ตอนที่ 315+316 เหยาเหยา
การให้หญิงสาวอายุสิบเก้าอยู่ข้าง ๆ ช่างน่ารักเสียจริง
“จะกลับไปนอนไหม?” ลู่ชิงสียกแขนของเขาขึ้นและผลักมือของเหวยฉีที่กำลังหยอกล้อภรรยาของเขา จากนั้นเขาก็ดึงร่างเล็ก ๆ ของเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาแล้วถามอย่างอ่อนโยน
หญิงสาวในอ้อมแขนของเขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ เธอตอบว่า “ก็ได้ค่ะ เขาเสียงดัง ยังกับจั๊กจั่น!”
“...” เหวยฉีเจ็บปวดถึงขีดสุดและต้องการรับการเยียวยา
“ฉันขอพาเธอกลับไปพักก่อน พวกนายสนุกกันต่อเถอะ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงค่อยทานข้าวด้วยกัน ช่วงบ่ายฉันจะพาเธอกลับเมืองจิน” ลู่ชิงสีไม่ได้เตรียมที่จะให้ภรรยาของตนกลายเป็นของเล่นของทุกคน เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนและพาเธอเดินออกไป
ผู้หญิงคนนี้ปกติแล้วขี้อายมาก ทว่าตอนเมา ความขี้อายนั้นหายไปไหนเสียหมดก็ไม่รู้
ในขณะที่ลู่ชิงสีอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน เธอก็หัวเราะคิกคักจนพวกเขาออกไปจากห้อง
“ภรรยาของชิงสีค่อนข้างน่าสนใจ” กู้ฮ่าวอวี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน เมื่อเขาพูด เขายกมือขึ้นปรับแว่นตาที่สันจมูก พร้อมกับพูดต่อ “เหมือนกับเหลาหรุน ตอนที่ยังเด็กเลย”
ความสุขในแววตาของเหลียงเยวื่อจือจางหายไปในทันที
“ฮ่าวอวี้ ชิงสีกับฉันก็แต่งงานละนะ แล้วนายล่ะ? นายไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาลงหลักปักฐานได้แล้วมั้ง? อย่ารอจนกว่าลูก ๆ ของฉันกับเหลาหรุนเรียกนายว่าอา ทั้งที่นายยังโสดล่ะ” เหลียงเยวื่อจือมองไปที่หลัวเหลาหรุนที่กำลังเล่นไพ่กับเหวยฉีและซวีเหยา เขาโค้งมุมริมฝีปากของเขาขึ้น “เหลาหรุน บอกว่าเธออยากมีลูกสามคน แม่ฉันจะได้มีเพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก คิด ๆ ไปแล้ว ก็คงต้องใช้เวลาห้าปี กว่าจะสำเร็จตามที่ตั้งใจ”
“เยวื่อจือ เหลาหรุนบอกว่าเธออยากมีลูกหนึ่งทีมฟุตบอลต่างหากล่ะ” เหวยฉีตะโกนเสียงดัง
กู้ฮ่าวอวี่หมุนแก้วไวน์ในมือของเขา เขาไม่ตอบสนองต่อคำพูดของเหลียงเยวื่อจือ ขณะที่เขาเองก็รู้ดีว่าเยวื่อจือหมายถึงอะไร
ความจริงก็คือ เด็กผู้หญิงที่เติบโตมาพร้อมกับเขา คือคนที่เขารักที่สุดได้กลายเป็นภรรยาของเพื่อนสนิทที่สุด และตอนนี้ได้กลายเป็นพี่สะใภ้ของเขาไปเสียแล้ว
...
ลู่ชิงสีอยู่ในห้องบนชั้นสิบสอง หลังจากที่เขาออกมาจากชั้นแปด เขาก็ขึ้นลิฟต์ทันที
เขามีบ้านหลายหลังที่เมืองจินโด แต่เพราะไม่ค่อยได้อยู่ บ้านจึงไม่ได้เฟอร์นิเจอร์ใด ๆ เพราะอย่างนั้นเวลาที่มาเมืองจินโด เขามักจะเลือกพักที่โรงแรมเพราะสะดวกกว่า
เขาหยิบการ์ดสำหรับเปิดประตูออกมา เมื่อเปิดประตูได้แล้ว เขาอุ้มหญิงสาวไปวางไว้บนเตียง ก่อนจะหันไปล็อคประตู เมื่อเขาหันกลับมาอีกครั้ง หญิงสาวที่ควรจะนอนอยู่บนเตียงกลับวิ่งเข้ามาในอ้อมแขนของเขา สิ่งที่เขาได้ยินคือเสียงเธอหัวเราะคิกคัก
เธอเตะรองเท้าส้นสูงและเหยียบที่กระเบื้องสีขาวด้วยเท้าเปล่า ผิวเท้าเล็ก ๆ ของเธอสวยกว่าสีของกระเบื้องเสียอีก
“ซื้อน้ำผลไม้ให้ฉันหน่อย ได้ไหมคะ”
เธอเขย่งปลายเท้าและวางแขนโอบรอบคอของเขา จนถึงตอนนี้เธอยังคงโหยหาน้ำผลไม้แสนอร่อย และยังอ้อนวอนของให้เขาซื้อให้เธอ
หลังจากได้ยินเสียงที่อ่อนโยนและไพเราะของเธอตลอดทั้งคืน เขาไม่ยักกะเบื่อเลยสักนิด
ในที่สุดลู่ชิงสีก็ไม่สามารถต้านทานได้ เขาพยักหน้าและตอบตกลง
หญิงสาวเมื่อได้ยินคำตอบของเขา เธอดีใจทั้งกอดและจูบเขาอย่างมีความสุข จากนั้นเธอก็วิ่งกลับไปที่เตียงและขึ้นไปนนอ
ลู่ชิงสีดึงเนคไทของเขาออกและโยนมันลงบนโซฟา เขาถอดเสื้อคลุมและนอนบนเตียงโดยเลียนแบบท่าของเธอ เมื่อมองดูผมยุ่ง ๆ ของเธอ เขายื่นมือออกไป อยากจะรวบผม เมื่อเธอหันกลับมาและสบตากับเขาในทันใด
หลังจากมองดูดวงตาที่เย้ายวนของเธอ ลู่ชิงสีอดไม่ได้ที่จะโยนหิถามทาง ด้วยการเรียกชื่อเธอออกมาเบา ๆ “เหยาเหยา”
นั่นคือชื่อเล่นที่ครอบครัวของเธอตั้งให้ตอนเธอยังเด็ก ชื่อนั้นติดอยู่ปลายลิ้นของเขาเสมอ นี่คือครั้งแรกที่เขาเรียกเธอด้วยชื่อนี้
__
เช่นเดียวกับที่เขาคิดมาตลอด ชื่อนี้เป็นชื่อที่น่ารักที่สุดในโลก
เหยาเหยา เหยาเหยาของเขา
คนรักที่เขาจารึกไว้บนกระดูกของเขา ผู้ที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในชีวิตของเขา
เสียงเคาะประตูขัดจังหวะทั้งสองคนที่กำลังจ้องมองกันและกัน ลู่ชิงสีลุกขึ้นไปเปิดประตู เขารับซุปแก้อาการเมาค้างจากพนักงาน
หญิงสาวที่อยู่บนเตียงลุกขึ้นนั่งอย่างเกียจคร้านแต่เธอไม่ได้ลงจากเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองไปยังสิ่งที่เขาถืออยู่ในมือ เมื่อเห็นว่าไม่ใช่สิ่งที่เธอสนใจ เธอก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง
ลู่ชิงสีขอให้เจียงเหยาลุกขึ้นมาและดื่มซุปแก้อาการเมาค้างอย่างอ่อนโยน ปฏิบัติกับเธอราวกับลูกสาวของเขา จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องน้ำและเติมน้ำลงในอ่างอาบน้ำ หลังจากเติมน้ำจนเต็มอ่างแล้ว กลับออกมานอกห้องน้ำ ก็พบว่าเจียงเหยานอนเหยียดตัวอยู่บนเตียงแล้ว
ท่านอนนั้นบ่งบอกว่าเธอกำลังสบาย เหมือนกับเด็กน้อยที่ดื้อรั้น ลู่ชิงสีทนไม่ได้ที่จะปลุกเธอให้ตื่นขึ้น
คืนนี้เป็นคืนที่สงบสุข ลมพัดอ่อน ๆ ท้องฟ้าแจ่มใส พระจันทร์สดใจ เมืองจินโดในวันพรุ่งนี้ต้องอากาศดีอย่างแน่นอน
เจียงเหยาตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเที่ยงคืน เพราะกระหายน้ำ เมื่อเธอลืมตาตื่น เธอได้ยินเสียงของลู่ชิงสี “ตื่นแล้วเหรอ”
เธอหันกลับมามองชายที่อยู่ข้าง ๆ เธอด้วยความตกใจ และเห็นว่าร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าอยู่ ผ้าขนหนูคลุมที่เอวเพียงบางส่วนเท่านั้น เขานอนตะแคงข้าง ดวงตาของเขาชัดเจนราวกับว่าเขายังไม่ได้หลับ
“กี่โมงแล้วคะ” เจียงเหยารู้สึกว่าความทรงจำบางส่วนของเธอหายไป
เธอจำได้ว่าเธอไปที่ห้องรับรองส่วนตัวนั่งข้าง ๆ ลู่ชิงสี เพื่อร่วมสังสรรค์กันต่อหลัง 3 ทุ่ม เธอจำไม่ได้ว่าเธอได้ทำอะไรไปบ้าง และกลับตอนกี่โมง จำรายละเอียดไม่ได้เลยสักนิด
เธอสังเกตเห็นว่าเธอเปลี่ยนเป็นชุดนอนที่นำมาด้วยแล้ว อีกอย่างเธอรู้สึกว่าร่างกายของเธอสะอาดและสบายตัว แม้แต่เครื่องสำอางบนใบหน้าก็ถูกเช็ดออกจนหมด แต่เธอจำการอาบน้ำก่อนเข้านอนไม่ได้สักนิด
เขาหยุดแล้วพูดว่า “ไม่ดื่มอีกแล้วนะ! ถ้าคุณอยากดื่มต้องได้รับอนุญาตจากผม และต้องมีผมอยู่ข้าง ๆ คุณ”
ความจริงก็คือเธอดูเจ้าชู้มากเมื่อเธอเมา จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนอื่นเห็นเธอตอนเมาและพยายามจะเอาเปรียบเธอ เขาจะปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นไม่ได้
“เมื่อคืนฉันดื่มเหรอคะ?” เครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นบนหัวของเจียงเหยา
“นั่นคือไวน์เชอร์รี่ ไม่ใช่น้ำเชอร์รี่” ลู่ชิงสีใช้โอกาสนี้และสอนเธอ “ไวน์เชอร์รี่นำเข้ารสชาติจะเหมือนน้ำผลไม้ มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่น้อยไปกว่าไวน์แดงทั่วไป อีกอย่างอาการเมาค้างจะมากกว่าไวน์แดงทั่วไปเสียอีก”
หัวของเจียงเหยาว่างเปล่า เธอเกาศีรษะของตนเอง “มิน่า เมื่อคืนฉันถึงรู้สึกว่าโลกหมุนไปหมด” ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอจะเป็นยังไง แค่ได้รับแอลกอฮอล์เพียงเล็กน้อย เธอก็เริ่มเวียนหัวแล้ว
“เมื่อคืนฉันดื่มไปมากหรือเปล่า? ฉันทำอะไรแปลก ๆ ออกไปหรือเปล่าคะ?” เจียงเหยาเริ่มสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่เธอเมา เธอเคยเห็นหลายคนที่ต้องอับอายตัวเองหลังจากทำอะไรลงไปตอนเมา คนที่เริ่มพูดมากตอนเมาไม่เท่าไหร่ เธอเคยเห็นคนที่ฉี่ไปเสียทุกที่ หรือตะโกนดังลั่นอย่างบ้าคลั่ง เรื่องพวกนี้น่าอายขนาดไหน
“เปล่า คุณเชื่อฟังมาก” ลู่ชิงสีบอกความจริงกับเธอ เจียงเหยาเชื่อฟังมากตอนที่เธอเมา
ตอนที่ช่วยเธออาบน้ำ เธอยกแขนขึ้นเมื่อเขาบอกให้เธอทำ เธอลงไปในอ่างอาบน้ำตอนที่เขาบอกให้เธอลงไปในนั้น จากนั้นเธอก็จ้องเขาด้วยสายตาไร้เดียงสาและรอคำสั่งจากเขา ถ้าเขาไม่พูดอะไร เธอจะนั่งสบตากับเขาอยู่อย่างนั้น
เมื่อเขาถอนเสื้อของเขาและวางขาข้างหนึ่งในอ่างอาบน้ำ เธอก็ขยับที่ให้เขา เมื่อน้ำไหลออกจากอ่างอาบน้ำ เธอยังจริงจังกับมัน และเริ่มพูดว่าอ่างอาบน้ำมีขนาดเล็กเกินไป