429 - คนคุ้นเคย
429 - คนคุ้นเคย
หลังจากหนึ่งชั่วยาม ทุกคนที่อยู่ชั้นบนหายไป มีเพียงเย่ฟ่านเท่านั้นที่ไม่เคลื่อนไหวและตู้เฟยที่มีสีหน้าร้อนรนก็กล่าวขึ้นว่า
"ไปดูกันว่าเจ้าจมูกโคเฒ่ามีแผนการอะไร”
“ไล่ตามไปก็ไม่มีประโยชน์ ในเมื่อเขากล้ามาย่อมต้องมีแผนฉุกเฉิน”
เย่ฟ่านส่ายหัวพร้อมกับใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาดูดเกินกลิ่นอายที่นักพรตเฒ่าเคยนั่ง
“เจ้าทำอะไรกับเก้าอี้” ตู้เฟยงงงวย
“เราตามเขาไม่ทันแต่สุนัขตัวนั้นทำได้อย่างแน่นอน” เย่ฟ่านยิ้ม
ตู้เฟยหัวเราะและกล่าวว่า "จริงอย่างที่เจ้าว่า จมูกของสุนัขตัวนั้นดีที่สุดแล้ว”
พวกเขาใช้เวลาในการหาข่าวอยู่ในเมืองอีกเล็กน้อย ตระกูลจี้มีผู้อาวุโสสูงสุดสามคน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก็ส่งผู้อาวุโสอีกหลายคนมาประจำการที่นี่
“ นี่คือสิ่งที่ข้าได้ยินมา มหาอำนาจหลักอื่นๆและผู้ฝึกตนพเนจรไม่รู้ว่ามีคนมาที่นี่กี่คนแล้ว นักพรตหญิงแห่งดินแดนศักสิทธิ์เต๋ารวมทั้งเซี่ยงอี้เฟยก็อยู่ที่นี่เช่นกัน
นอกจากนี้ผู้สืบทอดของคฤหาสน์ม่วงที่ยังไม่ได้แสดงตัวออกมา ข้าไม่รู้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้จะอยู่ที่นี่ด้วยหรือไม่ ปราณปฐพีต้นกำเนิดของเจ้าดึงดูดใจผู้คนมากเกินไปจริงๆ” ตู้เฟยกล่าว
เย่ฟ่านขมวดคิ้ว เขาต้องการใช้ประโยชน์จากการปรากฏขึ้นของญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้าเพื่อทำให้ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสไม่สนใจความเคลื่อนไหวของเขา แต่สุดท้ายความคาดหวังของเขาดูเหมือนจะล้มเหลว”
"เราจะตามจมูกโคตัวนั้นไปก่อนหรือไม่" ตู้เฟยถาม
เย่ฟ่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "เราทำต่อไปไม่ได้แล้ว ข้าสงสัยว่าอาจจะมียอดฝีมือระดับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์เข้าร่วมด้วย ความเสี่ยงนั้นใหญ่เกินจะรับไหว"
“เจ้าไม่ต้องการดูว่าเจ้าสาระเลวเฒ่าตัวนั้นจะวางแผนอะไรหรือ” ตู้เฟยอารมณ์เสียมาก
เย่ฟ่านหัวเราะและพูดว่า
“แน่นอน ไม่ว่าเขาจะทำอะไรสุดท้ายเป้าหมายของเขาก็ต้องอยู่ที่ต้นกำเนิดแสนจินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เราจะให้สุนัขตัวนั้นจับตามองเขาไว้แล้วพวกเราค่อยลงมือในช่วงเวลาสุดท้าย
ตู้เฟยได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะและพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้เขาทำงานหนักไป สุดท้ายต้นกำเนิดก็จะเป็นของพวกเรา”
เย่ฟ่านพยักหน้าและพูดว่า "ตอนนี้ข้าสามารถพึ่งพาจมูกของสุนัขได้เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันพวกเราก็ต้องจับตัวเจ้าหนูเซี่ยจี้หยูมาด้วย”
สองชั่วยามต่อมาเย่ฟ่านและตู้เฟยกลับไปที่สถานที่ที่พวกเขาเลือกไว้ นี่คือภูเขาที่ดูแห้งแล้งเหี่ยวเฉา พืชพรรณและใบไม้ที่ร่วงหล่นทั่วพื้นดิน
สุนัขสีดำตัวใหญ่นอนแผ่บนพื้นและหอบหายใจ ตอนนี้เพียงพวกเขามองไปที่อักขระบนก้อนหินที่อยู่รอบๆพื้นพวกเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังของเต๋าอันยิ่งใหญ่แล้ว
"เจ้าเก่งขนาดนี้เลยหรือ?” ตู้เฟยอุทานอย่างตกใจ
สุนัขตัวใหญ่สีดำยังคงมุ่งมั่นกับงานตัวเองโดยไม่สนใจคำพูดขยะของตู้เฟย
“เจ้าสลักอักขระเต๋าชนิดใด?” เย่ฟ่านถามอย่างแปลกใจเล็กน้อย
สุนัขสีดำตัวใหญ่พูดอย่างภาคภูมิใจ "จักรพรรดิคนนี้สลักชุดอักขระเต๋าข้ามความว่างเปล่าที่จะไม่มีผู้ใดไล่ตามพิกัดพลังของพวกเราไปได้”
"สามารถข้ามไปได้กี่ลี้" เย่ฟ่านถาม
"เมื่อสักครู่นี้ข้าได้ทดสอบไปแล้ว มันข้ามไปได้ราว 60,000 ลี้" สุนัขสีดำตัวใหญ่ด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
"เจ้าสามารถสร้างประตูมิติที่ข้ามความว่างเปล่าไปได้ถึง 60,000 ลี้จริงๆ?” ตู้เฟยอ้าปากค้าง
แม้ว่าตู้เฟยจะตกใจกับเรื่องนี้มาก แต่ใบหน้าของเย่ฟ่านกลับดำมืดและเขาถามเอาไปด้วยความโกรธ
“เจ้าใช้ต้นกำเนิดไปหมื่นจินกลับสามารถทำให้พวกเราเคลื่อนที่ห่างออกไปได้เพียง 60000 ลี้?”
“นี่เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก หากต้องเดินทางไกลกว่านี้จะต้องใช้ต้นกำเนิดอีกหลายหมื่นจิน” สุนัขสีดำตัวใหญ่ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เย่ฟ่านและตู้เฟยต่างก็ต้องการที่จะตีมันสักครั้ง สุนัขบ้าตัวนี้ใช้ทรัพยากรไปจำนวนมาก เกรงว่าทรัพยากรส่วนใหญ่คงตกลงไปในท้องของมันแล้ว
“เจ้าหมาบ้านี่มันไว้ใจไม่ได้จริงๆ!” ตู้เฟยสาปแช่ง
"ว้าว!" สุนัขตัวใหญ่สีดำคำรามด้วยความโกรธ
"หยุด!" เย่ฟ่านหยุดมันและพูดว่า “ค่ายกลของเจ้าสามารถป้องกันไม่ให้คนอื่นแอบใช้ได้หรือไม่”
“ไม่ต้องกังวล แม้ว่าผู้สูงสุดที่ไล่ตามพวกเรามาจะต้องการใช้ค่ายกลนี้ เขาก็จะได้รับความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เรื่องนี้เจ้าคอยดูเถอะ”
สุนัขสีดำตัวใหญ่กัดฟันพูดด้วยความมั่นใจ จากนั้นมันก็เอียงศีรษะและกล่าวว่า
“กับเจ้า จักรพรรดิคนนี้เสียเลือดเสียเนื้อหลายครั้งโดยไม่ได้รับอะไรเลย ครั้งนี้ผลประโยชน์ทั้งหมดพวกเราจะต้องหารกันคนละครึ่งไม่เช่นนั้นอย่าหวังจะได้รับความช่วยเหลือของข้าในครั้งต่อไป”
"ตอนนี้เจ้าต้องช่วยข้าจับใครซักคน" เย่ฟ่านเปลี่ยนเรื่องทันที
“เจ้าหมายถึงอะไร”
"ใช้จมูกสุนัขของเจ้าเพื่อหาใครสักคน" ตู้เฟยกล่าว
"ว้าว!" สุนัขตัวใหญ่สีดำกระโจนเข้าใส่ และเกิดสงครามเล็กๆขึ้นที่นี่
“ข้าพูดความจริง” ตู้เฟยกรีดร้อง
“หยุด ข้าต้องการให้เจ้าหาใครสักคนจริงๆ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของพวกเรา” เย่ฟ่านรีบเรียกให้หยุด
“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร” สุนัขสีดำตัวใหญ่เริ่มไม่พอใจมากขึ้น
“เจ้าปล่อยให้จักรพรรดิคนนี้ทำงานหนักมาหลายวัน สุดท้ายเจ้าจะบอกว่าสิ่งที่พวกเราทำตอนนี้เปล่าประโยชน์หรือ?”
“อักขระเต๋าเหล่านี้มีประโยชน์แน่นอน พวกมันจะเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตของพวกเราในขั้นตอนสุดท้าย”
หลังจากนั้นเย่ฟ่านก็อธิบายเรื่องราวทุกอย่างและสีหน้าของจักรพรรดิดำก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“มันเป็นจมูกโคอีกตัวหนึ่ง”
“พฤติกรรมดำกินดำ(โจรปล้นโจร)คือสิ่งที่จักรพรรดิผู้นี้ชื่นชอบมากที่สุด ฮิฮิ...”
สุนัขสีดําตัวใหญ่หัวเราะอย่างสนุกสนาน หลังจากนั้นเย่ฟ่านก็ปลดปล่อยกลิ่นอายที่เขาใช้แขนเสื้อโดดมาจากเก้าอี้ที่นักพรตชรานั่ง
"พลังศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์มากเกินไป พวกเจ้ากำลังตอแยยอดฝีมือคนใดกันแน่?”
จักรพรรดิดำมีสีหน้าไม่ดีแต่มันก็ไม่คิดจะเลิกล้มความตั้งใจ
ในเวลาไม่นานพวกเขาก็กลับมาที่ร้านอาหารอีกครั้งพร้อมทั้งเริ่มค้นหากลิ่นอายจากร้านอาหารนี้เป็นต้นไป
การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น พวกเขามาถึงภูเขาลึกจนเห็นหน้าผาขนาดใหญ่ จักรพรรดิดำหยุดความเคลื่อนไหว สีหน้าของมันบิดเบี้ยวอย่างยิ่งก่อนที่จะกล่าวว่า
"หายไปแล้ว!"
“เขาซ่อนอยู่ที่นี่หรือไม่?” ตู้เฟยถาม
“ไม่ คนนี้ดูเหมือนจะบาดเจ็บที่นี่” สุนัขสีดำตัวใหญ่สงสัย
"เจ้ากำลังพูดไร้สาระอะไร”
ทันใดนั้นการแสดงออกของสุนัขสีดำตัวใหญ่ก็เปลี่ยนไป มันอุทานออกมาด้วยความตกใจว่า
"ร้ายกาจนัก เจ้าจมูกโคที่พวกเจ้าเห็นนั้นไม่ใช่คนจริงๆ!”
"มันเป็นปีศาจคือวิญญาณอสูร" เย่ฟ่านถามด้วยสีหน้าตกใจ
"ไม่ใช่ทั้งสอง เขาคือเทพที่อยู่ในตำหนักเต๋าของยอดฝีมือบางคน นี่ไม่ใช่ยอดฝีมือระดับธรรมดาแต่เป็นสิ่งมีชีวิตโบราณที่มีอายุยืนยาวอย่างยิ่ง” สุนัขสีดำตัวใหญ่ตัดสินเช่นนั้น
“น่าทึ่งมาก?” เย่ฟ่านและตู้เฟยประหลาดใจทั้งคู่
“เข้าไปดูข้างในหรือไม่ ข้าอยากรู้จริงๆว่าเขาเป็นใครกันแน่” เย่ฟ่านพูดอย่างเคร่งขรึม
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในหุบเขาอย่างรวดเร็ว จักรพรรดิดำมีจมูกที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่งดังนั้นเป้าหมายจึงไม่สามารถหลบหนีจากการค้นหาของพวกเขาได้
หลังจากติดตามไปมากกว่า 3,000 ลี้ พวกเขาก็ค่อยๆเข้าใกล้เป้าหมายและลึกเข้าไปในภูเขาแห่งหนึ่ง
“แย่แล้ว จักรพรรดิคนนี้ได้กลิ่นอายที่คุ้นเคย”
“กลิ่นอายที่คุ้นเคย?”
“บุคคลนั้นอยู่ที่นี่จริงๆ!”
“คนรู้จักเหรอ!” เย่ฟ่านและตู้เฟยต่างก็ประหลาดใจ
“อย่าเข้าใกล้มากเกินไป คนผู้นี้รับมือได้ยากมาก เราทำได้แค่มองไกลๆเท่านั้น” สุนัขสีดำตัวใหญ่พูดอย่างเคร่งขรึม
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสามก็เลือกสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อซ่อนตัวพร้อมกับมองไปทางเข้าของหุบเขา
“เขามาแล้ว!” ตู้เฟยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ที่แท้ก็คือเจ้าอ้วนนั่นเอง!” จักรพรรดิดำกัดฟันด้วยความโกรธ
“ไอ้อ้วนเวรนี่!” เย่ฟ่านไม่เคยคิดว่าคนที่เดินออกมาจากหุบเขาคนแรกจะเป็นต้วนเต๋อ!
“ไอ้อ้วนนั่นไม่ได้หนีไปภาคกลางแล้วหรือ?” ตู้เฟยก็ประหลาดใจเช่นกัน
"เขากำลังเขียนอะไรอยู่ กำลังวางอักขระเต๋าอยู่หรือเปล่า?” เย่ฟ่านงุนงง
“ใช่ ดูเหมือนว่าจะสลักอักขระเต๋าและเป็นอักขระเต๋าที่แปลกมาก แต่เขาไม่มีความชำนาญพอเขาจึงทำได้อย่างช้าๆเท่านั้น” จักรพรรดิดำกล่าว
“ครั้งนี้ข้าจะให้เจ้าอ้วนคนนี้ได้รับความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด!” เย่ฟ่านกล่าวด้วยความแค้น
"มีคนมาแล้ว!"
จักรพรรดิดำอุทาน มีผู้บ่มเพาะห้าคนเดินออกมาจากหุบเขาและช่วยต้วนเต๋อแกะสลักอักขระเต๋า
ดวงตาของจักรพรรดิดำเปล่งประกายสดใสและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงมีกลิ่นอายของสหายเก่าอยู่ที่นี่ แท้ที่จริงแล้วเขาคือคนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าอ้วนคนนี้นี่เอง”