ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 2 ลูกค้าคนแรก
ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 2 ลูกค้าคนแรก
จิ่วเซินได้ยินเสียงจักรกลของระบบดังอยู่ในหัวของเขา แต่เขาไม่ได้ถูกรบกวนเพราะเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้วที่ระบบได้ให้ภารกิจนี้ แต่ก็ไม่มีแม้แต่คนสักคนที่จะย่างเข้ามาในร้าน และถ้ามีที่คนอยากรู้อยากเห็นมากพอที่จะเข้ามาข้างในจริง ๆ แล้วปฏิกิริยาของพวกเขาจะเป็นอย่างไรหากพวกเขาได้เห็นว่าราคาไวน์ของเขานั้นสูงเกินไป
จิ่วเซินได้เหลือบมองไปยังกระดานดำขนาดเล็กที่มีรายการสิ่งของที่เขียนอยู่บนนั้น
* หยกเร้นลับ – 1 ทรูคริสตัล
* เอเบิลส์ บล็องก์ – 5 ทรูคริสตัล
ราคาของไวน์นั้นถูกกำหนดโดยระบบ และจิ่วเซินก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน นอกจากต้องเห็นด้วยอย่างช่วยไม่ได้ นอกจากนี้ เขายังเชื่อมั่นในระบบที่ได้ส่งเขามาสู่โลกนี้ด้วยเวทมนตร์
มีเพียงไวน์สองชนิดที่ขายได้ในขณะนี้และทั้งสองอย่างมีราคาเป็นทรูคริสตัล! ทรูคริสตัลเป็นสกุลเงินของผู้ฝึกตนและพวกเขายังสามารถใช้มันเพื่อเร่งความเร็วในการฝึกฝนของพวกเขาได้อีกด้วย เนื่องจากทรูคริสตัลมีแก่นแท้ที่บริสุทธิ์ ดังนั้นมูลค่าของทรูคริสตัลจึงสูงอย่างแน่นอน
ทวีปลมปราณมังกรนั้นมีสกุลเงินของเหรียญคือ หนึ่งร้อยเหรียญทองแดงมีค่าเท่ากับหนึ่งเหรียญเงิน หนึ่งร้อยเหรียญเงินมีค่าเท่ากับหนึ่งเหรียญทอง และหนึ่งร้อยเหรียญทองมีค่าเท่ากับหนึ่งทรูคริสตัล
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้าถึงทรูคริสตัลได้มีเพียงตระกูลขุนนางและพ่อค้าที่ร่ำรวยเท่านั้นที่เข้าถึงได้ แต่ถึงกระนั้น เหรียญเงินสิบเหรียญก็เกินพอสำหรับครอบครัวสามัญชนที่จะอยู่อย่างสบายเป็นเวลาหนึ่งเดือน
...
ขณะที่จิ่วเซินกำลังยุ่งอยู่กับการดูไอซ์เลียนมจากระบบอย่างตะกละตะกลาม เขารู้สึกได้ว่ามีคนได้ก้าวเข้ามาในร้านของเขา เขาสังเกตชายที่เข้ามาในร้านด้วยความสงสัย
เขาเป็นชายวัยกลางคนที่สูงและดูมีอารมณ์ที่บูดบึ้งและมีใบหน้าที่หยาบกร้าน เพียงแค่ชำเลืองมองเพียงครั้งเดียว ใคร ๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นทหารรับจ้าง
ชายคนนั้นเหลือบมองจิ่วเซินขณะที่ยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียด เขาเข้าหาจิ่วเซินด้วยความเร็วที่ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไป แต่จิ่วเซินรู้ว่าชายผู้นี้ไม่ได้มาดีนัก
“เจ้าเป็นเจ้าของที่นี่หรือ? ชายคนนั้นเหลือบมองไปรอบ ๆ ร้านขณะที่เขาถามจิ่วเซิน”
“ถ้าจะซื้ออะไรก็ลองดูก่อนได้”
จิ่วเซินชี้ไปที่กระดานดำอย่างเฉยเมย
รูม่านตาของชายคนนั้นแทบหลุดออกจากเบ้าหลังจากเห็นสิ่งที่เขียนอยู่บนกระดานดำขนาดเล็ก เขามองไปที่จิ่วเซินโดยไม่พูดในขณะที่ชี้ไปที่กระดานดำด้วยมือที่สั่นเทา
“เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าไม่ได้เขียนผิด ข้าคิดว่าเจ้าอาจเข้าใจผิดว่าเหรียญทองแดงนั้นเป็นทรูคริสตัล”
จิ่วเซินขมวดคิ้วกับปฏิกิริยาที่เกินจริงของเขา แต่เขาได้ส่ายหัวเป็นคำตอบ
“อะไรนะ! ไวน์ขวดหนึ่งขวดละ 1 ทรูคริสตัล! และอีกขวดหนึ่งขายได้ในราคา 5 ทรูคริสตัล นี่เรื่องจริงงั้นเหรอ! เจ้าล้อเล่นงั้นเหรอ บัดซบ! แม้ว่าไวน์เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของฟีนิกซ์ของจักรพรรดิจะถูกขายไปในราคา 100 ทรูคริสตัลต่อขวด เจ้าคิดว่าไวน์เหม็นสาปของเจ้ามีคุณภาพถึงหนึ่งในร้อยส่วนของไวน์ของจักรพรรดิหรือไม่!” เคราที่ยุ่งเหยิงของชายผู้นั้นได้สั่นสะท้านขณะที่เขาได้สาปแช่งจิ่วเซินอย่างเสียงดัง น้ำลายของเขากระเด็นออกมาอย่างหนักราวกับฝน แต่พลังที่มองไม่เห็นได้ป้องกันน้ำลายนั้นไม่ให้ตกลงบนผิวหนังของจิ่วเซิน
ความแข็งแกร่งของขอบเขตที่ 4 ระดับอัศวินครูเซเดอร์ ของชายผู้นี้ระเบิดออกมาราวกับพายุโหมกระหน่ำ แต่จิ่วเซินได้เพิกเฉยต่อชายผู้นั้นและมองดูไอซ์ที่กำลังเลียนมของมันอย่างเงียบ ๆ แม้หลังจากที่เขาได้แสดงความแข็งแกร่งของเขาแล้ว จิ่วเซินก็ยังปฏิบัติต่อเขาราวกับสายลม
“เจ้าเด็กนี่ช่างกล้าที่จะเพิกเฉยต่อนายท่านผู้นี้จริง ๆ !”
ความโกรธของชายผู้นี้เพิ่มขึ้นหลังจากที่จิ่วเซินได้เพิกเฉยเขา และเขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อข้ออ้างทั้งหมดและแสดงเจตนาที่แท้จริงที่เขาได้เข้ามาในร้านของจิ่วเซิน
เขากำลังจะคว้าคอเสื้อของจิ่วเซิน แต่เมื่อรู้สึกว่ามีมือที่จับแขนของเขาแน่นราวกับถูกคีมหนีบ เขาจึงได้ดึงแขนของเขาด้วยความแข็งแกร่งของขอบเขตที่ 4 ระดับอัศวิน ออกมาอย่างเต็มที่ แต่มือที่กำลังจับแขนเขาไว้ก็ไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย
ร่างกายของชายคนนั้นกลายเป็นเย็นชาและเขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องที่ไม่น่าเชื่อขึ้นมา ‘ชายหนุ่มคนนี้อาจจะมีขอบเขตที่ 6 ระดับราชางั้นหรือ เพราะถ้าเขามีเพียงขอบเขตที่ 5 ระดับวิญญาณ อย่างน้อยข้าก็สามารถเป็นอิสระจากการที่ถูกเขาจับได้ ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ... ชายหนุ่มที่ดูอ่อนแอที่อยู่ตรงหน้าข้าคนนี้มีขอบเขตที่ 6 ระดับราชา เป็นอย่างน้อย บัดซบ เป็นไปได้ยังไงกัน! เว้นเสียแต่ว่าชายหนุ่มคนนี้จะเป็นลูกนอกสมรสของจักรพรรดิและสืบเชื้อสายจากยีนที่โดดเด่นของเขามาทั้งหมด?’
ชายวัยกลางคนที่มีหน้าตาบูดบึ้งนั้นมีเหงื่อไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขากลืนน้ำลายและริมฝีปากที่แห้งกร้านของเขาได้กระตุกไปมา
“ปรมาจารย์ไวน์ ท่านกำลังเข้าใจข้าผิด ข้าแค่อยากจะตบไหล่ท่านเพื่อเป็นการขอบคุณที่ยอมให้ข้าได้ลิ้มรสไวน์ที่ทัดเทียมกับไวน์เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของฟีนิกซ์ของจักรพรรดิเท่านั้น มันก็แค่ทรูคริสตัลไม่กี่อันเท่านั้น และข้าก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ท่านช่วยปล่อยข้าและให้โอกาสข้าได้ลิ้มรสไวน์ที่น่าอัศจรรย์ของท่านได้หรือไม่”
ชายคนนั้นได้บังคับให้รอยยิ้มที่คดเคี้ยวของเขาปรากฏขึ้น ในขณะที่เขาได้เหลือบมองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของจิ่วเซิน ปากของจิ่วเซินได้กลายเป็นรูปตัว O ราวกับว่าเขาได้เข้าใจคำพูดของชายคนนี้ได้ในที่สุด
“เอาล่ะ ตกลง เจ้าจะสั่งอะไรจากสองอันนี้”
ลำไส้ของชายวัยกลางคนเริ่มบิดเบี้ยว แต่เขายังคงเผยรอยยิ้มที่คดเคี้ยวของเขาในขณะที่เขากำลังสั่นเทา
“ข้า... ข้าต้องการอะไรเบา ๆ ในตอนนี้ ปรมาจารย์ไวน์ ท่านช่วยนำหยกเร้นลับมาให้ข้าสักขวดได้หรือไม่” นี่เป็นไวน์ที่ถูกที่สุดระหว่างไวน์ทั้งสองชนิดที่ขายอยู่ในร้านนี้ แต่ราคานั้นก็ยังคงเป็น 1 ทรูคริสตัล เขารู้สึกว่าหัวใจของเขานั้นมีเลือดไหลออกมาอย่างน่าสมเพช แต่ใครบอกให้เขาบุกเข้ามาในร้านนี้อย่างโง่เขลาและพยายามเก็บเงินคุ้มครองกันล่ะ? เขายังไม่ได้ประกาศเจตนาของเขาเลยด้วยซ้ำ แต่เขาดีใจที่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น มิฉะนั้นชะตากรรมของเขานั้นอาจไม่มีใครรู้
จิ่วเซินพยักหน้าอย่างสงบและเดินเข้าไปในห้องเก็บของ ผ่านไปไม่ถึงนาที เขาก็เดินกลับมาพร้อมกับขวดไวน์ที่มีกลิ่นหอมอันเข้มข้น
“กลิ่นนี้...”
มันคล้ายกับกลิ่นของสมุนไพรหายากที่ชายคนนั้นเคยเห็นในการผจญภัยครั้งหนึ่งของเขานั่นคือโสมเลือดม่วง
สมุนไพรดังกล่าวเป็นสมุนไพรระดับ 3 ซึ่งมักใช้เป็นส่วนผสมในการรักษาโรค เนื่องจากมีประสิทธิภาพที่ดีในการทำให้ร่างกายรู้สึกสงบ
‘นี่... นี่มันอะไรกัน? ช่างเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง’ ชายคนนั้นสาปแช่งอยู่ภายในหัวใจของเขา
แม้ว่าจะเป็นเพียงสมุนไพรระดับ 3 ก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะหาสมุนไพรนี้ เนื่องจากสามารถพบได้ในสภาพแวดล้อมที่ทุรกันดานเท่านั้น