บทที่ 46: ยักษ์ขั้นสูง
บทที่ 46: ยักษ์ขั้นสูง
"ทําไม? พวกเขาต่อสู้กับนกยูงไฟเหรอ?"
เด็กน้อยถาม ในพื้นที่นี้สิ่งเดียวที่สามารถทําให้เผ่าเฟลกลัวคือนกยูงไฟ ดังนั้นเธอจึงคิดถึงนกยูงไฟเป็นอย่างแรก
"ไม่ มันไม่ใช่นกยูงไฟ มันเป็นอสูรอัญเชิญพื้นเมืองอีกตัวหนึ่ง ที่สามารถฆ่าอีแร้งตัวใหญ่ระดับเหล็กดําที่ห่างจากขั้นสูงเพียงก้าวเดียว ได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว"เสียงที่จริงจังตอบกลับมา และเด็กน้อยก็เริ่มงงมากขึ้นเรื่อย ๆ
"อสูรอัญเชิญอีกตัวที่แข็งแกร่ง? มาที่พื้นที่ 99 เหรอ? "
"ใช่ มันคือแพนด้าแดง มันทรงพลังมาก เธอต้องระวังตัว เมื่อเธอพบมันให้รีบหาที่ซ่อน "
เสียงแชทตอบกลับมาอีกครั้ง มันทําให้เด็กหญิงตัวน้อยตกตะลึงสักครู่ จากนั้นเธอก็มองไปอีกทาง
ทางนั้นมีแพนด้าแดงที่กําลังบินไกลออกไปเรื่อยๆ
ทันใดเธอก็นึกถึงคราบเลือดบนกรงเล็บของแพนด้า สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป และเธอรีบถามกลับอย่างจริงจัง
"มันเป็นแพนด้าแดงจำลองการสื่อสาร ที่ดูเหมือนแรคคูนหรือเปล่า? และมันยังสามารถบินได้ด้วยใช่ไหม"
"ใช่ใช่มันนั่นไง รอเดี๋ยว!เธอรู้ได้ยังไร? เธอพบมันเหรอ!" มีเสียงกังวลมาจากแชท
"ใช่... ใช่มันบินผ่านฉันเมื่อเร็ว ๆ นี้และมันก็น่าจะเห็นฉันแน่นอน แต่มันไม่สนใจฉันและบินผ่านไป"
เด็กน้อยบอกความจริง ด้วยความกลัวเล็กน้อยในใจของเธอ ถ้าแพนด้าตัวนั้นตัดสินใจลงมามันสามารถฆ่าเธอได้ในตบเดียว
เพราะว่าเธออยู่ระดับกลางของเหล็กดําเท่านั้น และยังมีหนทางอีกยาวไกลกว่าจะไปถึงระดับบนๆ
"ตามที่เธอพูดแพนด้าแดงไม่ควรมีนิสัยโหดร้ายมากนัก แต่ก็ยังควรระวังตัวไว้ก่อน
เธอซ่อนตัวก่อน เดี๋ยวฉันจะไปรับทีหลัง มีทั้งนกยูงไฟอยู่ในพื้นที่ 99 และยังมีแพนด้าแดงตัวนี้อีก อสูรทั้งสองนี้ยิ่งทำให้พื้นที่นี้อันตรายมากขึ้นไปอีก มันคงจะดีถ้าเราสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัย "
"โอเค ฉันรู้แล้วฉันจะซ่อนตัวรออยู่ที่นี่"
เด็กหญิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แต่ดวงตากลมโตของเธอยังคงมองไปที่แพนด้าแดง ด้วยสกิลมองไกลของเธอ
อีกด้านหนึ่ง
หลี่ซวนที่บินมาอย่างยาวนานในที่สุดเขาก็มาถึงจุดหมายปลายทางของเขา
เมื่อมองไปที่ดอกไม้ในภูเขาเล็กๆนี้ ที่ลมพัดโบกมือไปมาเหมือนเชื้อเชิญเขา หลี่ซวนก็รู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาคิดว่าดอกไม้เหล่านี้สามารถอัพเกรดสกิลยักษ์
"เยี่ยม ในที่สุดฉันก็สามารถอัพเกรดสกิลของตัวเองได้"
หลี่ซวนพูดอย่างมีความสุข และไม่ลังเลเขาเริ่มกินดอกไม้บนภูเขานี้
ภายใต้การกินอย่างบ้าคลั่งนี้ สกิลขยายร่างบนแผงข้อมูลก็เริ่มเลื่อนอย่างรวดเร็วจนเริ่มเบลอ
เมื่อเห็นอย่างนี้เขาก็ยิ่งกินเร็วขึ้น
เมื่อรู้สึกถึงกระแสที่อบอุ่นที่อยู่ภายในร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง เขาก็ดูแผงข้อมูลอย่างรอคอย
เวลาผ่านไปทีละน้อย จนกระทั่งกระแสที่อบอุ่นได้กวาดผ่านแขนขาและกระดูกของเขา กระแสข้อมูลสกิลยักษ์ ก็แตกทันที
วินาทีถัดมาเสียงเตือนดังขึ้น
【ดิ๊ง! สกิลยักษ์ระดับกลางของคุณ เลื่อนขั้นเป็นยักษ์ขั้นสูง 】
ดิ๊ง!
ชื่อ: หลี่ซวน, 5199 คะแนนเกียรติยศ
อสูร: แพนด้าแดง [อสูรอัญเชิญธรรมดา]
จิตวิญญาณ: เหล็กดํา
เจ้านาย: ฉินหยู
ความสามารถ: การทําลายตัวเองระดับกลาง, การรักษาระดับกลาง, ลูกไฟระดับกลาง,มุมมองของพระเจ้าขั้นสูง, ปีกลม, การแปลงร่าง, ออร่ามังกรระดับกลาง, ยักษ์ขั้นสูง, แช่แข็ง, การรักษาตัวเองระดับกลาง, การจําลองสื่อสาร
......
"ในที่สุดก็อัพเกรดถึงขั้นสูง ฉันไม่รู้ว่ามันทรงพลังแค่ไหน? ฉันตั้งตารอมันจริงๆ"
หลี่ซวนกําลังจะลองขยายร่าง หลังจากการลองสิ้นสุดลงเขาจะระเบิดตัวเอง เพื่อหาสกิลใหม่ๆจากนั้นก็ไปหาฉินหยู
และหลังจากดูดซับพลังจิตวิญญาณที่ได้จากฉินหยูเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก็จะกลับสู่โลกอสูรอัญเชิญอีกครั้งและยังคงทำซ้ำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
เมื่อนึกได้อย่างนี้หลี่ซวนก็ยิ้มเล็กน้อยพร้อมที่จะระเบิดตัวเอง
แต่คราวนี้
ที่มุมมองของพระเจ้าเขาพบว่ามีอาเรย์อัญเชิญ ในทิศทางตะวันออกเฉียงใต้ มันทําให้ดวงตาของเขาเปล่งประกาย
"มันจะดีกว่าที่จะทําสัญญา ในขณะที่สัญญาถูกสร้างขึ้นฉันก็จะได้พลังจิตวิญญาณจํานวนมาก"
หลังจากคิดได้อย่างนี้ เขาก็รีบบินไปที่อาเรย์อัญเชิญโดยไม่ลังเล
จากระยะไกลเขาก็ได้เห็นอสูรอัญเชิญจํานวนมากที่วิ่งไปยังอาเรย์อัญเชิญ เห็นได้ชัดว่าพวกนั้นก็ต้องการเข้าไปและทำสัญญา
งั้นใช้อันนี้ ฮึม!
ออร่ามังกรที่น่าสะพรึงกลัวกวาดผ่านไปในทุกทิศทางครอบคลุมอสูรอัญเชิญรอบอาเรย์
ด้วยออร่าที่น่าสะพรึงกลัวนี้ทําให้อสูรอัญเชิญเหล่านั้นตกใจทันที รีบวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตและไม่สนใจเรื่องทำสัญญาอีกต่อไป
สกิลออร่ามังกรนี้ค่อนข้างดี มันคงจะดีถ้ามันได้รับการอัพเกรดเป็นระดับสูง รอบหน้าฉันคงต้องใส่ใจกับการหาวิธีอัพเกรดสกิลนี้ให้มากขึ้น"
หลี่ซวนพึมพํา บินลงในอาเรย์และเลือกทำสัญญาทันทีและค่อยๆหายไป
เวลาย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว
ในโลกอื่น นี่คือโลกใบเล็กๆ ที่คนธรรมดาถูกปกครองโดยกองทัพผู้พิทักษ์ โลกนี้มีประชากรเบาบางและมีเพียงประเทศเดียว
ตระกูลผู้พิทักษ์ของโลกนี้เกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่ง และมีพลังป้องกันที่น่ากลัวตั้งแต่แรกเกิดและดาบก็ยากที่จะทําร้ายพวกเขา
สิ่งนี้ทําให้คนธรรมดาในโลกนี้ไม่สามารถเอาชนะตระกูลนี้ได้ และต้องทนทุกข์อยู่ภายใต้การปกครองที่โหดร้ายของตระกูลนี้
ตระกูลนี้สร้างจักรวรรดิที่ทรงพลัง และด้วยความแข็งแกร่งที่พวกเขามีจึงปกครองคนธรรมดาด้วยระบอบเผด็จการ ทั้งรังแกคนธรรมดาและตามล่าพวกเห็นต่าง
และประชาชนคนธรรมดาตาดำๆมักถูกจับไปทดลอง จนเสียชีวิตและถูกโยนทิ้งในหลุมทิ้งศพ จนมีศพจํานวนมากกองเป็นเนินๆ คนในครอบครัวถ้าจะตามหา คนในครอบครัวของพวกเขาที่หายไป ก็จะหาได้จากในหลุมศพ ที่มีศพกองซ้อนๆกันเป็นจํานวนมากเท่านั้น
อาจกล่าวได้ว่าคนธรรมดาในโลกนี้เกลียดตระกูลผู้พิทักษ์กันมาก แต่พวกเขาก็ไม่มีอํานาจที่จะต่อต้านจึงต้องทนมีชีวิตอย่างทนทุกข์ได้เท่านั้น
เหตุผลที่ตระกูลนี้แข็งแกร่งมาก คือบรรพบุรุษของพวกเขาได้รับความสามารถการป้องกันจากอสูรอัญเชิญ
แม้ว่าจะเป็นพรสวรรค์ที่ได้มาโดยไม่ได้ตั้งใจ และทำให้ไม่สามารถรับความสามารถใหม่ๆ ได้อีกต่อไปซึ่งนําไปสู่การเกิดที่ต่ำของตระกูลของพวกเขา
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงค้นคว้าอสูรอัญเชิญอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและพยายามรับความสามารถของอสูรอัญเชิญที่ทรงพลังกว่า แต่น่าเสียดายที่พวกเขาทั้งหมดล้มเหลว
แม้แต่วัสดุทดลองจํานวนมากก็ตาย ซึ่งก็คือชีวิตของคนธรรมดาที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่
ในวันนี้
หลังจากเจ้าชายแห่งตระกูลผู้พิทักษ์สังหารเด็กหญิงธรรมดาสองคน เขาก็มาที่หอประชุมพระราชวังเตรียมจัดพิธีอัญเชิญ
ในวันนี้เป็นวันที่เจ้าชายจะทำสัญญากับอสูรอัญเชิญ เขาถูกคาดหวังอย่างสูงโดยจักรพรรดิและรัฐมนตรี
"ท่านพี่ เร็วเข้า ตราบใดที่ท่านพี่สามารถทําสัญญากับอสูรอัญเชิญระดับเหล็กดําที่ทรงพลังได้ พี่ก็จะสามารถปกครองพวกหมูเหล่านั้นได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น"ในฝูงชนมีสาวอ้วนกระโดดขึ้นลงจนพื้นสั่น
"ไม่ต้องกังวลฉันสามารถทำสัญญากับอสูรอัญเชิญระดับเหล็กดําได้แน่นอน แต่แม้ว่าฉันจะไม่ได้ทําสัญญากับอสูรระดับเหล็กดำ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลของเรา เราสามารถปกครองพวกหมูโง่เหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย"
เจ้าอ้วนพูดอย่างหยิ่งยโส บอกว่าคนธรรมดาเป็นหมู