ตอนที่ 311+312 ไม่เมา
ลู่ชิงสีจับมือเจียงเหยาตลอดงานแต่งงาน ไม่อยากปล่อยเธอ การที่มีเธออยู่เคียงข้างมักจะมีคำถามตามมาในที่จุดที่เขาเดินผ่าน เขาก็ตอบด้วยคำตอบสั้น ๆ และรัดกุมเช่นเคย
“เธอคือภรรยาของผมครับ”
คำพูดเรียบง่ายแต่ชัดเจน เขาไม่ได้แนะนำเธอเพิ่มเติมไปมากกว่านั้น และไม่มีใครถามอะไรเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน โดยเข้าใจว่าเขาพยายามปกป้องเธอ ไม่เปิดเผยข้อมูลที่ไม่จำเป็น
ในบางครั้ง อาจมีใครบางคนเดินมาชนแก้วกับทั้งคู่ ลู่ชิงสีจึงส่งแก้วไวน์ผลไม้ให้เจียงเหยาแก้วหนึ่ง เตือนให้เธอจิบเพียงเล็กน้อยหลังจากชนแก้วอวยพรก็เท่านั้น
“ค่ะ” เธอถือแก้วไว้ใกล้จมูกแล้วดมกลิ่น จากนั้นก็จิบเครื่องดื่มอย่างรวดเร็วและชมรสชาติของเครื่องดื่ม ‘นี่ไม่ใช่แค่น้ำผลไม้หรอกเหรอ’เจียงเหยาคิด ‘ทำไมเขาถึงบอกแค่ให้จิบ ๆ เท่านั้นล่ะ’
เจียงเหยากระหายน้ำ เธอจึงดื่มน้ำผลไม้จนหมดแก้ว รสชาติของมันน่าอัศจรรย์เหมือนกับน้ำผลไม้สดทั่วไป
งานเลี้ยงเลิกตอน สามทุ่ม เหลียงเยวื่อจือและหลัวเหลาหรุนกลับมาที่ห้องโถงพร้อมกับพ่อแม่ของพวกเขา พูดคุยกับเพื่อส่งแขกพร้อมกับกล่าวขอบคุณที่มาร่วมงาน พี่น้องที่เหลือของเขาถูกทิ้งให้รอที่ห้องคาราโอเกะบนชั้นแปด
ลู่ชิงสีรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเจียงเหยา ขณะที่พวกเขาออกจากห้องจัดงานเลี้ยง ย่างก้าวของเธอเบาลง และเธอโอนตัวมาทางเขาตลอดเวลาที่พวกเขาเดิน
“เกิดอะไรขึ้น? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” ลู่ชิงสีวางมือบนหน้าผากของเจียงเหยา ร่างกายเธออุ่นเมื่อเขาสัมผัส เป็นไข้หรือเปล่า?
“ฉันไม่เป็นไรคะ รู้สึกเหมือนทุกสิ่งรอบตัวหมุน แปลก ๆ” เจียงเหยาตอบเบา ๆ
“อย่าปล่อยให้ฉันเดินคนเดียวนะคะ ได้ไหม”
“คุณดื่มมากไปหรือเปล่า” เฉินซวีเหยาที่กำลังรออยู่หน้าลิฟต์ถามลู่ชิงสี
“ฉันไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์เลยนะคะ ดื่มแค่น้ำเชอร์รี่” เจียงเหยาส่ายหน้า
เมื่อได้ยินดังนั้น การสนทนาทั้งหมดก็หยุดลงและไม่มีใครพูดอะไรอีก
ในที่สุด หยางนี่ก็กลั้นไว้ไม่อยู่ เธอหัวเราะออกมา “น้ำผลไม้ที่พี่ดื่ม สีดำ ๆ รสหวาน ๆ ใช่ไหม”
“ใช่ ลู่ชิงสีเอาให้ฉัน” เจียงเหยาพยักหน้า ตอบอย่างจริงใจ
เธอไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ในน้ำผลไม้นั้นเลย
ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่เคยเมามาก่อน
ครั้งเดียวที่เธอดื่มคือในงานแต่งงานของเธอ แต่ตอนนั้นก็แค่จิบ ๆ
เธอไม่รู้ว่าอาการเมามันเป็นยังไง เพราะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
เมื่อนึกถึงน้ำผลไม้ที่เธอดื่ม เจียงเหยาก็ดึงแขนเสื้อของลู่ชิงสี เขย่งเท้า ปากขยับเข้าใกล้ใบหูของเขา ทว่าเสียการทรงตัวและเผลอจุ๊บเข้าที่ใบหูของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ก่อนจะเบือนหน้าหนี
“ซื้อน้ำเชอร์รี่ให้ฉันด้วยสิคะ มันอร่อยดี ฉันว่าจะเอาไปฝากเวินเสวี่ยฮุ่ย เธอน่าจะชอบเหมือนกัน”
__
“ฮ่าฮ่า..” หยางนี่เป็นคนแรกที่หัวเราะขณะที่ใช้มือป้องปากไปด้วย
“ไม่!” ลู่ชิงสีปฏิเสธทันทีอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าเจียงเหยาดื่มไม่ไหว เขาเลยเตือนเธอให้ดื่มน้อย ๆ หน่อย แต่เพราะอะไร เธอไม่ฟังเขา แล้วปล่อยให้ตัวเองเมาอย่างนี้
เป็นเพราะเธอคิดว่าสิ่งที่เขามอบให้คือน้ำผลไม้ และมันอร่อย จึงดื่มเข้าไปจนหนำใจ?
คำแนะนำของเขากลับถูกเพิกเฉย?
เธอเมาแต่ยังไม่ลืมที่จะจีบเขา ถึงขั้นโลมเลียติ่งหูเขา แล้วยังจะขอให้เขาซื้อไวน์เชอร์รี่ให้เธอนำกลับไปหนานเจียงอีก
“คุณนี่งกจริง ๆ” เจียงเหยาขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจและยืนอยู่ตรงนั่นโดยไม่คิดจะห่างไปไกลจากเขา อาจเป็นเพราะเธอเมามาก เธอรู้สึกว่าโลกทั้งใบหมุนรอบตัวเธอ เธอยกแขนขึ้นขยี้ตาก่อนจะกระพริบตาอย่างสุดกำลัง
หลังจากดื่มไวน์เข้าไป แก้มนวล ๆ เริ่มออกสีกุหลาบ ดวงตาเหมือนพระจันทร์เสี้ยวกะพริบไม่หยุด เธอมองดูคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเธอพร้อมกับทำปากเล็ก ๆ ราวกับเขอร์รี่ที่ปิดปากไว้ ทันใดนั้นริมฝีปากก็ขยับ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังพึมพำเกี่ยวกับอะไร
เธอคงจะบ่นว่าสามีว่าขี้เหนียว
“อ๊ะ เจียงเหยานี่น่ารักจริง ๆ” เหวยฉียิ้มและหัวเราะ “ชิงสี รับปากเธอไปเถอะ ให้เธอได้ดื่มบ้างเป็นครั้งคราว”
เหวยฉีคิดว่าในอนาคต หากเขามีภรรยาที่น่าสนใจหลังจากเธอเมา เขาจะปล่อยให้ภรรยาของเขาดื่มทุก ๆ สองหรือวามวันอย่างแน่นอน จะได้ไม่เบื่อ
ซวีเหยาไม่สามารถหยุดหัวเราะได้หลังจากเห็นฉากนี้ ปฏิกิริยาของเจียงเหยา เวลาที่เธอเมานี่น่าขบขันที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น
ลู่ชิงสีมองไปที่เจียงเหยาอย่างเงียบ ๆ เขารู้ว่าเธอเมา ไม่อย่างนั้นเธอไม่พูดเยอะขนาดนี้
ถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ข้างนอกในตอนนี้ เขาคงตรึงเธอไว้บนเตียงไปแล้ว
“เจียงเหยา! ชิงสีเขาไม่ซื้อให้คุณ เพราะเขางกน่ะสิ ฉันซื้อให้คุณเอง! นี่ คุณอยากได้เท่าไหร่ล่ะ เดี๋ยวฉันส่งไปให้” ซวีเหยาคิดว่ามันไม่มากเกินไปที่จะเข้าร่วมวงด้วย หลังจากที่เขารับปากกับเธอ เขาก็ถามอย่างหน้าไม่อายว่า “เจียงเหยา ฉันใจกว่างมากกว่าชิงสีใช่ไหม”
เจียงเหยาพยักหน้าและส่งเสียงฮึมฮัม
คราวนี้ลู่ชิงสีแอบเสียใจจริง ๆ ภรรยาของเขาช่างเนรคุณเสียจริง? เงินของเขาก็อยู่ในมือของเขาทั้งหมด แต่เธอกลับต่อว่า ว่าเขางก?
หลังจากที่เธอสร่างเมาแล้ว เขาต้องพยายามหาทางอธิบายกับเธอให้ได้
“แล้วเจียงเหยา ระหว่างฉันกับชิงสี ใครหล่อกว่ากัน?” น้ำเสียงของซวีเหยาอ่อนโยนเป็นพิเศษ ราวกับกำลังคุยกับเด็กสามขวบ
เจียงเหยาหาว เธอเหลือบมองซวีเหยาและหันกลับมามองดูชายที่อยู่ข้าง ๆ เธอ หลังจากครุ่นคิดสักครู่ เธอก็โพล่งออกมาว่า “ชิงสีหล่อกว่าคุณ”
หลังจากพูดจบ เธอก็เอนตัวลงบนไหล่ของลู่ชิงสี ทำตัวราวกับว่าผู้หญิงที่เรียกเขาว่างก ไม่ใช่เธอ เธอหันกลับมากอดเขาเหมือนตัวเธอเป็นงู
คิ้วของลู่ชิงสีสั่นไหว เขาเหลือบมองซวีเหยาอย่างเย้ยหยันซึ่งทำหน้าเคร่งขรึมและเตะหลังของซวีเหยา “อย่าทำให้เจียงเหยาตกใจหน้าตาน่าเกลียดของนายเลยน่า”
ซวีเหยามีสีหน้าพ่ายแพ้ก่อนจะหันหลังกลับอย่างรวดเร็วและทำท่าเย็นชา
ลู่ชิงสีไม่สนใจเขาและแขนของเขาก็ถูกเจียงเหยากอดไว้แน่น
“ฉันขอพาเจียงเหยากลับห้องก่อน พวกนายไปกันก่อนเลย” ลู่ชิงสีกล่าว
“ไม่เอาน่า” ซวีเหยาหันกลับมา “เราไม่ค่อยได้เจอกันแบบนี้ พี่จะทิ้งเราไปกับเจียงเหยาเหรอ? แล้วฮ่าวอวี้ล่ะ ฮ่าวอวี้ปีหนึ่งได้กลับมากี่ครั้งเชียว ไม่สิ อีกกี่ปีถึงจะได้มาเจอกัน พวกเรายังได้เจอกันเพราะอยู่ประเทศเดียวกัน แต่ฮ่าวอวี้ นานแค่ไหนแล้วที่พี่ไม่เจอฮ่าวอวี้?”