ตอนที่ 163 พิชิตดินแดนแห้งแล้งอีกครั้ง ตอนกลาง(อ่านฟรี)
ตอนที่ 163 พิชิตดินแดนแห้งแล้งอีกครั้ง ตอนกลาง
กายที่เขาปะทะกับเงาคนเลือกก็ใช้ค้อนสั่นสะเทือนโจมตีใส่เงาตัวหนึ่งจนร่างของมันรอยกระเด็นไปค้างอยู่ในท่าโจมตี ก่อนที่มันจะระเบิดกลางอากาศและตายไป
รุนแรงกว่าที่คิดแหะ...กายแปลกใจกับการโจมตีของตนเอง เนื่องจากหลังจากเลื่อนเป็นนักรบฝึกหัดระดับ 3 แล้ว เขาก็ยังไม่เคยสู้กับนักรบฝึกหัดระดับ 2 เพราะส่วนใหญ่ศัตรูในระยะหลังของเขาเป็นทหารแทบจะทั้งหมด
แต่ถึงจะเห็นว่าการโจมตีของตนจะรุนแรงกายก็ไม่ผ่อนแรงลง กลับโจมตีดุดันขึ้นกว่าปกติ เขาเหวี่ยงค้อนทุบเขากลางศีรษะของเงาจนหัวกะโหลกเงาแตกละเอียดยุบลงไปติดคอ ก่อนที่กายจะหันไปแตะใส่เงาที่ลอบโจมตีด้านหลัง แรงปะทะส่งให้ตัวมันไปกระแทกกับเงาตัวอื่นในบริเวณนั้น
เยอะเกินไป...กายขมวดคิ้วชนกัน ก่อนจะเลือกใช้ท่าศิลปะการต่อสู้ฟาดฟัน
“ศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟัน ขั้น 2” ดาบหักสังหารที่อันแน่นด้วยศิลปะการต่อสู้ฟันกวาดเข้าใส่เงาในแนวนอน ส่งผลให้เงามากกว่า 5 ตัวร่างขาดครึ่งเป็นสองท่อนตกลงกับพื้นสะลายหายไปกับพื้น
การโจมตีนี้ส่งผลให้กายพอมีพื้นที่ว่างไว้หายใจได้บ้าง แต่แล้วในตอนนั้นผู้เล่นก็โดนเล่นงานอย่างหนัก ซึ่งมาจากเงาของกายและเงาของกลุ่มสาวกุหลาบทั้ง 6 ซึ่งร่วมมือกันถล่มสังหารผู้เล่นไม่ยัง
“แข็งแกร่งเกินไป”
“บ้าเอ๊ย เงาของพวกเธอสู้ยากมาก”
“นั้นเพราะมีเงาของลอร์ดเจ็ดโลหะคอยเป็นตัวชนให้พวกเธอ”
“เราเสียคนไปมากกว่า 50 คน เพราะพวกเงาทั้งหกนั้น ไม่รวมกับเงาอื่น ๆ เรากำลังเสียเปรียบ”
สีหน้าของผู้เล่นไม่สู้ดีนัก พวกเขาระวังกันมากขึ้น เพราะถ้าพลาดท่าโดนเก็บตอนนี้ เท่ากับเสียสิทธิ์ในการอยู่ในแดนสงคราม ดินแดนแห้งแล้งต่อทันที
“ลอร์ดเจ็ดโลหะ รีบหยุดพวกเงาเหล่านั้นเร็ว” เสียงกุหลาบสีดำลอยมา แต่ถึงเอไม่บอกกายก็กำลังมองหาช่องเข้าปะทะกับเงาเหล่านั้นอยู่แล้ว
ตอนนี้แหละ กายเห็นหนึ่งในโอกาส เงาของกุหลาบเรน จอสซินนีได้เข้ามาใกล้เขา เงาของเธอนั้นใช้อาวุธ ซึ่งเป็นดาบสั้นสองเล่มที่โค้งเล็กน้อย ซึ่งเน้นความเร็วและความคล่องตัว ตอนนี้เธอได้สังหารผู้เล่นไปอีกคน โดยการฟันไปที่มือของผู้เล่นที่จับดาบจนขาด ก่อนจะทำการปิดฉากด้วยการฟันฉับเข้าไปที่คอ
ร่างของผู้เล่นล้มลงและลอยเป็นลูกไฟหายไป
เงากุหลาบเรน จอสซินนีดูจะพอใจ แต่ก่อนจะได้ขยับตัวอีกครั้งดาบหักสังหารก็เสียบเข้าที่กลางร่างเงากุหลาบเรน จอสซินนีทะลุออกไปด้านหลัง แม้ดาบจะทะลุตัวไปแล้ว แต่จากแรงปะทะก็ทำให้เงากุหลาบเรน จอสซินนีถอยไปตามดาบกักสังหารที่ปะอยู่บนพื้น
เงาดูจะตกใจมาก สายตาของมันจับจ้องไปที่กายซึ่งอยู่ในท่าวงสวิงจากการใช้กระบวนท่าประจำตัวเมื่อครู่ ดาบเงาสองมือหล่นและสลายไป พร้อมกับที่ตัวของเงากุหลาบเรน จอสซินนีก็สะลายไปด้วย
กายยิ้มออกมาอย่างยินดี อย่างน้อยก็กำจัดตัวปัญหาไปได้หนึ่ง
ฟริ้ว!
อยู่ ๆ ก็มีศรยิงเข้าใส่กาย ซึ่งเป็นการรอบโจมตี กายที่รู้ว่าหลบไม่ทันแล้ว เพราะเขารู้ตัวช้าเกินไป จึงไม่มีทางเลือกรีบยกค้อนสั่นสะเทือนขึ้นมาใช้งานไม่ต่างจากโล่ มือหนึ่งจับด้ามตามปกติ แต่อีกมือดันที่ตัวค้อนไว้
ศรปะทะเข้ากับค้อนส่งแรงปะทะผลักจนตัวกายถอยหลังไปครึ่งก้าว ซึ่งฉากนี้เหมือนกับที่เงาโดนก่อนหน้านี้
กายมองดูศรสีดำที่หล่นและสลายไป ซึ่งมาจากเงาของกุหลาบสีดำ แต่ยังไม่หมดแค่นั้นเงาของสาวกุหลาบอีก 4 คนเข้ามาล้อมกายไว้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งรวมแล้วมีเงาของสาวกุหลาบทั้งหมดที่เผชิญหน้ากับกายอยู่
แต่ดูเหมือนเงาของลอร์ดเจ็ดโลหะกลัวว่าเงาสาว ๆ ทั้ง 5 จะแย่งสังหารกายก่อน มันจึงควบม้ากระโดดลอยข้ามหัวเงากุหลาบทั้ง 5 โจมตีกายในทันที
ตูม!!!
เสียงระเบิดดังลั่นสร้างฝุ่นและหินกระเด็นลอยในระยะ 5 เมตร พร้อมกับหลุมรอยแตก ในตอนนั้นก็มีเงาของสองคนที่สู้กันลอยกระเด็นออกมาแยกไปคนละทาง
หนึ่งคือเงาลอร์ดเจ็ดโลหะ และอีกหนึ่งคือกาย กายถอยออกมาพุ่งไปคว้าดาบหักสังหารที่โจมตีเงากุหลาบเรน จอสซินนีตายไปก่อนหน้ากลับมา
แต่ยังไม่ทันที่ฝุ่นจะหาย เงาของ 5 สาวกุหลาบก็ตรงเข้าเล่นงานกายอีกต่อ
หึ...เราดึงดุดความสนใจของเงาระดับสูงเต็ม ๆ
กายมีท่าทีจริงจังก่อนจะปลดปล่อยศิลปะการต่อสู้สามอย่างพร้อม
“ศิลปะการต่อสู้ พละกำลัง ขั้น 1”
“ศิลปะการต่อสู้ ความเร็ว ขั้น 1”
เขารู้สึกได้ถึงพละกำลังและความเร็วที่มากขึ้นกว่าเดิมหนึ่งเท่าทันที ก่อนที่กายจะหันไปมองกุหลาบสีดำ ก่อนจะพยักหน้าให้เธอและกระโจนเข้าไปปะทะกับเงาสาว ๆ และเงาของตนเอง
“ฝ่าไปให้ได้ โอกาสมาแล้ว” กุหลาบสีดำเข้าใจว่ากายส่งสัญญาณมาแล้ว หน้าที่ของกายคือรั้งเงาระดับสูงไว้ให้ได้ และตอนนี้กายก็สู้อยู่กับเงาระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งนอกจากเงาระดับสูงยังมีเงาผู้เล่นอื่น ๆ ที่ลอบโจมตีกายเป็นบางครั้ง ทำให้ดูเสียเปรียบมาก แต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็คือหน้าที่กายตามที่คุยกันไว้
กุหลาบสีดำและกลุ่มสมาชิกกิลด์สายตรง ต่างก็ไปตามเส้นทางที่ลอร์ดเจ็ดโลหะเปิดไว้ก่อนหน้า ก่อนจะพุ่งผ่านเงากลุ่มสุดท้ายและตรงไปที่ยอดเขา
โดยยังมีเงาบางส่วนตามมาบ้าง
“กุหลาบสีดำ ท่านรีบไปพวกเราจะขวางทางมันไว้”
สมาชิกกิลด์สายตรงต่างก็หยุดและขวางเงาไว้ ซึ่งยิ่งดูเหมือนว่าพวกเงาเริ่มสัมผัสไว้ว่ามีบางคนกำลังเข้าไปขโมยของพวกมัน เงาจำนวนมากจึงพยายามฝ่าผู้เล่นและย้อนกลับมาที่ยอดเขา
นั้นร่วมไปถึงเงาที่ปะทะกับกลุ่มของกุหลาบจูเลียต กุหลาบเรน จอสซินนี กุหลาบเบียทริซ กุหลาบมิรันด้าและกุหลาบเพเทียนซ์ที่ตีนเขาด้วย
“ขวางไว้เงาคิดจะย้อนกลับไปที่ยอดเขา”
“อย่าให้มันขึ้นไปวุ่นวายได้”
“สู้สุดใจเลย”
สาว ๆ กุหลาบต่างสู้สุดชีวิต แต่ยิ่งกุหลาบสีดำเข้าใกล้ยอดเขามากเท่าไหร่ มันก็ยังกระตุ้นเงามากเท่านั้น ในตอนนี้ตรงจุดนี้มีเงามากกว่า 1000 ตัว แต่กลับเหลือผู้เล่นอยู่ไม่ถึง 900 คน
ซึ่งยากมากที่จะต้านได้นานกว่านี้
เงาทั้งหมดหันกลับไปและโจมตีใส่ทางฝั่งของกุหลาบมิรันด้า กุหลาบเพเทียนซ์ โถมเข้าในครั้งเดียว โดยไม่สนใจสู้กับกลุ่มของกุหลาบจูเลียต กุหลาบเรน จอสซินนี กุหลาบเบียทริซที่อยู่ตีนเขาอีก
ทำให้กุหลาบมิรันด้า กุหลาบเพเทียนซ์ตกใจมากและรับศึกหนักอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะโดนเงาจำนวนมากสังการตายไปทั้งสองคน ร่างของพวกเธอสลายเป็นลูกไฟลอยหายไปบนท้องฟ้า
การตายของระดับสูงของกิลด์ราชินีกุหลาบ ทำให้กลุ่มผู้เล่นที่สองสาวคลุมอยู่นั้นวุ่นวายขึ้น
“กุหลาบมิรันด้าและกุหลาบเพเทียนซ์เสร็จเงาไปแล้ว” กุหลาบเบียทริซพูดด้วยความตกใจ
“ช่างพวกเธอก่อน รีบไล่ตามเงาไปเร็ว ไม่อย่างนั้นทางด้านบนลำบากแน่” กุหลาบจูเลียต
กุหลาบเรน จอสซินนีพยักหน้าเห็นด้วย
ทั้งสามสาวสั่งผู้เล่นที่เหลือไล่ตามเงาไปอย่างติด ๆ แต่ก็กำจัดเงาได้แค่เงาที่ตามไปไม่ทันเท่านั้น ซึ่งเหล่านั้นบางส่วนก็หันกลับมาปะทะกับผู้เล่นอย่างดุดันเช่นเช่น
สงครามยังดำเนินต่อไป แต่ทางด้านกายถือว่ารับศึกหักมา เพราะตอนนี้ในจุดที่เขาอยู่เหลือผู้เล่นร้อยกว่าคน ส่วนเงานั้นมีกันราว ๆ 50 ตัว
แต่ที่เป็นปัญหาคือเงาของกายและกลุ่มสาวกุหลาบอีก 5 คน กายพยายามหาทางกำจัด แต่ก็ยากมากเพราะเงาของเขาคอยขัดตลอด
ต้องรีบเก็บพวกสาวกุหลาบให้ได้ก่อนสักคนหนึ่งหรือสองคน ไม่อย่างนั้นต้องแย่แน่ ๆ
เงาลอร์ดเจ็ดโลหะยกค้อนและดาบขึ้นมากระทบเข้าหากันเป็นการท้าทายกาย ก่อนจะกระทืบเท้าเข้าหากาย ซึ่งตอนนี้ม้าของพวกเขานั้นตายไปหมดแล้ว
รวมถึงเจ้าหมอกของกายด้วย มันโดนโจมตีจากรอบด้านกายจึงยากจะช่วยไว้ได้ แต่กระนั้นมันก็ตายแค่ในแดนสงครามเท่านั้น พอกลับไปเจ้าหมอกก็ยังอยู่เหมือนเดิม
“เอานี่ไปกิน” กายโยนดาบหักสังหารขึ้น ก่อนจะทุบไปที่ด้ามจับ ดาบพุ่งด้วยความเร็วสูงใส่เงาลอร์ดเจ็ดโลหะ มันหมุนตัวและโจมตีด้วยค้อนสั่นสะเทือนใส่ดาบหักสักหาร
ตู้ม!!
เสียงการปะทะเกิดขึ้นรุนแรงมาก จนดาบและค้อนปลิวไปคนละทาง กายไม่เปิดจังหวะให้เงาตนเองคุมการต่อสู้ เขาต้องเป็นฝ่ายคุมจังหวะการ เพราะไม่อย่างนั้นก็ยากจะต้านทานพวกเงาได้
“แหลกไปซะ” ในมือของกายเหลือเพียงค้อนสั่นสะเทือน แต่เขาก็ไม่กลัว กายกระโดดเข้าหาเงา ก่อนจะรีบโจมตีใส่มันในจังหวะที่ยังตั้งหลักไม่ทัน
ปัง! ปัง! ปัง!
กายเหวี่ยงค้อนสั่นสะเทือนทุบโจมตีใส่ไม่ยั้ง แต่เงาที่เหลือเพียงดาบหักสังหารก็รับทุกการโจมตีของกายได้ ถึงอย่างนั้นมันก็ถอยหลังทุกการโจมตีของกาย เขากดดันเงาจนมันไม่อาจจะตอบโต้กลับได้
ตอนนั้นเองเงาของกุหลาบจูเลียตกับกุหลาบเบียทริซ ที่ใช้ดาบยาวโจมตีใส่สองข้างของกาย
ยุ่งยากซะจริง ๆ กายบ่นในใจ ก่อนหลบออกมาไปด้านข้างทำให้การโจมตีของเงาทั้งสองนั้นพลาด แต่พวกเงาสองสาวก็ไม่ยอมยังไล่ตามมาอยู่ ฟันเข้าใส่กายด้วยศิลปะการต่อสู้ ฟาดฟันขั้น 2
กายเบี่ยงตัวหลบอย่างฉิวเฉียด ก่อนจะเข้าทางด้านหลังของเงากุหลาบเบียทริซและใช้แขนข้างหนึ่งล็อกคอของเธอไว้
“เสร็จข้าละ” กายคิดจะกระชากเงากุหลาบเบียทริซให้ล้ม แต่อยู่ ๆ เงาของกุหลาบเบียทริซก็ใช้ขาทั้งสองเกี่ยวเข้าที่ขาของกายล็อกไว้แน่น ก่อนจะพยายามใช้ดาบในมือเหวี่ยงฟันไปด้านหลัง
ขณะเดียวกันเงาของกุหลาบจูเลียตก็เข้ามาจากด้านหลังแทงใส่กาย
กายกัดฟันอาศัยพละกำลังที่มากกว่าหมุนตัวด้วยท่าทางแปลก ๆ เอาเงาของกุหลาบเบียทริซเข้าไปรับดาบของเงากุหลาบจูเลียตแทน
ฉึก!
ดาบเสียบลึกเข้าใส่เงาของกุหลาบเบียทริซทำให้เงาของเธอนั้นสลายหายไป เงากุหลาบจูเลียตเองก็ไม่ทันได้ตกใจ เพราะกายที่หลุดออกมาจากเงาที่ล็อกเขาไว้ในท่าแปลก ๆ ได้แล้ว เขาจึงโจมตีใส่เงาของกุหลาบจูเลียตทันที
“เอาไปกิน ศิลปะการต่อสู้ ทุบ ขั้น 3” ค้อนสั่นสะเทือนทุบเข้าไปที่ร่างของเงากุหลาบจูเลียตอย่างเต็มแรง ก่อนจะลอยกระเด็นกระแทกไปกับพื้น เขาไม่มีเวลามาสนใจเงาของกุหลาบจูเลียต
เนื่องจากตอนนี้เงาของสองสาวที่เหลือหันหลังและวิ่งตามกุหลาบสีดำขึ้นไปยอดเขาแล้ว
บ้าเอ๊ย! กายหันเตรียมจะเข้าไปหยุดเงาทั้งสอง แต่ตอนนั้นเงาของเขาก็เข้ามาขวาง ทั้งกายและเงาของเขาต่างยืนเผชิญหน้ากันหนึ่งใช้ค้อน หนึ่งให้ดาบ