ตอนที่แล้ว430 - อัจฉริยะที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป429 - คนคุ้นเคย

431- ภารกิจประสบปัญหา


กำลังโหลดไฟล์

431 - ภารกิจประสบปัญหา

ในขณะที่ทุกคนกำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือดก็มีเรือรบลำใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าของเมือง

ผู้คนที่อยู่บนเรือรบดูเหมือนจะสังเกตเห็นความผิดปกติของเหลาสุราและนักพรตหญิงที่งดงามคนหนึ่งก็บินออกมาจากเรือด้วยท่าทางสง่างาม

นางมีรูปร่างเพรียวบางและท่าทางอ่อนโยนซึ่งทำให้ผู้คนที่อยู่ที่นี่รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจเล็กน้อย นางปรากฏตัวบนเหลาสุราเงียบๆโดยไม่ได้พูดอะไร

“ผู้สืบทอดดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋า!” มีคนอุทาน

หัวใจของเย่ฟ่านก็เต้นแรงขึ้นเช่นกัน เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับพลังของนักพรตหญิงคนนี้

เมื่อนางบุกเข้าไปในสุสานโบราณ เพียงการลงมือไม่กี่ครั้งทหารหยินนับพันก็ถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย

“น้องเล็กเจ้าก็มาด้วยหรือ” จี้ปี้เยว่เดินเข้าหานักพรตหญิงด้วยรอยยิ้ม

เย่ฟ่านและตู้เฟยมองหน้ากัน ปัญหาของพวกเขาเกิดขึ้นแล้ว!

เป็นเรื่องจริงที่พวกเขาต้องการที่จะสร้างปัญหาบางอย่างเพื่อให้ผู้คนเป็นจำนวนมากเป็นพยานในการดำรงอยู่ของเย่ฟ่าน

แต่ผู้คนที่มาที่นี่ในวันนี้ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น หากเย่ฟ่านปรากฏตัวขึ้นก็มีโอกาสไม่น้อยที่เขาจะไม่สามารถหลบหนีได้

"พวกเจ้าปรากฏตัวที่นี่ก็ไม่มีความหมายอะไร ความต้องการของข้าคือที่สุด ต่อให้พวกเจ้าร่วมมือกันก็ไม่มีทางที่จะแย่งชิงสิ่งที่ข้าต้องการได้" เซี่ยจี้หยูมองทุกคนและแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ

“เด็กน้อยเจ้าไม่กลัวว่าจะถูกร่างเซียนโบราณฆ่าตายเหรอ?”

ตู้เฟยมองดูเด็กชายชุดขาวด้วยรอยยิ้ม ในฐานะทายาทของโจรผู้ยิ่งใหญ่มันไม่มีเรื่องอะไรในโลกที่ทำให้เขาหวาดกลัวได้

“ร่างเซียนโบราณที่เจ้าว่าไม่มีอะไรเลย การที่เขาจะตกเป็นทาสของข้าก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ถ้าเขากล้าที่จะดูหมิ่นข้า ข้าจะตบเขาให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

โดยเฉพาะพวกเจ้าสองคน ตอนนี้ถึงเวลาที่คนต่ำต้อยเช่นพวกเจ้าจะไสหัวไปได้แล้ว!” เซี่ยจี้หยูพูดกับเย่ฟ่านและตู้เฟยซึ่งอยู่ใกล้เขามากที่สุด

"เพียงเพราะเจ้าต้องการให้เราสองคนออกไปเราก็ต้องทำตามหรือ!" ตู้เฟยเหลือกตาและกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าโยนเจ้าออกไปข้าก่อนจะน้อมสนองให้”

เซี่ยจี้หยูกล่าวอย่างเย็นชาพร้อมกับปลดปล่อยเจตนาฆ่าออกมาเล็กน้อย

“ยอดฝีมือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงเจ้ากล้าต่อสู้กับข้าอีกสักครั้งหรือไม่?” เด็กชายชุดขาวหันไปพูดกับหลี่รุ่ย

ทุกคนพูดไม่ออกอย่างสมบูรณ์ เซี่ยจี้หยูคนนี้น่าทึ่งจริงๆ เขาไม่กลัวที่จะทำให้คนอื่นขุ่นเคืองใจเลย?

"หลังจากที่เจ้าเลิกดูดนมมารดาแล้วค่อยมาทำตัวหยิ่งยโสที่นี่ก็ยังไม่สาย!" ตู้เฟยรำพึงเบาๆ

ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างก็หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน พวกเขามีความไม่พอใจต่อเด็กหนุ่มชุดขาวอยู่แล้ว และเสียงหัวเราะของพวกเขาจึงมีเจตนาเยาะเย้ยแฝงอยู่ด้วย

ใบหน้าของเซี่ยจี้หยูแข็งทื่อ ตั้งแต่เขาเกิดมาไม่เคยมีใครกล้าพูดจาหยาบคายกับเขาแบบนี้มาก่อน คำพูดของตู้เฟยทำให้เขารู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก

“มาดูกันว่าเจ้ามีดีแค่ไหน! เด็กชุดขาวคำรามออกมาด้วยความโกรธ

“ข้าไม่อยากกลั่นแกล้งเด็กน้อยแบบเจ้า” ตู้เฟยกล่าวอย่างโจ่งแจ้ง เขากลัวการมีเรื่องจริงๆ

“งั้นข้าจะกลั่นแกล้งเจ้าเอง!” เซี่ยจี้หยูลุกขึ้นยืน

"ไม่ดีกว่า ผิวพรรณของเจ้าอ่อนนุ่มยิ่งกว่าสตรี หากข้าเผลอทำร้ายเจ้าไปคงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก” ตู้เฟยมีความเชี่ยวชาญในการยั่วโมโหอยู่แล้ว

"เจ้ากลัว?"

"แน่นอนว่าข้าไม่กลัว แต่ข้าไม่อยากทำให้คนอื่นเดือดร้อน เอาอย่างนี้ก็แล้วกันพวกเราต่อสู้กันด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างไร?" ตู้เฟยตอบอย่างเป็นกันเอง

นี่เป็นการต่อสู้ชนิดหนึ่ง มิหนำซ้ำยังเป็นการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยอันตรายอย่างยิ่ง หากผิดพลาดเพียงครั้งเดียวต่อให้ไม่ตายก็ต้องกลายเป็นคนปัญญาอ่อน

"เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าต้องการจะตาย ข้าจะสนองให้เจ้าเอง" เซี่ยจี้หยูนั่งอยู่ที่นั่นอย่างสงบ

“ถ้าข้าลงมือเองคนอื่นจะหาว่าข้ารังแกเจ้า เอาอย่างนี้ก็แล้วกันเจ้ามาลองสู้กับน้องชายของข้าก่อน” ตู้เฟยตบไหล่เย่ฟ่านและผลักเขาไปข้างหน้า

“ไร้ยางอายเกินไปแล้ว ถึงกับให้น้องชายมาตายแทน” มีคนกระซิบ

“พวกเจ้าควรจะเข้ามาพร้อมกันเลยดีกว่า” เซี่ยจี้หยูเยาะเย้ย

“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของน้องชายข้าอยู่แล้ว อย่าว่าแต่คนสองคนเลย” ตู้เฟยกล่าวโดยไม่ละอายใจ

เจตนาฆ่าเซี่ยจี้หยูถูกกระตุ้นอย่างถึงที่สุด คนคนนี้ท้าทายเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเช่นนั้นเขาก็จะฆ่าเย่ฟ่านก่อนจากนั้นค่อยฆ่าตู้เฟยต่อ

หว่างคิ้วของเขามีลำแสงสีดำยิงออกมาอย่างรวดเร็ว มันบินผ่านหน้าตู้เฟยและตรงเข้าสู่หน้าผากของเย่ฟ่าน

เย่ฟ่านไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร หน้าผากของเขาปลดปล่อยกระบี่สีม่วงออกมาอย่างรวดเร็ว เขาฝึกฝนทักษะในตำราต้นกำเนิดสวรรค์ แม้แต่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ยังเปลี่ยนรูปร่างได้

“ปัง!”

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง โต๊ะเก้าอี้ที่อยู่ด้านบนกระจัดกระจายออกไปรอบนอก

แสงสีทองและแสงสีม่วงปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง ผู้ที่มีระดับบนเพราะต่ำต้อยไม่สามารถมองเห็นผลแพ้ชนะได้

ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างก็ร่างกายแข็งทื่อด้วยความกลัว สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเด็กหนุ่มทั้งสองนี้มันไม่ใช่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเด็กรุ่นเยาว์แล้ว

หากพวกเขาโดนการโจมตีของทั้งสองเข้าไปเต็มๆรับรองว่าจะต้องตายอนาถอย่างไม่ต้องสงสัย!

หลังจากที่หมอกจางลงสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่านก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กสีม่วงสูงสามนิ้วถือทวนขนาดใหญ่เหมือนกับเทพสงครามที่กำลังเดินหน้าไปอย่างช้าๆ

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเซี่ยจี้หยูก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กสีดำที่ถือระฆังใบเล็กๆและเขย่าให้เกิดเสียงเป็นระลอกคลื่นไม่หยุด

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้นั้นเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก นี่คือการต่อสู้ที่แปลกใหม่ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผู้บ่มเพาะอาณาจักรตำหนักเต๋าจะพบเห็นได้

"บูม"

เทพตัวเล็กๆทั้งสองปะทะกันอยู่ตลอดเวลา เสียงที่ระเบิดออกมาทำให้ใบหน้าของทุกคนที่อยู่ในชั้นสองบิดเบี้ยวเล็กน้อย

สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆทั้งสองแยกออกจากกันชั่วครู่ก่อนจะบินเข้าหากันอีกครั้ง

“พอได้แล้ว!”

ทันใดนั้นชายชราในชุดสีเทาด้านหลังเซี่ยจี้หยูก็ส่งเสียงอย่างเย็นชา หว่างคิ้วของเขามีแสงสีม่วงกวาดไปยังสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเย่ฟ่าน

เมื่อเผชิญกับสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณต่างก็สูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ

สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆสีม่วงสัมผัสได้ถึงอันตราย มันเคลื่อนไหวหลบการโจมตีและบินกลับเข้าสู่หน้าผากของเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว

“หมายความว่ายังไง?” เย่ฟ่านถามเสียงเข้ม

“นายน้อยของข้าฝึกฝนทักษะบางอย่างและไม่ควรที่จะใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์โดยพละการ ดังนั้นข้าจึงหยุดการต่อสู้ครั้งนี้” ชายชราชุดสีเทาตอบ

"สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของข้ายังฝึกฝนไม่สำเร็จ แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ยังมีโอกาสชนะเจ้าอยู่ประมาณหกในสิบส่วน" เซี่ยจี้หยูกล่าวพร้อมกับกระพริบตามองเย่ฟ่านด้วยดวงตาสีดำกลมโต

เย่ฟ่านยิ้มไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงในเรื่องนี้ เด็กหนุ่มคนนี้มีทักษะที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง บางทีหากสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาฝึกฝนได้สำเร็จมันอาจจะมีพลังเทียบเท่าเหยาซีเลยก็ได้

หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้การแสดงออกของเซี่ยจี้หยูก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ไม่มีการข่มขู่ให้ขับไล่ทุกคนอีกต่อไป

หลายคนมองไปที่เย่ฟ่านด้วยด้วยสีหน้ายกย่อง เขาสามารถทำให้เซี่ยจี้หยูมีความอ่อนน้อมถ่อมตนขึ้นเล็กน้อย คนคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

หลังจากนั้นนักพรตชราคนหนึ่งก็เดินขึ้นมาที่ชั้นสองของเหลาสุรา เขาอายุเพียงห้าสิบหรือหกสิบปีเท่านั้น แต่เคราสีขาวของเขายาวลงมาถึงท้องมีลักษณะคล้ายเซียนอยู่บ้าง

บุคคลนี้ผิดปกติตั้งแต่แรกเห็น เย่ฟ่านรู้สึกว่าคนๆนี้มีบางอย่างที่แปลกประหลาดแต่เขาไม่สามารถตรวจจับได้

“ท่านนักพรตในที่สุดท่านก็ปรากฏตัวขึ้น มีข่าวที่ชัดเจนหรือไม่?” จี้ปี้เยว่ถามด้วยรอยยิ้ม

"เขาอยู่ที่เมืองนี้อย่างแน่นอน น่าเสียดายที่นักพรตคนนี้ไม่สามารถหาที่อยู่ของเขาพบ" นักพรตเฒ่าพูดอย่างจริงจัง

หัวใจของเย่ฟ่านและตู้เฟยสั่นสะท้านและพวกเขามองหน้ากันทันที

“แผนการของเด็กน้อยคนนั้นคือสังหารยอดฝีมือของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สักคน ดังนั้นต่อให้ตอนนี้เขายังไม่ปรากฏตัวขึ้นมา แต่อีกไม่ช้าเขาจะปรากฏตัวอย่างแน่นอน” นักพรตเฒ่ากล่าวด้วยท่าทางสัตย์ซื่อ

เย่ฟ่านรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างมาก นักพรตเฒ่าผู้นี้มีพรสวรรค์สูงส่งจริงๆ เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาเป็นเพียงการเดาสุ่มแต่มันก็ใกล้เคียงกับความจริงอยู่เล็กน้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด