420 - พี่ชายของราชานกยูง
420 - พี่ชายของราชานกยูง
นักพรตเฒ่ายืนอยู่ในความว่างเปล่าโดยหันหลังให้ภูเขาสีม่วง สายตาของเขากวาดไปยังทิศทางหนึ่งพร้อมกับกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“พวกเจ้าจะออกมาดีๆหรือจะต้องให้ข้าไปเชิญด้วยตัวเอง?”
ดวงตาของเขาเป็นสีทองซีด ผิวกายเหมือนทองแดงเสื้อคลุมนักพรตโบราณพลิ้วไหว เขาไม่มีท่วงท่าอันศักดิ์สิทธิ์เหมือนจอมปราชญ์ เขาดูเหมือนราชาอสูรผู้น่ากลัวมากกว่า
"ฉี!”
ด้ายสีทองสองเส้นพุ่งออกจากดวงตาของเขา และเงาของผู้บ่มเพาะห้าคนก็ถูกกระแทกออกจากก้อนเมฆที่อยู่ห่างไกล
ผู้คนเหล่านั้นตื่นตระหนก แต่โชคดีที่นักพรตเฒ่าดูเหมือนจะไม่ต้องการฆ่าคนอีกแล้วพวกเขาจึงไม่ได้ถูกทำร้ายถึงชีวิต
สี่คนในพวกเขาเป็นชายชราที่แก่หงําเหงือก ใบหน้าของพวกเขาเหี่ยวย่น เส้นผมหลุดร่วง แม้แต่พลังชีวิตก็ดูเหมือนจะหมดลงได้ตลอดเวลา
หัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้าน เขารู้จักคนชราเหล่านี้ พวกเขาคือผู้ติดตามของราชามังกรเขียว พลังชีวิตของพวกเขาใกล้จะหมดลงมาหลายปีแล้ว ไม่ทราบว่าพวกเขามาที่นี่เพื่ออะไร
นอกจากนี้ยังมีชายวัยกลางคนในวัยสามสิบ เขามีร่างกายสูงใหญ่ คิ้วคม ดวงตาสดใส ใบหน้าของเขาหล่อเหลาอย่างยิ่ง หากไม่ใช่กงเติ้งที่เป็นศิษย์ของราชานกยูงจะเป็นใครไปได้!
“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสคือใคร?” ชายชราคนหนึ่งประสานมือทักทายด้วยความสุภาพ
แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะแก่ชราหงำเหงือกและมีอายุเกือบจะพันปีแล้ว แต่เมื่อยืนอยู่ต่อหน้านักพรตเฒ่า พวกเขาก็รู้ดีว่าเมื่อเทียบกับฝ่ายตรงข้ามพวกเขาเป็นได้เพียงเด็กน้อยจริงๆ
นักพรตเฒ่าดูเหมือนจะไม่สนใจคำถามของชายชราเหล่านั้น เขากล่าวอย่างใจเย็นว่า
“ทุกสิ่งในอดีตถูกลืมไปนานแล้ว ที่นี่ไม่มีที่ของพวกเจ้า ไปได้แล้ว!”
นักพรตเฒ่าไม่พูดอะไรมากด้วยการสะบัดแขนเสื้ออีกครั้ง พายุลูกใหญ่สีเทาก็ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่าและพัดพาทุกคนออกจากที่นี่ในทันที
ในบรรดาผู้คนทั้งหมด กงเติ้งเป็นคนเดียวที่ไม่ถูกพรากไป แสงแห่งความโกลาหลอันวิจิตรบรรจงบนตัวของเขาส่องสว่าง ในขณะนี้เขากำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
“พลังปฐมแห่งความโกลาหล”
นักพรตเฒ่าแปลกใจเล็กน้อย แต่ในทันใดนั้นมือขนาดใหญ่ของเขาก็เคลื่อนผ่านความว่างเปล่าไปอย่างรวดเร็ว
“แข็งแกร่งก็จริง แต่ยังไม่เพียงพอ!”
กงเติ้งที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วกลับไม่สามารถรอดพ้นจากฝ่ามือของนักพรตเฒ่าได้ เขาถูกลากกลับเข้าหาชายชราอย่างรวดเร็ว
"นักพรตเฒ่า เจ้ากำลังทำอะไร!"
กงเติ้งคำรามด้วยความโกรธ เขาไม่เพียงแต่เป็นศิษย์ของราชานกยูงเท่านั้น เขายังเป็นลูกหลานที่แท้จริงของราชานกยูงด้วย ฝ่ายตรงข้ามลงมือโดยไม่เกรงใจเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ไว้หน้าอาจารย์ของเขาเลย
“บูม!”
กงเติ้งประสานอินอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นตราประทับสีดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า มันยิงลำแสงสีดำเข้าหานักพรตเฒ่าอย่างรุนแรงในทันที
“ศิลาแห่งความโกลาหล!”
หัวใจของเย่ฟ่านเต้นระรัว นี่เป็นศิลาชนิดเดียวกับที่ปรากฏอยู่ในสุสานของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่หรือ? เขาไม่คิดว่าราชานกยูงจะมีสมบัติชนิดนี้ด้วย
แรงกดดันต่อสถานที่นั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งทำให้ผู้คนหายใจไม่ออก ตราประทับที่ถูกสร้างขึ้นจากศิลาแห่งความโกลาหลปลดปล่อยหมอกสีดำที่เหมือนกรงขังให้โอบล้อมนักพรตเฒ่าอย่างรุนแรง
แต่นักพรตเฒ่าดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆว่า
"นี่คือเส้นใยของกลิ่นอายสังหารที่ถูกสร้างขึ้นจากศิลาแห่งความโกลาหล น่าคิดถึงจริงๆ"
“ติง ติง ติง”
นิ้วของเขาทิ่มแทงเข้าหากรงขังที่ถูกสร้างขึ้นจากตราประทับของศิลาแห่งความโกลาหลหลายครั้ง ทุกครั้งที่นิ้วของเขาทิ่มแทงออกไปกรงขังจะบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง
“บูม”
ตราประทับที่ถูกสร้างจากศิลาแห่งความโกลาหลระเบิดขึ้น แต่พลังปฐมแห่งความโกลาหลไม่ได้กระจัดกระจายไปไหน มันถูกดึงดูดเข้าหาฝ่ามือของนักพรตเฒ่าในทันที
ทันใดนั้นเสียงคำรามยาวก็ดังออกมาจากเศษเสี้ยวของพลังแห่งความโกลาหล ภาพธรรมนกยูงหลากสีสันก็โผล่ออกมาจากความว่างเปล่าเตรียมจะต่อสู้กับนักพรตเฒ่า
“ที่แท้ก็คือเจ้าเอง!”
นักพรตเฒ่ามีสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อยในขณะเดียวกันนกยูงหลากสีสันก็ถูกเขาปิดผนึกอย่างแน่นหนาไม่สามารถขยับตัวได้
“พี่ใหญ่ท่านออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
นกยูงหลากสีสันเป็นสัมผัสอันศักดิ์สิทธิ์ของราชานกยูงซึ่งรวมอยู่ในพลังปฐมแห่งความโกลาหลก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน
ในระยะไกลหัวใจของเย่ฟ่านสั่นสะท้าน นักพรตเฒ่าผู้นี้เป็นพี่ชายคนโตของราชานกยูง ไม่น่าแปลกใจที่เขามีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้
"ข้าเอง การเข้าสู่โลกมนุษย์อีกครั้งไม่คิดว่าสหายเก่าคนแรกที่พบจะเป็นเจ้า" นักพรตเฒ่าพยักหน้าก่อนจะปลดปล่อยนกยูงหลากสีสันตัวนั้นอีกครั้ง
ในตอนนี้กงเติ้งอยู่ในความงุนงงอย่างสมบูรณ์ พี่ชายคนโตของอาจารย์ ทำไมเขาถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน?
“พี่ใหญ่เมื่อ 1,500 ปีที่แล้วท่านไปอยู่ที่ไหน ข้านึกว่าท่านร่วงหล่นไปแล้วซะอีก” ราชานกยูงถามด้วยความตื่นเต้น เห็นได้ชัดว่าเขาดีใจกับเรื่องนี้มาก
เย่ฟ่านจิตใจสั่นสะท้าน 1,500 ปีก่อน คนคนนี้เป็นใครกันแน่ต่อให้เป็นประมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ก็ยากที่จะมีอายุยืนยาวถึงขนาดนี้!
มีข่าวลือว่าราชานกยูงได้ฝึกฝนมาเป็นเวลากว่าสองพันปีแล้ว และในความเป็นจริงเขาอาจจะมีอายุมากกว่าสามพันปีด้วยซ้ำ คนที่เป็นพี่ใหญ่ของเขาจะมีอายุมากแค่ไหน
"ข้าติดอยู่ในผาศักดิ์สิทธิ์และหลับใหลไปกว่า 1,500 ปี โชคดีที่สามารถหลุดออกมาได้เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่" นักพรตเฒ่าคร่ำครวญ
“ผาศักดิ์สิทธิ์ หน้าผาในตำนานที่ถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยเลือดของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต?” นกยูงหลากสีอุทาน
"เลือดโบราณศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่เป็นความจริง แต่ข้าติดอยู่ในค่ายคนของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่โบราณจริงๆและเกือบจะตายอยู่ที่นั่น" นักพรตเฒ่าถอนหายใจ
“ฮ่าฮ่าฮ่า พี่ใหญ่ท่านล้อเล่นแล้ว ท่านมีทักษะความแข็งแกร่งที่น่ากลัว ค่ายกลที่ล้าสมัยพวกนั้นจะควบคุมท่านได้อย่างไร” นกยูงหลากสีหัวเราะไม่เชื่อคำพูดนี้
"เจ้าสามารถพิสูจน์ความจริงข้อนี้ได้อย่างง่ายดายเมื่อเจ้าไปติดอยู่ในนั้นเอง" ชายชราพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ข้าก็คิดอยู่แล้วว่าในโลกนี้ไม่มีผู้ใดฆ่าพวกเราพี่น้องได้ ดังนั้นท่านไม่ควรจะตายไปง่ายๆแบบนี้ แต่ท่านหายไปนานมากเกินไปข้าจึงอดคิดในแง่ร้ายไม่ได้” ราชานกยูงยิ้ม
" ในช่วงที่ข้าถูกขังอยู่ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้รับของดีเช่นกัน ตราประทับแห่งความโกลาหลนั้นไม่ใช่สิ่งของธรรมดามันจะต้องอยู่ร่วมกับสมบัติโบราณสักอย่างแน่นอน” นักพรตเฒ่ากล่าวด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
“ข้าเพิ่งได้รับมันมาเมื่อไม่นานมานี้เอง มันเป็นสมบัติของยอดฝีมือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง เมื่อไม่กี่วันก่อนพวกเราต่อสู้กันอย่างหนักและข้าโชคดีที่ฆ่าเขาได้!”
ราชานกยูงทำตัวเหมือนเด็กที่พยายามอวดโอ่ความสามารถของตัวเอง
“ตอนนี้แผนการของเจ้าเป็นอย่างไร?” นักพรตเฒ่าที่ค้นพบสหายเก่าดูเหมือนจะถูกกระตุ้นความตื่นเต้นกลับมาอีกครั้ง
"ข้าปล่อยให้ลูกศิษย์ของข้าอาละวาดอยู่ในบริเวณนี้เพื่อหลอกล่อปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงมารับความตาย ข้าได้ยินมาว่าเขากำลังจะมาถึงแล้ว พี่ใหญ่สนใจจะลงมือในครั้งนี้หรือไม่”
“ตกลงข้าจะไปกับเจ้า”
หลังจากนั้นนักพรตเฒ่าก็หันกลับมาหาเย่ฟ่านและกล่าวว่า
“เด็กน้อยแม้ว่าพรสวรรค์ของเจ้าจะดีแต่การต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าเจ้าไม่มีความหวังที่จะจับปลาในน้ำขุ่นได้ รีบออกไปจากที่นี่จะดีกว่า”