ตอนที่ 321+322 เรื่องยุ่งยากครั้งใหญ่
“พวกวายร้าย! คนโง่! พวกหน้าโง่! กูคิดว่าพวกมึงจะรถชนตายห่าไปกันให้หมด!” เกอเวินเวินไม่พอใจที่เธอไม่ได้ทำร้ายเจียงเหยาในการขว้างหินครั้งแรกของเธอ เธอยังคงสาปแช่งในขณะที่มองหาก้อนหินอื่น ๆ อีก
“เกอเวินเวิน ทำอะไรน่ะ”
ผู้พันหลินปรากฎตัวขึ้นด้านหลังเกอเวินเวินและตะโกนใส่เธอ เธอหันหลังและเริ่มวิ่งหนีเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เธอวิ่งผ่านเจียงเหยาและผลักเธออย่างแรง
“เด็กคนนี้นี่ เป็นอะไรของเขา” ลู่ชิงจะตบหน้าเธอสักสองสามครั้ง ถ้าเธอเป็นลูกสาวของเขา บ้าบอมากที่ได้เห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ทำตัวร้ายกาจเช่นนี้
“เรื่องนี้ก็ต้องขอบคุณแม่ของเธอล่ะ!” พันเอกหลินโกรธจัดกล่าวต่อ “จำเมื่อสองสามวันก่อนที่เธอมาและขอความช่วยเหลือจากคุณให้ช่วยดูแลเกอเวินเวินได้ไหม? หลังจากนั้น เธอเที่ยวไปบอกคนอื่น ๆ ว่าพวกคุณปฏิเสธเธอเพราะเธอมาจากบ้านนอก แล้วยังบอกอีกว่าคุณดูถูกเธอ”
“เธอก็รู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าพวกเรากำลังจะไปงานแต่งที่เมืองจินโด ยังพาเกอเวินเวินมาหาเราแต่เช้าอีก ยังขอให้พวกเขาพาเด็กไปเมืองจินโดด้วย” ลู่ชิงสีเย้ยหยันอย่างเย็นชา “ใครสนล่ะ เธอไม่ใช่ภรรยาของผมนี่”
“มีคนมาจากตระกูลหยางมาหาเธอ สักพักก็เริ่มโต้เถียงกัน ฉันไม่แน่ใจว่าจะทำยังไง เลยไปเอาเรื่องนี้ไปบอกจ่าเกอ จ่าเกอคงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาขอออกจากโรงพยาบาลอย่างเงียบ ๆ หลังจากกลับมาถึงบ้าน ทั้งคู่ก็เริ่มทะเลาะกันต่อหน้าลูกสาว เขาขอหย่าและให้ภรรยาของเขาจากไปเสีย ก็คงจะโกรธ เธอเลยจากไป ตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่เสียที่ไหน”
ในสายตาของผู้พันหลินนี่เป็นสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงอย่างยิ่ง “จ่าเกอต้องเป็นทั้งพ่อและแม่ของเกอเวินเวิน ดูแลเธอหลังจากที่ตัวเองเพิ่งจะหายดี เกอเวินเวินก็ถูกแม่ของเธอเลี้ยงมาซะเสียนิสัย จ่าเกอจะทำยังไงก็จัดการไม่ได้ เถียงพ่อของเธอกลับทุกคำ ตอนที่พวกเขาทะเลาะกัน เด็กนี่ก็วิ่งออกมาด้วยความโกรธและพยายามทำร้ายพวกคุณนี่ล่ะ”
พันเอกหลินไม่ได้พูดถึงว่าเด็กหญิงอายุ 6 ขวบอย่างเกอเวินเวินพูดจาหยาบคายได้อย่างไร เธอเรียนรู้จากใครมาง่าย ๆ ราวกับแสงแดด
“เขาเป็นยังบ้างครับ? ผมว่าทางโรงพยาบาลน่าจะอยากให้เขาอยู่รักษาต่ออีกสักหน่อย?” ลู่ชิงสีไม่สามารถหยุดกังวลเกี่ยวกับจ่าเกอได้เลย
“เขาอาการดีขึ้นอย่างช้า ๆ” พันเอกหลินส่ายหน้า “ตอนเห็นเขา ฉันก็กังวลเหมือนกัน ตอนนี้ไม่มีใครคอยดูแลเขา ยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องทำงานบ้านและดูแลลูกสาวอีก”
ยิ่งพันเอกหลินคิดเรื่องนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเชื่อว่านางเกอคงมีปัญหาทางจิต สามีของเธออยู่โรงพยาบาลพักฟื่นจากอาการบาดเจ็บสาหัส แต่เธอมาที่นี่เพื่อสร้างเรื่องและรบกวนผู้อื่น เธอไม่หยุดแม้หลังจากที่จ่าเกอกลับมา แทนที่จะขอโทษและรับผิดชอบในการดูแลสามีของเธอ เธอกลับหนีไปอย่างกะทันหัน ทิ้งครอบครัวไว้อย่างนั้น
การทะเลาะวิวาทของคู่รัก ไม่ได้ทำให้พันเอกหลินมีปัญหาอะไร แต่จ่าเกอไม่ได้อยู่สภาพร่างกายที่สมบูรณ์ ทำไมเธอถึงไม่ละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างและดูแลสามีของเธอในตอนนี้เล่า? ถ้าเธอต้องการจากไปจริง ๆ เธอสามารถทำได้หลังจากแน่ใจว่าเขาได้รับการดูแลอย่างดีแล้ว
ไม่อยากรั้งสองสามีภรรยานี้นาน พันเอกหลินจึงจากไป หลังจากพูดจบ
เมื่อถึงบ้านของพวกเขา เจียงเหยาก็หันกลับไปมองประตูตรงข้ามพวกเขา มันถูกปิดอย่างแน่นหนาและล็อคไว้ ไม่มีใครเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในนั้น
__
“คุณเก็บของก่อนเถอะ? ผมจะไปเอาของกินที่โรงอาหารให้พวกเราและเอามาเผื่อจ่าเกอ ผมจะไปทานข้าวกับเขานะ คืนนี้คุณทานข้าวคนเดียวได้ไหม?” ลู่ชิงสีรู้ว่าจ่าเกอผ่านอะไรมามากมายและต้องการใครสักคนอยู่เคียงข้างเขา
การได้มีส่วนร่วมกับคนอย่างนางเกอ เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ลู่ชิงสีคิดว่าเขาคงอยากจะเป็นโสดไปตลอดชีวิต
“ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะคะ” เจียงเหยาผลักลู่ชิงสีและพูดต่อ “กลับมาที่กองทัพ คุณก็ไม่ได้เป็นของฉันอีกต่อไปแล้ว”
หลังจากที่พูดความคิดของเธอออกไปให้ลู่ชิงสีฟัง เธอพึมพำภายใต้ลมหายใจของเธอว่า “ให้เวลาสักพักก่อน ทำไมเขาถึงได้วอแวนักนะ”
“คุณกำลังพูดอะไรอยู่ หึ?” ลู่ชิงสีได้ยินไม่ชัด
“ฉันบอกว่าคุณเป็นของฉันก็ต่อเมื่อพวกเขาอยู่บนเตียงเท่านั้น เข้าใจไหม ชิ้ว ไปซื้อข้าวมาให้ฉันเถอะ ฉันหิวแล้ว” เจียงเหยามองไปที่ลูชิงสี
ลู่ชิงสีพอใจ “ใช่ หนึ่งวันมียี่สิบสี่ชั่วดมง ปกติคนเราอยู่บนเตียงแปดชั่วโมง นั่นหมายความว่าผมให้เวลาคุณหนึ่งในสามของชีวิตผมเลยนะ”
“ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ! แล้วอีกสองในสามที่เหลือเล่า? คุณจองไว้ให้ภรรยาน้อยของคุณเหรอ?” เจียงเหยาพ่นลมออกมา
ลู่ชิงสีแสร้างทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของเจียงเหยา แต่เขาตอบว่า “เจียงเหยา คุณเป็นผู้หญิงคนเดียวในชีวิตของผม! กลับมาบ้าน ผมจะปล่อยให้ภรรยาของผมอดอยากได้ยังไงเล่า ใช่ไหมล่ะ”
เขาถูหน้าผากของเขาไปกับศีรษะของเจียงเหยา หลังจากแน่ใจว่าเธอไม่ได้โกรธ เขาก็จากไป
บางครั้งการเสแสร้งและเอาอกเอาใจภรรยาก็ไม่ใช่เรื่องยาก
หลังจากได้อาหารจากโรงอาหารแล้ว ลู่ชิงสีก็กลับมาส่งให้กับเจียงเหยา จากนั้นก็หันเคาะประตูฝั่งตรงข้าม
เขากินข้าวที่โรงอาหารก่อนกลับมาแล้ว แต่เขาก็เอามาให้จ่าเกอสองส่วน แม้ว่าเกอเวินเวินจะไม่ได้อยู่ในบ้าน แต่เธอก็ยังเป็นลูกสาวของจ่าเกอ
เจียงเหยาไม่รู้ว่าลู่ชิงสีและจ่าเกอพูดคุยอะไรกัน หลังจากที่เธอทานข้าวเสร็จ ทำความสะอาดบ้านและอาบน้ำเสร็จแล้ว ลู่ชิงสีก็กลับมาที่บ้านพร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์
“คุณดื่มมาเหรอคะ?” เจียงเหยาถาม
“จ่าเกอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจน่ะ ผมเลยดื่มเป็นเพื่อนเขาสักหน่อย” ลู่ชิงสีอธิบาย เขาต้องการบอกว่า เกอเวินเวินเพิ่งกลับเข้าบ้าน แต่เขารู้ว่าเจียงเหยาคงไม่ต้องการรู้เรื่องเกี่ยวกับเด็กคนนั้น เขาจึงเงียบไป
เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่ชิงสีออกไปรับซื้ออาหารเช้ามาให้เจียงเหยา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับการพัฒนาตารางฝึก ทำให้ช่วงสองสามวันนี้เขายุ่งมากทีเดียว
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ คุณนายหลินก็แวะมาหาเจียงเหยา เพื่อพาเธอไปซื้อของ
ลู่ชิงสีเป็นคนไปขอให้คุณนายหลินช่วยไปซื้อของเป็นเพื่อนกับกับเจียงเหยาในเมืองจิน เพราะเจียงเหยายังไม่คุ้นชินกับสถานที่ หลังจากที่รู้ว่าเธอต้องการจะเข้าไปซื้อของบางอย่างในตัวเมือง เขาก็ไปคุยกับพันเอกหลิน เพื่อขอให้คุณนายหลินออกไปเป็นเพื่อนกับเธอ