Ep.32 - ลุยเดี่ยวกับมอนสเตอร์ชั้นยอด
Ep.32 - ลุยเดี่ยวกับมอนสเตอร์ชั้นยอด
ฮังอวี่บินเดี่ยว การเดินทางย่อมรวดเร็วขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ตลอดเส้นทางผ่านไปอย่างราบรื่น ไม่พบเจอปัญหาใดๆ
ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่หมาย
“ดีล่ะ น่าจะใช่ตรงนี้ เหมือนว่าจะเร็วกว่าที่คิดนิดหน่อย”
ป้ายบอกทางของโลกวิญญาณปรากฏขึ้นตรงหน้าฮังอวี่ เมื่อเพ่งมองเข้าไป ข้อมูลที่เกี่ยวข้องปรากฏขึ้นในหัวเขา - ป่าแห่งความเที่ยงธรรม
เช่นเดียวกับแดนฝังกระดูกก็อบลิน ป่าแห่งความเที่ยงธรรมเป็นชื่อสถานที่ และพื้นที่ของมันไม่ใช่น้อยๆ แต่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 ถึง 30 ไมล์ กินเนื้อที่กว่า 600 ตารางไมล์ ขนาดเทียบเท่ากับอำเภอเล็กๆอำเภอหนึ่งได้เลย
มันเป็นป่าที่เขียวชอุ่มมาก ข้างในมีเสียงร้อง ‘เจี๊ยกๆ เจี๊ยกๆ ’ ดังออกมาเป็นระยะๆ
เพียงฟังจากระยะไกล ก็พอระบุได้ว่ามันเป็นเสียงของสัตว์ป่าที่กำลังป่าวประกาศดินแดนของตัวเอง
และหากเพ่งมองดีๆ จะเจอเจ้าของเสียง ว่าเป็นมอนสเตอร์ที่คล้ายกับลิงกำลังโหนไปตามต้นไม้
พวกมันมีชื่อว่าลิงหัวเขียว สูงประมาณห้าฟุต หากไม่นับเรื่องความสูงแล้ว โดยพื้นฐานมันก็เหมือนกับลิงทั่วไป ติดก็ตรงมีตาข้างเดียว และปากที่ใหญ่เป็นพิเศษ หน้าตาดูตลกมาก
ขนบนตัวของมอนสเตอร์ลิงมีสีน้ำตาลอมเหลือง แต่เฉพาะตรงบริเวณเหนือศีรษะที่เป็นสีเขียว คล้ายมีวัชพืชงอกบนหัว เสยขึ้นมาเหมือนทรงผมของเอลวิส แต่มองๆไปดูคล้ายเหมือนคนกำลังสวมหมวกเขียวมากกว่า
เมื่อเห็นลิงโลกวิญญาณที่มีตาเดียว ปากใหญ่ และสวมหมวกเขียว(สุษาภิตภรรยามีชู้) ฮังอวี่ก็อดระเบิดเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้
ตอนเจ้าของเสียงน่าเกรงขามสร้างโลกนี้ขึ้น สงสัยไม่ค่อยมีหัวทางด้านการออกแบบมอนสเตอร์ นั่นคงเป็นเหตุให้มอนสเตอร์ลิงหัวเขียวดูแปลกตาเช่นนี้
แต่แน่นอน ว่าแม้มันจะดูตลก แต่ไม่ใช่การดำรงอยู่ที่สามารถดูแคลนได้ ในฝูงลิงพวกนี้ อ่อนแอสุดอยู่ที่เลเวล 3 พวกมันไม่ใช่แค่ว่องไวมาก แต่ยังมีความสามารถในการโจมตีระยะไกล และยังอยู่รวมกันเป็นฝูง
ขืนเผลอไปยุ่งกับพวกมันเข้า ก็เตรียมถูกลิงทั้งฝูงรุมขย้ำได้เลย!
ก็อย่างว่าล่ะ สิ่งมีชีวิตที่สวมหมวกเขียว โดยทั่วไปแล้วมักนำพาความโชคร้ายมาให้
ฮังอวี่ไม่ต้องการดึงดูดความสนใจของพวกมัน ดังนั้นจำเป็นต้องหลีกเลี่ยง แต่การมุ่งหน้าเข้าไปในส่วนลึกของป่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถึงพวกลิงหัวเขียวจะมีตาเดียว แต่ดวงตาเดียวที่ว่ากลมโต ใหญ่เท่ากับสองตาของคนทั่วไป และยังสามารถทำหน้าที่ได้เหมือนกล้องส่องทางไกล ง่ายต่อการสังเกตเป้าหมาย
ง่ายๆก็คือ หากต้องการย่องผ่านดินแดนของพวกพี่ๆหมวกเขียว ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม แม้สายตาของลิงหมวกเขียวจะดีมากๆ แต่ประสาทการได้ยินและดมกลิ่นอ่อนแอสุดๆ ฉะนั้นหากใช้เทคนิคล่องหน ในทางทฤษฏีถือว่าสามารถฝ่าพวกมันไปได้
ทำไมเขาถึงพาพวกเหล่าจ้าวไปฆ่ามอนสเตอร์ในแดนฝังกระดูกก็อบลินน่ะหรือ? นั่นเพราะพื้นที่ดังกล่าว คือสถานที่ไม่กี่แห่งที่สามารถดรอปหินสกิลล่องหนได้ยังไงล่ะ!
ฮังอวี่ค่อยๆย่องเข้าไปในป่าทึบ เขาระมัดระวัง หลีกเลี่ยงมอนสเตอร์ลิงเขียวที่กระจายตัวอยู่ทุกกิ่งบนต้นไม้ ค่อยๆก้าวทีละนิดเข้าไปในป่าลึก
เมื่อระยะเวลาล่องหนสิ้นสุดลง ฮังอวี่จะซ่อนตัวในมุมอับเพื่อพักฟื้น
มอนสเตอร์ในบริเวณนี้หนาแน่นมากเกินไป! มองไปทางไหนก็เจอพวกมันไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัว สถานที่แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทีมธรรมดาจะรับมือได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ฮังอวี่ถึงไม่นำเหล่าจ้าวและคนอื่นๆมาด้วย
แม้มีสกิลล่องหน แต่ฮังอวี่ก็ยังไม่กล้าประมาท ไม่ใช่แค่เรื่องระยะเวลาล่องหนที่มีจำกัด แต่ยังเพราะในบางครั้ง กลางฝูงลิงจะมีจ่าฝูงระดับชั้นยอดปะปนอยู่ด้วย
มอนสเตอร์ลิงชั้นยอดนั้นแข็งแกร่งกว่าลิงหมวกเขียวทั่วไปมาก แต่ประเด็นก็คือมันมีขนาดไม่ต่างจากตัวอื่นๆ ยากที่จะระบุอย่างแน่ชัดได้
จ่าฝูงลิงหมวกเขียวคือมอนสเตอร์ขั้นบรอนซ์เลเวล 3! และคุณสมบัติของมอนสเตอร์ชั้นยอดตัวนี้ สูงกว่ามอนสเตอร์ระดับสามัญทั่วไปมาก! หนึ่งในนั้นคือความสามารถที่เรียกว่า ‘จิตรับรู้’ ซึ่งหากมีจิตรับรู้สูงมากพอ มันจะช่วยให้สามารถมองเห็นศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ได้
ดังนั้น ฮังอวี่เลยต้องระมัดระวังจ่าฝูงลิงหัวเขียวเป็นพิเศษ เว้นระยะห่างที่ปลอดภัย มิฉะนั้นขืนเข้าใกล้เกินไป ต่อให้อยู่ในสถานะล่องหน ก็อาจถูกพบตัวได้
พักมามากพอแล้ว ฮังอวี่เปิดใช้งานสกิลล่องหนอีกครั้ง และเริ่มเดินหน้าต่อ
เขาเดินและหยุดเช่นนี้ไปเรื่อยๆ คอยควบคุมจังหวะอย่างชาญฉลาด จนมุ่งหน้าลึกเข้ามาได้ 4-5 กิโลเมตร ในที่สุดก็มาถึงใจกลางป่าแห่งนี้ได้อย่างราบรื่น
จำนวนของมอนสเตอร์ลิงหัวเขียวที่กระจายอยู่รอบๆเริ่มลดลง ทว่ามีมอนสเตอร์อีกประเภทหนึ่งเข้ามาแทน
มอนสเตอร์ตัวใหม่นี้มีเอกลักษณ์มาก ถ้าไม่เพ่งมองดีๆ คงยากที่จะสังเกตเห็นมัน
มอนสเตอร์ตัวนี้คือต้นไม้ใหญ่ มองผ่านๆไม่ต่างจากต้นไม้ต้นอื่นๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่าใบดกหนาและสีเขียวชอุ่ม แต่หากสังเกตดีๆจะพบว่า บนลำต้นของมัน เปลือกไม้มีการเรียงตัวกันแปลกๆ คล้ายเป็นรูปทรงเค้าโครงใบหน้ามนุษย์ผุดขึ้นมา ดูน่าขนลุกมาก
ฮังอวี่ค้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากความทรงจำของเขา นี่คือมอนสเตอร์ขั้นบรอนซ์ชั้นยอดเลเวล 3 -- ต้นไม้ผู้พิทักษ์!
ถูกต้อง
มอนสเตอร์ตัวนี้ มันคือมอนสเตอร์ชั้นยอด!
ขณะที่ ฮังอวี่มีเลเวลแค่ 2 เท่านั้น การท้าทายมอนสเตอร์ชั้นยอดถือเป็นพฤติกรรมที่อันตรายมาก!
ตอนกำจัดหัวหน้าโนมปล้นศพขั้นบรอนซ์เลเวล 3 ขนาดเขาร่วมมือกับเจียงหนาน จ้าวหมิง และจางเสี่ยวเฉียงยังแทบรากเลือด ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงสถานการณ์ที่ต้องสู้เพียงลำพัง นี่ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย!
ยังไงก็ตาม บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างมีกฏเกณฑ์เฉพาะตัว และสำหรับมอนสเตอร์ตัวนี้ ฮังอวี่มีวิธีจัดการกับมัน!
เขาเริ่มจากตรวจสอบพื้นที่รอบๆก่อน ตรวจจนแน่ใจว่าไม่มีพวกพี่ชายหมวกเขียวอยู่ จากนั้นกะตำแหน่งด้วยสายตา แล้วหยิบหน้าไม้สั้นก็อบลินที่ซื้อมา พร้อมติดตั้งลูกศร และยิงออกไป
ผึง!
ฟุบบบ!
ลูกศรปักตรึงลงบนต้นของต้นไม้ผู้พิทักษ์ สร้างดาเมจ 1 หน่วย
ต้นไม้ผู้พิทักษ์ถูกกระตุ้น มันตอบสนองทันที ดวงตาที่ปิดสนิทเปิดออก แสงสีเขียวมรกตสาดวาบออกจากมัน
ใบหน้าเหมือนมนุษย์ที่แต่เดิมหลับใหลอยู่บนเปลือกไม้ ณ ขณะนี้บิดเบี้ยวและดูดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง
ฮังอวี่กัดฟันกรอด เจ้าหมอนี่มันหนังหนาซะจริง!
ต้นไม้ผู้พิทักษ์มีค่าพลังชีวิต 100 หน่วย นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการฟื้นฟูพลังชีวิตได้ดีอีกด้วย ในทุกๆสองสามวินาทีจะสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้ 1 หน่วย ไม่ง่ายเลยที่จะฆ่าให้ตาย
แต่ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้พี่ชายอย่างฉันมีเวลาเหลือเฟือ!
ฮังอวี่ยกหน้าไม้สั้นก็อบลินขึ้นมาแล้วยิงต่อเนื่อง ลูกศรพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ปักลงบนต้นไม้ผู้พิทักษ์อย่างต่อเนื่อง
-1!
-1!
-1!
ถูกทำดาเมจต่อเนื่อง ต้นไม้ผู้พิทักษ์โกรธมาก กิ่งก้านของมันสั่นไหว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไร ฮังอวี่ได้
ฮังอวี่รู้ข้อมูลมาจากในความทรงจำ ว่าต้นไม้ผู้พิทักษ์น่ะแข็งแกร่ง อีกทั้งยังครอบครองถึงสามสกิล และสองในสามคือท่าโจมตีระยะไกล
ท่าแรกคือ ‘รากพัวพัน’
อีกท่าคือ ‘หอกไม้ทิ่มแทง’
ความสามารถในการสร้างความเสียหายของมันค่อนข้างน่ากลัวมาก ต่อให้เป็นนักรบเลเวล 3 ที่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันสีขาว ก็ตายได้ในวินาทีเดียว
ในทำนองเดียวกัน ต้นไม้ผู้พิทักษ์ไม่หวาดกลัวนักเวทย์ เพราะมันมีความสามารถในการต้านทานเวทมนต์สูงมาก ด้วยสกิลติดตัวที่เรียกว่า ‘ลมหายใจวิญญาณ’
สกิลนี้สามารถป้องกันการโจมตีทางเวทมนต์ได้ เมื่อถูกโจมตีด้วยคาถาใดๆ มันสามารถต้านทานและดูดซับดาเมจบางส่วนจากการโจมตีทางเวทมนต์ และนำมาใช้ฟื้นฟูพลังแก่ตนเองได้เล็กน้อย
ซึ่งหมายความว่า เป็นเรื่องยากมากๆหากจะจัดการกับมอนสเตอร์ตัวนี้ด้วยเวทมนต์
เป็นไง ฟังดูร้ายกาจสุดๆไปเลยใช่ไหม?
อย่างไรก็ตาม มันมีจุดอ่อนร้ายแรง นั่นคือเผ่าพันธุ์ของต้นไม้วิญญาณนี้ ไม่มีความสามารถในการเคลื่อนที่
ซึ่งต้นไม้ผู้พิทักษ์คือหนึ่งในต้นไม้วิญญาณระดับล่าง ถึงสามารถโจมตีระยะไกลได้ แต่ก็ไม่ไกลขนาดนั้น ดังนั้นจึงมีวิธีเล่นตุกติกเพื่อจัดการกับมัน
นั่นคือทำดาเมจด้วยการโจมตีทางกายภาพ และรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยประมาณ 15 เมตร
ด้วยวิธีนี้ ก็จะสามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องสัมผัสตัว!
มาวัดกันหน่อยเถอะ ว่าแกกับฉัน ใครจะอึดกว่ากัน!