431- ภารกิจประสบปัญหา
431 - ภารกิจประสบปัญหา
ในขณะที่ทุกคนกำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือดก็มีเรือรบลำใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าของเมือง
ผู้คนที่อยู่บนเรือรบดูเหมือนจะสังเกตเห็นความผิดปกติของเหลาสุราและนักพรตหญิงที่งดงามคนหนึ่งก็บินออกมาจากเรือด้วยท่าทางสง่างาม
นางมีรูปร่างเพรียวบางและท่าทางอ่อนโยนซึ่งทำให้ผู้คนที่อยู่ที่นี่รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจเล็กน้อย นางปรากฏตัวบนเหลาสุราเงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไร
“ผู้สืบทอดดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋า!” มีคนอุทาน
หัวใจของเย่ฟ่านก็เต้นแรงขึ้นเช่นกัน เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพลังของนักพรตหญิงคนนี้
เมื่อนางบุกเข้าไปในสุสานโบราณ เพียงการลงมือไม่กี่ครั้งทหารหยินนับพันก็ถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย
“น้องเล็กเจ้าก็มาด้วยหรือ” จี้ปี้เยว่เดินเข้าหานักพรตหญิงด้วยรอยยิ้ม
เย่ฟ่านและตู้เฟยมองหน้ากัน ปัญหาของพวกเขาเกิดขึ้นแล้ว!
เป็นเรื่องจริงที่พวกเขาต้องการที่จะสร้างปัญหาบางอย่างเพื่อให้ผู้คนเป็นจำนวนมากเป็นพยานในการดำรงอยู่ของเย่ฟ่าน
แต่ผู้คนที่มาที่นี่ในวันนี้ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น หากเย่ฟ่านปรากฏตัวขึ้นก็มีโอกาสไม่น้อยที่เขาจะไม่สามารถหลบหนีได้
"พวกเจ้าปรากฏตัวที่นี่ก็ไม่มีความหมายอะไร ความต้องการของข้าคือที่สุด ต่อให้พวกเจ้าร่วมมือกันก็ไม่มีทางที่จะแย่งชิงสิ่งที่ข้าต้องการได้" เซี่ยจี้หยูมองทุกคนและแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ
“เด็กน้อยเจ้าไม่กลัวว่าจะถูกร่างเซียนโบราณฆ่าตายเหรอ?”
ตู้เฟยมองดูเด็กชายชุดขาวด้วยรอยยิ้ม ในฐานะทายาทของโจรผู้ยิ่งใหญ่มันไม่มีเรื่องอะไรในโลกที่ทำให้เขาหวาดกลัวได้
“ร่างเซียนโบราณที่เจ้าว่าไม่มีอะไรเลย การที่เขาจะตกเป็นทาสของข้าก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ถ้าเขากล้าที่จะดูหมิ่นข้า ข้าจะตบเขาให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
โดยเฉพาะพวกเจ้าสองคน ตอนนี้ถึงเวลาที่คนต่ำต้อยเช่นพวกเจ้าจะไสหัวไปได้แล้ว!” เซี่ยจี้หยูพูดกับเย่ฟ่านและตู้เฟยซึ่งอยู่ใกล้เขามากที่สุด
"เพียงเพราะเจ้าต้องการให้เราสองคนออกไปเราก็ต้องทำตามหรือ!" ตู้เฟยเหลือกตาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าโยนเจ้าออกไปข้าก่อนจะน้อมสนองให้”
เซี่ยจี้หยูกล่าวอย่างเย็นชาพร้อมกับปลดปล่อยเจตนาฆ่าออกมาเล็กน้อย
“ยอดฝีมือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเจ้ากล้าต่อสู้กับข้าอีกสักครั้งหรือไม่?” เด็กชายชุดขาวหันไปพูดกับหลี่รุ่ย
ทุกคนพูดไม่ออกอย่างสมบูรณ์ เซี่ยจี้หยูคนนี้น่าทึ่งจริงๆ เขาไม่กลัวที่จะทำให้คนอื่นขุ่นเคืองใจเลย?
"หลังจากที่เจ้าเลิกดูดนมมารดาแล้วค่อยมาทำตัวหยิ่งยโสที่นี่ก็ยังไม่สาย!" ตู้เฟยรำพึงเบาๆ
ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างก็หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน พวกเขามีความไม่พอใจต่อเด็กหนุ่มชุดขาวอยู่แล้ว และเสียงหัวเราะของพวกเขาจึงมีเจตนาเยาะเย้ยแฝงอยู่ด้วย
ใบหน้าของเซี่ยจี้หยูแข็งทื่อ ตั้งแต่เขาเกิดมาไม่เคยมีใครกล้าพูดจาหยาบคายกับเขาแบบนี้มาก่อน คำพูดของตู้เฟยทำให้เขารู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
“มาดูกันว่าเจ้ามีดีแค่ไหน! เด็กชุดขาวคำรามออกมาด้วยความโกรธ
“ข้าไม่อยากกลั่นแกล้งเด็กน้อยแบบเจ้า” ตู้เฟยกล่าวอย่างโจ่งแจ้ง เขากลัวการมีเรื่องจริงๆ
“งั้นข้าจะกลั่นแกล้งเจ้าเอง!” เซี่ยจี้หยูลุกขึ้นยืน
"ไม่ดีกว่า ผิวพรรณของเจ้าอ่อนนุ่มยิ่งกว่าสตรี หากข้าเผลอทำร้ายเจ้าไปคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก” ตู้เฟยมีความเชี่ยวชาญในการยั่วโมโหอยู่แล้ว
"เจ้ากลัว?"
"แน่นอนว่าข้าไม่กลัว แต่ข้าไม่อยากทำให้คนอื่นเดือดร้อน เอาอย่างนี้ก็แล้วกันพวกเราต่อสู้กันด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างไร?" ตู้เฟยตอบอย่างเป็นกันเอง
นี่เป็นการต่อสู้ชนิดหนึ่ง มิหนำซ้ำยังเป็นการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยอันตรายอย่างยิ่ง หากผิดพลาดเพียงครั้งเดียวต่อให้ไม่ตายก็ต้องกลายเป็นคนปัญญาอ่อน
"เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าต้องการจะตาย ข้าจะสนองให้เจ้าเอง" เซี่ยจี้หยูนั่งอยู่ที่นั่นอย่างสงบ
“ถ้าข้าลงมือเองคนอื่นจะหาว่าข้ารังแกเจ้า เอาอย่างนี้ก็แล้วกันเจ้ามาลองสู้กับน้องชายของข้าก่อน” ตู้เฟยตบไหล่เย่ฟ่านและผลักเขาไปข้างหน้า
“ไร้ยางอายเกินไปแล้ว ถึงกับให้น้องชายมาตายแทน” มีคนกระซิบ
“พวกเจ้าควรจะเข้ามาพร้อมกันเลยดีกว่า” เซี่ยจี้หยูเยาะเย้ย
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของน้องชายข้าอยู่แล้ว อย่าว่าแต่คนสองคนเลย” ตู้เฟยกล่าวโดยไม่ละอายใจ
เจตนาฆ่าเซี่ยจี้หยูถูกกระตุ้นอย่างถึงที่สุด คนคนนี้ท้าทายเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเช่นนั้นเขาก็จะฆ่าเย่ฟ่านก่อนจากนั้นค่อยฆ่าตู้เฟยต่อ
หว่างคิ้วของเขามีลำแสงสีดำยิงออกมาอย่างรวดเร็ว มันบินผ่านหน้าตู้เฟยและตรงเข้าสู่หน้าผากของเย่ฟ่าน
เย่ฟ่านไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร หน้าผากของเขาปลดปล่อยกระบี่สีม่วงออกมาอย่างรวดเร็ว เขาฝึกฝนทักษะในตำราต้นกำเนิดสวรรค์ แม้แต่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ยังเปลี่ยนรูปร่างได้
“ปัง!”
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง โต๊ะเก้าอี้ที่อยู่ด้านบนกระจัดกระจายออกไปรอบนอก
แสงสีทองและแสงสีม่วงปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้ที่มีระดับบนเพราะต่ำต้อยไม่สามารถมองเห็นผลแพ้ชนะได้
ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างก็ร่างกายแข็งทื่อด้วยความกลัว สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเด็กหนุ่มทั้งสองนี้มันไม่ใช่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเด็กรุ่นเยาว์แล้ว
หากพวกเขาโดนการโจมตีของทั้งสองเข้าไปเต็มๆรับรองว่าจะต้องตายอนาถอย่างไม่ต้องสงสัย!
หลังจากที่หมอกจางลงสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กสีม่วงสูงสามนิ้วถือทวนขนาดใหญ่เหมือนกับเทพสงครามที่กำลังเดินหน้าไปอย่างช้าๆ
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซี่ยจี้หยูก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กสีดำที่ถือระฆังใบเล็กๆและเขย่าให้เกิดเสียงเป็นระลอกคลื่นไม่หยุด
สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้นั้นเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก นี่คือการต่อสู้ที่แปลกใหม่ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผู้บ่มเพาะอาณาจักรตำหนักเต๋าจะพบเห็นได้
"บูม"
เทพตัวเล็กๆทั้งสองปะทะกันอยู่ตลอดเวลา เสียงที่ระเบิดออกมาทำให้ใบหน้าของทุกคนที่อยู่ในชั้นสองบิดเบี้ยวเล็กน้อย
สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆทั้งสองแยกออกจากกันชั่วครู่ก่อนจะบินเข้าหากันอีกครั้ง
“พอได้แล้ว!”
ทันใดนั้นชายชราในชุดสีเทาด้านหลังเซี่ยจี้หยูก็ส่งเสียงอย่างเย็นชา หว่างคิ้วของเขามีแสงสีม่วงกวาดไปยังสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่าน
เมื่อเผชิญกับสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณต่างก็สูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ
สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆสีม่วงสัมผัสได้ถึงอันตราย มันเคลื่อนไหวหลบการโจมตีและบินกลับเข้าสู่หน้าผากของเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว
“หมายความว่ายังไง?” เย่ฟ่านถามเสียงเข้ม
“นายน้อยของข้าฝึกฝนทักษะบางอย่างและไม่ควรที่จะใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์โดยพละการ ดังนั้นข้าจึงหยุดการต่อสู้ครั้งนี้” ชายชราชุดสีเทาตอบ
"สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของข้ายังฝึกฝนไม่สำเร็จ แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังมีโอกาสชนะเจ้าอยู่ประมาณหกในสิบส่วน" เซี่ยจี้หยูกล่าวพร้อมกับกระพริบตามองเย่ฟ่านด้วยดวงตาสีดำกลมโต
เย่ฟ่านยิ้มไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงในเรื่องนี้ เด็กหนุ่มคนนี้มีทักษะที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง บางทีหากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาฝึกฝนได้สำเร็จมันอาจจะมีพลังเทียบเท่าเหยาซีเลยก็ได้
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้การแสดงออกของเซี่ยจี้หยูก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ไม่มีการข่มขู่ให้ขับไล่ทุกคนอีกต่อไป
หลายคนมองไปที่เย่ฟ่านด้วยด้วยสีหน้ายกย่อง เขาสามารถทำให้เซี่ยจี้หยูมีความอ่อนน้อมถ่อมตนขึ้นเล็กน้อย คนคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
หลังจากนั้นนักพรตชราคนหนึ่งก็เดินขึ้นมาที่ชั้นสองของเหลาสุรา เขาอายุเพียงห้าสิบหรือหกสิบปีเท่านั้น แต่เคราสีขาวของเขายาวลงมาถึงท้องมีลักษณะคล้ายเซียนอยู่บ้าง
บุคคลนี้ผิดปกติตั้งแต่แรกเห็น เย่ฟ่านรู้สึกว่าคนๆนี้มีบางอย่างที่แปลกประหลาดแต่เขาไม่สามารถตรวจจับได้
“ท่านนักพรตในที่สุดท่านก็ปรากฏตัวขึ้น มีข่าวที่ชัดเจนหรือไม่?” จี้ปี้เยว่ถามด้วยรอยยิ้ม
"เขาอยู่ที่เมืองนี้อย่างแน่นอน น่าเสียดายที่นักพรตคนนี้ไม่สามารถหาที่อยู่ของเขาพบ" นักพรตเฒ่าพูดอย่างจริงจัง
หัวใจของเย่ฟ่านและตู้เฟยสั่นสะท้านและพวกเขามองหน้ากันทันที
“แผนการของเด็กน้อยคนนั้นคือสังหารยอดฝีมือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สักคน ดังนั้นต่อให้ตอนนี้เขายังไม่ปรากฏตัวขึ้นมา แต่อีกไม่ช้าเขาจะปรากฏตัวอย่างแน่นอน” นักพรตเฒ่ากล่าวด้วยท่าทางสัตย์ซื่อ
เย่ฟ่านรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก นักพรตเฒ่าผู้นี้มีพรสวรรค์สูงส่งจริงๆ เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาเป็นเพียงการเดาสุ่มแต่มันก็ใกล้เคียงกับความจริงอยู่เล็กน้อย