ตอนที่แล้วข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 44 ผีหวาดกลัวคนชั่ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 46 หมื่นกระบี่รวมเป็นหนึ่ง

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 45 โคมผีสีเขียวหม่น


กำลังโหลดไฟล์

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 45 โคมผีสีเขียวหม่น

ในเมืองผีอันแสนมืดมน เจตจำนงจากกระบี่กลายเป็นสิ่งน่าเกรงขาม

แสงกระบี่เย็นเยียบยังคงกวาดออกทีละวงๆ ทุกที่ที่มันผ่านไป กำแพงถล่ม ประตูพังทลาย

ปราณกระบี่ที่ฟาดฟันออกมาจากกระบี่ปราบวิญญาณทรงพลังมากจนทำลายบ้านวิญญาณทั้งสองข้างทางได้!

เพียงไม่กี่ลมหายใจ คงหนิงถือกระบี่ปราบวิญญาณไล่ตามออกไปจากลานบ้านของจางจ้ง ผ่านตรอกมืดๆ จนมาถึงถนนโล่งๆ ด้านนอก

ด้านหน้าของเขา ผีร้ายสองตัวพากันวิ่งหนีกระเจิดกระเจิงราวกับสุนัข

ระหว่างการหลบหนีเต็มกำลังของผีร้ายทั้งสอง พวกมันก็หันหัวกลับมา รัศมีพลังที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตก็พุ่งเข้าหาคงหนิง ใช้เคล็ดวิชาชั่วร้ายพยายามหยุดคงหนิง

อย่างไรก็ตาม คงหนิงไม่จำเป็นต้องทำสิ่งใดเลย เพียงแค่โบกสะบัดกระบี่ปราบวิญญาณ กวาดลำแสงกระบี่อันเย็นเยียบออกไป ก็สามารถทำลายรัศมีพลังแห่งความตายและเคล็ดชั่วร้ายทั้งหมดได้แล้ว

การต่อต้านของผีร้ายทั้งสองไม่สามารถหยุดฝีเท้าของคงหนิงได้แม้แต่นิดเดียว

ร่างของทั้งสองฝ่ายที่ไล่ตามกันอย่างรวดเร็ว กะพริบวูบไหวไปมาในเมืองผีที่รกร้างว่างเปล่า

ด้วยความแข็งแกร่งของผีร้ายทั้งสองตน ความจริงแล้วพวกมันสามารถบดขยี้คงหนิงได้อย่างง่ายดาย แต่ยามนี้ต้องเผชิญหน้ากับกระบี่ปราบวิญญาณ พวกมันไม่กล้าแม้แต่จะหยุดฝีเท้าเข้าไปต่อสู้โรมรัน

วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนน่าอับอายยิ่ง

ในระหว่างที่พุ่งทะยานไปด้านหน้า ผีตัวม่วงก็ตะโกนออกมาว่า “เจ้าหนู! เจ้าตามพวกเราไม่ทันหรอก! เสียเวลาเปล่าๆ! กระบี่ปราบวิญญาณนั่นขอมอบให้เจ้า เอาไปเลย!”

ผีร้ายตัวสีเขียวไม่สวมบทงิ้วหน้าแดงอีกต่อไป ตะโกนออกด้วยความกระสับกระส่ายขณะที่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน

“เมืองผีกำลังจะหายไป ถ้าเจ้ายังไล่ตามมา พวกเราทั้งหมดจะติดอยู่ในเมืองผีนี่และหนีออกไปไม่ทัน!”

ผีร้ายทั้งสองตนนี้ ตอนแรกไม่ต้องการจะปล่อยคงหนิงไป ตราบใดที่คงหนิงมอบกระบี่ปราบวิญญาณมาให้ถึงจะยอมปล่อยไป แต่ตอนนี้พวกมันกลับต้องการให้คงหนิงเก็บกระบี่ปราบวิญญาณจากไปเสีย

ค่อยๆ ถอยทีละก้าว นี่เป็นตัวอย่างของการรู้จักดูทิศทางลมได้อย่างสมบูรณ์แบบทีเดียว

แต่คงหนิงยังคงเย้ยหยันไม่ตอบคำ เขาโบกสะบัดกระบี่ปราบวิญญาณในมือ ปลดปล่อยประกายแสงกระบี่ออกไล่ติดตามสังหารผีร้ายสองตนที่อยู่เบื้องหน้า

เหมือนกับที่ผีร้ายทั้งสองตนกล่าว เขาไม่สามารถไล่ตามผีร้ายทั้งสองตนนี้ได้จริงๆ อาจเป็นเพราะความแข็งแกร่งระหว่างทั้งสองฝ่ายยังห่างชั้นกันอยู่

แต่คงหนิงไม่จำเป็นต้องตามให้ทัน

ตราบใดที่พวกเขาคอยตอดเล็กตอดน้อยพวกมันไปเรื่อยๆ และป้องกันไม่ให้มันหลบหนี เขาก็สามารถตวัดประกายกระบี่เพื่อสร้างความเสียหายให้กับผีร้ายทั้งสองตนได้

ผีร้ายตัวสีเขียวที่วิ่งสุดกำลังในตอนนี้ถูกประกายแสงกระบี่ฟันเข้าใส่ถึงสามครั้ง ทิ้งบาดแผลน่ากลัวที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้เอาไว้บนร่างผีร้ายตัวใหญ่

ส่วนผีตัวม่วงมีสภาพน่าสังเวชยิ่งกว่า ใบหน้าน่าสะพรึงกลัวที่อยู่ด้านหลังเกือบจะถูกตัดขาดโดยประกายแสงกระบี่ เหลือเพียงไอพลังแห่งความตายที่ยังคงสะบัดดิ้นไปมา แต่ไม่อาจฟื้นตัวได้

ขณะที่ผีตัวม่วงวิ่งหนี มันก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดออกมาเป็นครั้งคราว

ตราบใดที่คงหนิงยังคงติดตามผีร้ายทั้งสองตนนี้ไป ไม่ช้าก็เร็วพวกมันจะต้องถูกตอดจนตาย

ด้วยความแข็งแกร่งของผีร้ายทั้งสอง หลังจากคงหนิงสังหารพวกมัน อย่างน้อยการบ่มเพาะของเขาก็สามารถพุ่งทะยานสู่พลังตบะหนึ่งร้อยห้าสิบปี!

คงหนิงจะปล่อยกำไรมูลค่ามหาศาลนี้ไปได้เช่นไร?

ด้วยกระบี่ปราบวิญญาณมีอำนาจข่มเหงเยี่ยงนี้ ยิ่งไม่สามารถปล่อยผีร้ายสองตัวนี้ไปได้

ต้องปราบมันให้หมด!

ภายในเมืองผีที่สว่างไสว ร่างของคงหนิงสะท้อนแสงเปล่งประกาย ไม่ว่าจะไปไหน ลำแสงกระบี่ก็ส่องสว่างไปทั่วทุกที่ แม้ว่าเขาจะตามผีร้ายสองตัวด้านหน้าไม่ทัน แต่เขาก็ไล่ติดตาม กัดไม่ยอมปล่อย

ด้านหลังของคงหนิง ร่างของหว่านเอ๋อกลายเป็นแสงกระบี่สีขาว มุ่งหน้าติดตามมาด้วย

ท้องฟ้ามืดครึ้ม เต็มไปด้วยไอพลังหยิน

โชคดีที่มีโคมกระดาษสีขาวลอยอยู่ภายในเมืองผี และแสงสีขาวเหล่านี้ก็ส่องสว่างไปทั่วทั้งเมือง ทำให้คงหนิงติดตามเป้าหมายของตนได้ตลอดโดยไม่คลาดสายตา

บนโคมกระดาษทรงกระบอกเหล่านั้น มีตัวอักษร “เซ่นไหว้” สีดำสนิทเขียนเอาไว้ ดูหมองหม่นอย่างอธิบายไม่ถูก

ในระหว่างที่คงหนิงไล่ตามผีร้าย โคมกระดาษดูน่าขนลุกที่ลอยอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิดเหล่านี้ก็เหมือนจะลอยต่ำลง

แสงสีเขียวประหลาดก็เริ่มปรากฏขึ้นภายในโคมกระดาษสีขาวเหล่านั้น

เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้

ผีร้ายสองตัวที่วิ่งอยู่ด้านหน้าก็กรีดร้องออกมาด้วยความวิตก

“ไอ้เวรเอ๊ย! เมืองผีกำลังจะหายไปแล้ว! เจ้าและข้าต้องรีบออกไปจากที่นี่!”

“ถ้าเจ้าหันกลับไปในยามนี้มันก็ยังพอมีเวลา!”

ความวิตกกังวลของผีร้ายทั้งคู่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องเท็จ

แต่คงหนิงกำลังไล่ล่าสังหารผีร้ายทั้งสอง ผีร้ายตัวม่วงที่ถูกคงหนิงฟันจนร่างแหว่งทำให้วิ่งช้าลงเล็กน้อย อีกสักพักอาจจะถึงคราวตายแล้วก็เป็นได้ จะให้คงหนิงมายอมแพ้ตอนนี้อย่างนั้นหรือ?

คงหนิงกัดฟันแน่น ลังเลใจ ยังตัดสินใจไม่ได้

เบื้องหน้าพลันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น

โคมกระดาษรูปทรงประหลาดก็ลอยออกมาจากเงามืด โคมกระดาษส่วนใหญ่กลายเป็นสีเขียวหม่น

ทันทีที่มันลอยออกมา ก็เหมือนมันถูกดึงดูด เข้าไปเกาะติดผีตัวม่วงที่กำลังวิ่งอยู่บนถนน

และผีตัวม่วงที่เต็มไปด้วยบาดแผล แค่หลบประกายแสงกระบี่ที่กวาดเข้ามาด้านหลังก็เต็มกลืนแล้ว ไม่มีเวลาไปสนใจสิ่งอื่น ทันทีที่โคมไฟสีเขียวหม่นลอยออกมา ผีสีม่วงก็เข้าไปติดอยู่กับมัน

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นทันที

“อ๊ะ อ๊ากกกกกกก!!!”

ผีตัวม่วงกรีดร้องราวกับถูกทรมานแสนสาหัส

มันล้มลงกระตุกอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวด

โคมสีเขียวหม่นติดอยู่กับตัวของมันที่ดิ้นทุรนทุราย ราวกับกำลังดูดบางอย่างในร่างออกไป

ผีตัวเขียวที่อยู่ด้านข้าง ตัวสั่นสะท้านทันทีที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว

โดยไม่มีความลังเลใจแม้แต่น้อย ผีสีเขียวยกเท้าขนาดใหญ่ของมัน เตะเข้าใส่ผีตัวม่วงที่นอนอยู่บนพื้น ไม่สามารถขยับตัวได้

ผีตัวม่วงกรีดร้อง ถูกผีตัวเขียวเตะกระเด็นลอยเข้าไปหาคงหนิงที่อยู่ด้านหลัง

เมื่อเห็นฉากนี้ เปลือกตาของคงหนิงก็กระตุก ความรู้สึกถึงอันตรายโผล่เข้ามาในหัวใจ

โคมสีเขียวหม่นที่ติดอยู่กับร่างของผีตัวม่วงทำให้เขารู้สึกอันตรายอย่างยิ่ง

เขายกกระบี่ปราบวิญญาณขึ้นมาโดยไม่ลังเล คงหนิงกวาดลำแสงกระบี่ออกไปอีกครั้ง สังหารผีร้ายตัวสีม่วงทันทีที่มันลอยมาได้ครึ่งทาง

ภายในจุดตันเถียน ไหดำลึกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เริ่มปรับแต่งพลังวิญญาณที่เกิดจากการสังหารผีร้ายตัวสีม่วง

โคมสีเขียวหม่นที่ติดอยู่กับผีตัวม่วงก็ลอยตรงมาหาคงหนิงในขณะที่ผีตัวม่วงตกตายไปอย่างน่าอนาถ

ความน่ากลัวที่เกิดเฉพาะในยามวิกฤตผุดขึ้นในใจของคงหนิงรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

แม้จะไม่รู้ว่าโคมไฟสีเขียวหม่นนี้คืออะไร แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ดีอย่างแน่นอน!

ลำแสงกระบี่กวาดออกไปอย่างรุนแรง กวาดโคมไฟสีเขียวหม่นออกไปในทันที โคมไฟกระดาษสีเขียวหม่นไม่สามารถต้านทานพลังของกระบี่ปราบวิญญาณได้

เพียงแต่ว่าผีร้ายตัวเขียวที่อยู่ด้านหน้า ได้หลบหนีออกไปไกลแล้วในตอนที่คงหนิงถูกผีตัวม่วงขวางทางเอาไว้

“หัวหน้ามือปราบหนิง......”

ด้านหลังของเขา หว่านเอ๋อที่ตามมาทัน มองดูผีตัวเขียวที่วิ่งนำหน้าไปด้วยสีหน้าเป็นกังวล

คงหนิงเห็นความกังวลของหญิงสาวจึงกล่าวขึ้นว่า “ไม่ต้องตามไปแล้ว พวกเราต้องออกไปเดี๋ยวนี้!”

การสังหารผีตัวม่วงก็ได้ประโยชน์มามากพอแล้ว

แม้ว่าคงหนิงต้องการจะสังหารผีร้ายทั้งสอง แต่ดูเหมือนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในเมืองผีอันรกร้าง ทำให้คงหนิงไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป

เขาหันหลังและพุ่งทะยานออกจากเมืองผีพร้อมกับหว่านเอ๋อโดยไม่มีความลังเล

แต่เมื่อทั้งสองหันกลับไป ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของผีตัวสีเขียวอยู่ที่ด้านหลังของพวกเขา

คงหนิงเหลือบมองย้อนกลับไป และเห็นฉากที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง

โคมเขียวหม่นจำนวนมหาศาล ลอยมาจากที่ไหนไม่รู้ โอบล้อมผีตัวเขียวจนแทบจะมิดร่าง โคมสีเขียวหม่นติดตรึงอยู่กับผีร้ายและคอยดูดบางสิ่งออกไป ร่างของผีตัวเขียวหดฟีบเล็กลงด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ผีตัวเขียวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดราวกับถูกทรมาน เมื่อได้ยินก็ทำเอาผู้คนขนลุกซู่ ร่างผีตัวใหญ่ค่อยๆ ถูกกลืนหลายเข้าไปในโคมสีเขียว

และสิ่งที่ทำให้หนังศีรษะชาวาบขนลุกซู่เข้าไปอีกคือโคมสีเขียวหม่นเหล่านั้นกำลังลอยตรงมาที่นี่

เห็นได้ชัดว่าพวกมันกำลังพุ่งเป้ามาที่คงหนิงซึ่งยังคงอยู่ภายในเมืองผี!

“ก่งง!”

เมื่อคงหนิงเห็นโคมสีเขียวหม่นกำลังตรงเข้ามาหา ขนทั่วร่างพลันชี้ตั้งขึ้นทันที รีบออกวิ่งอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นภาพติดตา

โคมไฟสีเขียวหม่นพวกนี้มันคือเรื่องบ้าอะไรกัน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด