430 - เปลี่ยนแปลงแผน
430 - เปลี่ยนแปลงแผน
ภูเขาลูกนี้ไม่สูงแต่ถูกห้อมล้อมด้วยจิตวิญญาณมังกร เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการบ่มเพาะอย่างแท้จริง ต้นสนโบราณเป็นสีเขียว หินสูงตระหง่าน และมีน้ำพุผุดขึ้นมาจากพื้น
ต้วนเต๋อทุ่มเทให้กับงานอย่างหนัก เขาแกะสลักอักขระเต๋าอย่างระมัดระวัง นักพรตเฒ่าที่ร่างกายแห้งผากคนนั้นนั่งอยู่ข้างๆ
ในขณะที่นักพรตน้อยอีกคนที่เดินออกมาสมทบหลังสุดมีลักษณะท่าทางคล้ายกับเย่ฟ่านในชุดนักพรตเป็นอย่างมาก
“นี่คือแผนการของพวกเขา เขาคิดจะให้เทพที่อยู่ในตำหนักเต๋าของเขาปลอมตัวเป็นข้าเพื่อหลอกเอาต้นกำเนิดแสนจินจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์” เย่ฟ่านรู้แจ้งขึ้นมาทันที
" เกือบจะเสร็จแล้ว จมูกโคตัวนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ " จักรพรรดิดำมีสีหน้าเหลือเชื่อเล็กน้อย
"ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ง่ายเลย ให้พวกเขาปลอมตัวเป็นเจ้าแล้วเราค่อยลงมือกับพวกเขาอีกต่อหนึ่ง” ตู้เฟยพึมพำ
เย่ฟ่านกลัวว่าจะถูกเจ้าอ้วนอ้วนผู้ไร้ยางอายเห็นเขาจึงส่งสัญญาณให้ทั้งสองออกไปอย่างเงียบๆ
พวกเขามาถึงหน้าผาอายุนับพันปีและปรึกษากันเพื่อเปลี่ยนแปลงแผนการเล็กน้อย
ต้นสนเก่าแก่หลายต้นกางกิ่งก้านปกคลุมหมู่เมฆทำให้ยากที่ใครจะมองเห็นพวกเขา
"เมื่อทุกอย่างพร้อม พวกเราจะชักนำผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาที่นี่" นี่คือคำแนะนำของตู้เฟย
เย่ฟ่านยิ้มที่มุมปากและกล่าวว่า " เราต้องพิจารณาทุกขั้นตอน ให้รอบคอบและไม่สามารถมีข้อผิดพลาดได้ "
ถ้าแผนนี้สำเร็จต้วนเต๋อจะต้องพบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ เขาทำงานอย่างหนักแต่เป็นเหมือนการ *ตัดเย็บชุดวิวาห์ให้กับคนอื่น
*(เปรียบเปรยเหมือนคนทำงานหนักแต่คนที่ได้รับประโยชน์คือคนอื่น)
จักรพรรดิดำเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นเมื่อพูดถึงต้นกำเนิด 100,000 จิน ในตอนนี้มันแทบจะจินตนาการถึงใบหน้าที่บิดเบี้ยวของต้วนเต๋อได้แล้ว
คนสองคนและสุนัขตัวหนึ่งหัวเราะอยู่บนหน้าผาอย่างสนุกสนาน
"จักรพรรดิดำเจ้าอยู่ที่นี่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของเจ้าอ้วนนั่น ข้ากับตู้เฟยจะออกไปพาผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาที่นี่"
เมื่อเย่ฟ่านและตู้เฟยกลับมาที่เมืองพวกเขาก็รู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย ผู้บ่มเพาะที่เมืองนี้มีมากเกินไป
ทั้งตระกูลจี้และดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงส่งยอดฝีมือรุ่นอาวุโสมาประจำการที่เมืองนี้มากมาย มันเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะหลอกลวงยอดฝีมืออาวุโสพวกนั้น
นอกจากนี้ยอดฝีมือที่เป็นเด็กรุ่นหลังก็ไม่ใช่ว่าจะอ่อนแอสักเท่าไหร่ หากพลั้งเผลอเพียงเล็กน้อยชีวิตของพวกเขาก็จะตกอยู่ในอันตรายทันที
เย่ฟ่านมีความรู้สึกว่าสถานการณ์ของที่นี่แปลกประหลาดมากเกินไป
ข่าวของเขาที่ “ถูกพบเห็น” ในเมืองนี้นั้นแม้ว่าจะผ่านการวางแผนมาอย่างดีแต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะชักนำยอดฝีมือรุ่นอาวุโสให้มาชุมนุมกันมากขนาดนี้
หากเป็นแผนเดิมเขาจะยกเลิกแผนอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ต้วนเต๋อเป็นคนรับอันตรายแทนเขาแทบจะทั้งหมด มันจึงทำให้เขากล้าที่จะดำเนินแผนต่อไป
"ต้วนเต๋อแกะสลักอักขระเต๋าได้เร็วมาก คิดว่าอย่างช้าที่สุดพรุ่งนี้แผนการของพวกเราจะต้องเริ่มขึ้น”
หลังจากนั้นพวกเขากลับมาสมทบกับจักรพรรดิดำอีกครั้งเพื่อพูดคุยรายละเอียดในการลงมือปฏิบัติ
ต้นกำเนิดหนึ่งแสนจินไม่ใช่เรื่องเล็ก หากปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ของมหาอำนาจเหล่านั้นเข้าร่วมในเหตุการณ์พรุ่งนี้ก็มีโอกาสสูงที่นกต่อของพวกเขาจะถูกเปิดเผยตัว
"อย่างไรก็ตามนักพรตที่ไร้ยางอายผู้นี้คาดเดาไม่ได้ พวกเราไม่อาจตั้งความหวังว่าแผนการจะต้องสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี" ตู้เฟยขมวดคิ้ว
ในอดีตต้วนเต๋อกล้าลงมือปล้นแม้กระทั่งสุสานของบรรพบุรุษจี้และโจรผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสิบสามคนโดยไม่กลัวอันตราย
มิหนำซ้ำเบื้องหลังของพวกเขาดูเหมือนจะมีตัวประหลาดเฒ่าที่มีอายุกว่าแสนปีอยู่ด้วย
" ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราไม่ควรเสนอหน้าออกไปในวันพรุ่งนี้ จะเป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยให้ต้วนเต๋อทำทุกอย่าง
หากเขาได้ต้นกำเนิดแสนจินมาจริงๆพวกเราค่อยลงมือก็ยังไม่สาย" เย่ฟ่านก็ไม่อยากให้สหายของเขาต้องเสี่ยงชีวิต
"เจ้าอ้วนผู้นี้จะรอดไปได้อย่างไรเรื่องนี้ข้ามองไม่เห็นหนทางเลย " ตู้เฟยเดินไปรอบๆด้วยจิตใจที่ไม่สงบ
"ประเด็นสำคัญคือเราไม่รู้หรอกว่าคนอ้วนคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน แม้ว่าเขาจะทำตัวไร้สาระอยู่ตลอดเวลา แต่ข้ารู้สึกว่าต่อให้เป็นประมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีปัญญาทำอะไรเขา"
เย่ฟ่านพยายามคาดเดาถึงความแข็งแกร่งของต้วนเต๋อแต่ก็ไม่เป็นผล
“การจัดการกับเจ้าอ้วนคนนั้นไม่ใช่ปัญหา เจ้าอ้วนคนนี้มีความแข็งแกร่งไม่น้อยจริงๆ แต่ว่าวิธีการฝึกฝนของเขามีปัญหาบางอย่างมันทำให้เขาไม่สามารถใช้ความแข็งแกร่งเท่าที่ควรได้”
จักรพรรดิดำกล่าวด้วยดวงตาเปล่งประกาย
"เจ้ารู้วิธีการที่จะจัดการกับเขา" ตู้เฟยประหลาดใจ
"ญาณวิเศษโบราณที่เขาฝึกฝนนั้นมีชื่อเรียกว่าเก้าความทุกข์ยาก ซึ่งสิ่งที่เขาหวาดกลัวที่สุดก็คือสายฟ้า เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะสร้างค่ายกลเพื่อเรียกสายฟ้าลงมา หากเจ้าอ้วนไม่ยอมมอบต้นกำเนิดให้พวกเราก็มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอเขาอยู่ "
เย่ฟ่านที่ได้ยินเช่นนั้นก็ไม่อิดออด เขามอบต้นกำเนิดออกมาอีกเล็กน้อยเพื่อให้จักรพรรดิดำสร้างอักขระเต๋าเรียกสายฟ้า
"เจ้าสาระเลวเฒ่าคนนี้สมควรตายจริงๆ"
ตู้เฟยสาปแช่งจักรพรรดิ์ดำจากด้านข้างด้วยความไม่พอใจ
ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ในที่สุดต้วนเต๋อก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เทพจากตำหนักเต๋าทั้งห้าก็กลับเข้าไปในร่างของเขาทันที อักขระเต๋าพวกนี้ทำให้เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก
"ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ลงมือคืนนี้" เย่ฟ่านตัดสิน
ต้วนเต๋อนั่งอยู่บนยอดเขาและเริ่มทำสมาธิเพื่อฟื้นคืนพลังของตัวเอง
จนถึงกลางดึกต้วนเต๋อก็ลุกขึ้นยืนและรีบไปที่ภูเขาที่ห่างไกล เขาระมัดระวังอย่างมากและสังเกตภูมิประเทศโดยรอบอีกครั้ง
"จักรพรรดิดำเป็นหน้าที่ของเจ้าแล้ว!" เย่ฟ่านกล่าว
หลังจากนั้นสุนัขสีดำตัวใหญ่ก็รีบวิ่งไปที่ค่ายกลอักขระเต๋าที่ต้วนเต๋อสร้างขึ้นโดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการดัดแปลงมันก่อนจะกลับมา
"สำเร็จหรือไม่? ตู้เฟยถาม
"นั่นคือค่ายกลที่ใช้ข้ามความว่างเปล่า แต่หลังจากผ่านการดัดแปลงแล้วรับรองว่าเจ้าอ้วนจะหนีไม่รอดอย่างแน่นอน" จักรพรรดิดำมีสีหน้าแช่มชื่น
ในตอนเที่ยงบรรยากาศของเมืองก็ค่อยๆครึกครื้นราวกับช่วงเวลาก่อนที่ภูเขาไฟจะระเบิด
ครั้นแล้วผู้บ่มเพาะจำนวนมากก็บินไปยังยอดเขาแห่งหนึ่งด้วยท่าทางร้อนรน เงาของผู้คนที่บินอยู่บนท้องฟ้านั้นมีนับหมื่นคนเลยทีเดียว
"เริ่มแล้ว!" ดวงตาของเย่ฟ่านเป็นประกาย
“พวกยอดฝีมือรุ่นอาวุโสมีมากขนาดนี้เลยเหรอ” ตู้เฟยรู้สึกประหลาดใจ
ในเวลานี้นักพรตหญิงจากดินแดนศักสิทธิ์เต๋า เซี่ยงอี้เฟย จี้ปี้เยว่ และทายาทของดินแดนศักดิ์สิทธิ์คฤหาสน์ม่วงก็ปรากฏตัวในหมู่ของผู้คนมากมายด้วย
"ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยของตระกูลจี้ก็อยู่ที่นี่ เซี่ยจี้หยูก็ปรากฏตัวด้วย เด็กคนนี้ช่างหยิ่งผยองเหลือเกิน หลังจากวันนี้เขาจะได้รู้ว่าความทุกข์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร?" ตู้เฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
บนท้องฟ้าเซี่ยจี้หยูแต่งกายด้วชุดยาวสีขาวดูบริสุทธิ์สูงส่งอย่างยิ่ง ที่ด้านหลังของเขาชายชราชุดเทาสองคนยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด
"พวกเราควรไปจับตาดูเจ้าอ้วนนั้นไว้ดีกว่า เมื่อเขาเปิดเผยตัวแล้วเขาจะต้องหนีไปที่ค่ายกลอย่างแน่นอน ข้าอยากเห็นใบหน้าตอนนั้นของเขาจริงๆ"
ตู้เฟยตั้งตารอคอยฉากนี้เป็นอย่างมาก และอยากเห็นสีหน้าของ ต้วนเต๋อในเวลานั้น
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดยอดฝีมือทั่วทั้งดินแดนรกร้างตะวันออกก็กระจายไปทั่วยอดเขา
"มีคนกำลังฝึกฝนอยู่บนภูเขา"
"บางทีอาจเป็นข่าวจริงก็ได้"
ชายชราผู้ร่าเริงทั้งสองพยักหน้าได้รอยยิ้ม แม้ว่าพวกเขาจะแก่ชราราวกับคนอายุ 80-90 แต่ใบหน้าของพวกเขายังคงแดงก่ำมีสุขภาพดี
ในระยะไกล เย่ฟ่านตกใจเป็นอย่างมาก นี่คือผู้เฒ่าสองคนที่เคยพบกับเขาในโรงพนันของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก
ชายชราสองคนนี้เป็นใครกันแน่ เหตุไฉนทุกเหตุการณ์สำคัญพวกเขาจึงมักปรากฏตัวขึ้น
“ว่ากันว่ายอดฝีมือรุ่นอาวุโสจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างเข้ามาที่นี่แล้ว หรือว่าชายชราทั้งสองเป็นยอดฝีมือรุ่นอาวุโสจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วย?” ตู้เฟยสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ
“เป็นเขาจริงๆ!” ทันใดนั้นก็มีผู้คนอุทานออกมา
"ใช่แล้ว มันคือชายหนุ่มแซ่เย่คนนั้นจริงๆ ข้าเคยเห็นเขามาก่อน”