ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 2 ลูกค้าคนแรก

ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 1 ร้านอันต่ำต้อย


กำลังโหลดไฟล์

ร้านไวน์เทพเซียน ตอนที่ 1 ร้านอันต่ำต้อย

ในโลกนูอาร์หลายเผ่าพันธุ์ได้ต่อสู้กันเพื่ออำนาจสูงสุด แต่หลังจากต่อสู้มานับพันปี มีเพียงเผ่าพันธุ์เดียวเท่านั้นที่สามารถปราบได้ทุกเผ่าพันธุ์ นั่นคือเผ่าพันธุ์ปีศาจ

เผ่าพันธุ์ปีศาจเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการที่มีธรรมชาติที่โหดร้ายและการกระทำที่ชั่วร้าย พวกเขาดูถูกเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ทั้งหมดโดยมองว่าเผ่าพันธุ์อื่นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยกว่าและควรจะทำตามคำสั่งของพวกเขา แต่เนื่องจากความแข็งแกร่งของพวกเขา จึงไม่มีใครที่จะกล้าต่อต้านกฎของพวกเขา

พวกปีศาจคิดว่าการปกครองของพวกเขาคงจะสามารถดำเนินต่อไปอีกหลายปี แต่พวกเขาไม่เคยตระหนักเลยว่าเพราะการกระทำที่เลวร้ายของพวกเขา ทำให้มากกว่าครึ่งหนึ่งของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ได้ร่วมมือกันเพื่อสร้างพันธมิตรเพื่อขัดขวางความเป็นผู้นำของพวกเขาก่อนที่มันจะแตกหน่อ

สงครามได้เกิดขึ้นอีกหลังจากการก่อกบฏของเผ่าพันธุ์พันธมิตร การต่อสู้ในช่วงเวลานั้นเกิดการนองเลือดมากยิ่งขึ้นและทำให้หลายเผ่าพันธุ์ต้องสูญสิ้นไป

ปีศาจได้ใช้ร่างกายที่แข็งแรงและกองกำลังจำนวนมากเพื่อเอาชนะพันธมิตร ทั้งสองฝ่ายสูญเสียนักรบผู้กล้าหาญไปนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีใครหยุดการต่อสู้นี้

หลังจากเริ่มสงครามมานานหลายสิบปี ทั้งสองฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์กันได้ให้คำมั่นสัญญากัน พวกเขาจะแบ่งโลกออกเป็นสองส่วน และทั้งสองจะอาศัยอยู่ในโลกที่แยกออกจากกันโดยสมบูรณ์

ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือพวกเขาไม่ได้แบ่งโลกออกเป็นสองอย่างแท้จริง แต่พวกเขาจะอาศัยอยู่ในสองทวีปที่แยกจากกัน คือทวีปลมปราณมังกร และทวีปปีศาจสีชาด ฝ่ายพันธมิตรจะอาศัยอยู่ในทวีปเดิมในขณะที่เผ่าพันธุ์ปีศาจจะอาศัยอยู่ในทวีปหลัง

โลกนูอาร์นั้นมีทั้งหมดสามทวีป ทวีปสามล้วนเต็มไปด้วยอสูรป่าดุร้ายนับไม่ถ้วนและมีแม้กระทั่งข่าวลือที่ว่ามีอสูรขอตเขตที่ 10 ระดับเทพได้อาศัยอยู่ภายในทวีปอีกด้วย ดังนั้น แม้แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจก็ยังระมัดระวังเกี่ยวกับทวีปดังกล่าวซึ่งทุกคนได้ตั้งชื่อว่าทวีปนั้นว่าทวีปอสูรศักดิ์สิทธิ์

กว่าห้าหมื่นปีหลังจากสงครามระหว่างพันธมิตรและเผ่าพันธุ์ปีศาจได้จบลง พันธมิตรที่มียังชีวิตอยู่นั้นได้อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืนกันภายในทวีปลมปราณมังกร มีการปะทะกันประปรายภายในหมู่พวกเขา แต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่ต้องเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วน

ณ ทวีปลมปราณมังกร เมืองเบลทราน เมืองหลวงของจักรวรรดิซิลเวอร์วิง

จักรวรรดิได้ก่อตั้งขึ้นโดยหนึ่งในวีรบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดของพันธมิตรหลังจากสงครามเมื่อห้าหมื่นปีที่แล้ว กริมการ์ ซิลเวอเรีย

จักรพรรดิองค์ปัจจุบัน เอลลิก ซิลเวอเรีย ที่ 2 ได้สืบทอดยีนที่โดดเด่นของบรรพบุรุษของเขา แม้ว่าเขาจะมีอายุมากก็ตาม แต่เขาก็อยู่ในขอบเขตที่ 8 ระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว ความแข็งแกร่งของเขาคือพลังที่ได้ยับยั้งสายตาอันละโมบของคนอื่นซึ่งทำให้จักรวรรดิใกล้เคียงต่างหวาดกลัว

และนอกเหนือจากจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งแล้ว จักรวรรดิยังเป็นที่รู้จักจากกองทัพซิลเวอร์วิงที่โหดเหี้ยม และเพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพนั้น อย่างน้อยก็ต้องมีขอบเขตที่ 3 ระดับครูเซเดอร์ ซึ่งหมายความว่าทุกคนในกองทัพนั้นล้วนแต่เป็นคนที่แข็งแกร่ง

ในถนนสายหนึ่งที่พลุกพล่านที่สุดของเมืองเบลทราน ซึ่งสามารถมองเห็นคนจำนวนมากกำลังเดินไปมาท่ามกลางถนนที่วุ่นวาย สามารถได้ยินเสียงฝูงชนพูดคุยกันภายในถนนที่พลุกพล่าน ร้านอาหารและโรงแรมขนาดเล็กหลายแห่งนั้นสามารถพบเห็นได้ทุกที่ กลิ่นหอมของอาหารเลิศรสที่ถูกปรุงโดยเชฟที่มีชื่อเสียงที่สุดในจักรวรรดิ

ในมุมหนึ่งของถนนที่มีคนเดินน้อยกว่ามาก ซึ่งสามารถมองเห็นร้านเล็ก ๆ ร้านหนึ่ง ที่มีเพียงป้ายเล็ก ๆ ที่ได้เขียนชื่อร้านติดไว้ว่า ‘ไวน์เทพเซียน’ ชื่อที่สะดุดตาของมันนั้นแตกต่างกับภายนอกร้านที่ดูต่ำต้อยอย่างสิ้นเชิง

คนเดินถนนที่อยากรู้อยากเห็นในบางครั้งจะเหลือบมองมาที่ร้านและยิ้มเยาะเมื่อเห็นชื่อที่เย่อหยิ่งของร้าน พวกเขาส่ายหัวและเดินผ่านร้านไปโดยไม่สนใจ

ชายหนุ่มรูปงามสูงที่มี่ผมสีเงินยาวและมัดผมหางม้าได้ก้าวออกมาจากร้าน ใบหน้าของเขาดูไร้อารมณ์ราวกับว่าเขาไม่ได้ถูกรบกวนจากสายตาที่ดูถูกของทุกคนเลยแม้แต่น้อย เขานั่งลงอย่างเกียจคร้านอยู่บนเก้าอี้ไม้ที่วางอยู่นอกร้านของเขา

ชื่อของชายหนุ่มคือ จิ่วเซิน และเขาเคยเป็นเซียนขั้นสูงสุดที่ได้ถูกจักรพรรดิแห่งสวรรค์ เหล่าโกว ทุบตีอย่างไร้ความปราณีในหอคอยผนึกเทพ เพราะภรรยาคนที่สองของเขาได้ตกหลุมรักเขา เขาได้ถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างลึกลับทันทีหลังจากที่เขาเสียชีวิต และเสียงจักรกลที่ไร้เยื่อไยก็ได้ดังก้องอยู่ภายในสมองของเขาเพื่อให้สิ่งที่เรียกว่า ‘ภารกิจ’ แก่เขา เสียงในหัวของเขายังคงบอกให้เขาหมักไวน์ทุกวันเพื่อฝึกฝนทักษะการทำไวน์ของเขา

แม้ว่าเขาจะถูกขังอยู่ในหอคอยผนึกเทพมาเป็นเวลาหลายปีจนนับไม่ถ้วนก็ตาม แต่เขาก็มีชีวิตอยู่มาหลายชั่วอายุคนและเขาก็พอรู้เรื่องไวน์อยู่สักสองสามเรื่อง เขายังเคยได้ลิ้มรสโกศมังกรว่างเปล่าสวรรค์ของจักรพรรดิสวรรค์เหล่าโกวอีกด้วย

เขาได้ฝึกฝนทักษะการหมักไวน์ของเขาหลังจากที่ระบบในหัวของเขาพูดวนเวียนไปมาอย่างไม่รู้จบ และเขาได้เรียนรู้ว่าเขามีความสามารถเรื่องนี้ไม่น้อย ในเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งวัน เขาสามารถหมักไวน์ที่สามารถเก็บแก่นแท้ที่แท้จริงไว้ได้ถึง 60% จากส่วนผสมที่เขาใช้

แม้ว่าจะเป็นเพียงมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณของแก่นแท้จริงที่บรรจุอยู่ภายในส่วนผสมก็ตาม แต่ก็ยังเป็นความก้าวหน้าที่น่าอัศจรรย์สำหรับผู้ที่ได้ผ่านการฝึกฝนมาเพียงวันเดียว แม้แต่ปรมาจารย์ไวน์ส่วนใหญ่ยังต้องฝึกฝนทักษะมาเป็นเวลาหลายทศวรรษกว่าจะบรรลุผลสำเร็จเช่นนี้ได้ในหนึ่งวัน

เขาอยู่ในเมืองเบลทรานมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว แต่ไม่มีลูกค้ารายใดเข้ามาในร้านของเขาเลยสักคน ไม่มีแม้แต่คนสักคนที่อยากจะเดินเข้ามาตรวจสอบสิ่งที่ขายอยู่ข้างใน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด

แมวสีขาวที่อ้วนท้วนได้ร้องเหมียวมาที่ชายหนุ่มด้วยท่าทางที่น่ารัก ก่อนที่มันจะกระโดดเข้ามาหาเขาแล้วขดตัวไปมาอยู่บนตักของเขาอย่างเกียจคร้าน เขาลูบหัวแมวเบา ๆ ขณะที่มองดูมันอย่างไม่ไร้อย่างอารมณ์ เจ้าแมวอ้วนหลับตาลงด้วยความยินดีขณะที่ปล่อยให้ชายหนุ่มได้ลูบหัว

มันได้ส่งเสียงร้องอย่างน่ารักออกมาราวกับกำลังขออะไรบางอย่าง ริมฝีปากของจิ่วเซินกระตุกขึ้นเพื่อแสร้างทำรอยยิ้มจาง ๆ แต่ดวงตาที่ไร้อารมณ์ของเขานั้นไม่เคยเปลี่ยน

“ลูกหลานอสูรระดับเทพอย่างเจ้ารู้เพียงแต่การกินกับนอนเท่านั้นรึ”

เขาอุ้มแมวอ้วนเข้าไปในร้านและป้อนนมที่ระบบผลิตขึ้นทุกวันเพื่อมอบให้กับแมวตัวนั้น

จิ่วเซินมองดูแมวที่เขาได้สุ่มตั้งชื่อให้ว่า ‘ไอซ์’ อย่างเฉยเมย ขณะที่มันเลียนมที่ระบบให้มาอย่างตะกละตะกลาม

- ติ๊ง!

- ภารกิจแรก: ขายไวน์ขวดแรกของท่านภายใน 3 วัน หลังจากทำภารกิจสำเร็จจะได้รับรางวัล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด