ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 37 เขตชานหลานที่เงียบสงบ
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 37 เขตชานหลานที่เงียบสงบ (ฟรี)
บนสะพานชิงป่าน กระบี่โบราณยังลอยอยู่กลางอากาศ และโซ่วิเศษสีน้ำเงินก็เหยียดตรงพุ่งเข้าไปในความว่างเปล่า สร้างเป็นค่ายกลกระบี่เพื่อปิดกั้นสรรพสิ่งภายใน
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ใบหน้าของหญิงสาวดูว่างเปล่า
คงหนิงได้ฟังคำตอบของนางก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก
“เมืองผีว่างเปล่าไปแล้ว?!”
เขาเผลอมองดูอากาศเบื้องหน้าโดยไม่รู้ตัว แม้ว่าคงหนิงจะไม่ทราบสถานการณ์ภายใน แต่เขาก็ยังอดตกตะลึงไม่ได้ “เจ้าไม่ได้บอกว่ามันเต็มไปด้วยผีร้ายหรอกหรือก่อนหน้านี้?”
ค่ายกลกระบี่ที่หญิงสาววางเอาไว้สามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นไปในเมืองผี
ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เด็กสาวเพิ่งจะบอกคงหนิงว่าเมืองผีเต็มไปด้วยวิญญาณชั่วร้าย และไอพลังความตายอันมืดมนก็แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า จะต้องมีผีร้ายรวมตัวกันอยู่หลายร้อยตัว
แต่ตอนนี้กลับบอกว่าภายในว่างเปล่า?
คงหนิงดูตกตะลึง
หญิงสาวจมดิ่งลงในภวังค์จิตอีกครั้ง แต่ก็ยังดูหดหู่ “ว่างเปล่าจริงๆ......หัวหน้ามือปราบหนิง ผีร้ายในเมืองผีแห่งนี้ดูเหมือนจะหนีไปหมดแล้ว”
สีหน้าของหญิงสาวตกตะลึง
คงหนิงรู้สึกทึ่งเล็กน้อย
“หนีไปแล้ว? แล้วพวกมันจะหนีไปไหน? มีทางเข้าออกอื่นอีกหรือไม่?” คงหนิงสับสนเล็กน้อย
หญิงสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวออกด้วยความเขินอายว่า “เป็นไปได้ไหมว่าพวกมันไม่กล้าออกมา......ปีศาจภายในเมืองทรงพลังจริงๆ บางทีผีร้ายอาจจะไม่กล้าออกมาสร้างปัญหาในช่วงเทศกาลวันสารทจีน”
“เมืองผีมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ถ้าพวกมันไม่ออกมาจากทางนี้ ก็ไม่ทางอื่นให้ออกมาอีกแล้ว”
เรื่องที่หญิงสาวคาดเดาค่อนข้างแปลก
นางยังคิดว่ามันฟังดูไร้สาระแม้ตัวเองจะเป็นคนพูดออกมาก็ตาม เด็กสาวจึงพูดเสริมออกไปเบาๆ ว่า “แต่ในเมืองผีไม่มีผีร้ายแล้วจริงๆ......”
คงหนิงมองไปที่นางแล้วกล่าวว่า “แม่นางหว่านเอ๋อ ขอถามเจ้าอย่าง ค่ายกลกระบี่ของเจ้าสามารถสัมผัสไอพลังในเมืองผีได้.......ถูกต้องหรือไม่?”
แม้ว่าโดยปกติแล้วนางจะทำงานคล่องแคล่ว แต่ก็มักจะหุนหันพลันแล่นและทึ่มไปหน่อย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นางอาจจะเผลอทำอะไรผิดพลาด
แต่หญิงสาวพูดอย่างมั่นใจว่า “แน่นอนว่ามันแม่นยำมาก ค่ายกลกระบี่นี้เป็นมรดกที่แท้จริงของปรมาจารย์ ต้องไม่มีปัญหาสิ.......ใช่ไหม?”
อย่างไรก็ตาม ในตอนสุดท้าย น้ำเสียงของนางดูไม่ค่อยแน่ใจนัก
คงหนิงมองดูนาง ถึงกับพูดไม่ออก หลังจากเงียบไปหลายวินาทีจึงกล่าวออกไปว่า “รออีกสักหน่อย อีกสักพักอาจจะสัมผัสไอพลังของผีร้ายได้อีกครั้งก็เป็นได้”
ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนจะถึงยามสาม ไม่ต้องกังวลอะไรมาก
คงหนิงปลอบโยนหญิงสาว และปล่อยให้นางสัมผัสสถานการณ์ภายในเมืองผีต่อไป ส่วนตัวเขานั่งลงข้างๆ นาง และฝึกฝนวิทยายุทธของตระกูลบังคับโคจรพลังปีศาจเพื่อรอเวลาก่อนจะถึงยามสาม
เวลาค่อยๆ ผ่านไป
ไอพลังความตายอันมืดมนภายในเมืองนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
กลิ่นฉุนของควันไฟกระจายไปทั่ว
เมื่อคงหนิงลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เวลาก็เข้าใกล้ยามสามเต็มที แต่หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้ากระบี่โบราณยังคงขมวดคิ้วมุ่น
เมื่อคงหนิงเดินเข้ามา หญิงสาวส่ายศีรษะด้วยความหงุดหงิดแล้วกล่าวว่า “หัวหน้ามือปราบหนิง ตอนนี้ก็ยังจับสัมผัสไม่ได้ ผีร้ายภายในเมืองผีน่าจะไม่อยู่แล้วจริงๆ......”
คงหนิงเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองเขตเมืองที่อยู่ด้านหลังของเขา
ท่ามกลางความมืดมิดยามค่ำคืน ภายในเขตเมืองก็ดูสงบสุขปราศจากความวุ่นวาย ถ้าผีร้ายในเมืองผีออกไปแล้ว พวกมันจะออกไปที่ไหน?
หนึ่งชั่วโมงก็น่าจะเพียงพอแล้วให้พวกมันเดินทางมายังโลกมนุษย์ใช่หรือไม่?
----หากมีทางเข้าอื่นจริงๆ ล่ะ
นอกจากนี้ ภายในเขตเมืองตอนนี้ก็ยังเงียบสงัดจนน่าขนลุก
ตามการคาดการณ์ของหว่านเอ๋อและคงหนิง ในคืนวันสารทจีนจะต้องเกิดความวุ่นวายภายในเมืองอย่างไม่อาจเลี่ยง
ซูหยานปีศาจแมงป่องจากต่างแดน ปีศาจดั้งเดิมในเขตเมือง และผีร้ายที่สิงสถิตอยู่ในเมือง......สามฝ่ายที่แสนจะชั่วร้ายนี้จะต้องสร้างความวุ่นวายให้เขตเมือง ต้องทำให้เขตเมืองกลายเป็นสนามรบนองเลือด
แม้แต่ตอนที่ซูหยานออกไปด้านนอก นางยังกล่าวออกมาด้วยตนเองว่าจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นภายในเขตเมืองคืนนี้ ดังนั้นคงหนิงจึงไม่ควรออกไปไหน
แต่ตอนนี้ก็เกือบจะยามสามแล้ว ทว่าภายในเขตเมืองยังคงสงบเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สงบเสียยิ่งกว่ายามปกติเสียอีก......
ถ้าไม่ใช่เพราะไอพลังความตายอันมืดมนในอากาศที่เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ คงหนิงคงคิดว่าคืนนี้เป็นเพียงคืนธรรมดาคืนหนึ่ง และยังไม่ถึงวันสารทจีน
แต่ตอนนี้ก็ใกล้จะยามสามแล้ว ทว่าภายในเมืองยังเงียบสงัด ทุกอย่างปกติดี ไม่มีผี ไม่มีคน ไม่มีปีศาจที่กำลังต่อสู้ห้ำหั่น
ตรงกันข้าม ไอพลังความตายอันมืดมนในชั้นบรรยากาศกลับยิ่งแข็งแกร่งและน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น
ไอพลังแห่งความตายอันมืดมนนั้นรุนแรงมากจนคงหนิงรู้สึกเสียวซ่านไปถึงหนังศีรษะของเขา
ความหนาวเหน็บที่อธิบายไม่ได้เกาะกุมหัวใจของคงหนิงเอาไว้
“แม่นางหว่านเอ๋อ” คงหนิงกระซิบคำออกมาขณะมองดูเขตเมืองอันเงียบสงบยามค่ำคืน “เจ้าจำการคาดเดาครั้งแรกของพวกเราได้ไหม?”
หญิงสาวตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “หัวหน้ากำลังจะบอกว่ามีผีร้ายที่น่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่สุดมิได้อยู่ภายในโลกวิญญาณงั้นหรือ แต่มันมีผีร้ายมากมายอยู่ภายในโลกวิญญาณนะ เป็นไปไม่ได้ที่ผีร้ายที่แข็งแกร่งเกินไปจะปรากฏตัว”
หลังจากที่หญิงสาวกล่าวจบ คงหนิงก็หันมามองนาง มุมปากกระตุกยิ้มเล็กน้อย กล่าวออกโดยไม่มีท่าทางล้อเล่น “ใช่ เมื่อก่อนมีผีร้ายอยู่มากมาย แต่ตอนนี้มันก็ไม่มีแล้วไม่ใช่หรือ? ต้องมีเหตุผลว่าทำไมเมืองผีซึ่งแต่เดิมเต็มไปด้วยผีร้ายจึงกลายเป็นว่างเปล่า ใช่หรือไม่?”
รอยยิ้มของคงหนิงทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว
“หัวหน้ามือปราบหนิง เจ้าหมายถึง......อาจมีผีร้ายทรงพลังอยู่ในโลกวิญญาณอย่างนั้นหรือ? ผีร้ายที่กลืนกินไปทั่วทั้งเมืองผี?”
คงหนิงส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “มันเป็นเพียงการคาดเดา มีความเป็นไปได้ไม่มากนัก แต่ไม่ว่าจะมีผีร้ายที่ทรงพลังอยู่ภายในนี้จริงๆ หรือไม่ สิ่งหนึ่งที่สามารถบอกได้คือ”
“ตอนนี้ภายในเมืองผีว่างเปล่าแล้ว!”
ตาของคงหนิงเพ่งไปยังทางเข้าเมืองผีที่อยู่เบื้องหน้า
ในสายตาของเขา หมอกสีขาวยังคงแผ่ขยายออกไป และหายเข้าไปในเมืองผี
เมื่อคงหนิงใช้ความสามารถในการค้นหาของไหดำลึกลับอีกครั้ง หมอกสีขาวก็ยังชี้ไปที่เมืองผีที่อยู่ข้างหน้า
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เป้าหมายของไหดำลึกลับที่คงหนิงกำลังตามหา ยังคงอยู่ภายในเมืองผี!
แม้ว่าเมืองผีในเวลานี้จะว่างเปล่าแล้วก็ตาม
คงหนิงมองไปที่หว่านเอ๋อด้านข้าง แล้วกล่าวว่า “แม่นางหว่านเอ๋อ ข้าวางแผนจะเข้าไปในเมืองผีเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นด้านใน......เจ้ามีวิธีอะไรที่พอจะช่วยข้าได้บ้างไหม?”
คงหนิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตราบใดที่ข้าสามารถเข้าไปในเมืองผีได้ ต่อให้ต้องเจอผีภายในนั้นข้าก็จะทำ เคล็ดวิชาที่เจ้าเชี่ยวชาญน่าจะช่วยข้าได้ใช่หรือไม่?”
เมืองผีว่างเปล่าแล้ว และสำหรับคงหนิง นี่นับเป็นโอกาส
เพราะเป้าหมายที่ไหดำลึกลับหาเจอ กำลังซ่อนตัวอยู่ในเมืองผี
ก่อนหน้านี้เมื่อพิจารณาว่าผีร้ายภายในเมืองผีมีอยู่มากมาย คงหนิงจึงยอมแพ้ในการตามล่าเป้าหมายเป็นการชั่วคราว แค่ปิดกั้นอยู่หน้าสะพานชิงป่านเพื่อสังหารปีศาจร้ายก็เพียงพอแล้ว เขาไม่ต้องการเข้าไปผจญภัยในโลกวิญญาณ
แต่ตอนนี้ เมื่อเมืองผีแห่งนี้ว่างเปล่าและไม่มีผีร้ายออกมา ฉะนั้นคงหนิงจึงต้องกลับมาที่เป้าหมายเดิม เลือกตัดสินใจทำตามคำแนะนำของไหดำลึกลับ สังหารสิ่งชั่วร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองผี
ไม่เช่นนั้นเมื่อวันสารทจีนผ่านพ้นไป และประตูผีปิดตัวลง ใครจะรู้เล่าว่าเขาจะยังมีโอกาสสังหารเป้าหมายที่อยู่ในเมืองผีได้อีกหรือไม่?
หากยังคงนิ่งเฉยอยู่แบบนี้ คงไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้ คงหนิงต้องกลับไปเผชิญหน้ากับปีศาจในคฤหาสน์ตระกูลสวีที่แสนน่าสะพรึงกลัวอีกครั้ง
เมื่อคิดว่าหมอกที่ชี้ไปทางคฤหาสน์ตระกูลสวีเป็นสีแดงเข้ม......คงหนิงก็ไม่อยากจะยั่วยุตัวตนเช่นนั้นโดยประมาท
เพียงแต่คำแนะนำของเขาทำให้หญิงสาวดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ
“หัวหน้ามือปราบหนิง เจ้าจะเข้าไปข้างในเมืองผีอย่างนั้นหรือ?”
“คนเดียวด้วย?”
หญิงสาวกล่าวออกด้วยอารมณ์ “ตลกอะไร! นั่นคือที่สิงสถิตของเหล่าภูตผีในโลกวิญญาณ และพวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรอยู่ด้านในนั้น! จะเสี่ยงเข้าไปได้อย่างไร!”