WS บทที่ 365 ขึ้นไปชั้นที่หก
*ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ*
ลูกเพลิงหลายลูกพุ่งเข้าชนหมีกริซลี่สีเทาอย่างรวดเร็ว มันก่อตัวเป็นเปลวไฟสีขาวสูงเหนือความสูง มันกลืนกินหมีกริซลี่สีเทาไปทั้งร่าง
นี่คือคาถาระดับสามของเมอร์ลิน หลอมเปลวเพลิง หากมองอย่างผิวเผิน มันอาจดูเป็นแค่สะเก็ดไฟแต่ในความเป็นจริง เปลวไฟที่อยู่ภายในนั้นถูกบีบอัดอย่างแน่นหนาและด้วยเหตุนี้จึงมีพลังมหาศาล เมื่อปล่อยลูกเพลิงออกมา มันจะระเบิดด้วยพลังที่ไม่มีใครเทียบได้
ประจวบกับการประสานพลังของเพลิงวินาศ ก็ยิ่งทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นไปอีก ดังนั้นหลอมเปลวเพลิงจึงบรรลุจุดสูงสุดของคาถาระดับหกไปแล้ว
แม้จะมีการป้องกันของอักษรรูนที่ปกคลุมตัวหมีกริซลี่สีเทา แต่นี่เป็นช่องว่างระดับที่ไม่สามารถชดเชยได้ เมื่อเพลิงวินาศของเมอร์ลินทั้งร่างของหมีกริซลี่สีเทา อุณหภูมิที่สูงจนน่าตกใจก็สามารถทำลายเกราะได้อย่างง่ายดายราวกับหักกิ่งไม้ เพียงชั่วครู่ เกราะรูนของหมีกริซลี่สีเทาก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
เพื่อที่จะเอาชนะหมีกริซลี่สีเทา นักเวทย์ต้องสามารถเจาะทะลุการป้องกันรูนบนร่างของหมีได้
พลังของเพลิงวินาศนั้น มันเกินขีดจำกัดของรูนมาก ดังนั้นในช่วงเวลาที่อักษรรูนพังทลายลง ร่างของหมีกริซลี่สีเทาก็หายไปและเปลี่ยนกลับเป็นดาวที่ส่องแสงระยิบระยับสีขาวบนเสาสีแดง
"ฟู่…"
เมอร์ลินถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุด เขาก็พิชิตชั้นห้าได้แล้ว แม้ว่าเขาค่อนข้างมั่นใจว่าเขาจะสามารถทะลุผ่านชั้นห้าได้ แต่เขาก็โล่งใจมากที่มันประสบความสำเร็จจริง ๆ
ในไม่ช้า หมีกริซลี่สีเทาอีกตัวก็รวมตัวกันอีกครั้งระหว่างเสาสีแดง อย่างไรก็ตาม หมีตัวนี้สามารถสนทนาด้วยภาษามนุษย์ได้ ทำให้เมอร์ลินมองมันอย่างสนใจ
“ทำได้ดีมาก! มันเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่มีใครสามารถผ่านชั้นห้าไปได้! เจ้าสามารถพักที่นี่ได้ชั่วครู่ แล้วเจ้าสามารถเลือกได้ว่าจะไปต่อหรือไม่”
"ฉันสามารถออกไปได้?”
เมอร์ลินตกใจ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่า คนที่เข้ามาท้าทายจะออกจากหอคอยแห่งรูนอย่างง่ายดาย นอกเสียจากพ่ายแพ้ต่ออการทดสอบ
หมีกริซลี่สีเทายิ้ม “แน่นอน เจ้าออกไปได้ ตราบใดที่เจ้าอยู่ในหอคอยแห่งรูน มันจะไม่มีอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตของเจ้า แม้ว่าเจ้าจะพ่ายแพ้ให้กับวิญญาณผู้พิทักษ์ เจ้าก็แค่ถูกขับออกจากหอคอยแห่งรูน ดังนั้น น้อยคนนักที่จะเลือกออกจากหอคอยแห่งรูน”
เมอร์ลินพยักหน้าเข้าใจ หอคอยแห่งรูนถูกสร้างโดยจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ฟิเดล จุดประสงค์เพื่อเลือกนักเวทย์ที่ยอดเยี่ยมภายในดินแดนมนต์ดำ โดยเฉพาะนักเวทย์ที่เก่งด้านอักษรรูน มันเป็นหนึ่งในพื้นที่หลักที่น่าสนใจสำหรับจอมเวทย์ฟิเดล
เขายังอนุญาตให้นักเวทย์เข้ามาพร้อมกันสามคนในการท้าทายภายในหอคอยแห่งรูนด้วยกันซึ่งหมายความว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้รวมพลังเพื่อสร้างวงแหวนรูนเพื่อพิชิตหอคอย
ยิ่งไปกว่านั้น ความล้มเหลวในการพิชิตหอคอยจะไม่ส่งผลให้เสียชีวิต แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ผู้ท้าชิงจะถูกขับออกจากหอคอยแห่งรูนโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เช่นพ่อมดเอนเวียและทีมของเขา เมื่อพวกมันถูกหมีกริซลี่สีเทาชน ร่างกายของพวกมันก็ถูกห่อหุ้มด้วยลำแสงสีขาวทันที เมอร์ลินเดาว่าพวกเขาน่าจะถูกขับออกจากหอคอยแห่งรูนในลักษณะนั้น
เมื่อคิดตามแนวทางเหล่านั้น เมอร์ลินกล่าวว่า “ถึงฉันพ่ายแพ้ก็ไม่เสียหาย ฉันก็จะเดินหน้าท้าทานชั้นต่อไป”
หมีกริซลี่สีเทาพยักหน้า เป็นเรื่องปกติที่นักเวทย์ทุกคนเลือกที่จะดำเนินการต่อแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าศัตรูตัวใดอยู่ข้างหน้า ท้ายที่สุด พวกเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ ต่อร่างกาย ตราบใดที่พวกเขาอยู่ในหอคอยและยังสามารถเห็นพลังของวิญญาณผู้พิทักษ์บนชั้นหกด้วยตัวของพวกเขาเอง
“เจ้ายังสามารถเลือกที่จะพักผ่อนสักครู่ก่อนดำเนินการต่อ”
หมีกริซลี่สีเทาดูเหมือนจะ ‘เหมือนมนุษย์’ เล็กน้อยขณะที่มันเตือนให้เมอร์ลินพักผ่อนบนชั้นห้านานขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพลิงวินาศของเมอร์ลินไม่ได้ใช้พลังเวทย์มากนัก ด้วยจำนวนพลังเวทย์ที่สะสมในโครงสร้างคาถาภายในจิตใต้สำนึก เขาสามารถต่อสู้อย่างน้อยอีกสองสามชั่วโมงได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้น เมอร์ลินจึงส่ายหัว “ฉันไม่เป็นไร ส่งฉันไปที่ชั้นหกได้เลย”
หมีกริซลี่สีเทาไม่ยืนกรานอีกต่อไป ด้วยคลื่นเล็กน้อยของอุ้งเท้าขนาดมหึมา แสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นและล้อมรอบเมอร์ลิน ในชั่วพริบตาเขาก็หายตัวไป
…
ด้านนอกหอคอยแห่งรูน นักเวทย์จำนวนมากจ้องมองไปที่ชั้นห้าโดยไม่กะพริบตา อย่างไรก็ตาม มันเป็นเวลานานที่สุดที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในรัศมีของแสงบนชั้นห้า มันไม่ได้ขึ้นไปถึงชั้นหกแต่ก็ไม่ได้ดับไปเช่นกัน
“เขาพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากรึเปล่านะ?”
พ่อมดลีโอพึมพำอย่างเงียบ ๆ ภายใต้ลมหายใจของเขา เขาไม่เคยท้าทายหอคอยแห่งรูน แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจค่อนข้างสูงเกี่ยวกับความสำเร็จของเขาในด้านอักษรรูน อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเข้าร่วมดินแดนมนต์ดำ เป้าหมายของเขาคือการเป็นนักเวทย์ระดับสี่ขึ้นไป เป็นผลให้เขาไม่คิดแม้แต่เรื่องอื่นเลย
เมื่อเขากลายเป็นนักเวทย์ระดับสี่และสร้างหอคอยสำเร็จ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะท้าทายหอคอยแห่งรูนอีกต่อไป นี่เป็นหนึ่งในความเสียใจที่ใหญ่ที่สุดของพ่อมดลีโอ
ในที่สุด เมอร์ลินก็มาถึงหอคอยรูนแล้วและยิ่งไปกว่านั้น เขาได้ก้าวขึ้นไปถึงชั้นห้าด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า ความสำเร็จของเขาดึงดูดการคาดเดามากมายเกี่ยวกับการประลองทางอ้อมที่จะเกิดขึ้นระหว่างเขากับพ่อมดไคลส์ ทำให้พ่อมดลีโอรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่าพ่อมดลีโอจะไม่ทราบสถานการณ์ปัจจุบันของเมอร์ลิน แต่เขาก็ไม่ได้กังวลมากนักเนื่องจากไม่มีอันตรายภายในหอคอยแห่งรูน
*ครืน ครืน*
ทันใดนั้น ลำแสงบนหอคอยรูนก็เริ่มสว่างวาบราวกับจะหายไปเมื่อใดก็ได้ หากรัศมีของแสงบนชั้นห้าหายไป แสดงว่าเมอร์ลินล้มเหลวในการพิชิตหอคอย
อย่างไรก็ตาม รังสีของแสงบนชั้นห้าก็แวบวาบครู่หนึ่งจากนั้นก็ขึ้นไปที่ชั้นหกทันที ส่องสว่างไปยังชั้นที่หกของหอคอยแห่งรูน!
สิ่งนี้ทำให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่นักเวทย์ทั้งหมด!
“ชั้นหก ในที่สุดก็มีคนไปถึงชั้นหก!”
“พ่อมดเมอร์ลินคือนักเวทย์หกธาตุที่ทรงพลังอย่างแท้จริง เขาแข็งแกร่งพอ ๆ กับไคลส์ในตอนนั้นเลย แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เมอร์ลินท้าทายหอคอยแห่งรูน แต่เขาก็สามารถขึ้นไปถึงชั้นหกได้แล้ว”
“ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมาภายในดินแดนมนต์ดำ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถไปถึงชั้นหกได้ จนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครสามารถเอาชนะชั้นที่หกได้เลย ย้อนกลับไปในตอนนั้น ไคลส์สามารถทะลุผ่านชั้นห้าได้เท่านั้น! ตอนนี้ฉันตั้งตารอการประลองทางอ้อมระหว่างพ่อมดเมอร์ลินและพ่อมดไคลส์!”
เมื่อเห็นว่าชั้นหกของหอคอยรูนสว่างขึ้น ทุกคนก็รู้ว่ามันหมายถึงอะไร หมายความว่าเมอร์ลินสามารถเอาชนะชั้นที่ห้าได้สำเร็จและก้าวขึ้นไปยังชั้นที่หกของหอคอยแห่งรูน
ความสามารถของเมอร์ลิน ในฐานะนักเวทย์หกธาตุนั้นยอดเยี่ยมกว่าไคลส์ซึ่งเป็นนักเวทย์ห้าธาตุ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่เมอร์ลินได้รับความสนใจจากดินแดนมนต์ดำ เขาก็ไม่สามารถหลีกหนีจากการถูกเปรียบเทียบกับไคลส์ได้ตลอดเวลา
ตราบใดที่มีการกล่าวถึงเมอร์ลิน ก็ต้องมีชื่อของไคส์กล่าวถึงเช่นกัน นักเวทย์หลายคนรวมทั้งนักเวทย์ระดับสูง ให้สนใจอย่างยิ่งที่จะได้เห็นการประลองระหว่างเมอร์ลินและไคลส์
ในตอนนี้ ในที่สุด ฝูงชนก็จะได้เห็น ‘การประลอง’ ระหว่างเมอร์ลินและไคลส์
“พ่อมดเอนเวีย เมอร์ลินสามารถพิชิตชั้นห้าได้จริง ๆ! ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราหวังว่าจะเผชิญหน้ากับไคลส์และฆ่าเขาเพื่อรับรางวัลมหาศาลจากดินแดนมนต์ดำ สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าพลังของเราไม่อาจทำอะไรไคลส์ได้ ไคลส์แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรือ?”
พ่อมดอิลแมนอดไม่ได้ที่จะกระซิบถาม ตอนแรกเขามีความมั่นใจมากในความสามารถของเขา ในฐานะที่เขาเป็นหนึ่งในนักเวทย์ที่มีพรสวรรค์มากกว่าในดินแดมนต์ดำ
พวกเขาไม่เคยพบเจอกับไคลส์ก่อนหน้านี้ ทั้งไคลส์และเมอร์ลินต่างก็คล้ายกันที่พวกเขาหายตัวไปเป็นเวลานานและไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่
ตอนนี้ไคลส์ได้ทรยศต่อดินแดมนต์ดำเพื่อเข้าร่วมกับออสมู ทางดินแดนมนต์ดำได้ตั้งค่าหัวของเขาไว้สูงมาก นักเวทย์ที่ต่ำกว่าระดับสี่ที่สามารถฆ่าไคลส์ได้ คน ๆ นั้นจะสามารถรับรางวัลใหญ่ได้
พ่อมดอิลแมนได้วางแผนไว้ในหัวของเขาด้วยว่าหากเขาพบกับไคลส์ เขาจะฉวยโอกาสฆ่าเขาและรับรางวัลมหาศาลสำหรับตัวเขาเอง
ก่อนหน้านี้ภายในหอคอย อิลแมนได้รวมพลังกับแม่มดซาร่าห์และพ่อมดเอนเวียเพื่อร่ายวงแหวนเวทย์ขนาดใหญ่เพื่อเอาชนะวิญญาณผู้พิทักษ์บนชั้นห้าของหอคอยแห่งรูนแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น มันจึงบอกเป็นนัยว่าพลังของพวกเขาอ่อนลงอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับไคลส์ที่สามารถทะลุผ่านไปยังชั้นที่หกได้โดยไม่เสียเหงื่อ!
ช่องว่างในความสามารถของพวกเขานั้นชัดเจนเกินไป หากพวกเขาปะทะกับไคลส์จริง ๆ พวกเขาจะต้องพบกับความหายนะอย่างแน่นอน
พ่อมดเอนเวียและแม่มดซาร่าห์กำลังคิดในแบบเดียวกัน พวกเขาทั้งสามคนถูกมองเก่งกาจและมีศักยภาพเป็นนักเวทย์ระดับสี่ ด้วยพลังของวงแหวนเวทย์ที่รวมกัน พวกเขามั่นใจในความสามารถของพวกเขาอย่างมาก จนถึงขั้นที่พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาสามารถฆ่าไคลส์ได้
อย่างไรก็ตาม พวกเขาล้มเหลวในการทะลุผ่านระดับที่ห้า ตอนนี้ พวกเขาตระหนักว่าไคลส์แข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคาดไว้มาก
“มารอดูกันว่าเมอร์ลินจะทะลุชั้นหกได้หรือไม่?”
น้ำเสียงของพ่อมดเอนเวียที่กล่าวถึงเมอร์ลิน มันฟังอบอุ่นขึ้นกว่าเดิมมาก ตอนนี้มุมมองของเขาที่มีต่อเมอร์ลินได้เปลี่ยนไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว
…
*หวู่ม*
เมอร์ลินค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและพบว่าเขาอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย นี่ต้องเป็นชั้นหกของหอคอยแห่งรูน อย่างไรก็ตาม ชั้นหกไม่มีเสาหินสีแดงอีกต่อไปแต่สถานที่ทั้งหมดกลับเต็มไปด้วยอักษรรูนหนาแน่นทุกซอกทุกมุม เมื่อเข้าสู่ชั้นที่หก เมอร์ลินสามารถสัมผัสได้อย่างคลุมเครือว่าคาถาในจิตใต้สำนึกของเขานั้นแทบจะอยากจะเคลื่อนไหวออกมาภายนอก
“มันเกิดอะไรขึ้น?”
เมอร์ลินเพิ่มความระมัดระวังในทันที ชั้นหกของหอคอยแห่งรูนนั้นแปลกเกินไป แตกต่างอย่างมากจากห้าชั้นแรก เขาไม่กล้าเสียสมาธิ ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมาไม่มีใครในดินแดนมนต์ดำที่สามารถทะลุผ่านชั้นหกได้
ในบรรดาผู้ท้าชิงรวมถึงไคลส์อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุดที่ดินแดนมนต์ดำเคยมีมาหลายร้อยปีแล้ว! ย้อนกลับไปตอนนั้น ไคลส์ท้าทายหอคอยแห่งรูนเป็นครั้งแรก มันก็เป็นการเดินในสวนสาธารณะสำหรับเขาจนกระทั่งเขาไปถึงชั้นหก
อย่างไรก็ตาม การพิชิตของเขาสิ้นสุดลงก่อนเวลาอันควรบนชั้นหก และเขาก็ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้
ดังนั้น เมอร์ลินจึงระมัดระวังอย่างยิ่งเมื่อไปที่ชั้นหกของหอคอยแห่งรูน โดยไม่ยอมให้สมาธิของเขาขาดช่วงแม้แต่ครู่เดียว
*ครืน*
ทันใดนั้นทั้งห้องก็สั่นสะเทือนเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน อักษรรูนลึกลับก็เริ่มรวมตัวกันและก่อตัวขึ้น ภายใต้สายตาที่จับจ้องของเมอร์ลิน ร่างที่คุ้นเคยก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมา…