาเกี่ยวกับปรมาจารย์ไวน์ลึกลับคนนี้
ทหารรับจ้างที่อยู่เบื้องหลังสการ์มองมาที่เขาด้วยความยินดี แม้ว่าพวกเขาจะไม่สนใจที่จะต้องหยิบทรูคริสตัลสักสองสามก้อนออกมาก็ตาม
หัวหน้าสการ์ยิ้มให้พวกเขา เขารู้สึกว่ามันจะเป็นการถูกต้องกว่าที่จะปฏิบัติต่อพวกเขาแบบนี้ เพราะเขาเป็นคนที่ได้พาพวกเขามาที่นี่
จิ่วเซินพยักหน้าอย่างสงบและลุกขึ้นจากที่นั่ง จากนั้นเขาก็เข้าไปในพื้นที่จัดเก็บไวน์ของเขา
ภายในห้องเก็บไวน์ ไวน์จำนวนมากถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบบนชั้นวางขนาดใหญ่หลายชั้น ปัจจุบันมีไวน์เพียงสองประเภทที่อยู่ในพื้นที่จัดเก็บของเขา แต่ในวันพรุ่งนี้ น้ำค้างฤดูใบไม้ผลิในทะเลลึกจะพร้อมสำหรับการขายด้วยเช่นกัน เพราะปัจจุบันมันถูกเก็บไว้ในห้องกาลเวลาของระบบซึ่งถูกเร่งเวลาให้เร็วขึ้นหลายเท่า
เขาใช้พลังที่แท้จริงเพื่อควบคุมไวน์สิบสี่ขวดก่อนจะออกจากที่เก็บไวน์ นั่นคือไวน์หยกเร้นลับ 12 ขวด และเอเบิลส์ บล็องก์ 2 ขวด จากนั้นเขาก็เดินออกไปด้วยท่าทางไม่กระวนกระวายไปยังที่ที่พวกทหารรับจ้างนั่งอยู่
หลิวซิ่วเฟิงเลียริมฝีปากของเขาหลังจากเห็นไวน์ที่ลอยอยู่รอบตัวของจิ่วเซินทหารรับจ้างไม่ได้สนใจการควบคุมพลังที่แท้จริงอย่างละเอียดอ่อนของเขาและเพียงแค่เพ่งมองไปที่ไวน์ แม้แต่สการ์ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นหลังจากได้กลิ่นอันหอมหวานของไวน์
จิ่วเซินได้วางไวน์ไว้บนโต๊ะของทหารรับจ้าง และวางถ้วยเงินให้คนละถ้วย
“นี่คือไวน์ของเจ้า ขอให้เพลิดเพลิน” เขาพูดขึ้นอย่างเฉยเมยขณะที่มองหาเก้าอี้อยู่ในร้านแล้วนั่งลง
จมูกของทหารรับจ้างกระตุกหลังจากสูดกลิ่นหอมของผลไม้ หลิวซิ่วเฟิงนั้นคุ้นเคยกับกลิ่นนี้ดี นี่คือกลิ่นของไวน์หยกเร้นลับที่เขาได้ลิ้มรสเมื่อสองวันก่อน เขายังได้กลิ่นหอมสดชื่นที่ทำให้ร่างกายของเขารู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย
‘ส่วนกลิ่นนี้น่าจะเป็นของเอเบิลส์ บล็องก์ ข้าอยากรู้ว่ารสชาติจะเป็นยังไงกันแน่ เนื่องจากมันถูกผลิตขึ้นโดยปรมาจารย์ไวน์จิ่วเซิน มันไม่ควรจะแย่ขนาดนั้นเมื่อพิจารณาว่าหยกเร้นลับขวดนั้นอร่อยแค่ไหน และเขายังตั้งราคาไว้สูงกว่าไวน์อื่น ๆ ของเขาอีกด้วย’ หลิวซิ่วเฟิงคิดกับตัวเองในขณะที่เขาเปิดขวดไวน์อย่างช้า ๆ
หลังจากเปิดขวดไวน์ ลมทะเลก็ได้พัดมาแตะจมูกของเขา เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังว่ายน้ำอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลวายุสวรรค์
“นี่คือ...”
สการ์ได้เปิดขวดไวน์ของเขาอย่างเร่งรีบหลังจากที่เขาเห็นการแสดงออกของหลิวซิ่วเฟิงที่ดูเกินจริง การแสดงออกในลักษณะเดียวกันนี้สามารถมองเห็นได้บนใบหน้าของเขาหลังจากสูดกลิ่นหอมของเอเบิลส์ บล็องก์ด้วยเช่นกัน
“กลิ่นนี้... นี่คือน้ำผึ้งที่ผลิตโดยหอยมุกเอเบิลส์ นี่มันอะไรกัน!” สการ์อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
หอยมุกเอเบิลส์เป็นสัตว์ทะเลขอบเขตที่ 5 ระดับวิญญาณ แต่การตามล่าสัตว์หายากตัวนี้เป็นเรื่องยากเกินไป เพราะมันเป็นสัตว์สามารถพบได้ในส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลวายุสวรรค์
จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่จิ่วเซินซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ขณะที่หลับตาลง จิ่วเซินได้ลืมตาขึ้นหลังจากรู้สึกว่ามีคนจ้องมองเขา เขาเหลือบมองที่สการ์อย่างไม่แยแสซึ่งทำให้ทหารรับจ้างตกใจ
‘ชายผู้นี้ให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่งจริง ๆ !’
“ไวน์ผลิตโดยใช้น้ำผึ้งที่ผลิตโดยหอยมุกเอเบิลส์เป็นส่วนผสมหลัก นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรและผลไม้หายากอื่น ๆ อีกหลายชนิดที่ได้เพิ่มเข้ามาในตัวไวน์เพื่อเน้นกลิ่นและรสชาติของไวน์ สำหรับวิธีการทำนั้น ข้าไม่สามารถบอกเจ้าได้” จิ่วเซินพูดขึ้นอย่างชัดเจน เขารู้ดีว่าพวกเขาคงจะถามถึงส่วนผสมของไวน์ของเขา แต่เขาไม่ต้องการบอกใครว่าเขาได้ทำไวน์นี้ขึ้นมาได้อย่างไร