425 - เบาะแส
425 - เบาะแส
"อะไรนะ มีคนแจ้งเบาะแส!"
สวนแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ มีกำแพงหินหนาทึบปิดบังอยู่รอบนอกคล้ายกับป้อมปราการขนาดใหญ่ สัตว์กลายพันธุ์หลายสิบตัวผูกติดอยู่ในสวน แต่ละตัวดุร้ายและทรงพลัง
เย่ฟ่านยืนอยู่ในสวนและไม่รอนาน ผู้บ่มเพาะรุ่นเยาว์ของตระกูลจี้หลายสิบคนรีบวิ่งออกมา ทุกคนต่างก็แสดงท่าทางตื่นเต้นอย่างเต็มที่
“เจ้าคนพิการนั่งอยู่ที่ไหน รีบพาพวกเราไป?” ชายหนุ่มที่นำหน้าถามด้วยความร้อนรน
ชื่อของเขาคือจี้อวิ๋นเฟิงและเขาเป็นผู้ฝึกตนอาณาจักรตำหนักเต๋าขั้นห้า
“ถ้าข้าให้เบาะแส เจ้าจะให้ต้นกำเนิดจำนวนหนึ่งแสนจินแก่ข้าทันทีหรือไม่” เย่ฟ่านถาม
“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร”
ผู้ฝึกตนตระกูลจี้ยืนขึ้นและพูดอย่างเย็นชาว่า
" ให้เบาะแส แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เรายังไม่ได้ตัวเขามาเจ้ากล้าที่จะปล้นพวกเรากลางวันแสกๆหรือ?" ชายหนุ่มคนหนึ่งส่งเสียงคำรามด้วยความไม่พอใจ
"ในที่สุดเจ้าเด็กแซ่เย่ก็หนีไม่พ้น คราวนี้ข้าจะขยี้เขาให้แหลกเป็นเถ้าธุลี คนพิการอย่างเขาทำให้เราต้องวิ่งไปวิ่งมา ความจริงเขาสมควรตายตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน" จี้อวิ๋นเติ้งเยาะเย้ยออกมาทันที
คนพิการที่ว่านั้นอยู่ในระดับอาณาจักรตำหนักเต๋าขั้นสองของ แม้ว่าอาณาจักรบ่มเพาะนั้นจะไม่มีอะไรเลยแต่ก็สร้างความปวดหัวให้กับยอดฝีมือรุ่นเดียวของตระกูลจี้มาหลายปี
พวกเขาทั้งหมดต้องการที่จะฆ่าเย่ฟ่านอย่างถึงที่สุด
นี่ไม่ใช่เป็นเพียงเพราะการค้นหาที่น่าเบื่อมาตลอดหลายเดือน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเย่ฟ่านเคยสั่งหารผู้อาวุโสระดับผู้สูงสุดของตระกูลจี้ของพวกเขามาแล้ว!
“พาเราไปที่เทือกเขานั้นก่อน ถ้าเบาะแสเป็นจริงผลประโยชน์ของเจ้าจะไม่ขาดตกบกพร่องอย่างแน่นอน”
จี้อวิ๋นเฟิงยิ้มในขณะที่หลายคนแสดงความรังเกียจ พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าเด็กคนนี้จะกล้าขอรางวัลจากตระกูลจี้จริงๆ ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจและดูถูกในเวลาเดียวกัน
พวกเขาเคยได้รับเบาะแสเช่นนี้มาก่อน แต่พวกเขาทั้งหมดต้องเสียเวลาโดยเปล่า
"ข้าคิดว่ามีประกาศชัดเจนว่าตราบใดที่ให้เบาะแสจะได้รับต้นกำเนิดหมื่นจิน" เย่ฟ่านกล่าว
"จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเบาะแสที่เจ้าให้มานั้นเป็นของปลอม?" จี้อวิ๋นเติ้งเย้ยหยันอย่างดูถูก
“ในปฐพีนี้จะมีใครกล้าเล่นตลกหลอกลวงตระกูลจี้บ้าง นอกจากนี้ข้าจะพาเจ้าไปที่นั่น หากข้าหลอกลวงพวกเจ้านี่จะไม่ใช่การรนหาที่ตายหรือ?” เย่ฟ่านพยายามหว่านล้อม
"เจ้าน่าสนใจจริงๆ!" ใบหน้าของจี้อวิ๋นเติ้งเย็นชา
“เจ้ากล้าถามหาต้นกำเนิด”
“เราไม่มีเวลาให้ล่าช้า ไปที่ลานหินเพื่อรวบรวมหินต้นกำเนิดห้าพันจินมาก่อน!” จี้อวิ๋นเฟิงโบกมือและกล่าวว่า
“จ่ายให้เจ้าล่วงหน้าก่อนครึ่งนึง หากเบาะแสของเจ้าเป็นความจริงเจ้าจะได้รับอีกห้าพันอย่างแน่นอน ตระกูลจี้ของพวกเรามีชื่อเสียงเลื่องลือย่อมไม่คิดจะหลอกลวงเด็กน้อยเช่นเจ้า”
ใช้เวลาไม่นานก็มีคนเอาหินต้นกำเนิดน้ำหนักห้าพันจินออกมา พร้อมกับส่งให้เย่ฟ่าน เย่ฟ่านก็ไม่ได้แสดงความอิดออด เขารับพวกมันมาถือไว้ด้วยรอยยิ้ม
“เอาล่ะพาเราไปที่ภูเขา” จี้อวิ๋นเติ้งแค่นเสียง เจตนาฆ่าของเขาชัดเจนอย่างยิ่ง
จี้อวิ๋นเฟิงยิ้มไม่พูดอะไรเขาโบกมือและให้ทุกคนขี่สัตว์อสูรออกไป ในเวลาเดียวกันพวกเขายังหาสัตว์อสูรให้เย่ฟ่านเพื่อใช้เป็นพาหนะอีกด้วย
ยอดฝีมือหลายสิบคนเร่งรีบออกจากเมืองทำให้ผู้คนมากมายเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นพวกเขารีบร้อนทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างๆก็คิดว่าเรื่องใหญ่กำลังจะมาถึงอีกครั้ง
สัตว์อสูรเหล่านี้ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกัน หลังจากออกจากเมือง พวกมันทั้งหมดบ้างก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า บ้างก็วิ่งอยู่บนพื้น แต่ทิศทางนั้นคือเทือกเขาที่เย่ฟ่านชี้ทาง
"มันเป็นภูเขาที่อยู่ด้านหน้านั่นเอง" เย่ฟ่านชี้ไปที่ภูเขาเขียวชอุ่มข้างหน้า
ยอดฝีมือรุ่นเดียวของตระกูลจี้ต่างก็ลงมือพร้อมภูเขานั้นไว้อย่างรวดเร็ว
“มีค่ายกลอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าจะต้องเป็นดินแดนลึกลับที่เด็กน้อยคนนั้นสร้างขึ้น” ศิษย์ตระกูลจี้ก้าวไปข้างหน้า เขาศึกษาอักขระเผาและทำลายค่ายกลอย่างรวดเร็ว
ผู้คนหลายสิบคนต่างก็วิ่งไปทั่วยอดเขา หลังจากครึ่งชั่วยามผ่านไปในที่สุดพวกเขาก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
"ไม่มีใครอยู่ที่นี่!"
“อย่ามองข้าแบบนี้ มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้า ข้าแค่ให้เบาะแส ใครจะรู้ว่าเขาจากไปอย่างกะทันหัน” เย่ฟ่านพูดอย่างไร้เดียงสา
จี้อวิ๋นเฟิงโบกมือและเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นบรรดาพี่น้องของเขาก็ตามไปอย่างรวดเร็ว
"ชุดนี้เหมือนกับชุดที่เขาสวมในวันนั้น ไม่ผิดแน่ที่นี่คือที่อยู่ของเขา!"
“ดูสิ มีร่องรอยของการเปิดประตูมิติที่นี่ ถ้ำเล็กๆนี้ถูกขุดขึ้นมาด้วยฝีมือของมนุษย์อย่างแน่นอน!”
ศิษย์ของตระกูลจี้พบเบาะแสสำคัญมากมายอย่างรวดเร็ว และพวกเขาทั้งหมดได้แต่คำรามด้วยความโกรธ
“ให้ตายเถอะ ปล่อยให้เขาหนีไปได้อีกหรือ เจ้าเด็กนี่ตายยากตายเย็นจริงๆ!”
ผู้ฝึกตนตัวเล็กๆอาณาจักรตำหนักเต๋าชั้นสองปั่นหัวพวกเขามาหลายเดือนแล้ว พวกเขาจะระงับความโกรธแค้นไว้ได้อย่างไร
“พวกเจ้าเชื่อแล้วใช่ไหม ข้าจะไม่กล้าให้ข้อมูลเท็จหรอก”
เย่ฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้มโดยไม่สนใจไอสังหารของผู้คนจากตระกูลจี้แม้แต่น้อย
"หลังจากกลับไปพวกเจ้าจะจ่ายส่วนที่เหลือใช่หรือไม่?"
"เจ้าไม่กลัวว่าเราจะฆ่าเจ้าที่นี่เหรอ" จี้อวิ๋นเติ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ก่อนที่ข้าจะมาหลายคนในเมืองรู้ว่าข้าออกมาจากเมืองเพื่อให้เบาะแสแก่เจ้า หากพวกเจ้ากล้าทำลายชื่อเสียงของตระกูลจี้ข้าก็ไม่คิดว่าจุดจบของพวกเจ้าจะดีไปกว่าข้าอย่างแน่นอน”
เย่ฟ่านไม่สนใจ ในบรรดาคนเหล่านี้ระดับสูงสุดอยู่เพียงอาณาจักรตำหนักเต๋าชั้นห้า หากจะพูดถึงเรื่องความเร็วไม่มีใครในอาณาจักรตำหนักเต๋าสามารถไล่ตามเขาได้
จี้อวิ๋นเฟิงยิ้มและพูดว่า " ข้าจะจ่ายให้เจ้าอีก 5,000 จินหลังจากที่ข้ากลับไป ตระกูลจี้ย่อมรักษาคำพูด"
“เด็กน้อยคนนี้มีความทะเยอทะยานจริงๆ เขากล้าที่จะขู่กรรโชกตระกูลจี้ของเรา!” เด็กหนุ่มตระกูลจี้กล่าวอย่างเย็นชา
“หุบปาก!” จี้อวิ๋นเฟิงหันกลับมาตะคอกเด็กหนุ่มคนนั้น
"นี่เป็นรางวัลที่ตระกูลจี้ตั้งไว้ ถ้าเจ้ายังกล้าทำลายชื่อเสียงของตระกูลเราอีกอย่าหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!"
หลังจากนั้นไม่นานหินต้นกำเนิดห้าพันจินก็ถูกรวบรวมจากเด็กหนุ่มของตระกูลจี้ทุกคน จี้อวิ๋นเฟิงเป็นคนมอบมันให้กับมือของเย่ฟ่าน
เย่ฟ่านขอบคุณเขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าก่อนจะเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
“เบาะแสนี้ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย พวกเราจะมอบต้นกำเนิดให้เจ้าเด็กบ้านนอกนั้นจริงๆ!” มีคนอารมณ์เสีย
จี้อวิ๋นเฟิงมองดูพวกเขาเล็กน้อยและพูดว่า
"ผู้คนในเมืองกำลังเฝ้าดูอยู่ เจ้าต้องการฆ่าเขาที่นี่หรือ?"
ทันใดนั้นใบหน้าของจี้อวิ๋นเฟิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
"จี้อวิ๋นเติ้งและจี้อวิ๋นเปียวไปไหน?"
" พวกเขาตามเจ้าเด็กบ้านนอกไปแล้ว "
"ถ้าเรื่องมันกระจายออกไปคนอื่นจะพูดถึงตระกูลจี้เราว่าอย่างไร !"
จี้อวิ๋นเฟิงกระแทกฝ่ามือใส่โต๊ะหินจนแตกกระจาย หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูดว่า
"ส่งคนไปจัดการเพิ่มเติม พวกเจ้าต้องเก็บกวาดให้ดี"