ตอนที่แล้ว411 - ความสามารถที่แปลกประหลาดของเตาเทพอัคคี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป413 - สุนัขตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของไอ้สาระเลวคนไหน?

412 - ข้าสะสมเปลวไฟไว้มากมาย!


กำลังโหลดไฟล์

412 - ข้าสะสมเปลวไฟไว้มากมาย!

ในตอนแรก ราชาเผิงน้อยปีกทองยังคงประชดประชัน แต่ไม่นานหลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง

เตาตัวนี้คืออะไร? แม้แต่ราชาเผิงน้อยปีกทองก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่ากลัวมัน พลังของมันมีความสามารถในการต้านทานศิลาแห่งความโกลาหลได้ นี่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ!

ราชาเผิงน้อยปีกทองรู้ดีว่าหากปล่อยให้เย่ฟ่านมีเวลาในการควบคุมเตาเทพอัคคีอย่างเต็มที่ เมื่อถึงเวลานั้นตัวเขาจะได้รับอันตรายอย่างแสนสาหัส เขาจึงรีบบินเข้าหาเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว

เย่ฟ่านไม่ได้รู้สึกตกใจแม้แต่น้อย พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาสามารถกลับมาใช้ได้อีกครั้งและเขาก็พลิกคว่ำเตาเทพอัคคีลงให้เปลวไฟทั้งหมดพุ่งออกมา

“เจ้า...”

ดวงตาราชาเผิงน้อยปีกทองส่องแสงหวาดกลัว เขาพยายามเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกเปลวไฟ

“ดีมาก วันนี้ต่อให้ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้ก็ต้องเผาเส้นขนของเจ้าให้หมด!” เย่ฟ่านคำรามและรีบไล่ตามอย่างรวดเร็ว

เมื่อเปลวไฟของเขาบดขยี้เข้าหาราชาเผิงน้อยปีกทอง เย่ฟ่านก็กระแทกกำปั้นสีทองตามไปติดๆ

ปัง!

ราชาน้อยปีกทองที่หมุนคว้างอย่างรุนแรงก่อนจะตกลงไปในปากของเตาเทพอัคคี เย่ฟ่านฉวยโอกาสที่ทุกคนกำลังตกตะลึงเขาบินไปที่แท่นศิลาแห่งความโกลาหลอย่างรวดเร็ว

บรรยากาศรอบนอกเงียบสงบ จนบัดนี้เหล่ายอดฝีมือรุ่นเยาว์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์และสำนักใหญ่ของภาคเหนือถึงได้แสดงความกลัวต่อเย่ฟ่านเป็นครั้งแรก

ทันทีที่เย่ฟ่านยืนบนแท่นศิลาแห่งความโกลาหลได้สำเร็จ เหล่ายอดฝีมือรุ่นเยาว์พวกนั้นต่างก็รีบใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปิดบังทะเลแห่งจิตสำนึกของพวกเขา

เย่ฟ่านที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์เต็มเปี่ยมย่อมสามารถสังหารผู้ใดก็ได้ที่อยู่ในนี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีวิธีการลับในการปกป้องชีวิตของตัวเอง แต่ผู้ใดจะกล้ารับประกันได้ว่ามันจะได้ผล

โดยเฉพาะหญิงสาวสองสามคน พวกนางงดงามไม่มีใครเทียบได้ หากพวกนางถูกเย่ฟ่านทำให้เสื่อมเสียแม้แต่เล็กน้อย มันคงอยากที่พวกนางจะสู้หน้าผู้คนได้

นักพรตหญิงจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์อาณาจักรเต๋ายืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ แม้ว่าใบหน้าจะถูกปิดบังด้วยผ้าบางๆผืนหนึ่ง แต่ดวงตาของนางก็แสดงความสนใจในตัวของเย่ฟ่านอย่างชัดเจน

ในเวลานี้นางส่งเสียงสดใสราวกับไข่มุกที่ตกลงมาบนจานหยกว่า

“สหายเต๋าเจ้าควรไปจากที่นี่โดยเร็ว ไม่เช่นนั้นเกรงว่าจะตกอยู่ในอันตราย”

อีกด้านหนึ่งสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกก็กล่าวเบาๆว่า

"ทุกนิกายที่นี่มีผู้อาวุโสสูงสุด เจ้าควรออกไปก่อน"

แต่ในตอนที่หญิงสาวทั้งสองส่งเสียงตักเตือนเย่ฟ่าน กลับมีคนพวกหนึ่งที่ส่งเสียงสนับสนุนให้เกิดความรุนแรง นั่นคือทายาทของโจรผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสิบสามคน

“น้องเย่เจ้าควรสร้างชื่อเสียงของตัวเองให้โด่งดังมากกว่านี้ สิ่งที่เจ้าต้องทำคือฆ่าพวกมันทั้งหมด ต่อให้ที่อื่นไม่ต้อนรับเจ้าพวกเราพี่น้องก็ยินดีต้อนรับเจ้าเสมอ”

เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ผู้คนมากมายก็มีใบหน้าซีดขาว กลัวว่าเย่ฟ่านจะตอบรับข้อเสนอนี้จริงๆ

"สหายพวกเราเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนี้?"

บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงแม้ว่าจะร้อนรนเล็กน้อยแต่ท่าทีภายนอกของเขายังคงเต็มไปด้วยความสงบ

เย่ฟ่านไม่ได้พูดอะไรเขารู้ว่าบุคคลนี้ไม่ใช่คนดี หากมีโอกาสบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงคนนี้จะต้องสังหารเขาอย่างแน่นอน

เมื่อความคิดนี้มาถึง เย่ฟ่านก็โยนเตาเทพอัคคีของเขาเข้าหาบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงในขณะที่ฝ่ามือของเขาก็กระแทกซ้ำอีกครั้ง

ปัง!

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงโชติช่วงถูกเตาเทพอัคคีกระแทกหน้าอกอย่างรุนแรง แต่ก่อนที่เขาจะมีโอกาสตอบโต้มือสีทองขนาดใหญ่ของเย่ฟ่านก็จับเขายัดลงไปในเตาอีกคน

“เจ้า”

ที่ด้านล่าง ผู้คนจากดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงหน้าซีดด้วยความตกใจ พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าเย่ฟ่านจะเด็ดขาดขนาดนี้

หรือเขาไม่กลัวว่าผู้อาวุโสของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะไล่ล่าเขาไปจนสุดขอบฟ้า?!

“เจ้าทำให้ตระกูลจี้ขุ่นเคือง และยังต้องการที่จะเป็นศัตรูของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงอีกหรือ!” คนข้างล่างตะโกน

"ทุกครั้งที่คนของตระกูลจี้ไล่ตามข้ามันก็จะมีคนจากดินแดนศักสิทธิ์แสงโชติช่วงของเจ้าปะปนมาด้วยเสมอ พวกเราต่างก็เป็นศัตรูกันแล้วมีความจำเป็นอะไรที่ข้าจะเมตตาพวกเจ้า!" เย่ฟ่านเย้ยหยัน

ในเตาศักดิ์สิทธิ์ราชาเผิงน้อยปีกทองยังคงส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ ในขณะที่บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ส่งเสียงคร่ำครวญออกมา

ตอนนี้มีผู้คนมากมายหลั่งไหลไปที่ประตูห้องโถงชั้นที่หกเพื่อเรียกผู้อาวุโสของพวกเขาให้มาจัดการกับเย่ฟ่าน

แต่ในขณะที่พวกเขาวิ่งไปถึงประตูพวกเขาก็ถูกล้อมรอบด้วยธงนับร้อยและไม่สามารถออกจากที่นี่ได้สำเร็จ

ทุกคนอยู่ในความโกลาหลครั้งใหญ่ แต่ไม่มีทางที่จะออกไปได้ มันคล้ายกับว่าพวกเขาถูกขังไว้ในโลกใบเล็กๆใบหนึ่ง

“สหายไม่ทราบว่าพอจะบอกได้หรือไม่ว่าเตาของเจ้านี้ได้มายังไง?” ราชาสวรรค์น้อยของตระกูลเจียงถามขึ้นในทันใด

“มันเกี่ยวข้องกับเตาเทพสุริยันของตระกูลเจียงเจ้าหรือไม่?” เย่ฟ่านตอบคำถามด้วยคำถาม!

ร่างศักดิ์สิทธิ์ที่ปกคลุมไปด้วยเกราะเหล็กของราชาสวรรค์น้อยตระกูลเจียงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า

"มันห่างไกลจากเตาเทพสุริยันที่ข้าเคยเห็น แต่มันมีกลิ่นอายคล้ายกันอยู่บ้าง"

แม้ว่าจะกำลังสนทนากับราชาสวรรค์น้อยตระกูลเจียง เย่ฟ่านก็ไม่ได้หยุดความเคลื่อนไหว ตอนนี้เป้าหมายต่อไปของเขาคือเหยาซี

ความแค้นของพวกเขาทั้งสองที่มีต่อกันนั้นลึกซึ้งเกินไปยากที่จะลบล้างได้

แม้ว่าเหยาซีจะมีใบหน้าและรูปร่างที่งดงาม แต่นางก็ไม่เชื่อว่ารูปลักษณ์ภายนอกนี้จะทำให้เย่ฟ่านแสดงความเมตตาต่อนางได้ ดังนั้นนางจะมีความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

“คนงาม ถึงเวลาของเจ้าแล้ว”

มือสีทองขนาดใหญ่ของเย่ฟ่านตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างรุนแรง

“เย่ฟ่าน เจ้า…”

ด้านล่างผู้คนในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงแทบจะคุ้มคลั่งด้วยความโกรธ สตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไม่ควรถูกดูหมิ่น เย่ฟ่านกล้าทำให้นางอับอายต่อหน้าสาธารณชนจริงๆ?

ในตอนนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์และทายาทของมหาอำนาจในดินแดนรกร้างตะวันออกแทบจะอยู่ที่นี่ทั้งหมด และในอนาคตพวกเขาจะต้องกลายเป็นผู้นำของสำนักพวกเขา

หากเย่ฟ่านยังลงมืออย่างบ้าคลั่งและฆ่าผู้คนจนหมดสิ้น ความสูญเสียของดินแดนรกร้างตะวันออกนั้นจะไม่สามารถกู้คืนได้ในเวลาอันสั้น

สิ่งนี้จะนำไปสู่การลดลงของผู้มีพรสวรรค์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และบางทีความสูญเสียครั้งนี้อาจนำไปสู่การตกต่ำลงของดินแดนรกร้างตะวันออก แค่คิดถึงสิ่งนี้ผู้คนมากมายก็หนาวสั่นไปทั้งหัวใจ

“ที่แท้ก็เป็นเจ้า...” เหยาซีมีความสงบมาก นางแปลกใจเล็กน้อยที่พบว่าศัตรูแท้ที่จริงแล้วคือเย่ฟ่าน

“ใช่ ข้าเอง…”

เย่ฟ่านตอบนางด้วยท่าทางสงบนิ่ง

คำเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดามาก คนอื่นๆอาจจะไม่สนใจ แต่มีเพียงสตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกที่อยู่ถัดจากพวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้

เหยาซีจำได้ว่าเย่ฟ่านเป็นนักพรตตัวน้อยที่ครอบครองเตาเทพอัคคีและเข้าสู่เขตต้องห้ามแห่งชีวิตด้วยกัน เมื่อเขาแสดงเตานี้ออกมาเป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะเหตุนี้เองที่บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงได้ตกเป็นเป้าหมายของเย่ฟ่าน และตอนนี้ดูเหมือนว่านางก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมได้เช่นกัน?

ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ยังเป็นนักพรตตัวเล็กๆหรือเป็นเย่ฟ่าน สุดท้ายแล้วชะตากรรมของเขาก็ถูกกำหนดให้เป็นศัตรูกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงอยู่ดี

เหยาซีมีดวงตาที่เปล่งประกายและกล่าวว่า

"เจ้าต้องการโยนข้าลงในเตานั้นด้วยใช่ไหม น่าเสียดายที่ไม่มีเปลวไฟสีดำเพียงพอ มิฉะนั้นเจ้าจะสามารถสังหารพวกเราได้อย่างแน่นอน"

เย่ฟ่านส่ายหัว

"เจ้าไม่ต้องห่วง หากพูดถึงเปลวไฟข้าสะสมของพวกนี้ไว้มากมาย"

ในเวลานี้เหยาซีถึงเริ่มตกใจ เพราะมือสีทองใหญ่ของเย่ฟ่านจับตัวของนางไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว

เหยาซีไม่ได้มีร่างกายแข็งแกร่งเหมือนเช่นราชาน้อยปีกทอง นางเป็นเพียงผู้ฝึกฝนมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง หากนางถูกผลักเข้าไปในเตาเทพอัคคีก็มีโอกาสสูงที่นางจะเป็นคนแรกที่เสียชีวิต

"ถ้าเจ้าไม่ตายข้าจะคืนชุดชั้นในของเจ้าในอนาคต “

เย่ฟ่านยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม คำพูดเหล่านี้เป็นการส่งสัญญาณเสียง จุดประสงค์ที่เขาพูดเช่นนี้ก็เพื่อไม่ให้นางมีความคิดที่จะดิ้นรน

เคร้ง

ฝาของเตาศักดิ์สิทธิ์ถูกเปิดออก เย่ฟ่านโยนเหยาซีเข้าไปโดยไม่ลังเลและเด็ดขาด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด