ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 40 พลังพิเศษโดยกำเนิด
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 40 พลังพิเศษโดยกำเนิด
ภายในลานที่เต็มไปด้วยเลือด เด็กสาวมองไปยังคงหนิงที่อยู่ข้างๆ นางทันที
เพราะการเปลี่ยนแปลงไปของผีร้ายที่อยู่ตรงหน้า เกิดขึ้นตั้งแต่คงหนิงเปิดปากพูด
แต่คงหนิงยังคงจับจ้องไปที่ผีร้ายตรงหน้าราวกับไม่เห็นสายตาของหว่านเอ๋อ แล้วกล่าวด้วยเสียงเย็นชา
“จางจ้ง กำหนดเวลาของเจ้ามาถึงแล้ว ข้าได้รับคำสั่งให้มาพาตัวเจ้าไป อย่าได้หาญกล้าต่อสู้ เพียงติดตามเราไปอย่างเชื่อฟัง”
“หากเจ้าดื้อรั้นต่อต้าน เจ้าจะต้องเข้าไปในขุมนรกสิบแปดชั้นอย่างแน่นอน ไม่มีวันได้ผุดได้เกิด!”
ในเวลาเดียวกันกับที่คงหนิงพูด พลังปีศาจภายในร่างของเขาก็หมุนเวียน เสริมความแข็งแกร่งให้กับภาพลวงตา
พลังพิเศษภาพลวงตา ดอกไม้ในกระจก พระจันทร์บนผิวน้ำ ที่ได้มาจากการสังหารตัวกินวิญญาณถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในยามนี้ มันทำให้ผีร้ายน่าสะพรึงกลัวที่มีนามว่าจางจ้งผู้นี้ตกใจ
จางจ้งมองดูยมทูตดำขาวที่อยู่ข้างหน้าด้วยความตกใจและหวาดกลัว คำรามลั่น “อย่าแม้แต่จะคิด แม้ว่าจะเป็นยมทูตดำขาวจริงๆ ข้าก็ไม่กลัว!”
คำกล่าวเพิ่งจบลง ผีร้ายก็หันหลังกลับ วิ่งหนีเข้าไปในบ้าน
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ก้าวขาออกไป ก็เห็นวิญญาณน่าสะพรึงกลัวสองตน ตัวหนึ่งสีขาวและตัวหนึ่งสีดำยืนอยู่หน้าประตูบ้าน
ยมทูตสีขาวตัวผอมบางแย้มยิ้ม ใบหน้าซีดขาว ลิ้นสีแดงยาวยื่นออกมาจากปาก หมวกทรงสูงที่สวมอยู่เขียนไว้ว่า “ร่ำรวยตั้งแต่แรกเห็น” ถือไม้ไว้ทุกข์ไว้ในมือ เต็มไปด้วยพลังหยิน
ที่ด้านข้างของยมทูตสีขาว ยมทูตสีดำตัวอ้วนเตี้ยดูมืดมนมีสีหน้าเคร่งขรึมดุดัน ถือโซ่จับวิญญาณไว้ในมือ และสวมหมวกทรงสูงที่มีคำว่า “ความสงบสุขในใต้หล้า” เขียนเอาไว้
ยมทูตดำขาวจู่ๆ ก็มาอยู่ตรงหน้ามันตั้งแต่เมื่อใด? ทำไมมันไม่ทันได้สังเกต?
ท่าทีของวิญญาณหมอจางจ้งตื่นตระหนกอย่างมาก
มันหันกลับมาอีกครั้ง ต้องการจะวิ่งหนี แต่ก็เห็นยมทูตดำขาวยืนอยู่ที่ประตูรั้วหน้าลานเช่นกัน
ในลานแห่งนี้มียมทูตดำขาวถึงสองคู่เลยงั้นหรือ?!
ผีร้ายดูหงุดหงิดมาก มันพูดด้วยความโกรธเคืองว่า “มันจะรังแกกันมากเกินไปแล้ว! ถึงแม้จะเป็นเทพในโลกวิญญาณ ก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยราคาแพง!”
ผีร้ายคำรามด้วยความดุร้าย ร่างกายพองออกด้วยพลังหยินที่อยู่ภายใน ร่างผอมบางง่อนแง่นในตอนแรกเติบโตขึ้นในทันที กลายเป็นผีร้ายตัวมหึมาสูงประมาณหนึ่งจ้าง
ผีร้ายร่างใหญ่ที่มีความสูงกว่าสามเมตร บนร่างเต็มไปด้วยเส้นแสงสีฟ้าแปลกๆ กล้ามเนื้อปูดโปนเป็นมัดๆ มีสองหัว สี่แขน
มันคำรามก้อง โบกกรงเล็บวิญญาณที่แข็งแกร่ง วิ่งเข้าหายมทูตดำขาวตรงหน้าที่ขวางกั้นประตูรั้วเอาไว้อยู่
ที่ประตูรั้ว ยมทูตดำขาวยกไม้ไว้ทุกข์และโซ่จับวิญญาณขึ้นพร้อมๆ กัน ตั้งท่าป้องกัน
ยมทูตสีขาวพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ดื้อรั้นต่อต้าน! มองหาความตาย!”
โซ่จับวิญญาณเย็นเยียบ พุ่งตรงเข้าหาผีร้ายตัวใหญ่
ผีร้ายร่างสูงกว่าสามเมตรคำรามอย่างบ้าคลั่ง กางกรงเล็บผีออกมาแล้วคว้าเข้าที่โซ่จับวิญญาณที่ยมทูตสีดำฟาดออกมา
แต่ทันทีที่มันจับโซ่เอาไว้ มันก็รู้สึกตกใจ
สัมผัสมัน.......ไม่ถูกต้อง!
และความน่ากลัวที่อธิบายไม่ได้ ก็พุ่งออกมาจากความว่างเปล่าด้านข้าง
ผีร้ายตัวใหญ่หัวใจสั่นสะท้าน พยายามหันหลังกลับ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
ปราณกระบี่อัดแน่นที่ฟันมาจากด้านข้าง บั่นหัวผีชั่วทันที
กระบี่แสงวิจิตร---แสงกระบี่ตัดนภา!
ปราณดาบที่แหลมอย่างไม่อาจหาสิ่งใดมาเทียบ ตัดหัวทั้งสองของผีร้ายออกโดยตรง
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องเจ็บปวดของวิญญาณร้าย กระบี่โบราณอีกเล่มที่มีใบดาบกว้างก็กะพริบวูบไหวมาในอากาศ สาดแสงเย็นยะเยือกออกมา
เคล็ดกระบี่สวรรค์---เมฆามฤตยูห้าทิศ!
ลำแสงกระบี่ระยิบระยับคมกริบกวาดเข้าใส่ร่างที่สูงกว่ารั้วกำแพงตรงหน้า
ผีร้ายเจ็บปวดเหลือแสน ไม่อาจเห็นใบหน้าที่แท้จริงของคนที่ทำร้ายตัวมันได้แม้กระทั่งตอนที่กำลังจะตาย
หัวทั้งสองตกลงบนพื้น ทำได้เพียงจ้องมองอย่างโกรธเคืองไปในทิศทางที่ปราณกระบี่ถูกฟาดเข้ามา คำรามเสียงแหบแห้ง
พูดสาปส่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตายจาก
“น่ารังเกียจ!”
หลังจากการตายของวิญญาณหมอจางจ้ง ภาพลวงตาในลานบ้านก็ค่อยๆ คลายออกอย่างเงียบๆ
ร่างของคงหนิงและหว่านเอ๋อพลันปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า
หว่านเอ๋อดึงกระบี่โบราณกลับมา และมองคงหนิงที่อยู่ด้านข้างของนาง
ลังเลที่จะกล่าวคำ
คงหนิงเดินไปหยุดอยู่เบื้องหน้าร่างของวิญญาณหมอจางจ้งที่กำลังสลายไป แล้วกล่าวว่า “ถูกต้อง มันเป็นภาพลวงตา”
คงหนิงกล่าวว่า “ข้าเกิดมาพร้อมกับพลังเหนือธรรมชาติและสามารถใช้พลังภาพลวงตาที่มนุษย์ไม่สามารถใช้ได้ ก่อนหน้านี้ที่สังหารปีศาจได้ด้วยร่างกายของมนุษย์ธรรมดาก็เพราะอาศัยความช่วยเหลือจากภาพลวงตานี่แหละ”
หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงจ้องมองคงหนิง ก่อนจะค่อยเปิดปากพูดออกมาได้ “หัวหน้ามือปราบหนิง.......ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ!”
ในสถานการณ์วิกฤติเมื่อครู่ แม้ภาพลวงตาจะหลอกหลอนวิญญาณหมอจางจ้ง แต่ด้วยพลังปีศาจในปัจจุบันของคงหนิง ภาพลวงตายังไม่ถึงขั้นแทรกแซงความเป็นจริงได้ เป็นเพียงภาพลวงตาเฉยๆ
ดังนั้นในเรื่องการสังหาร จึงจำเป็นจะต้องลงมือเอง
เมื่อเผชิญหน้ากับผีร้ายที่แสนน่ากลัวนี้ เขาไม่กล้าปกปิดความแข็งแกร่งของตนเอง ด้วยพลังปีศาจเก้าสิบปี พลังของเพลงกระบี่แสงวิจิตรเหนือกว่าตอนที่เขาสังหารผีร้ายร่วมกับหว่านเอ๋อเมื่อก่อนมาก
ปราณดาบที่ฟันออกไปเมื่อครู่ ทำให้หว่านเอ๋อเห็นถึงความแข็งแกร่งเบื้องลึกของคงหนิง
เมื่อได้ยิน “คำชมเชย” ของหญิงสาว คงหนิงก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมา แล้วกล่าวว่า “ที่จริง ข้ายังมีพลังพิเศษอีกอย่างหนึ่ง ที่ข้าพอจะเข้าใจ มันคือการที่ข้ายิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่ง”
“หลังจากที่ข้าสังหารตัวกินวิญญาณและวิญญาณฝันร้าย ข้าก็รู้สึกได้ว่า ความแข็งแกร่งของข้าสูงกว่าที่เคยมีมา ต่อมา เมื่อข้าสังหารผีร้ายหลายต่อหลายตัวร่วมกับเจ้า ข้าก็มีความก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น ตอนนี้พลังบ่มเพาะของข้าเหนือกว่าคนธรรมดาแล้ว และแม้จะเป็นปีศาจ ก็พอจะรับมือได้”
ขณะที่คงหนิงกำลังพูด ไหดำลึกลับภายในร่างก็สั่นไหวอย่างต่อเนื่อง พลังวิญญาณที่เกิดจากการกลั่นวิญญาณหมอจางจ้งก็เสร็จสิ้น
กระแสพลังวิญญาณที่ปั่นป่วนไหลบ่าเข้าสู่ร่างกายของคงหนิง ทำให้พลังบ่มเพาะของเขาพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง
เพียงไม่กี่วินาที พลังปีศาจภายในร่างของคงหนิงก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้าพลังตบะก็เกินหนึ่งร้อยปี
ขณะที่พลังตบะบุกทะลวงขอบเขต คงหนิงก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาสั่นสะเทือน ร่างทั้งร่างได้รับการเปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ภายนอก แม้แต่จิตวิญญาณเองก็ดูเหมือนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
เพียงแต่ว่าคงหนิงไม่มีเวลามาศึกษาว่ามีอะไรในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปบ้างในยามนี้ เพราะพลังปีศาจในร่างยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง!
วิญญาณหมอจางจ้งผู้นี้เพิ่งจะตายไปเพียงสามปี แต่ไม่รู้ว่าเขากลืนกินเหล่าผีในโลกวิญญาณไปแล้วกี่ตัวต่อกี่ตัว
ในชั่วพริบตา คงหนิงก็ดูดซับพลังวิญญาณที่กลั่นออกมาจากไหสีดำลึกลับจนหมด
และพลังปีศาจภายในร่างก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปถึงหนึ่งร้อยสิบปี
พลังตบะเพิ่มขึ้นถึงยี่สิบปี!
วิญญาณหมอจางจ้งยอดเยี่ยมจริงๆ เขาเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุดที่ไหดำลึกลับหาได้
การสังหารผีร้ายจางจ้งได้กำไรมากกว่าผีร้ายในเมืองที่คงหนิงฆ่าไปเมื่อเร็วๆ นี้อีก และความเสี่ยงก็ไม่สูงมาก คงหนิงสามารถสังหารมันได้ด้วยตัวคนเดียว
น่าเสียดายที่การสังหารมันไม่ได้มอบพลังพิเศษเหนือธรรมชาติใดๆ มาให้ แต่แค่พลังตบะเพิ่มขึ้นถึงยี่สิบปีก็เพียงพอสำหรับคงหนิงในยามนี้แล้ว
ปัจจุบันเขามีพลังปีศาจถึงหนึ่งร้อยสิบปี ความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก และควรจะสามารถจัดการกับปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลสวีได้แล้ว
การเลือกเข้าเมืองผีด้วยตนเอง เป็นเรื่องที่ถูกต้องจริงๆ!
ขณะที่คงหนิงกำลังอิ่มเอมกับพลังบ่มเพาะที่เพิ่มขึ้น ภาพมัวๆ ก็ปรากฏแก่สายตา ทั้งหมดเป็นเศษเสี้ยวความทรงจำของวิญญาณหมอจางจ้ง
คาถาที่บันทึกไว้ในตำราของบรรพบุรุษ.......การเกิดใหม่เป็นผีร้าย......ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดกัดกินผีตนอื่น......
เศษเสี้ยวความทรงจำที่วาบเข้ามาในหัวของคงหนิงนั้นคลุมเครืออย่างยิ่ง แต่ก็พอจะรู้ได้ว่าจางจ้งได้กลืนกินผีร้ายจำนวนมากในโลกวิญญาณหลังจากกลับมาเกิดใหม่เป็นผีร้าย
ทั้งยังมีสหายอีกสองคน......เดี๋ยวนะ......สหาย?
ความทรงจำที่วาบเข้ามาในหัวทำให้คงหนิงตกตะลึงเล็กน้อย
เขาจำได้ว่าตอนที่เคาะประตู วิญญาณหมอจางจ้งตอบกลับอย่างใจเย็น จนกระทั่งเห็นว่าผู้มาเยือนเป็นคนแปลกหน้า จึงเผยใบหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียดออกมา......
เป็นไปได้ไหมว่าสหายของวิญญาณหมอจางจ้งจะมาหาคืนนี้?