ตอนที่แล้วตอนที่ 159 ปะทะเดือด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 161 ดอกกุหลาบหลากสี(อ่านฟรี)

ตอนที่ 160 สถานการณ์ก่อนพายุมา(อ่านฟรี)


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 160 สถานการณ์ก่อนพายุมา

ภายในป้อมปราการตะวันออก สถานการณ์ด้านในนั้นเตรียมพร้อมรบอย่างเต็มกำลัง มีสองกองพลที่กลับมาได้คือกองพลที่ 1 ที่กายไปด้วย และกองพลที่ 3 ที่ทำหน้าที่สนับสนุนด่านหน้าที่รับมือกับการโจมตีของทหารนครแสงเทวาแต่นั่นเพียงเป้าหมายหลอก เพราะนครแสงเทวาไม่ได้โจมตีทุกด่าหน้า แต่แค่ด่านหน้าบางแห่งเพื่อสร้างเส้นทางเดินทัพมาที่ป้อมปราการเท่านั้น ทำให้พวกเขาถอยออกมาได้

แต่ต่างกับกองพลที่ 2 ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้กลับเข้ามาป้อมปราการ และตรึงกำลังอยู่แถวพื้นที่ทางเหนือเพื่อไม่ให้ทางนครแสงเทวาขยายกำลังทหารไปทางด้านนั้นได้ เพราะทางกองทัพกลัวว่าพวกนั้นจะใช้เส้นทางนี้อ้อมมาสร้างความเสียหายต่อนครดาราฟ้าได้

ซึ่งแม้จะมีโอกาสน้อย แต่ก็ใช่จะไม่เกิดขึ้น

หลังจากกองพลที่ 1 กลับเข้ามาพวกเขาก็ส่งคนเจ็บไปรักษาตัวที่โถงพยาบาล ส่วนที่เหลือก็แยกกันไปและเตรียมรับคำสั่งใหม่

กายและมีอาเองก็ต้องเตรียมรับสงครามใหญ่เช่นกัน ตอนนี้กองทัพพิทักษ์ตะวันออกต้องการทหารทุกนายเพื่อสู้กับนครแสงเทวา กายยืนอยู่บนกำแพงของป้อมปราการตะวันออกมองไปด้านนอกแนวกำแพง แม้ตอนนี้จะไม่เห็นศัตรูอยู่ด้านนอก แต่ก็ยังมีร่องรอยของพวกทหารสอดแนมของฝ่ายศัตรูอยู่บ้างในบางครั้ง

พวกนครแสงเทวาไม่ได้โง่พวกเขาไม่คิดจะเข้ามาและโจมตีป้อมปราการตะวันออกเลยในทันที แต่จะตั้งค่ายและยึดพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ก่อนเพื่อสร้างเส้นทางที่ปลอดภัย ก่อนเริ่มโจมตีป้อมปราการตะวันออก

และนี่ยังป้องกันไม่ให้ป้อมปราการตะวันออกกล้าส่งกองกำลังทั้งหมดออกมาถล่มพวกเขาโดยอาศัยการสนับสนุนจากป้อมปราการเพื่อให้ได้เปรียบ

“สงครามนี่ไม่ง่ายเลย NPC เหล่านี้สมแล้วที่เป็นพวกทหาร” กายพึมพำออกมา ก่อนจะเดินลงไปด้านล่าง

“เจ้าได้ข่าวแล้วหรือไม่” มีอาเดินเข้ามาถามกาย

“ข่าวอะไร?” กายถามด้วยความแปลกใจ หลังจากกลับมาเขาก็ยังไม่ได้พูดคุยกับใครที่ป้อมปราการตะวันออก

“มีข่าวส่งมาจากนครดาราฟ้าดูเหมือนจะส่งกองหนุนมาที่ป้อมปราการตะวันออกเพิ่ม เพราะที่นี่ไม่มีสงครามมานาน จึงมีกำลังทหารน้อยกว่าที่อื่น และทางสถาบันศาสตร์นักรบจะส่งคนมาพร้อมกับกองหนุนด้วย”

“รู้ไหมว่าอาจารย์คนไหนที่มาด้วย”

“ไม่ ข้าไม่รู้ว่าอาจารย์ท่านไหน แต่รู้ว่านอกจากอาจารย์จะมีนักเรียนชั้นปี 3 เข้าร่วมด้วย”

กายหรี่ตาลง ก่อนจะกล่าว “บางทีเราอาจจะมีส่วนร่วมกับพวกเขาในเร็ว ๆ นี้”

พลังของกายและมีอามาถึงนักรบฝึกหัดระดับ 3 แล้วซึ่งตรงกับระดับพลังของนักเรียนชั้นปี 3 ของสถาบันและด้วยสถานการณ์ของสงครามพวกเขาอาจจะเข้าร่วมกับนักเรียนชั้นปี 3 ทำภารกิจของสถาบันได้

“ข้าก็หวังเป็นเช่นนั้น” มีอาตอบ เธอรู้สึกว่าตั้งแต่ต่อสู้กับทหารฝ่ายนครแสงเทวาก็ทำให้ฝีมือพัฒนาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงปรารถนาจะเข้าร่วมสงครามต่อ

“คงสนุกแน่นอน” กายยิ้มออกมา

...

ทางด้านเดียวกันในพื้นที่ทุ่งหญ้ากิรา สถานที่เต็มไปด้วยกลุ่มโจร กระทิงเขียวผู้เป็นหนึ่งในสายของทหารที่ส่งเข้ามาแฝงตัวในทุ่งหญ้ากิราก็กำลังอ่านจดหมายฉบับหนึ่งอย่างเงียบขรึม

“หัวหน้า เราจะลงมือตอนไหน” หนึ่งในลูกน้องซึ่งเป็นทหารเช่นกันกล่าวออกมา

“อีกไม่นาน กองกำลังของเราจะพร้อมในคืนนี้ หลังจากศึกนี้ป้อมปราการตะวันออกจะสยบต่อกองทัพนักบวชของท่านอูทัน”

“อูทันเคยช่วยดินแดนนี้ไว้ พวกเราคือทหารของเทพ พวกมันทุกคนต้องก้มหัวให้อูทัน”

หลายคนในที่นี้ได้ยินก็พากันตื่นเต้น เพราะพวกเขาคือสาวกผู้นับถือต่อเทพแห่งดวงอาทิตย์อูทัน ซึ่งพวกเขามองว่าพวกนครดาราฟ้าคือนอกรีต และพวกเขาคือทหารของเทพที่ทำการสังหารคนบาป

“หัวหน้าเราจะทำอย่างไรกับคนสถาบันศาสตร์นักรบสามคนนั้นดี”

“นักเรียนจากสถาบันศาสตร์นักรบ พวกนี้ยังมีประโยชน์อยู่เก็บเอาไว้ก่อน”

...

ขณะเดียวกันทางด้านของนครดาราฟ้าก็ส่งกำลังทหารสนับสนุน 2 กองพลออกเดินทางจากค่ายของกองทัพพิทักษ์นครออกไปช่วยป้อมปราการตะวันออก โดยในขบวนมีคนจากสถาบันศาสตร์นักรบเดินทางไปด้วย

“ติดต่อนักเรียนของเราหรือยัง พวกเขาไม่เป็นอะไรกันใช่ไหม” เสียงของอาจารย์อิกลินถามหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของสถาบันศาสตร์นักรบ

“เราเจอนักเรียน 7 คนแล้ว แต่ 3 คนเราเจอเพียงเบาะแสดูเหมือนพวกเขาจะเข้าไปจัดการกับกองโจรหนึ่งและก็หายไป”

“อืมไปถึงที่นั่นเราค่อยไปช่วยเด็กพวกนั้นทีหลัง ออกเดินทางได้”

อิกลินหันไปกล่าวกับนักเรียนชั้นปี 3 ของสถานบันศาสตร์นักรบ ทั้งหมดนั้นปลดปล่อยกลิ่นอายเหมือนกับพวกกองกำลังทหารระดับสูงไม่มีผิด ซึ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการที่พวกเขาอยู่ในชั้นปีนี้ได้ก็มีพลังในระดับว่าที่หัวหน้าหน่วยของกองทัพแล้ว

...

มัลทาฟา

สถานที่แห่งนี้มีผู้คนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน จนพวกพ่อค้าและผู้คนต่างเริ่มผิดสังเกต พวกเขาเริ่มรู้สึกว่าคนที่มาใหม่ส่วนใหญ่นั้นแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก และในที่สุดก็รับรู้ว่าส่วนใหญ่นั้นคือพวกมนุษย์ไฟ พวกนี้มักต่อสู้กันอย่างรุนแรงและเริ่มมีสงครามขนาดเล็กให้เห็นแทบจะทุกพื้นที่

ทำให้สถานการณ์ที่มัลทาฟานั้นไม่มั่นคง รวมทั้งข่าวการโจมตีของนครแสงเทวาก็กระจายไปทั่วมัลทาฟาสร้างความหวาดกลัวให้เหล่าพ่อค้าเป็นอย่างมาก

พ่อค้าหลายคนเริ่มเก็บของและเดินทางออกจากมัลทาฟากันแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีพ่อค้าฟลินต์ด้วยเช่นกัน

...

กายมองดูทหารหลายทีมที่ถูกส่งออกไปนอกกำแพงป้อมปราการเพื่อทำภารกิจ พวกเขาส่งทหารออกไปมากกว่า 100 แล้วตั้งแต่กายจับตาดูมา ตอนนี้หลังจากกลับมาเขาก็ไม่ได้ข่าวจากทางหัวหน้าทิฟอนอีก เพราะดูเหมือนระดับสูงของกองทัพจะวุ่นวายกันเป็นอย่างมาก

ถ้าเดาไม่ผิดพวกเขาคงประชุมกันและวางแผนการรบอยู่

กายจึงได้แต่รออยู่เงียบ ๆ เท่านั้นจนกระทั่งถึงเที่ยงคืนของวันที่ 3 ในโลกราชันเขาจึงทำได้เพียงล็อกอินออกมาเท่านั้น

เมื่อออกจากโลกราชันมาแล้วกายก็ลืมตามองไปรอบ ๆ อย่างระวัง เขากลัวว่าตื่นขึ้นมาแล้วตนเองจะโดนจับทันทีจากคนที่ตามล่าอยู่ แต่พอมองดูก็ไม่เห็นใครยืนล้อมเขา กายจึงถอนหายใจด้วยความโล่งใจ

เขาเดินไปที่หน้าห้องไทเลอร์ตอนนี้ได้ยินแต่เสียงหายใจที่แผ่วเบาของไทเลอร์และเมญ่าที่หลับกันไปแล้ว จึงเดินกลับออกมาอย่างเงียบ ๆ

การหนีตลอดทั้งวันนี้ทำให้ทั้งสองคนเหนื่อยเป็นอย่างมาก กายเองก็ไม่ต่างกัน

เราควรจะไปนอน กายบอกกับตัวเอง ก่อนจะเดินไปเช็คประตูว่าล็อกแน่นหน้าหรือไม่จากนั้นก็ค่อยเข้าไปนอนยังห้องของตนเอง

เขาหลับในทันทีที่หัวถึงหมอน แต่ถึงอย่างนั้นในมือกายก็ยังกอดท่อนเหล็กไว้แน่นคลายกับตอนนอนกอดดาบและค้อนในโลกราชันไม่มีผิด

หลังจากหลับไปไม่นานกายก็รู้สึกตัว เขาเห็นแสงที่พุ่งเข้ามาซึ่งมันคล้ายกับใบดาบจากพวกชายใส่สูทชุดดำ ด้วยสัญชาตญาณกายดีดตัวหนึ่งคว้าเอาท่อนเหล็กขึ้นมากันด้วยความตกใจ

แต่แล้วภาพทุกอย่างก็หายไป

เราฝันไป...

กายวางท่อนเหล็กลงก่อนจะมองดูสภาพของตนเองที่เนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อราวกับพึ่งไปวิ่งหลายสิบกิโลเมตรมา เขาส่ายหัวเบา ๆ ขับไล่ความมึนงงและอาการตกใจออกไป

เรากลัวใบมีดจากอาวุธของชายใส่สูทชุดดำพวกนั้นจนเก็บเอาไปฝันเลยสินะ กายยิ้มเจื่อน ๆ ให้กับตัวเองก่อนจะลุกขึ้นล้างหน้าในห้องน้ำและออกมาด้านนอก ซึ่งเขาเห็นว่าตอนนี้เมญ่ากำลังทำอาหารและไทเลอร์กำลังลองขยับแขนกลเทียมอยู่

“นายทดสอบมันเป็นยังไงบ้าง” กายถาม

“อืม มันแปลก ๆ ฉันไม่รู้สึกแต่พอลองคิดจะขยับมันก็ขยับตามที่ต้องการ ขอบใจนายมากนะ” ไทเลอร์ตอบกลับก่อนจะใช้แขนกลเทียมปิดกล่องและยกกล่องขึ้นด้วยมือเดียว “อย่างน้อยมันก็แข็งแรงขึ้นมาก มันคงไม่พังง่าย ๆ หรอก”

“แน่นอนสิมันทำจากโลหะอย่างดี” กายยิ้มและตอบกลับไป

หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงที่โซฟาข้าง ๆ และจัดการมื้อเช้าที่ไม่เช้าสักเท่าไหร่จนเสร็จ ก่อนจะเปิดข่าวค้นหาข่าวต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องไฟไหม้และอาจจะรวมถึงข่าวหมายจับอะไรทำนองนี้ด้วย แต่ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องพวกนี้แม้แต่น้อยทำให้กายนั้นถึงกับต้องขมวดคิ้วเข้าหากันและคิดหนักถึงสถานการ์ของตนเอง

ทางฝั่งของไทเลอร์และเมญ่าก็เช่นกัน

“เราคงอยู่เงียบ ๆ ไปอีกสักพัก ฉันจะไปที่แดนสงครามก่อน หลังจากนั้นค่อยจัดการเรื่องลิงก์เกมของนายก็แล้วกัน”

“เอาตามที่นายว่าก็แล้วกัน”

กายพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปที่แคปซูลเกม วันนี้เขายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ นั้นคือการเข้าร่วมต่อสู้กับกิลด์ราชินีกุหลาบเพื่อพิชิตแดนสงคราม ดินแดนแห้งแล้งแลกกับบิท

ภายในแดนสงครามหลังจากกายเข้ามาแล้ว เขาก็ตรงไปที่ห้องส่วนตัวในแดนสงครามของกุหลาบสีดำในทันที

“นายมาแล้ว รีบเข้ามาในห้องสิ” กุหลายสีดำเปิดประตูออกมามองกายด้วยความยินดี

กายคิดว่าสถานการณ์และคำพูดมันเหมือนเขาและเธอกับกำลังแอบนัดเจอกันของคนหนุ่มสาวไม่มีผิด เขารีบสลัดความคิดนี้ทิ้งไปก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง

ในห้องไม่ได้มีแค่กุหลาบสีดำ แต่ยังมีกลุ่มสาวสวยอีก 5 คนซึ่งพวกเธอทั้งหมดนั้นเป็นสมาชิกระดับสูงของกิลด์ราชินีกุหลาบ

หญิงสาวทั้ง 5 คนกวาดสายตาสำรวจกายตั้งแต่หัวจรดเท้าทำเอากายรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เพราะในฐานะผู้ชายคนเดียวในห้องเขาจึงทำตัวไม่ค่อยถูกมากนัก

กายปรับอารมณ์ตัวเองก่อนจะกลับมาเป็นลอร์ดเจ็ดโลหะผู้แข็งแกร่งเขานั่งลงตรงข้ามหญิงสาวทั้ง 6 คน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด