ตอนที่แล้วตอนที่ 157 นักรบฝึกหัด ขั้น 3
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 159 ปะทะเดือด

ตอนที่ 158 ถอนกำลัง(อ่านฟรี)


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 158 ถอนกำลัง

สองชั่วโมงผ่านไปหลังจากพวกเขาได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังกลับไปที่ค่ายพักกองพล ทหารหน่วย 7 และกายกับมีอากลับมาถึงค่ายกองพล ทันทีที่มาถึงกายก็เห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้านั้นวุ่นวายเป็นอย่างยิ่ง ทหารส่วนใหญ่กำลังช่วยกันเก็บของทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อถอนกำลังกลับไปที่ป้อมปราการตะวันออกด้วยความเร่งรีบ ในจำนวนนั้นยังมีพวกทหารที่บาดเจ็บซึ่งได้รับการขนย้ายก่อน

กายมองดูทหารที่บาดเจ็บทำให้เข้าใจสถานการณ์มากขึ้นว่ากองพลที่ 1 นั้นเสียหายมากพอควร

หัวหน้าหน่วยทิฟอนรีบลงจากหลังม้า ก่อนจะกล่าว “อูโกไปรวมคนจากหน่วยเราเตรียมพร้อมรับคำสั่งไว้ เซคาสตามข้าไปด้านใน แล้วก็เจ้าสองคนด้วย”

สองคนที่กล่าวถึงนั้นคือกายและมีอา พวกเขาพยักหน้าก่อนเดินตามไป

กายเดินตามหัวหน้าหน่วยทิฟอนเข้าไปด้านในจุดสั่งการของกองพลที่ 1 ซึ่งตอนนี้หัวหน้ากองพลเกลกำลังมีสีหน้าเคร่งเครียดขณะที่มองดูกระดานจิตวิญญาณที่จำลองภูมิประเทศรอบ ๆ ด้านหน้าต่าง ๆ

จะเห็นว่ามีแสงไฟบางส่วนที่กระจัดกระจายและดับลงไปลงแล้วสองสามจุด ส่วนที่เหลือรวมตัวกันอยู่ที่ค่ายกองพลทั้งหมด ซึ่งแสงไฟแต่ละดวงนั้นแทนตำแหน่งของหัวหน้าหน่วยแต่ละคน นั้นหมายความว่าไม่ใช่หัวหน้าหน่วยทุกคนที่กลับมารวมกันที่นี่ทุกคน

กายไม่พูดอะไรเขาเพียงแต่ยืนอยู่มุมหนึ่งถัดจากหลังของรองหัวหน้าหน่วยเซคาส โดยมีอาเองก็ทำแบบเดียวกับเขาเหมือนกัน

“คนที่เหลืออยู่ไหน” ทิฟอนกวาดสายตามองรอบด้าน

“หน่วยที่ 5 หน่วยที่ 8 หน่วยที่ 9 ไม่มีใครรอดกลับมา” หัวหน้าหน่วยที่ 2 กล่าวด้วยน้ำเสียงหดหู่เล็กน้อย การเสียกำลังพลถึงสามหน่วยอย่างฉับพลันนั้นสร้างแรงกดดันและหวาดหวั่นให้กับทุกไม่มากก็น้อย

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่” หัวหน้าหน่วยทิฟอนถามด้วยความตกใจ แม้จะรู้อยู่แล้ว แต่เขาอย่างทราบรายละเอียดให้มากกว่านี้

“เราเสียการติดต่อจากหน่วยที่ 8 และ 9 ก่อนจะรู้ว่าพวกเขาโดนสังหารทั้งหมด โดยการแทรกแซงจากพวกมนุษย์ไฟ ก่อนจะเสียกองพลที่ 5 ช่วงคำสั่งถอยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้หน่วยอื่น ๆ ก็โดนโจมตีและถอยกลับมาเท่าที่จะกำได้ ดูเหมือนทางฝ่ายนครแสงเทวาได้ส่งกำลังรบหลักเข้ามาโดยตรง” ชายวัยกลางคนผู้เหมือนบัณฑิต ซึ่งเป็นมือขวาของหัวหน้ากองพลเกลอย่าง รองหัวหน้ากองพลชิดูกล่าวด้วยสีหน้าขื่นขม

“เรื่องนี้เราไม่ได้คาดการไว้ เพราะคิดว่าพวกนั้นจะไม่ลงมือรุนแรงเช่นนี้”

“ใครจะไปคิดว่าพวกนครแสงเทวาจะใช้วิธีการสกปรกแบบนี้ในการดึงพวกมนุษย์ไฟเข้ามาร่วมสงครามด้วย”

“นี่คือสงครามดังนั้นการใช้พวกมนุษย์ไฟจึงไม่ใช่เรื่องต่ำช้า” ทิฟอนกล่าวขัดการสนทนาของหัวหน้าหน่วย คนอื่น ๆ พอได้ยินก็เงียบไป ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ ถึงอย่างนั้นพวกเจาก็คิดไม่ถึงจริง ๆ จึงรู้สึกเหมือนโดนโกง

“ที่จริงแล้วเรื่องนี้ข้าพอจะรู้ถึงปัญหาและการกระทำที่สร้างปัญหาของมนุษย์ไฟอย่างบ้าง แต่คิดไม่ถึงว่าฝ่ายนครแสงเทวาจะชิงลงมือเอาพวกเขาไปใช้ประโยชน์เป็นทหารแนวหน้าแบบนั้น” หัวหน้ากองพลเกลกล่าว

“หัวหน้ากองพลเราทำแบบพวกนครแสงเทวาบ้างได้หรือไม่” หัวหน้าหน่วยที่ 3 พูดขึ้นมา

“เรื่องนั้นอาจจะเสียงเกินไป เรามีข้อมูลของพวกมนุษย์ไฟไม่มากพอและข้าไม่มีอำนาจพอจะตัดสินใจ”

“หัวหน้ากองพล ที่จริงแล้วข้าคิดว่าเราน่าจะลองคิดถึงประเด็นในการใช้ประโยชน์จากพวกมนุษย์ไฟดู เพราะข้าคิดว่าคงมีมนุษย์ไฟบางส่วนที่อาจจะตกลงกับเรา”

“เจ้ารู้อะไรมา”

“หน่วยข้าคือคนที่ไล่ล่าพวกมนุษย์ไฟที่เคยสร้างความปั่นป่วนที่ป่าเคนารีส ซึ่งพวกมันหนีมาที่ทุ่งหญ้ากิราและแถบชายแดน ดังนั้นข้าจึงพอเข้าใจพวกมนุษย์ไฟอยู่บ้าง คนพวกนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียวและดูเหมือนพวกเขาจะมีการต่อสู้กันเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งเราควรใช้พวกเขาให้เป็นประโยชน์”

“ข้อมูลนี้ถูกต้องใช่ไหม”

“ใช่นอกจากข้าอีกคนที่ยืนยันและคุ้ยเคยกับพวกมนุษย์ไฟอยู่นี่ด้วย” หัวหน้าหน่วยทิฟอนส่งสัญญาณให้กายก้าวออกมาด้านหน้า

กายยิ้มออกมาอย่างพอใจที่ทิฟอนพูดถึงเขาและให้โอกาสเขาได้กล่าวในที่นี้

“หัวหน้ากองพลเกล ข้าน้อยเดวินนักเรียนจากสถาบันศาสตร์นักรบ ข้าพอจะรู้ข้อมูลของมนุษย์ไฟอยู่บ้าง เพราะพวกมนุษย์ไฟอย่างกองโจรกะโหลกแดงคือหนึ่งในเป้าหมายภารกิจพวกเรา ดังนั้นข้าจึงรวบรวมข้อมูลพวกมนุษย์ไฟมามากพอควร” กายแนะนำตนเองอีกครั้งและบอกคุณค่าของเขาทันที

“อืม ข้าจำเจ้าได้ แต่เจ้าแน่ใจใช่ไหมเรื่องที่พวกมนุษย์ไฟไม่ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน”

“ข้ามั่นใจ” กายตอบกลับ

“ดีหลังจากกลับไปเจ้าค่อยบอกข้อมูลพวกมนุษย์ไฟแล้วข้าจะลองเสนอเรื่องไปเบื้องบนดูบางทีเราอาจจะใช้วิธีแบบเดียวกับพวกนครแสงเทวาได้” หัวหน้ากองพลพูดด้วยความยินดี แต่ก็กลับมามีสีหน้าจริงจังอีกครั้ง

“ตอนนี้กำลังพลเราเสียหายกว่าครึ่งและตอนนี้ทัพหน้าใหญ่สุดของศัตรูกำลังตรงมาทางเรา เราควรจะถอยกลับไปที่ป้อมปราการก่อน แต่การถอยนั้นไม่ง่าย ทางกองพลที่ 2 คงไม่มาสนับสนุนเราง่าย ๆ เราต้องทิ้งคนบางส่วนไว้สกัดพวกนั้นอย่างน้อยก็ทำให้พวกมันเคลื่อนไหวช้าลง”

“ข้าจะทำเอง” หัวหน้าทิฟอนกล่าวขึ้นมา ทุกสายตาหันมามองที่เขาจนหมด

“หน่วยที่ 7 เสียหายน้อยสุด อีกอย่างเราสังหารกองกำลังส่วนหนึ่งของพวกมันที่มุ่งหน้ามาทางด่านหน้า 57 ไปแล้วดังนั้นพวกนครแสงเทวาคงยังวุ่นวายในจุดหน้าอยู่ หน่วยของข้าคงสามารถสร้างปัญหาให้พวกมันได้มากพอจะให้กองพลเราถอยไปได้”

“เจ้าสังหารกองกำลังหลักพวกนั้นไปแล้ว”

รองหัวหน้ากองพลดูชิถามด้วยความแปลกใจ คนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าไม่ต่างกันเช่นกัน

“ใช่ โดยใช้แผนของเดวินโดยการวางกับดักเผาพวกนครแสงเทวาทั้งหมด น่าจะมีกันประมาณ 500 คนที่ตายไป” ทิฟอนยอมรับและยังบอกไปตามตรงว่าแผนนี้คือกายเป็นคนเสนอ

ทั้งหมดมองกายพร้อมกันด้วยความตกใจและคิดไม่ถึงว่าการสังหารทหารและมนุษย์ไฟฝ่ายนครแสงเทวาถึง 500 คนจะมาจากความคิดของเด็กหนุ่มอายุไม่ถึง 20 คนนี้

“หน่วยที่ 7 จะอยู่รั้งท้ายส่วนที่เหลือให้เริ่มการถอนกำลัง!”

“ครับ!”

...

หลังจากกองพลที่ 1 ถอยไปได้ครึ่งชั่วโมงหน่วยที่ 7 ก็เตรียมแผนซุ่มโจมตีแบบกองโจรกับกองกำลังทหารฝ่ายนครแสงเทวาที่ไล่ตามหลังมา

ตอนนี้กายกำลังกับพื้นดินข้าง ๆ พุ่มไม้ใหญ่ของต้นไม้หนึ่งอยู่ ด้วยความที่ฝนนั้นยังตกปรอย ๆ อยู่ อากาศรอบ ๆ จึงเย็นเป็นอย่างมาก ข้าง ๆ เขามีอานอนแอบหลังพิงต้นไม้กำลังรออย่างใจเย็นเฝ้ารอศัตรูที่ไม่รู้ว่าจะโผล่มาตอนไหน

เขายกมือขึ้นเช็ดน้ำที่ใบหน้าขณะที่มือกำลังถือหน้าไม้กลด้วยความยินดี หน้าไม้กลนี้ได้มาจากกองพลที่ 1 ซึ่งกายขอมาเป็นอาวุธในการสนับสนุนซุ่มโจมตี และทางกองพลที่ 1 ก็ตอบตกลงเอาหน้าไม้กลให้กายทันที กายยินดีเป็นอย่างมากที่ได้หน้าไม้กลนี้มา เพราะเขาไม่มีพิมพ์เขียวมัน ถ้าซื้ออาวุธที่ถูกควบคุมกายก็ยังไม่มีช่องทางมากพอในการหา แต่ตอนนี้เขามีหน้าไม้นี่อยู่ในมือแล้ว หลังจากกลับไปเขาสามารถแกะพิมพ์เขียวจากมันได้

และถ้าทำได้เขาจะสามารถสร้างซ้ำได้นั้นหมายถึงการขายให้กับผู้เล่นและทำเงินได้มหาศาล ยิ่งคิดถึงสิ่งที่จะได้ในอนาคตกายก็รู้สึกยินดี

“หน้าไม้กลมาตราฐานกองทัพนครดาราฟ้า”

“ระดับ 4”

“ความสัมพันธ์กับอาวุธ 10%”

“ผู้สร้าง เอ็กกัส”

ความสัมพันธ์กับอาวุธของกายถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับอาวุธอื่น ๆ แต่ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะกายไม่เคยฝึกใช้งานมันแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งค่าความสัมพันธ์ 10 % ที่มีกายคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเขายังพอรู้วิธีใช้มันระบบจึงตัดสินให้ค่าเขา 10 % ถ้าไม่อย่างนั้นกายคิดว่ามันอาจจะเหลือน้อยกว่านี้ได้

กายจับไปที่คันโยกด้านล่างที่คือตัวขึ้นสายซึ่งสะดวกมากเพราะทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เขาก็สามารถเหนี่ยวไกของหน้าไม้ยิงได้เลย ลูกศรก็จะยิงออกมาเองจนกว่าจะหมด โดยหนึ่งซองบรรจุลูกศรโลหะได้ 50 ลูก และกายก็มีซองลูกศรโลหะอยู่ถึง 4 ซอง

และหน้าไม้ที่เขาถืออยู่นี้ถือว่าเหนือกว่าของที่พวกกิลด์กะโหลกแดงใช้อยู่ขั้นหนึ่ง

เรามีลูกศรราว 200 ลูกซึ่งน่าจะเพียงพอในตอนนี้ กายเอื้อมมือไปสัมผัสซองลูกศรที่มีลักษณะทรงกระบอกยาว 20 เซนติเมตร

ในตอนที่กายหันมาสนใจหน้าไม้อยู่นั้นมีอาก็ลืมตาขึ้นมา เป็นจังหวะเดียวกับที่ทิฟอนส่งสัญญาณให้ทหารของพวกเขา กายเองก็หันไปมองยังทิศตะวันออกของป่า ซึ่งมีเสียงม้าวิ่งตะบึงมาตามสายฝนบริเวณตรงมาที่ค่ายกองพลเคยตั้งอยู่

จำนวนที่ศัตรูมาถึงนั้นมีมากกว่า 200 นาย และส่วนใหญ่แล้วทหารม้าพวกนี้เป็นแค่ทัพหน้าเท่านั้นที่ไล่ตามศัตรูมาก่อน และพวกกำลังเสริมกำลังเดินทางตามมา

ดูเหมือนพวกนั้นจะรู้ที่ตั้งค่ายกองพล กายจดจ้องไปที่ศัตรู ยังดีที่พวกเขาคิดถึงสถานการณ์นี้ไว้แล้วจึงออกห่างจากที่ตั้งค่ายกองพลมาพอสมควร

กายยกหน้าไม้ขึ้นมาเล็งจากแนวป่ารอสัญญาณลงมือแรกจากทิฟอน

...

“พวกมันหนีไปแล้วเป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ หาเส้นทางที่มันถอยแล้วแจ้งไปให้หน่วยอื่น ๆ ช่วยกันปิดล้อม กองพลของพวกมันต้องตายนอกป้อมปราการตะวันออกทั้งหมด ทำแบบนี้เราถึงจะตีป้อมปราการตะวันออกได้ง่ายขึ้น แยกกันไป”

“ครับ”

หัวหน้าหน่วยทหารฝ่ายนครแสงเทวาสั่งการ ทหารม้า 200 นายก็แยกกันออกเป็นสามทางทันที ซึ่งทางทั้งสามนี้เป็นเส้นทางหลอกที่ถูกทำไว้มันเต็มไปด้วยลอยเท้าของม้า ถ้าไม่ตามไปจนสุดก็ไม่รู้ว่าอันไหนจริงหรือปลอม

“ได้เวลาแล้ว” ทิฟอนกล่าวก็จะลงมือส่งสัญญาณโจมตีทันที และเป้าหมายของพวกเขาก็คือทหารที่เหลืออยู่ รวมถึงหัวหน้าหน่วยที่สั่งการด้วย

การจะยื้อเวลาได้ดีที่สุดก็ต้องจัดการคนสั่งการเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อพวกศัตรูให้ได้มากที่สุด และยิ่งลงมือหลายครั้งพวกเขาก็ยิ่งเสี่ยงอันตราย ดังนั้นการลงมือครั้งแรกคือเป้าหมายที่สำคัญสุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด