ตอนที่ 309+310 อยู่ให้ห่าง
ร่างชายหนุ่มที่สะท้อนอยู่ในกระจกค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้ และโอบแขนรอบเอวของเจียงเหยา พร้อมกับวางคางลงบนไหล่ของเธอ เขาจุมพิตข้างแก้มของเธอโดยไม่พูดอะไร
“ผมไม่เห็นมีคู่แข่งความรักอยู่ที่นี่เลยนะ” ลู่ชิงสีพูดอย่างเฉยเมย “ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอสักหน่อย”
เขาเงยหน้าขึ้นและหันเธอให้มาเผชิญหน้ากับเขา
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกอยากจูบเธอขึ้นมา เมื่อเขายืนเผชิญหน้ากับเธอ
ตอนนี้เขาเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก
เหลียงเยวี่ยจือ พี่ใหญ่ของเขาได้แต่งงานกับคนรักที่คบหากันมานาน
ผู้หญิงที่เฉยเมยกับเขามาตลอดทั้งปี รู้สึกหึงและโกรธที่มีผู้หญิงคนอื่นเขามายุ่มย่ามกับเขา
ลู่ชิงสีชอบอารมณ์ชอบเจียงเหยา เขาต้องการให้เธอรักษาความรู้สึกนี้ไว้
ทั้งคู่ต้องการกันและกัน นั่นคือความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
เขาจูบลงไปโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
ริมฝีปากของเขาเชื่อมต่อกับเธอ เขาดูดดึง ปิดบังช่องทางหายใจของเธอด้วยความหลงใหลของเขา
เจียงเหยาตอบสนองตามสัญชาตญาณ ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ความสนิทสนมที่พวกเขาแบ่งปันกันบ่อยครั้งขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เธอตอบสนองตามได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม
เธอไม่เคยบอกเขาว่าเธอชอบจูบของเขาแค่ไหน ชอบที่ดวงตาของเขาสะท้อนแต่ภาพของเธออยู่ในนั้น
ในกองทัพ ลู่ชิงเป็นของกองทัพ แต่เมื่อเขาจูบเธอ เขาเป็นของเธอเท่านั้น
กลับมาที่ห้องจัดเลี้ยง เมื่อเห็นลู่ชิงสีและเจียงเหยาเข้ามาจากประตูด้านข้าง เหลียงเยวี่ยจือ เรียกหยางนี่มาถามว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังได้ยินว่าเฉินเฟยถังเข้าไปพูดคุยกับเจียงเหยาตามลำพัง หลังจากนั้นเจียงเหยาและลู่ชิงสีก็ออกไปด้านหลังห้องจัดเลี้ยง เหลียงเยวี่ยจือไม่สามารถซ่อนความระคายเคืองของเขาได้อีกต่อไป
“เฉินเฟยถังงั้นเหรอ?” หลังเหลาหรุนเขย่าแก้วไวน์ของเธอและหัวเราะออกมา “ผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เลย คุณคิดว่าเจียงเหยาจะเอาชนะได้ไหม?”
“ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรกับเจียงเหยาน่ะสิ เท่าที่รู้คือเธอดูโกรธตอนที่พี่ลู่พาเธอออกจากห้องจัดงานเลี้ยง ฉันล่ะหวังว่าพวกเขาจะไม่ทะเลาะกันหรอกนะ” โจวเหวยฉีมองไปที่เฉินเฟยถังที่หันหลังให้กับพวกเขา โดยมีความไม่พอใจปรากฏในแววตาพร้อมกับข้อสงสัยว่าทำไมหญิงสาวคนนั้นถึงเข้าไปคุยกับเจียงเหยา?
หากพวกเขาเริ่มทะเลาะกันในงานแต่ง ปัญหาก็คงจะเกินควบคุม และทำลายคืนที่ดีของทุกคน
“ฉันว่า ฉันควรเข้าไปหาพวกเขาจะดีไหม” กู้ฮ่าวอวี่ซึ่งมีปฏิสัมพันธ์กับเจียงเหยาน้อยที่สุด เสนอเข้าไปช่วยเหลือ
“ไม่ต้องหรอก” เหลียงเยวียจือหยุดเขาไว้ “พวกเราอย่าเข้าไปยุ่งกับเรื่องของสามีภรรยาคนอื่นเลย”
จากนั้นเขาก็เรียกหลัวเหลาหรุนที่กำลังขยิบตาให้กับกู้ฮ่าวอวี่ ให้ออกไปช่วยดื่มเป็นเพื่อนแขกภายในงาน
กู้ฮ่าวอวี่น่าจะเป็นคนที่อารมณ์ดีที่สุดในกลุ่มพี่น้องทั้งห้า เขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายโกรธ และเขามักจะสงบนิ่ง ใจเย็นอยู่เสมอ เหมือนกับสายลมในฤดูร้อนภายใต้อากาศที่ร้อนระอุ
__
กู้ฮ่าวอวี่วางแก้วของเขาลง หันไปทางโจวเหวยฉี และถามว่า “เจียงเหยาเป็นคนยังไง? ถ้าพวกเขาทะเลาะกันจริง ๆ มันจะดูไม่ดีต่อชิงสี แถมจะทำให้พี่เหลียงและเหลาหรุนขายหน้าด้วย”
กู้ฮ่าวอวี่เข้าใจว่าหลัวเหลาหรุนต้องการให้เขาไปเดินดูรอบ ๆ
โจวเหวยฉีเกาศีรษะและพึมพำออกมา “เธอเป็นคนดีนะ เป็นคนที่ไม่เหมือนจะโกรธได้ง่าย ๆ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ก็พูดยากนะ”
กู้ฮ่าวอวี่เข้าใจว่าโจวเหวยฉีพยายามหาคำพูดดี ๆ สำหรับเจียงเหยา ปกติแล้วโจวเหวยฉีไม่ค่อยทำแบบนั้นกับใครเท่าไหร่ การที่เขาพูดออกมาแบบนั้น ก็คงเพราะเจียงเหยาคงมีคุณสมบัติเชิงบวกบางอย่างในตัวเธอเอง
ทว่า เขายังคงรู้สึกว่าจำเป็นต้องไปตรวจสอบดูสักหน่อย
แม้ว่าเขาจะเห็นด้วยกับโจวเหวยฉี ว่าแม้แต่ผู้หญิงที่มีจิตใจอ่อนโยนที่สุดก็อาจไม่มีเหตุผลเมื่อพูดถึงผู้หญิงคนอื่นที่เข้ามาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอ
เพราะยังไงเสีย ความสัมพันธ์ระหว่างคนเรา ไม่เคยอาจเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์หรอก
“พี่กู้ ฉันไปกับพี่ด้วย” เฉินซวีเหยาส่งแก้วของเขาให้กับโจวเหวยฉี และเดินตามกู้ฮ่าวอวี่ไป
พวกเขากำลังเดินไปที่ประตูด้านข้าง ก็เห็นลู่ชิงสีและเจียงเหยาเดินตรงมาหาเขา
สายตาของพวกเขาหยุดที่ทั้งคู่ หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว พวกเขามองหน้ากันและยิ้ม เมื่อเข้าใจว่าลู่ชิงสีและเจียงเหยาไม่ได้ทะเลาะกัน
“เจียงเหยาไม่ไปเติมลิปกับเหลาหรุนหรือหยางนี่สักหน่อยเหรอ?” เฉิยซวีเหยาชี้นิ้วไปที่ริมฝีปากของเธออย่างสนุกสนาน พูดว่า “ฉันได้ยินหยางนี่บอกว่าเพิ่งซื้อลิปกลิ่นสตรอเบอร์รี่มาใหม่”
เขาหยุดไปสักครู่ ก่อนจะถามคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หญิงสาวว่า “พี่ลู่ พี่ชอบกินสตรอเบอร์รี่ไหมล่ะ”
น่าขายหน้าขนาดไหน!
เธอรู้ว่าเฉินซวีเหยารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างลู่ชิงสีและเธอ
หลังจากจูบที่เร่าร้อนเมื่อสักครู่ ริมฝีปากของเธอคงจะซีดจาง
“ซวีเหยา พี่เหลียงเรียกหานายอยู่แหนะ!” กู้ฮ่าวอวี่หยุดการแซวเล่นของเฉินซวีเหยา เขาค่อนข้างมั่นใจว่า ลู่ชิงสีคงไม่พอใจกับเรื่องนี้
“ก็ได้ ก็ได้! แล้วเจอกัน” เฉินซวีเหยายิ้มให้กับกู้ฮ่าวอวี่และวิ่งไปทางเหลียงเยวี่ยจือที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
เจียงเหยาแสร้งทำเป็นมองเฉินซวีเหยา แต่จริง ๆ เธอมองหาเฉินเฟยถังท่ามกลางผู้คน
กู้ฮ่าวอวี่สังเกตเห็นจึงพูดขึ้น “หลังจากที่คุณจากไป เธอก็ออกไปแล้วเหมือนกัน เห็นว่าเธอลางานมาครึ่งวัน ตอนนี้คงกลับกองทัพไปแล้วล่ะ”
เจียงเหยาไม่ได้คาดคิดว่ากู้ฮ่าวอวี่จะมองเธอออก เธอหัวเราะพยายามทำให้เฉย ๆ “ฉันกำลังมองหาหยางนี่อยู่ค่ะ”
“เธอออกไปหาขนมล่ะมั้ง” ลู่ชิงสีตบศีรษะเธอเบา ๆ “ตามผมมา”
แบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว แม้ว่าเฉินเฟยถังจะจากไปแล้ว แต่มีหญิงสาวอีกหลายคนที่สนใจในตัวสามีของเธอ การเดินตัวติดกับเขาไปรอบ ๆ เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด จะได้แสดงให้ผู้หญิงที่เหลือรู้ว่าใครเป็นเจ้าของเขา