บทที่ 14 แผนคร่าว ๆ
“โอเคป้า ผมจะไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ผมจะโทรหาเพื่อสรุปรายละเอียดแผนของเราอีกที”
“ราตรีสวัสดิ์ที่รัก ฉันจะรอรับสายจากเธอ”
เฟลิกซ์กล่าวราตรีสวัสดิ์และวางสาย จากนั้นเขาก็ไปที่ห้องนอนเพื่อตรวจดูปู่ของเขา และหยิบชุดนอนออกจากตู้เสื้อผ้า
หลังจากวัดอัตราการเต้นของหัวใจปู่แล้วเห็นว่ายังนิ่งอยู่ เขาก็หยิบชุดนอนไปนอนในห้องรับแขก
...
เช้าวันรุ่งขึ้น 10.00 น.
เฟลิกซ์ตื่นไปเข้าห้องน้ำเพื่อดูแลสุขอนามัยตัวเองเช่นเคย
แต่คราวนี้เขาพบว่าปู่ของเขานั่งอยู่บนโถส้วมขณะดูข่าวจากโทรศัพท์
หัวใจของเฟลิกซ์เต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นภาพนี้ ขณะที่เขาคิดว่าความดันโลหิตของปู่จะสูงขึ้นเมื่อเขาเห็นความโกลาหลและภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนอกเกาะ
เฟลิกซ์เดินเข้ามาหาเขาและถามอย่างแข็งทื่อ “ปู่ ปู่ดูอะไรอยู่น่ะ”
"โอ้ เพิ่งมีข่าวว่าทุกคนได้ยินเสียงแบบเดียวกับฉันเมื่อคืนนี้ ฉันไม่ได้หลอนจริง ๆ โลกถูกค้นพบโดยเผ่าพันธุ์อื่นและถูกต้อนจนมุม"
จากนั้นเขาก็เผชิญหน้ากับเฟลิกซ์และถามว่า "ไอ้หนู เมื่อวานแกโกหกฉันทำไม ดูเหมือนแกจะได้ยินเสียงนั้นด้วย แต่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
เฟลิกซ์มองปู่อย่างหงุดหงิด “มันก็เพราะผมต้องการช่วยชีวิตคนชราอย่างปู่ไง ถ้าผมตกใจหรือแสดงความกลัว ปู่คงรู้ว่ามันคือเรื่องจริง ผมไม่รู้ว่าปู่จะมีปฏิกิริยายังไง ไม่ว่าจะกลัวหรือโกรธ ทั้งหมดที่ผมรู้คือไม่ว่าปู่จะตอบสนองยังไง หัวใจของปู่จะพบว่ามันยากที่จะจัดการกับความดันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างกระทันหัน”
เขาส่ายหัวเบา ๆ และเสริมว่า “ผมไม่ต้องการรับเสี่ยงใด ๆ และปู่ควรดีใจที่ปู่อยู่ที่นี่ห่างไกลจากฝูงชน ผมอ่านข่าวเกี่ยวกับคนแก่ที่มีอาการเดียวกับปู่เสียชีวิตเหมือนแมลงวันเมื่อเสียงนั้นจบลง”
โรเบิร์ตยิ้มอย่างอบอุ่นหลังจากได้ยินเหตุผลของเฟลิกซ์ เขาก็คิดแบบนั้นเหมืนกัน
“ขอบคุณ ฉันซาบซึ้งกับความคิดนี้ของแก แต่แกไม่ต้องกังวล มันไม่ใช่แค่เอเลี่ยนบุกเหรอ ฉันดูหนังมากกว่า 20 เรื่องแล้ว และทุกเรื่องมนุษย์ชนะ”
เขาชูนิ้วโป้งให้เฟลิกซ์สองข้างและเสริมว่า “และฉันเชื่อว่าเราจะชนะในครั้งนี้เช่นกัน”
ทันใดนั้นเขาก็ตัวสั่นสะท้านแล้วพูดว่า "ปิดประตูห้องน้ำเดี๋ยวนี้ ศัตรูกำลังบุก!"
เฟลิกซ์เชื่อฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เขาตระหนักว่าเขาล้างสมองปู่มากเกินไปหน่อย หลังจากได้ยินว่าปู่เขามีศรัทธาว่ามนุษย์จะชนะหากพวกเขารบกัน
น่าเสียดายที่มันฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลกในสายตาของเฟลิกซ์ เพราะเขารู้ว่าอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของมนุษย์อย่างระเบิดนิวเคลียร์เป็นเพียงของเล่นในสายตาของมนุษย์จากภายนอก
อุปกรณ์ที่ล้าสมัยและราคาถูกเพียงเครื่องเดียวก็สามารถลบล้างมันได้อย่างสมบูรณ์ เปลี่ยนนิวเคลียร์เป็นขยะไร้ค่า
'แต่ตราบใดที่ปู่ไม่ตกอยู่ในอันตราย ก็ปล่อยให้ปู่จินตนาการไปตามที่ปู่ต้องการเถอะ'
จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำห้องข้าง ๆ
...
ในโรงอาหารของโรงแรม
เฟลิกซ์กำลังบอกไลลาและแจ็คที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา เช่นเดียวกับป้าของเขาที่กำลังใช้กล้องหน้าวีดิโอคอลกับเขาอยู่
“ป้าต้องจัดการรับทรัพยากรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้นอกเกาะ เพราะมันคงจะไม่ได้มีแค่พวกเราที่จะคิดไปไกลขนาดนั้น มีอัจฉริยะมากมายเช่นพ่อที่มีเซ้นส์ด้านกำไรที่น่ากลัว พวกเขาอาศัยเพียงเซ้นส์เหล่านั้นเพื่อเสี่ยงโชคไม่ใช่ความรู้ ดังนั้น นี่คือการแข่งขันเพื่อดูว่าใครจะเก็บสะสมทรัพยากรได้มากที่สุดจนกว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลโดยผู้นำ”
เขาหยุดจิบน้ำผลไม้อย่างรวดเร็วและพูดต่อไปอย่างมั่นใจ “ผมทำนายไว้ว่าเรามีเวลาประมาณ 3 เดือนก่อนที่ความวุ่นวายจะคลี่คลาย ดังนั้นซื้อและซื้อและซื้อต่อไปจนกว่าเงิน 20 ล้านดอลลาร์ของผมจะหมด”
“ถ้าไม่ใช่เพราะครอบครัวห้ามไม่ให้ผมกู้ยืมและใช้ได้เพียงงบประมาณที่พวกเขาให้มาเท่านั้น ผมจะลงทุนมากกว่า 50 ล้านแน่นอน”
เขาถอนหายใจด้วยความเศร้าที่สูญเสียผลกำไรจำนวนมากไปเนื่องจากกฎโง่ ๆ ที่มีขึ้นเพื่อหยุดพวกเขาจากการโกง
ป้าแมรี่ตอบว่า “ตกลง เมื่อพูดถึงการรวบรวมทรัพยากรเธอไม่ต้องกังวล ฉันใช้ชีวิตและหายใจอยู่ในธุรกิจนี้ ฉันจะดูแลการขนส่ง 20 ล้านของเธอก่อนจะเริ่มซื้อโดยใช้เงินตัวเอง แค่นั้นเธอก็สามารถชนะพวกเด็กเกเรที่คอยรังแกเธอมาตลอดได้”
เฟลิกซ์รำพึงในใจว่า ‘ป้า ป้าเข้าใจผิดแล้ว ผมเป็นคนรังแกพวกเขา! พวกเขาน่าสงสารจนต้องเป็นพันธมิตรกันเพื่อปกป้องตัวเอง'
แต่เขาไม่กล้าพูดออกมาดัง ๆ เพราะเขารู้ว่าเธอรักเขาตั้งแต่เขายังเด็ก ปฏิบัติกับเขาเหมือนลูกชายของเธอ เพราะเธอเป็นหมันเลยไม่สามารถมีลูกของตัวเองได้
“ขอบคุณครับป้า ผมไว้ใจป้าได้เสมอเลย”
เขาดื่มน้ำอีกอึกหนึ่งแล้วหันไปพูดกับไลลา
"คุณจะดูแลด้านลอจิสติกส์ ตั้งแต่เวลาที่การขนส่งแต่ละครั้งจะมาถึง จนถึงรายละเอียดจำนวนวัสดุล้ำค่าในกล่อง ตัวเลขต้องใกล้เคียงกับตัวเลขในอุดมคติ เนื่องจากของบางส่วนอาจจะสูญหายไประหว่างทางหรืออื่น ๆ"
เขาหยุดชั่วคราวเพื่อให้เธอจด เขาไม่ต้องการครอบงำเธอมากเกินไป ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็พูดต่อ
“ภารกิจที่สองของคุณคือการจ้างผู้จัดการคลังสินค้า คุณจะเลือกพวกเขาจากกลุ่มคนที่จะมาถึงในอนาคต และคุณสามารถเลือกคนที่คุณเห็นว่าเหมาะสมมาเป็นลูกน้องของคุณจากเหล่าคนรับใช้ และให้คะแนนการมีส่วนร่วมของพวกเขาแต่ละคน”
เขาหันไปมองแจ็คที่กำลังกลั้นใจรอคำสั่งของเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหมาย
“สำหรับคุณ แจ็ค คุณจะดูแลความปลอดภัยของเกาะ และความราบรื่นของการขนถ่ายสินค้าส่งไปยังโกดัง คุณสามารถจ้างกำลังคนติดอาวุธเพื่อปกป้องโกดังเหล่านั้นได้ ป้าจะจัดการเรื่องการลักลอบขนอาวุธมายังเกาะ และคุณยังสามารถเลือกลูกน้องเพื่อช่วยคุณในการจัดการกับเรื่องเหล่านี้ได้”
หลังจากบอกแผนกับทุกคนแล้ว เขาก็ชี้มาที่ตัวเองแล้วพูดว่า “สำหรับผม ผมจะดูแลการปรับปรุงเกาะด้วยตัวเอง ผมแปลนการออกแบบของสถาปนิกและวิศวกร และดูแลการผลิตเฟอร์นิเจอร์ของช่างฝีมือ”
"ทุกอย่างต้องเป๊ะ เพื่อที่เราจะสามารถสร้างเกาะใหม่ทั้งเกาะได้ในภายใน 2 ปี มันยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้"
เฟลิกซ์เช็ดปากด้วยผ้าเช็ดหน้า และพูดต่อว่า "นี่คือแผนคร่าว ๆ สำหรับตอนนี้ เราจะปรับไปตามสถานการณ์ในอนาคต ไปเลือกลูกน้อง และฝึกให้พวกเขารู้จักวิธีแกร่ง เราไม่ต้องการให้คนนอกเดินเพ่นพ่านไปทั่ว”
จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพูดว่า "ไว้ผมจะโทรหาป้าอีกเมื่อผมต้องการป้านะครับ"
.....
ในห้องนั่งเล่นหน้าทีวี เฟลิกซ์และโรเบิร์ตกำลังดูข่าวเกี่ยวกับความโกลาหลที่กำลังเกิดขึ้นในอเมริกาในขณะนี้
“โทรหาเพื่อนเหรอ ไม่มีใครตายใช่มั้ย” จู่ ๆ เฟลิกซ์ก็ถามขึ้น
“ใช่ ไม่มีใครตาย” เขาพูดเศร้า ๆ “น่าเสียดายที่เบนจามินรอดชีวิตมาได้ พวกเขาบอกฉันว่าเขาหมดสติเพราะดื่มมากเกินไป เขาได้ยินเสียงนั้นแต่ร่างกายของเขาไม่ตอบสนอง ไอ้เวรนี่ เขาน่าจะตายไปแล้วเพราะทำให้ฉันเสื่อมเสียชื่อเสียงอยู่เสมอ”
เฟลิกซ์เพิกเฉยต่ออารมณ์ฉุนเฉียวของปู่และถามว่า "ผมรู้ ดีที่พวกเขารอด ครอบครัวได้โทรหาปู่รึเปล่า"
“ใช่ พวกเขาโทรหาฉันเมื่อเช้านี้ เราสูญเสียผู้อาวุโสคนหนึ่งในคณะกรรมการครอบครัวไป เขากำลังผ่าตัดหัวใจเมื่อเสียงนั้นดังขึ้น พวกเขาบอกฉันว่าศัลยแพทย์หลักตัดหลอดเลือดแดงผิดเนื่องจากสายตาหลุดโฟกัส” เขาหยุด “และพวกเขาขอให้ฉันรีบกลับไปแทนที่เขาชั่วคราวจนกว่าจะหาคนมาแทนฉันได้”
“คราวนี้อย่าลาออกจากตำแหน่งอีกเลยปู่ ขอแค่ปู่อยู่ที่นั่นสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงก็จะเรียบร้อย ครอบครัวต้องการสมองของปู่จริง ๆ”
“หยุดประจบฉันซะทีไอ้เด็กเวร แกแค่ต้องการให้ฉันกลับไปเช็ดก้นแกอีกครั้งเวลาที่แกก่อเรื่อง” โรเบิร์ตหัวเราะคิกคัก
“คราวนี้ไม่ใช่แน่นอนปู่ ไม่ช้าปู่จะตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของหลานชาย และเห็นว่าปู่ไม่ได้ถูกหลอก”
โรเบิร์ตเพิกเฉยต่อคำสัญญาของเฟลิกซ์ เนื่องจากการโอ้อวดเป็นพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหลานชายเขาเสมอ เขามึนงงกับคำสัญญาของเขาแล้ว
เขาปิดทีวีเนื่องจากข่าวเดียวที่ออกอากาศคือข่าวการเสียชีวิตนับล้านทั่วโลก และคนปัญญาอ่อน 2 คนพยายามวิเคราะห์เสียงนั้น ซึ่งพูดถึงการคุกเข่า ตาย หรือเข้าร่วมเป็นพันธมิตร
“โอเค ฉันจะไปแต่งตัว ฉันจะไปในอีกหนึ่งชั่วโมง อย่าเผาโรงแรมเมื่อฉันไม่อยู่”
เฟลิกซ์แค่นหัวเราะและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลเมื่อปู่เห็นมันอีกครั้ง มันจะลุกเป็นไฟ”
โรเบิร์ตจ้องมาที่เขาและกลับห้องไปเปลี่ยนชุด
----------------------------------