ตอนที่ 1215-1216 ความสัมพันธ์
ข้างหน้าเธอคือถนนที่ไม่มึอุปสรรค
อนาคตของเธอจะต้องรุ่งโรจน์จนทำให้ทุกคนต่างอิจฉา
แต่...
เฉียวอันซินกัดริมฝีปากของเธอ และความเกลียดชังก็แวบผานดวงตา
เธอไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
ไม่มีทาง!
แล้วถ้าเธอเป็นหงส์จริง ๆ ล่ะ?
เธอจะไม่มีวันได้รู้ว่าตัวเองเป็นหงส์
ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับพรทุกอย่างเป็นอย่างดีจากพระเจ้า
ทว่าเฉียวอันซินยังรู้สึกว่าเธอเองก็ได้พรจากพระเจ้ามากที่สุด
เธอไม่ได้มีพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น เธอแพ้เฉียวเมียนเมียนตั้งแต่เริ่ม
แต่เธอมีผู้มีพระคุณที่จะช่วยเธอ
อะไรก็ตามที่เธอไม่มี เธอสามารถคว้ามันมาและทำให้เป็นของเธอได้
ตัวอย่างเช่น ซูเจ๋อ ที่เธอแย่งมาจากเฉียวเมียนเมียน
เมื่อคิดว่าคัวตนของเธอจะเปลี่ยนไปอย่างมากหลังจากคืนนี้ เฉียวอันซินรู้สึกตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากคืนนี้ เธอจะไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาจากตระกูลเฉียวอีกต่อไป
เธอจะกลายเป็นลูกสาวอันเป็นที่รักของตระกูลไป่ และมีชีวิตที่รุ่งโรจน์
เมื่อถึงตอนนั้น เฉียวเมียนเมียนก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
แล้วถ้าถึงตอนนั้นไป่ซู่และคุณผู้หญิงไป่ชอบเธอล่ะ?
แต่ตอนนั้นไป่ซู่ก็กลายเป็นพี่ชายของเธอแล้ว และคุณผู้หญิงไป่ก็กลายเป็นแม่ของเธอด้วยเช่นกัน
เธอไม่เชื่อว่าพวกเขาจะปฏิบัติต่อเฉียวเมียนเมียนดีไปกว่าเธอ
“เอาล่ะ อย่ามายืนอยู่หน้าประตูอย่างนี้เลย” คุณผู้หญิงไป่มองดูเวลาและกล่าวว่า “อาซู่งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มแล้ว ขึ้นไปบนเวทีและพูดอะไรกับแขกเสียหน่อย เมียนเมียนและคนอื่น ๆ แม่จะดูแลพวกเขาเอง”
ไป่ซู่พยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องโถง
คุณผู้หญิงไป่จับมือเฉียวเมียนเมียน “เมียนเมียน เข้าไปข้างในกันเถอะ ป้าไป่จะพาเข้าไปในครัว ให้ป้าพาหนูไปหาอะไรกินหน่อยไหม?”
จากนั้นเธอก็มองไปที่เหมาเยซื่อ “อาซื่อ จะว่าอะไรไหมถ้าป้าจะพาเมียนเมียนออกไปสักพัก? ไม่ต้องห่วง ป้าจะดูแลเธออย่างดีและพากลับมาส่งคืน”
เหมาเยซื่อมองอย่างลึกซึ้งไปที่คุณผู้หญิงไป่
จากนั้นช่วงเวลาที่เขาเริ่มสงสัยในบางสิ่ง เขารู้สึกว่าการตัดสินใจของคุณผู้หญิงไป่ที่จะพาเฉียวเมียนเมียนออกไป คงไม่ใช่แค่พาเธออกไปหาอะไรกินเฉย ๆ
แต่เพราะคุณผู้หญิงไป่เป็นฝ่ายพูด และเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะขัดขืน
เขาไม่กังวลว่าคุณผู้หญิงไป่จะทำอะไรเฉียวเมียนเมียน
“ก็ป้าไป่เป็นห่วงเธอขนาดนี้ ผมจะไม่เห็นด้วยได้ยังไงล่ะครับ” เหมายซื่อลูกศีรษะของเฉียวเมียนเมียนและพูดเบา ๆ ว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณไปหาอะไรทานกับป้าไป่หน่อยล่ะกัน”
เฉียวเมียนเมียนหิวมาก อีกทั้งคุณผู้หญิงไป่ก็ชวนเธออย่างกระตือรือร้น ดังนั้นเธอจึงพยักหน้า “ค่ะ”
เมื่อคุณผู้หญิงไป่เห็นว่าเธอตกลง เธอก็มีความสุขมาก ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มขณะที่เธอพูดอย่างสนิทสนมว่า “มาเถอะลูก ตามป้าไป่มา”
เมื่อคุณผู้หญิงไป่กำลังพูดกับเฉียวเมียนเมียน เธอลืมไปเลยว่าเซินโย่วยืนอยู่ข้าง ๆ
เธอดึงเฉียวเมียนเมียนไปได้สองสามก้าวก็นึกขึ้นได้ เธอหันไปหาเซินโย่วและยิ้ม “โย่วโย่ว อย่ายืนอยู่ตรงนี้เลย ถ้าหิวก็ไปหาอะไรทานข้างในเถอะ”
รอยยิ้มของเซินโย่วแข็งทื่อ “ค่ะ”
คุณผู้หญิงไป่ขอให้เธอไปทานอาหารข้างในห้องโถง ขณะที่เธอพาเฉียวเมียนเมียนเข้าไปที่ห้องครัว
ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นชัดเจนขึ้นในพริบตา
คุณผู้หญิงไป่ทำเหมือนว่าเธอชอบเธอและสนิทสนมกับเธอราวกับเธอเป็นลูกสาวของเธอเอง
__
แต่เมื่อเทียบกับเฉียวเมียนเมียน เห็นได้ชัดว่าเธอสนิทกับใครมากกว่ากัน
คุณผู้หญิงไป่รีบเรียกเธอก่อนที่จะดึงเฉียวเมียนเมียนไปทางอื่น
เซินโย่วรู้ว่าพวกเขาเป็นแม่ลูกที่แท้จริงกัน เมื่อเธอมองดูพวกเขาจากไป เธอกำหมัดแน่น สายตาของเธอก็เย็นชา
เป็นปกติราวกับแม่และลูกสาวกันจริง ๆ
คุณผู้หญิงไป่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเฉียวเมียนเมียนเป็นลูกสาวของเธอ
แต่เมื่อเธอพูดคุยกับเฉียวเมียนเมียนในตอนนี้ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสัญชาตญาณควมเป็นแม่ของเธอได้ฉายออกมาให้เห็นแล้ว
เซินโย่วรู้สึกอีกครั้งว่าเธอไม่สามารถปล่อยให้เฉียวเมียนเมียนมีตัวตนได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ไม่อย่างนั้น ระหว่างเธอกับเหมาเยซื่อคงไม่มีทางเป็นได้
ครอบครัวเซินกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและค่อย ๆ แย่ลง
แม้ว่ามันจะเป็นความลับที่เก็บซ่อนไว้อย่างดีและมีคนไม่มากที่รู้เรื่องนี้
แต่วันหนึ่งเธอไม่สมารถปิดบังมันได้อีก
ถ้าเธอต้องการช่วยครอบครัวเซินและได้เคียงข้างกับเหมาเยซื่อ เธอต้องหาทางแต่งงานกับเขาโดยเร็วที่สุด
ก่อนหน้านั้น...
เธอจำเป็นต้องหาวิธีกำจัดเฉียวเมียนเมียนเสียก่อน
เซินโย่วจ้องมองไปที่เฉียวอันซินที่กำลังอิจฉาจนออกนอกหน้า เธอหร่ตาลงและมีเล่หืเหลี่ยมแฝงอยู่ในนั้น
เมื่อมีเฉียวอันซินอยู่ในมือ แผนการในอนาคตของเธอก็น่าจะราบรื่นมากขึ้น
ในเวลานั้น เธอสามารถกำจัดเฉียวเมียนเมียนและเฉียวอันซินไปพร้อม ๆ กัน
ด้วยวิธีนี้ เธอจะไม่มีปัญหาใด ๆ ในอนาคต
หลังจากเฉียวเมียนเมียนจากไปแล้ว เหมาเยซื่อก็กำลังจะเดินจากไปเช่นกัน
“อาซื่อ”
เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะจากไป เซินโย่วรีบเรียกเขา
“อาซื่อ ยังโกรธฉันอยู่เหรอ? จะยกโทษให้ฉันสักหน่อยไม่ได้เหรอ?”
เซินโย่วไม่สามารถทนต่อความเย็นชาของเขาได้
เขาบอกว่าถ้าเจอกันอีกคงเป็นได้เพียงคนแปลกหน้า
เขาก็ทำมันเช่นนั้นจริง ๆ
แต่เธอทำไม่ได้
เธอยังมีเขาอยู่เต็มหัวใจ เธออดไม่ได้จริง ๆ ที่เห็นเขาทำอย่างนั้น
เขาไม่มีแม้แต่จะมองเธอ
เขาเกลียดเธอขนาดนั้นเลยเหรอ?
เหมาเยซื่อหยุดครู่หนึ่งแล้วเดินต่อไปราวกับว่าเขาไม่ได้ยินอะไรเลย
ครั้งนี้ไม่ว่าเซินโย่วจะเรียกเขามากเท่าไหร่ เขาก็ไม่หยุด
เมื่อมองดูเขาที่หันหลังให้เธอและจากไปอย่างไม่ลังเล เซินโย่วกัดริมฝีปากของเธอ ดวงตาของเธอปกคลุมไปด้วยม่านหมอก มีสีแดงก่ำปรากฏอยู่ในดวงตา
ยี่สิบปีที่คบหากันมา ยี่สิบปีแห่งความพยายามอย่างจริงใจ ยี่สิบปีที่รอคอย
นี่เหรอคือผลลัพธ์ที่เธอรอคอยเขา?
เขาเกลียดเธอมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
เพียงเพราะว่าเธอเป็นคนใส่ร้ายเฉียวเมียนเมียนบนอินเตอร์เน็ต เขาสามารถเพิกเฉยต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาที่มีมายาวนานกว่ายี่สิบปี ละตัดความสัมพันธ์กับเธอจริง ๆ
เขาโหดร้ายมาก
เธอยึดติดกับเขาอย่างดื้อนั้นมานานกว่ายี่สิบปี แต่เธอไม่สามารถอุ่นใจได้เลย
เมื่อเซินโย่วคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกว่าความพยายามทั้งหมดของเธอในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมากลายเป็นเรื่องตลก
นั่นมันบ้าอะไรกัน เธออดทนมาตั้งหลายปี แค่เพียงความรู้สึกเล็ก ๆ ในหัวใจของเขา ก็ไม่มีเลยเหรอ
เธอเป็นคนที่โง่งมมากว่ายี่สิบปี ตอนนี้เธอรู้ทุกอย่างแล้ว เธอจะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมอีก
เธอไม่ต้องการคำตอบจากเขาอีกต่อไป
สำหรับเธอในตอนนี้ ไม่เป็นไรหรอก ตราบเท่าที่เธอสามารถมีเขาได้
ส่วนว่าเขาจะมีเธออยู่ในใจหรือไม่ เธอไม่สนใจเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
“คุณเซินคะ” เฉียวอันซินมองไปที่ท่าทางเศร้าสร้อยของเซินโย่วและมั่นใจในตัวตนของเหมาเยซื่อมากยิ่งขึ้น
ว่ากันว่าคุณหนูเซินคนโตแอบรักนายน้อยรองตระกูลเหมามาหลายปี และเธอยังคงแอบรักเขาฝ่ายเดียวมาโดยตลอด