บทที่ 199 เธอคือเด็กของตระกูลซู (ฟรี)
ภารกิจในช่วงบ่าย คือให้พ่อชั่วคราวแต่ละคนพาลูกๆเข้าไปในเมือง และต้องหาวิธีใดก็ได้ทําให้เด็กมีความสุข เพื่อให้เด็กลืมพ่อแท้ๆของตัวเองไปชั่วคราว
หานเซียวและซูจิ่วเข้ากันได้อย่างมีความสุข และเด็กหญิงตัวน้อยก็เดินตามหลังผู้เป็นลุงเพื่อจะไปที่ตลาดในเมืองอย่างเชื่อฟัง
หานเซียวอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยไปตลอดทาง และเมื่อมาถึงที่หมาย เขาก็ต้องการจะซื้อของน่ารักๆให้กับเธอสักหนึ่งชิ้น เขาจึงถามเธอว่าชอบอะไรเป็นพิเศษบ้างไหม❓ แต่สุดท้ายซูจิ่วก็เตือนเขาว่า “ลุง ตอนนี้เราไม่มีเงิน❗️”
เมื่อได้ยินประโยคนั้น หานเซียวก็นึกขึ้นมาได้ว่ากระเป๋าเงินของเขาถูกทีมงานเก็บไป และตอนนี้เขาก็ไม่มีเงินแม้แต่แดงเดียว
มันน่าอายจริงๆ
เจ้าของร้านของเล่นรู้ว่าพวกเขากำลังบันทึกรายการอยู่ เธอจึงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พวกคุณก็ร้องเพลงให้ฉันฟังสิ แล้วฉันจะให้ของเล่นชิ้นนี้ดีไหม❓”
เธอหยิบตุ๊กตาที่มีความสูงกว่าครึ่งตัวซูจิ่วออกมา ซึ่งมันเป็นเป็ดตัวสีเหลือง สวมหมวก และใส่กางเกงขายาวที่น่ารักเป็นพิเศษ
และสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ดวงตาของซูจิ่วเป็นประกายขึ้นมาทันที และเมื่อเห็นว่าเด็กหญิงตัวน้อยชอบ หานเซียวก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย “ตกลง❗️”
จากนั้น หานเซียวก็ก้มศีรษะลง และพูดกับซูจิ่วด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เสี่ยวจิ่ว พวกเรามาร้องเพลงของรายการให้พี่สาวคนนี้ฟังด้วยกันดีไหม❓”
เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าลงอย่างน่ารัก “ตกลง~”
และเมื่อทั้งสองคนเริ่มร้องเพลง ฝูงชนก็มารวมตัวกันเพื่อเฝ้าดู
ผู้ชายหน้าตาดีและเด็กหญิงตัวน้อย ช่างน่ารื่นรมย์เสียจริงๆ และการร้องเพลงก็ไพเราะมากอีกด้วย❗️
ในเวลาเดียวกัน ก็มีรถเก๋งสีดําที่ดูเรียบง่ายแต่หรูหราจอดอยู่ข้างถนนด้านนอกตลาด ซึ่งรถคันนี้จอดอยู่ท่ามกลางรถสามล้อมอเตอร์ไซค์ จึงทำให้รถคันนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างง่ายดาย และทุกคนที่เห็นต่างก็สงสัยว่าเศรษฐีคนไหนมาเที่ยวในเมืองของพวกเขา❓
## เสี่ยวจิ่วมาแล้ว รับรองสนุกไม่แพ้พี่สาวอีหลิง
ในรถ พ่อบ้านนั่งอยู่บนเบาะคนขับ และเขาก็หันหน้าไปหาซูกั๋วปังที่นั่งอยู่เบาะหลังแล้วพูดขึ้นว่า “ท่านผู้เฒ่า ท่านเห็นคุณหนูเล็กไหมครับ เธอกําลังร้องเพลงอยู่ น่ารักมากจริงๆ❗️”
มีคนจำนวนมากที่มาเฝ้าดูซูจิ่ว จึงทำให้ซูกั๋วปังไม่สามารถมองเห็นได้จากมุมมองที่เขาอยู่ตรงนี้ เขาจึงมองไปรอบๆอย่างไม่พอใจ และพูดขึ้นว่า “ที่นี่มันอะไรกัน❓❗️”
พ่อบ้านตอบกลับทันทีว่า “ที่นี่คือตลาดในเมืองครับ”
เมื่อได้ยินคำตอบ ซูกั๋วปังก็ยิ่งไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม ถึงแม้ว่าซูจิ่วจะเป็นเด็กสาวที่ไร้ค่า แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นเด็กของตระกูลซู แล้วทำไมถึงได้มาปรากฏตัวในสถานที่สกปรกแบบนี้ เพื่อเอาใจคนหยาบคายพวกนี้ด้วย❓
หากเด็กหญิงตัวน้อยและซูเชิ่งจิ่งเต็มใจกลับไปที่ตระกูลซู พวกเขาก็จะมีความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งแบบไม่มีที่สิ้นสุด แต่ซูเชิ่งจิ่งกลับไม่ต้องการ❗️
เรื่องเมื่อหลายปีก่อน เขารู้ตัวว่าตัวเองทําผิดจริงๆ แต่เวลาก็ผ่านมาตั้งนานแล้ว แต่ซูเชิ่งจิ่งก็ยังปล่อยวางมันไม่ลง และยังโกรธเกลียดเขาอยู่อีกงั้นเหรอ❓
ซูกั๋วปังหลับตาลง และจมอยู่ในความคิด
และในเวลานี้ ซูจิ่วและหานเซียวก็ร้องเพลงจบแล้ว และฝูงชนที่มามุงดูต่างก็ปรบมือให้พวกเขากันอย่างพร้อมเพรียง จากนั้น เจ้าของร้านก็เอ่ยชมว่า “ร้องเพลงได้เพราะมากจริงๆ ถ้าอย่างนั้น เป็ดเหลืองตัวน้อยนี้เป็นของหนูแล้ว”
เธอกําลังจะส่งเป็ดเหลืองให้กับซูจิ่ว แต่ซูจิ่วกลับส่ายหน้าและถามอย่างไร้เดียงสาว่า “พี่สาว หนูขอเป็นอย่างอื่นได้ไหม❓”
เจ้าของร้านมองไปที่ใบหน้าเล็กๆที่ขาวผ่องของเด็กหญิงตัวน้อย และน้ำเสียงของเธอก็อ่อนลงเล็กน้อย “ได้สิ แล้วหนูต้องการอะไร❓”
เธอคิดว่าซูจิ่วจะต้องเลือกของเล่นที่มีราคาแพงกว่าชิ้นนี้อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่เป็นไร ถึงยังไงทางรายการก็ยอมจ่ายให้อยู่ดี ดังนั้น เธอจึงปล่อยให้เด็กน้อยคนนี้เลือกตามที่เจ้าตัวต้องการ
ซูจิ่วเอื้อมมือแล้วชี้ไปที่ของบางอย่าง “พี่สาว หนูต้องการสิ่งนั้น และหนูก็ขอเพิ่มอีกได้ไหม❓ พอดีหนูอยากให้ป๊ะป๋ากับเด็กคนอื่นๆ และก็ลุงๆด้วย”
เจ้าของร้านมองตามมือเล็กๆของเด็กหญิงตัวน้อย และก็เห็นว่ามันคือของที่ระลึกขนาดเล็ก ซึ่งมันเป็นที่คั่นหนังสือสไตล์โบราณที่แขวนด้วยพู่สีแดง
ของที่ระลึกชิ้นนี้เป็นเพียงของขนาดเล็กที่ไม่คุ้มค่ากับเงินเท่าไรนัก แต่การออกแบบลวดลายเป็นแบบเฉพาะของเมืองนี้ และมันถูกพิมพ์อยู่บนนั้นค่อนข้างสวยงามเลยทีเดียว
บทที่ 200 เด็กหญิงตัวน้อยช่างปากหวานเหลือเกิน
“ได้สิ เดี๋ยวฉันจะหยิบมันมาให้หนู” เจ้าของร้านหยิบของที่ระลึกสิบกว่าอันใส่ถุง แล้วยื่นให้ซูจิ่วด้วยความเต็มใจ
ซูจิ่วรับมันอย่างมีความสุข แล้วเธอก็พูดอย่างอ่อนหวานว่า “ขอบคุณพี่สาว หนูขอให้กิจการเจริญรุ่งเรือง และทําเงินได้เป็นจํานวนมาก❗️”
เมื่อได้ยินประโยคนั้น เจ้าของร้านก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที และในใจของเธอก็คิดว่า เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ช่างปากหวานเหลือเกิน❗️
เมื่อหานเซียวเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกท้อใจอยู่บ้างเล็กน้อย
ซูเชิ่งจิ่งสอนลูกสาวตัวน้อยคนนี้ได้ยังไง❓ เธอทั้งน่ารักและช่างพูด และถ้าลูกชายของเขาปากหวานเหมือนเธอสักครึ่งหนึ่ง เขาคงจะไม่รำคาญเจ้าเด็กเหลือขอคนนั้นเลย
ในขณะที่เขากําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ซูจิ่วก็หยิบที่คั่นหนังสือออกมาจากถุง แล้วยื่นให้กับหานเซียว “ลุงหาน หนูให้ลุงก่อนเป็นคนแรกเลย”
“ขอบคุณเสี่ยวจิ่ว ลุงชอบมันมาก” ในใจของหานเซียวรู้สึกมีความสุขมาก หลังจากที่เขารับมันมาแล้ว เขาก็เก็บมันไว้ในกระเป๋ากางเกงอย่างระมัดระวัง จากนั้น ก็ยื่นมือออกไปอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมา
เมื่อกำลังเดินออกมาจากตลาด ก็มีกลุ่มคนเดินตามหลังทั้งคู่มาติดๆ จึงทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และทีมงานต้องหยุดพวกเขาไว้ แล้วให้หานเซียวพาซูจิ่วออกไปก่อน
ส่วนซูกั๋วปังที่นั่งอยู่ในรถเมื่อเห็นฉากวุ่นวายนี้เข้า เขาก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นกว่าเดิม
คนพวกนี้กำลังทําอะไรกันอยู่ ไม่เห็นหรือยังไงว่าเด็กก็ตัวเล็กเท่านั้นเอง แล้วถ้าเกิดเธอถูกชนจนล้มขึ้นมา แล้วได้รับบาดเจ็บจะทำยังไง❓
ถ้าพวกเขากำลังถ่ายทำรายการ ทำไมถึงไม่เคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อยก่อน
จุดประสงค์ของซูกั๋วปังที่มาในครั้งนี้ เพื่อมาดูสภาพแวดล้อมการถ่ายทำของรายการ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ทําให้เขารู้สึกผิดหวังมาก และเขาคงต้องส่งพ่อบ้านไปคุยกับทีมงาน เพื่อขอให้พวกเขาจัดให้พ่อและลูกได้ทานอาหารดีๆในตอนเย็น
เขาดูรายการ ป๊ะป๋า เราไปกันเล้ย ทุกตอน และเห็นว่าอาหารของเด็กนั้นไม่ดีเลย และถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นคงหิวและผอมลงแน่ๆ❗️
หลังจากพ่อบ้านลงจากรถ ซูจิ่วก็เห็นเขาทันที
ซูจิ่วรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างเล็กน้อย และคิดทันทีว่าการที่พ่อบ้านปรากฏตัวขึ้นที่นี่ นั่นหมายความว่าท่านผู้เฒ่าซูก็อยู่ที่นี่ด้วย และเขาก็คงจะนั่งอยู่ในรถ
เขาตั้งใจมาดูเธอกับป๊ะป๋าใช่ไหม❓
เนื่องจากซูกั๋วปังไม่ลงจากรถ ซูจิ่วจึงแกล้งทําเป็นไม่รู้ไม่เห็น และพูดกับหานเซียวว่า “ลุง หนูเห็นคนที่หนูรู้จักด้วย❗️”
หานเซียวสับสนอยู่บ้างเล็กน้อย “หือ❓”
มีใครที่เธอรู้จักอยู่ที่นี่งั้นเหรอ❓
ซูจิ่วจึงชี้ไปที่ตำแหน่งพ่อบ้าน “นั่นไง เราไปกันเถอะ”
หานเซียวอุ้มเสี่ยวจิ่วไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง และเธอก็ทักทายพ่อบ้านอย่างร่าเริง “คุณลุง❗️”
พ่อบ้านไม่คิดว่าตัวเองจะถูกเธอเห็นเข้า และจู่ๆเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที แล้วเขาก็ยิ้มให้กับเด็กหญิงตัวน้อย
“ลุง คุณมาที่นี่เพื่อมาเที่ยวเหรอ❓ เมื่อกี้หนูเพิ่งจะซื้อของขวัญเล็กๆน้อยๆมา หนูจะหยิบให้ลุงหนึ่งอัน❓” ซูจิ่วแสร้งทําเป็นไม่รู้เรื่อง และหยิบที่คั่นหนังสือออกมาจากถุงและส่งให้กับพ่อบ้าน
อยู่ๆเขาก็ได้รับของขวัญจากคุณหนูเล็ก และมือของพ่อบ้านก็ยื่นออกไปรับมาโดยไม่รู้ตัว ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ของมีค่าอะไรมากนัก แต่มันก็สามารถทําให้อารมณ์ของเขาดีขึ้นมาทันที เขาจึงยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ขอบคุณ”
ส่วนซูกั๋วปังที่นั่งอยู่ในรถ เมื่อเขาเห็นซูจิ่วส่งที่คั่นหนังสือให้กับพ่อบ้าน ทันใดนั้น อารมณ์ของเขาก็ค่อนข้างซับซ้อน
หลังจากที่เห็นเธอในโรงเรียนอนุบาลในวันนั้น เขาก็เห็นเธอแค่ในทีวีเท่านั้น ซึ่งดูเหมือนเป็นเวลานานมากแล้ว ที่เด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขา
ซูเชิ่งจิ่งปฏิเสธเขาอย่างมาก และมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะไปพบลูกชายของตัวเอง แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยให้ใครก็ตามมาพาเด็กหญิงตัวเล็กๆออกมาคนเดียวได้ แต่ถ้าซูเชิ่งจิ่งรู้เข้าว่าเขาแอบตามมา บางทีเจ้าลูกไม่รักดีคนนั้นอาจจะหันมาต่อสู้กับเขาอย่างแน่นอน
อีกอย่าง ก่อนหน้านี้เขาก็ปฏิบัติต่อเด็กหญิงตัวน้อยอย่างดุเดือดมาก และคาดว่าเธอจะต้องกลัวเขาอย่างไม่ต้องสงสัย และถ้าหากยังทำให้เธอตกใจอีกคงไม่ดีแน่
เมื่อพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว หานเซียวก็พาซูจิ่วกลับไป ส่วนพ่อบ้านหลังจากที่พูดคุยกับทีมงานแล้ว เขาก็เดินกลับมาที่รถ และพูดกับซูกั๋วปังอย่างนอบน้อมว่า “ท่านผู้เฒ่า คนของรายการเห็นด้วย และคุณหนูเล็กจะได้ทานอาหารเย็นตามที่ท่านได้สั่งเอาไว้”
ซูกั๋วปังมองไปที่พ่อบ้านของตัวเองด้วยสายตาเย็นชา “เอามันออกมา”
“อะไรครับ❓” พ่อบ้านนิ่งอึ้งไปทันที และเขาก็ไร้ซึ่งการตอบสนองไปชั่วขณะ