413 - สุนัขตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของไอ้สาระเลวคนไหน?
413 - สุนัขตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของไอ้สาระเลวคนไหน?
“เจ้า”
สีหน้าของคนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า
"เจ้ากล้าทำกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราแบบนี้จริงๆ!”
ผู้คนมากมายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงสั่นสะท้าน
"คนพวกนี้เป็นศัตรูของข้า หากศัตรูของเจ้าอยู่ตรงหน้าเจ้าจะแสดงความเมตตาหรือไม่?” เย่ฟ่านถาม
“ดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงของข้าจะไม่ยอมรับความอับอายครั้งนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่านางเป็นใคร?” มีคนกัดฟันถาม
"นางจะเป็นใครก็ช่าง ในเมื่อนางเป็นศัตรูของข้า ข้าก็จะสังหารทิ้งให้หมด "เย่ฟ่านตอบเรียบๆ
ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ตรงนั้นตกใจในความโหดเหี้ยมของเย่ฟ่าน แม้แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์ผู้งดงามเขาก็ยังไม่แสดงความเมตตาแม้แต่น้อย
"นั่นเป็นสตรีที่ไม่มีใครเทียบได้ เจ้าไม่อาจทำกับนางเช่นนี้"
" สตรีที่งดงามเช่นนี้กำลังจะกลายเป็นเถ้าถ่าน น้องชายเย่เจ้าช่างโหดร้ายจริงๆ " เจียงฮวยเหรินถอนหายใจด้วยความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้ง
อู๋จงเทียนได้ยินเช่นนั้นก็แค่นเสียงอย่างเย็นชาและตำหนิออกมาโดยตรงว่า
“น้องเย่ทำถูกต้องแล้ว คนพวกนี้เป็นศัตรูของเรา พวกเราไม่ควรมือไม้อ่อน เจ้าก็เช่นกัน เจ้าควรจะโหดเหี้ยมกว่านี้”
เย่ฟ่านไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมเขาเพียงสำรวจสภาพแวดล้อมอย่างเงียบๆ
"เจ้าควรออกไปโดยเร็ว."
สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกส่งสัญญาณเสียงมาอย่างแผ่วเบา
"หากผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นมาถึงเจ้าจะไม่มีโอกาสไปแล้ว"
“ขอบคุณสำหรับความกรุณาของแม่นาง”
เย่ฟ่านยิ้มก่อนจะส่งสัญญาณเสียงกลับไปว่า
"ในอนาคตข้าจะไปที่ทะเลสาบหยกพร้อมกับทองคำโลหิตหงส์”
เขากวาดตามองไปทั่วผู้สืบทอดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แต่ละคน ก่อนจะสะบัดหน้าจากไป สิ่งนี้ทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านล่างถอนหายใจยาวๆ เพราะกลัวว่าเย่ฟ่านจะลงมืออย่างโหดเหี้ยมอีกครั้ง
“ปัง!”
เย่ฟ่านกระแทกฝ่ามือขนาดใหญ่เข้าหาจี้ฮ่าวเยว่อย่างรุนแรง ร่างศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลจี้ได้รับบาดเจ็บและกำลังจะถูกโยนลงไปในเตาเทพอัคคี
อย่างไรก็ตามในที่สุดเย่ฟ่านก็ปล่อยมือของเขาออก เขานึกถึงมิตรภาพของเขาและจี้จื่อเยว่ดังนั้นเขาได้แต่ปล่อยจี้ฮ่าวเยว่สักครั้ง
“ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าชั่วคราว ในตอนที่ข้าไปถึงอาณาจักรลึกลับสี่สุดขั้วนั่นจะเป็นวันตายของเจ้า”
เย่ฟ่านบินกลับสู่ศิลาแห่งความโกลาหลและนั่งสมาธิอยู่ตรงนั้น ที่ด้านหน้าของเขามีเตาเทพอัคคีตั้งอยู่เพื่อให้เขาสามารถควบคุมพลังศักดิ์สิทธิ์ได้
เย่ฟ่านใช้เวลาอยู่ชั่วขณะหนึ่งเพื่อทำการหลอมกลั่นยอดฝีมือทั้งสามที่อยู่ในเตาเทพอัคคีให้หมดสิ้นเรี่ยวแรง ในระหว่างกระบวนการนั้น เขาหยิบม้วนหนังสัตว์โบราณออกมาและคลี่อ่านอย่างระมัดระวัง
สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาตกใจและผิดหวังเล็กน้อย เพราะรายละเอียดที่ถูกบันทึกอยู่ในหนังสัตว์แผ่นนี้ดูเหมือนจะเป็นแผนที่บางอย่าง เก้าญาณวิเศษลึกลับอยู่ที่ไหน?
ความจริงแล้วเย่ฟ่านเคยคิดว่าสถานที่แห่งนี้ไม่น่าจะมีญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้า และเขาเดาไม่ผิด นี่คือสุสานของตระกูลขุนนางโบราณจริงๆ
ภายในม้วนหนังสัตว์ไม่มีเก้าญาณวิเศษลึกลับ มันเป็นแผนที่และมีคำอธิบายอย่างคร่าวๆ
บรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณนี้ค่อนข้างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่าในจักรวาลนี้แม้แต่ตระกูลอมตะก็ยังไม่สามารถดำรงอยู่ได้ตลอดไป นับประสาอะไรกับผู้คนจากดินแดนล่างเช่นพวกเขา
แต่เขาไม่ต้องการให้หนึ่งในเก้าญาณวิเศษลึกลับถูกตัดขาดไปพร้อมกับความเสื่อมโทรมของวงศ์ตระกูล ดังนั้นเขาจึงทิ้งคัมภีร์ลึกลับไว้ในสถานที่ที่พิเศษและแผนที่นี้ชี้ไปที่นั่น
เมื่อเห็นชื่อของบุคคลที่ทำแผนที่ซึ่งมีนามว่าจินป๋อ เย่ฟ่านก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก บุคคลผู้นี้คือหนึ่งในยอดฝีมือที่เสียชีวิตอยู่บนเส้นทางเดียวกับราชันย์ศักดิ์สิทธิ์เจียงไท่ซู
เย่ฟ่านอดหวั่นไหวไม่ได้เมื่อมองเห็นแผนที่นี้ เขารู้จักดินแดนแห่งนี้อย่างแน่นอน มันคือเก้ามังกรพิทักษ์ภูเขา
นี่คือแผนที่ภูมิประเทศของภูเขาสีม่วง ภูเขาวิเศษของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ปราศจากจุดเริ่มต้น!
"จักรพรรดิดำ..." เย่ฟ่านส่งสัญญาณเสียงเข้าไปในหม้อ
สุนัขสีดำตัวใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในหม้อและมีสภาพย่ำแย่อย่างยิ่ง ในตอนที่มันโผล่ศีรษะออกมาจากหม้อแม้แต่น้ำลายของมันก็ยังกลายเป็นฟองไปแล้ว
“ถ้าข้ารู้ว่าอยู่ข้างในแล้วมันจะทรมานขนาดนี้ข้าคงไม่เข้ามาตั้งแต่แรก”
“เลิกบ่นได้แล้วดูแผนที่นี้สิ.”
เย่ฟ่านส่งแผนที่เข้าไปในหม้อวิเศษ
"ที่แท้สมบัติทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในสุสานนี้ก็มาจากภูเขาจักรพรรดินั่นเอง มีใครบางคนยกมันมาที่นี่”
ตอนนี้เย่ฟ่านไม่จำเป็นต้องเดา พระราชวังที่อยู่ด้านหน้านั้นจะต้องเคยตั้งอยู่ในภูเขาสีม่วงอย่างไม่ต้องสงสัย มีใครบางคนยกมันมาที่นี่จริงๆ?
หลังจากที่สุนัขสีดำตัวใหญ่สบถอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดมันก็ไม่สามารถพูดอะไรได้หลังจากที่มองเห็นแผนที่
" เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า หรือเจ้าถูกคำสาปจากแผนที่เข้าไปแล้ว" เย่ฟ่านกล่าวด้วยความสงสัย
"เจ้าหนู เจ้ามีความแค้นกับผู้ใดหรือไม่ ข้าสามารถแนะนำวิธีให้เจ้าจัดการพวกเขาได้" จักรพรรดิดำถามทันที
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร" เย่ฟ่านถาม
"ถ้าเจ้าไม่พอใจใครบางคนเจ้าก็สามารถมอบแผนที่ให้คนคนนั้นได้" จักรพรรดิดำตอบอย่างใจเย็น
“หมายความว่ายังไง? หากเป็นอย่างที่เจ้าพูดทุกคนจะไม่แห่กันไปที่ภูเขาสีม่วงหรือ!”
เย่ฟ่านรู้ดีว่าสุนัขสีดำตัวใหญ่หมายถึงอะไร แต่เขาไม่ต้องการให้ผู้คนค้นพบความลับของภูเขาสีม่วง
สุนัขสีดำตัวใหญ่พูดอย่างมึนงงเล็กน้อย
"เด็กน้อยเจ้าคิดว่าหากผู้คนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในภูเขาสีม่วง พวกเขายังจะมีโอกาสออกมาอีกหรือไม่?"
เย่ฟ่านก็ได้คิดเช่นกัน การที่เขาออกมาจากภูเขาสีม่วงได้มันเป็นเพราะเขาได้รับชิ้นส่วนของจี้หยกจักรพรรดิปราศจากจุดเริ่มต้น คนอื่นไม่แน่ว่าจะมีวาสนาเช่นเขา
"เจ้ามองดูสิว่าเจ้าไม่พอใจใครที่อยู่ที่นี่?" สุนัขสีดำกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"มอบแผนที่นี้ให้เขาสิ” มันพยายามชักจูง
เย่ฟ่านรู้สึกว่านี่เป็นความคิดที่ดี แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ไม่ต้องการให้คนอื่นค้นพบความลับของคัมภีร์ปราศจากจุดเริ่มต้นจึงทำให้เขาเกิดความลังเลอยู่เล็กน้อย
“เว้นแต่จะมีจี้หยกที่สมบูรณ์ มิฉะนั้นจะไม่มีใครเปิดคัมภีร์โบราณได้” จักรพรรดิดำยืนยันสิ่งที่เย่ฟ่านกังวล
จักรพรรดิดำมีความรอบรู้เป็นอย่างมาก แต่เย่ฟ่านไม่สามารถบังคับให้มันคลายความลับทั้งหมดออกมาได้ แล้วตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำคือการไตร่ตรองเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“คนของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ไม่มีอะไรทำ การทำให้พวกเขาหันเหความสนใจจากข้าก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน”
เย่ฟ่านตัดสินใจแล้วและต้องการส่งม้วนหนังสือโบราณออกไป แต่เขายังไม่สามารถหาข้ออ้างได้
ทำไมนักพรตผู้ชั่วร้ายถึงยังไม่ปรากฏตัว?
เย่ฟ่านคิดถึงต้วนเต๋อเป็นอย่างมาก หากเจ้าคนไร้ยางอายนั้นอยู่ที่นี่ข้ออ้างในการส่งต่อม้วนหนังสือโบราณนี้จะสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
"ปัง"
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากเจดีย์ อาวุธเต๋าสุดขั้วของเอี๋ยนหรูหยูกวาดออกไปอย่างรุนแรง
เจดีย์โบราณในห้องโถงทรุดตัวลงอย่างกะทันหัน เอี๋ยนหรูหยูที่ครอบครองอาวุธเต๋าสุดขั้วไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านได้ แม้แต่เจดีย์ที่เป็นสมบัติล้ำค่าก็ยังถูกทำลายกลายเป็นซากปรักหักพัง
ในเวลาเดียวกันศิษย์ของดินแดนศักสิทธิ์จำนวนมากที่อยู่บนพื้นต่างก็รีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เอี๋ยนหรูหยูเป็นอิสระแล้ว และท่าทีของนางเห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นมิตรกับพวกเขา
แม้ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดจะมีอาวุธเต๋าสุดขั้วอยู่ในครอบครอง แต่อาวุธพวกนั้นก็จะถูกใช้ออกโดยปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
ด้วยการปรากฏตัวของเอี๋ยนหรูหยูที่ครอบครองอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก มันจะไม่มีบุคคลรุ่นเดียวกันที่สามารถต่อต้านนางได้!
ปัง!
ทันใดนั้นแสงสีดำก็พุ่งเข้าหาเอี๋ยนหรูหยูอย่างรวดเร็วและมันทำให้นางกระแทกฝ่ามือออกไปด้วยความตกใจในทันที
“นักพรตต้วนเจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
เอี๋ยนหรูหยูมีสายตาเย็นชาในขณะที่มองไปยังร่างกายอ้วนท้วนของต้วนเต๋อ ต้วนเต๋อยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมและกล่าวว่า
"ข้าเกรงว่าองค์หญิงเอี๋ยนจะได้รับความเดือดร้อนข้าจึงรีบมาที่นี่เพื่อปกป้องเจ้า”
ไอ้อ้วนนี่! หัวใจของเย่ฟ่านตกตะลึง เจ้าสาระเลวนี่ซ่อนตัวอยู่นานแล้ว การที่เขาปรากฏตัวออกมาในตอนนี้ก็เพื่อแย่งชิงอาวุธของเอี๋ยนหรูหยูนั่นเอง
การแสดงออกของเอี๋ยนหรูหยูนั้นเรียบง่าย ใบหน้าหยกไร้ที่ติของนางไม่มีการแสดงออก นางไม่กล่าวคำพูดใดๆแต่มือของนางส่องแสงสีทองเจิดจ้าเตรียมจะเปิดฉากการต่อสู้อีกครั้ง
ต้วนเต๋อรีบกระโดดถอยหลังและกล่าวอย่างรวดเร็วว่า
“องค์หญิงเอี๋ยนอย่าเข้าใจข้าผิด ราชานกยูง ราชามังกรเขียว ราชาเผิงสวรรค์ ทุกคนต่างก็อยู่ข้างนอกหมดแล้ว ข้าไม่มีทางลงมือโจมตีเจ้าอย่างแน่นอนเว้นแต่ข้ารู้สึกเบื่อหน่ายชีวิตของตัวเอง”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมาใบหน้าทุกคนก็เปลี่ยนสี ไม่ใช่แค่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มาที่นี่ แม้แต่ราชาอสูรผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามก็ยังปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว
"ต้วนเต๋อข้าจะบอกเจ้าให้ แม้แต่ปู่ของข้าก็ยังมาที่นี่เช่นกัน." อู๋จงเทียนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เมื่อต้วนเต๋อได้ยินสิ่งนี้คอของเขาก็หดลงเล็กน้อย เขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยปล้นสุสานของบรรพบุรุษโจรผู้ยิ่งใหญ่ลำดับห้า หากเขาถูกจับตัวได้ที่นี่รับรองว่าจะต้องตายอย่างแนบสนิทไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้อีก
"เริ่มแผนการเลย!"
เย่ฟ่านส่งเสียงอย่างลับๆและหยิบม้วนคัมภีร์โบราณออกจากหม้อวิเศษก่อนจะถือไว้ในมือ การกระทำของเขาทำให้ดวงตาของหลายคนเปล่งประกายด้วยความสนใจ
ต้วนเต๋อที่เห็นเช่นนั้นก็ปลดปล่อยชามแตกหักออกมาใบหนึ่ง ชามแตกหักนี้ดูเหมือนจะมีอำนาจในการต่อต้านพลังของศิลาแห่งความโกลาหลได้!
ต้วนเต๋อเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าและนำม้วนกระดาษโบราณออกจากมือของเย่ฟ่านก่อนที่เขาจะยื่นมือเข้าหาหม้อวิเศษของเย่ฟ่านด้วยเสียงหัวเราะที่น่ารำคาญ
แต่ทันทีที่มือของเขาสัมผัสกับหูหม้อ หัวของสุนัขสีดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
"งับ!"
ต้วนเต๋อตะโกนด้วยความเจ็บปวด เขาเขย่าแขนขวาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในขณะนี้เขาถูกกัดมากกว่าเจ็ดแปดแผล ตั้งแต่นิ้วถึงแขน และเลือดของเขาก็ไหลหลั่งออกมาไม่หยุด
“สุนัขตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของไอ้สาระเลวคนไหน!”