ตอนที่แล้วข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 40 พลังพิเศษโดยกำเนิด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 42 กระบี่ประหลาดสีดำสนิท

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 41 วิญญาณคู่ม่วงเขียว


กำลังโหลดไฟล์

ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 41 วิญญาณคู่ม่วงเขียว

เศษเสี้ยวความทรงจำอันคลุมเครือที่วาบผ่านเข้ามาในหัว ทำให้คงหนิงตื่นตัวในทันที

ความทรงจำของวิญญาณหมอจางจ้งทั้งกระจัดกระจายและคลุมเครือ แทบไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของสหายทั้งสองตนได้

แต่ความทรงจำที่เหลือบอกคงหนิงว่า วิญญาณหมอจางจ้งกลัวผีร้ายทั้งสอง!

ดูเหมือนว่าการพัฒนามาถึงขั้นนี้ได้ภายในสามปีของจางจ้งจะมาจากความช่วยเหลือของผีร้ายสองตัวนี้!

จะมีผีร้ายที่แข็งแกร่งกว่าจางจ้งถึงสองตนมาที่ลานแห่งนี้?

คงหนิงมองหญิงสาวตรงหน้าทันทีแล้วพูดว่า “หว่านเอ๋อ ไปกันเร็ว พวกเราไม่ควรอยู่ที่นี่นาน”

แม้ว่าลานบ้านที่เต็มไปด้วยเลือดนี้ดูเหมือนจะมีบางอย่างซ่อนอยู่ ตอนที่จางจ้งกำลังจะวิ่งหนีก่อนหน้านี้ เขาพยายามวิ่งตรงเข้าไปในบ้าน ไม่รู้เหมือนกันว่ามีสิ่งใดอยู่ภายใน

เมื่อเมืองผีแห่งนี้อันตรายอย่างยิ่ง ไม่ควรอยู่ที่นี่นาน

ตอนนี้เขารู้ว่ามีผีร้ายสองคนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าจางจ้งสามารถมาที่นี่ได้ทุกเมื่อ คงหนิงก็ยิ่งไม่กล้าล่าช้า

แม้จะมีสมบัติซ่อนอยู่จริงๆ คงหนิงก็ไม่ต้องการจะอยู่ต่อ

ไม่มีความคิดที่จะตรวจสอบมันอย่างแน่นอน รีบพาหญิงสาวตรงไปที่ประตู

อย่างไรก็ตาม กลิ่นอายแห่งความตายพลันไหลทะลักเข้ามา ทันทีที่คงหนิงเดินไปที่ประตูรั้ว ก็เห็นผีร้ายสองตน ตนหนึ่งตัวสูง อีกตนหนึ่งตัวเตี้ยกำลังเดินมาทางนี้

ตรอกแคบๆ ทั้งมืดทั้งน่าขนลุก ร่างผีทั้งสองตนเดินมาจากเมืองผีอันรกร้าง ขวางเส้นทางที่หนีของคงหนิงและพวก

อากาศอันหนาวเหน็บพัดเข้ามาปะทะ ไอพลังรุนแรงกว่าจางจ้งเป็นสองเท่า!

ผีร้ายสองตนที่เดินอยู่ด้านนอกทรงพลังขนาดนี้เชียว?

ทั้งยังมากันเร็วมาก?

บ้าเอ๊ย! มาช้ากว่านี้ไม่ได้หรือไร!

คงหนิงรู้สึกเหน็บหนาวภายในใจ ไม่เงยหน้าขึ้นมอง รีบพาหญิงสาวกลับเข้าไปในลาน

ไอพลังแห่งความตายด้านนอกประตูยังคงพลุ่งพล่าน

แม้ว่าคงหนิงจะไม่ได้เปิดปากพูดอะไร แต่หว่านเอ๋อก็ตระหนักถึงสถานการณ์ตอนนี้ดี

“วิญญาณหมอจางจ้งผู้นี้มีพรรคพวกงั้นหรือ?!”

หว่านเอ๋อรู้สึกเหลือเชื่อ พึมพำด้วยเสียงต่ำ

คงหนิงทะยานขึ้นไป พยายามกระโดดข้ามกำแพงจากในลานบ้าน และหนีออกทางประตูฝั่งอื่น

อย่างไรก็ตาม มีกำแพงล่องหนอยู่เบื้องหน้า ไม่สามารถเจาะทะลุผ่านไปได้

ดูเหมือนว่าบ้านวิญญาณแต่ละหลังในโลกวิญญาณจะเป็นอิสระและไม่ได้เชื่อมโยงถึงกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะปีนข้ามกำแพงไปบ้านอื่นได้ดั่งใจเหมือนโลกมนุษย์

คงหนิงมองไม่เห็นแม้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านหลังถัดไป เห็นเพียงความมืดมิดเท่านั้น

ด้านนอกประตูรั้ว ไอพลังมืดมนและดูอันตรายก็ใกล้เข้ามา ผีร้ายสองตนกำลังใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้ต่อสู้ แต่เพียงแค่ไอพลังที่รั่วไหลออกมาก็ทำให้คงหนิงและหว่านเอ๋อเลิกล้มความคิดที่จะลงมือก่อน

แม้ว่าผีร้ายทั้งสองจะไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าคงหนิงมากนักถ้าเทียบความแข็งแกร่งกันตัวต่อตัว แต่ถ้ามันมีเพียงตัวเดียวที่มา คงหนิงก็ไม่รังเกียจที่จะร่วมมือกับหว่านเอ๋อปิดล้อมสังหาร

แต่ถ้าสองปะทะสอง ก็ลืมมันไปเถอะ

ฐานการบ่มเพาะในปัจจุบันของหว่านเอ๋อไม่ได้สูง ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับคงหนิง เมื่อเทียบไอพลังของนางมันพอๆ กับคงหนิงตอนที่มีพลังตบะแปดสิบปีเท่านั้น

ให้สองคนไปปะทะผีร้ายทั้งสองตน พวกของคงหนิงจะต้องตายอย่างแน่นอน

ดังนั้นจึงต้องล้มเลิกแผนการที่จะเข้าเผชิญหน้าโดยตรง

คงหนิงซ่อนกลิ่นอายของหว่านเอ๋อและตัวเขาเองด้วยพลังพิเศษโดยกำเนิดของสมเสร็จห้วงฝันอย่าง ดอกไม้ในกระจก พระจันทร์บนผิวน้ำ ทั้งสองถอยกลับเข้าไปในห้องมืดๆ ห้องหนึ่ง เป็นห้องเดียวที่ติดอยู่กับลานบ้าน พร้อมกับปิดประตูแน่น

ด้านนอก ไอพลังที่ทั้งมืดมนและน่ากลัวก็พุ่งเข้ามา ขณะที่คงหนิงและหว่านเอ๋อถอยเข้ามาแอบในห้องมืด ร่างของผีสองตน ตนหนึ่งสูง ตนหนึ่งเตี้ยก็มาปรากฏตัวอยู่ที่ลานบ้าน

เมื่อเห็นว่าลานบ้านที่นองไปด้วยเลือดนั้นว่างเปล่า ผีร้ายทั้งสองก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

“จางจ้งล่ะ? ไอ้เฒ่าน้องใหม่นั่นหายไปไหนแล้ว?”

“ไม่ใช่ว่าให้มันรออยู่ที่นี่หรือ?”

ผีร้ายทั้งสองดูไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

คงหนิงอยู่ในห้องมืด แอบดูผีร้ายทั้งสองอย่างเงียบๆ ผ่านช่องว่างตรงหน้าต่าง

ผีร้ายตัวสูงนั้นดูทรงพลัง

ใบหน้าเต็มไปด้วยก้อนเนื้อ สีผิวออกเขียวๆ ดูแปลกพิกล มือคู่ใหญ่นั้นมีกรงเล็บที่แหลมคม สร้อยคอที่ร้อยมาจากหัวกะโหลกห้อยอยู่รอบคอ แสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขาม

ปีศาจตัวเตี้ยนั้นที่รูปร่างเหมือนคนแคระ ทั่วทั้งตัวมีสีม่วง มีใบหน้าอยู่สองด้าน ด้านที่หันไปทางเดียวกับหน้าอกเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันสดใส ในขณะที่ใบหน้าที่อยู่ด้านหลังกลับดุร้ายน่ากลัว ในปากมีเขี้ยวแหลมคม

ผีร้ายทั้งสองยืนอยู่ตรงประตูหน้าลานบ้าน กวาดตามองโดยรอบแล้วก้าวเดิน

ในตอนนั้นก็เดินมาถึงขวดเหล้าสีดำที่วางอยู่ติดกับมุมหนึ่งของกำแพงลาน หยิบพวกมันขึ้นมาตรวจสอบ

“ทุกอย่างปกติ ไม่มีบุบสลาย” ผีร่างเตี้ยตัวสีม่วงกล่าวออกมา

ผีตัวสูงร่างใหญ่ถอนหายใจอย่างเย็นชา “ไอ้เฒ่านั่นคงไม่กล้าเอามันไปเป็นของตัวเอง!”

ผีร้ายทั้งสองต่างหยิบขวดเหล้าสีดำและเดินไปใต้ต้นไม้ที่ดูแห้งเหี่ยว นั่งลงบนพื้น แต่ละคนต่างก็เปิดฝาขวดในมือของตนเองออก

ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องโหยหวนก็ดังมาจากขวดเหล้าสีดำ

“อย่าฆ่าข้า! อย่าฆ่าข้าเลย!”

“อ๊ากกกกกก---”

ในช่วงที่เสียงกรีดร้องแหลมสูงน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น สีหน้าของคงหนิงที่อยู่ในห้องก็เปลี่ยนไป

แต่เป็นปกติที่ผีร้ายทั้งสองตนที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้แห้งจะไม่ได้รับรู้ พวกมันเหยียดกรงเล็บเข้าไปในขวดโหล และดึงร่างยาวๆ ซีดๆ น่าขนลุกออกมาจากขวดโหล

สิ่งนั้นมีใบหน้า มีแขนขา และร่างที่คล้ายคลึงมนุษย์ แต่ก็ไม่เหมือนกับมนุษย์ เหมือนเป็นเส้นบะหมี่ซีดๆ โค้งหยักไปมาเสียมากกว่า

เสียงกรีดร้องเจ็บปวดดังมาจากวัตถุสีซีดทั้งสองนั้น

อย่างไรก็ตาม ผีร้ายทั้งสองตัว หนึ่งตัวสีเขียวอีกหนึ่งตัวสีม่วงก็เพิกเฉยต่อเสียงกรีดร้องอันแสนเจ็บปวดของพวกมันโดยสิ้นเชิง อ้าปากแยกเขี้ยว เขมือบ“เส้นบะหมี่”สีซีดเส้นยาวเข้าไปในปากของพวกมันแล้วเริ่มเคี้ยว

หูของคงหนิงได้ยินเสียงแผ่วๆ ของหว่านเอ๋อดังแว่วมา

“เคล็ดหมักสุรากลืนผี......ใช้ขวดเหล้าที่หมักเหล้ามาหลายปี ผนึกวิญญาณร้ายไว้ภายใน ทรมานวิญญาณร้ายด้วยฤทธิ์สุราแผดเผา ทำให้ร่างวิญญาณอ่อนแอลง จากนั้นจึงดึงออกมากลืนกิน สำหรับผีร้ายแล้ว สิ่งเหล่านี้นับเป็นอาหารอันโอชะ”

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง หว่านเอ๋อก็พูดขึ้นอีก “ทั้งยังสามารถนำไปทอดในกระทะได้ด้วย ผีที่แช่อยู่ในขวดเหล้ามาหลายวันจะรสชาติอร่อยมากขึ้น อย่างไรก็ตามมันจะทำให้สูญเสียปราณหยินไปโดยใช่เหตุ หลังจากกินเข้าไปจะไม่ได้เพิ่มปราณหยินได้มากนัก ดังนั้นโดยทั่วไปคงจะมีผีร้ายเพียงไม่กี่ตนที่ใช้ของสิ้นเปลืองเช่นนั้น”

ขณะที่หว่านเอ๋อเอ่ยอธิบายเสียงต่ำ ผีร้ายสองตัว ตัวหนึ่งสีเขียวตัวหนึ่งสีม่วงก็เคี้ยวอาหารคำโต กลืน “เส้นบะหมี่” สีซีดที่ดึงออกมาจากขวดเหล้าสีดำทั้งหมดเข้าไป

ลานบ้านที่มีเสียงกรีดร้องอยู่ตลอดเวลา พลันกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

ละอองเลือดในอากาศดูเหมือนจะรุนแรงขึ้น

ผีร้ายทั้งสองวางขวดเหล้าลงพร้อมกับเรอออกมา

ผีร้ายตัวสีเขียวมองไปรอบๆ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูมืดมน “จางจ้งอยู่ที่ไหน? ทำไมไอ้เฒ่านั่นยังไม่กลับมาอีก? ไปอยู่ไหนของมัน?”

ผีสีม่วงมองออกไปนอกประตูแล้วพูดว่า “รออีกสักพัก เดี๋ยวคงจะกลับมาในเร็วๆ นี้แหละ ไอ้เฒ่านั่นมันเชื่อฟังอยู่ตลอด”

ผีตัวเขียวทำหน้าบูดบึ้งแล้วกล่าวว่า “เวลากำลังจะหมดลงแล้ว! โอกาสมีเพียงปีละครั้งเท่านั้น บิดาไม่สามารถจัดการทุกอย่างได้หรอกนะ เมื่อข้ากินของข้าหมดแล้ว ถ้ายังไม่มาอีก บิดาจะช่วยมันกินเสียเดี๋ยวนี้”

เมื่อพูดจบ ผีตัวเขียวก็กางกรงเล็บออกมา คว้าขวดเหล้าสีดำไว้ในมืออีกครั้ง เปิดฝาขวดแล้วดึงวิญญาณตัวซีดที่คอยกรีดร้องตลอดเวลาออกมา

ใบหน้าของผีตัวม่วงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับกล่าวว่า “ก็ต้องเป็นเช่นนั้น พวกเรากินกันก่อนเถอะ ถ้าไอ้เฒ่านั่นยังไม่มาอีก พวกเราก็จะกินส่วนที่มันควรได้รับไปเสีย เราสองพี่น้องไม่สามารถรอได้นาน เพราะมันจะเสี่ยงจนเกินไป”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด