บทที่ 12 และมันก็เริ่มต้นขึ้น
หลังจากจัดการกับสถานการณ์ด้านอาหาร เฟลิกซ์ก็ส่งข้อความถึงไลลาเพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการขนส่งและสั่งให้เธอดูแลมันเมื่อสินค้ามาถึง
2 ชั่วโมงต่อมา
เฟลิกซ์และปู่ของเขาเดินไปที่ห้องบอลรูมซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงโดยสวมสูททางการ
มีการบรรเลงเพลงคลาสสิก ขณะที่คนใช้ บอดี้การ์ด และสาวใช้ต่างก็สนุกสนาน เต้นรำ หัวเราะ และดื่มน้ำผลไม้อย่างน่าเศร้าแทนแอลกอฮอล์
โรเบิร์ตบ่นอยู่เสมอว่าเขาดื่มไม่อร่อยเลยตั้งแต่เขามาถึงเกาะแต่เฟลิกซ์ทำหูหนวก
สิ่งที่โรเบิร์ตไม่รู้คือเฟลิกซ์สั่งให้ซ่อนแอลกอฮอล์ทั้งหมดบนเกาะ มีเพียงแจ็คและตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้ว่าที่ซ่อนนั้นอยู่ที่ไหน
ดังนั้นโรเบิร์ตจึงเศร้าที่ต้องผ่านวันเวลาของเขาไปโดยไม่มีแอลกอฮอล์
หลังจากนั้นงานเลี้ยงก็จบลงด้วยดี และทุกคนก็กลับไปยังที่ของตน
เฟลิกซ์มุ่งหน้ากลับไปที่ห้องชุด ขณะที่ปู่ตามหลังเขามาโดยใช้กล้องหน้าวิดีโอคอลกับเพื่อนซึ่งอยู่ในบาร์และมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต ขณะที่เขาต้องติดอยู่ที่นี่จนกว่าเฟลิกซ์จะรู้สึกดีขึ้น
“ฮ่าฮ่า ตาแก่หัวล้าน ตอนนี้เอ็งดูเหมือนตอนที่ได้ยินเรื่องโรคหัวใจเป็นครั้งแรกเลยนะ” ได้ยินเสียงเยาะเย้ยจากโทรศัพท์
“เอ็งจะรู้อะไร! ข้ามีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตที่นี่กับหลานชาย เราเพิ่งไปงานปาร์ตี้ และพรุ่งนี้ข้าจะไปอาบแดดที่ชายหาด”
"อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยล่ะ ไม่งั้นผิวจะสูญเสียความแวววาวไป และมันจะดูแย่หากเอ็งต้องวิ่งแก้ผ้าไปรอบ ๆ ตึกในครั้งหน้า"
“ไอ้บ้าเบนจามิน! เอ็งพูดบ้าอะไรเนี่ย เมื่อไหร่ที่ข้าวิ่งแก้ผ้า! ถ้าข้ารู้ว่าเอ็งจะพูดพล่ามแบบนี้ ข้าคงไม่รับสายเอ็งหรอก”
โรเบิร์ตวางสายกับทันทีและพยายามอธิบายตัวเอง “อย่าไปฟังเขา ปู่ของแกเป็นผู้อาวุโสที่มีเกียรติในครอบครัว ทำไมฉันถึงทำอย่างนั้น”
“ผมเชื่อ ไม่ต้องห่วง ไปนอนเถอะ มันดึกแล้ว” เฟลิกซ์พยักหน้า
โรเบิร์ตเข้าไปในห้องชุดของเขาซึ่งอยู่ข้าง ๆ ห้องของเฟลิกซ์ขณะตะโกน “ฉันไม่ได้วิ่งแก้ผ้าจริง ๆ เขาทำให้ฉันเสื่อมเสีย เบนจามิน ไอ้เวรนั่นพยายามสร้างปัญหาให้ฉันเสมอ”
เฟลิกซ์เพียงแค่ผลักเขา เขาเอานิ้วแตะบนริมฝีปากของปู่แล้วผลักเขาเข้าไปข้างในจากนั้นปิดประตู
“ฉันไม่ได้ทำจริง ๆ แกต้องเชื่อฉันนะ” โรเบิร์ตยังคงปฏิเสธแม้จะอยู่ในห้องชุดแล้ว
เฟลิกซ์เข้าไปในห้องนอนของเขาและคิดอย่างสงสาร 'ปู่ การที่ปู่ชอบแก้ผ้าในที่สาธารณะเป็นความลับที่รู้กันในครอบครัวไปแล้ว มีเพียงปู่เท่านั้นที่ยังไม่รู้'
จากนั้นเขาก็รำพึงว่า 'ฉันก็สงสัยนะ ด้วยสติปัญญาของปู่ ปู่อาจจะรู้แล้ว แต่ไม่สนใจ ไอโย่ แก่แต่ขี้งก ถ้าแม่ยังมีชีวิตอยู่และเห็นปู่เป็นแบบนี้ เธอฆ่าปู่แน่'
.....
สามวันต่อมา 09:00 น.
ใกล้ท่าเรือ เรือลำใหญ่ที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์สีแดงจำนวนมหาศาลก็มาถึง
เฟลิกซ์ยืนอยู่ใกล้ท่าเรือโดยมีไลลาอยู่ข้าง ๆ
ปู่ของเขาไม่ได้มาด้วยเพราะเมื่อคืนเขาดูหนังเกิน 5 เรื่องอย่างเมามันและเหนื่อยมาก เฟลิกซ์จึงปล่อยให้เขานอนอย่างสงบ
หลังจากดูทุกอย่างเรียบร้อย เฟลิกซ์สั่งคนใช้พร้อมกับปรบมือสองครั้ง
“ไปเริ่มขนของได้เลย ทุกกล่องที่คุณขนคุณจะได้รับเงิน 10 ดอลลาร์ ดังนั้นรีบและทำให้เสร็จโดยเร็วที่สุด”
คนใช้มีแรงจูงใจในทันทีเมื่อได้ยินคำสัญญาของเขา
พวกเขามองดูเรือบรรทุกสินค้าด้วยความโลภและต้องการรีบขนของออกให้มากที่สุด
...
3 ชั่วโมงต่อมา
สินค้าทั้งหมดถูกขนถ่ายขึ้นท่าเรือ เฟลิกซ์มองไปยังคนใช้ที่หมดแรงแล้วพูดว่า
“พักหนึ่งชั่วโมงแล้วนำของไปที่โกดัง ในแต่ละกล่องที่คุณส่ง คุณจะได้รับ 10 ดอลลาร์เป็นรางวัล”
จากนั้นเขาก็ปล่อยให้ไลลาดูแลพวกเขาขณะที่เขากลับไปที่โรงแรม
...
วันเวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ ขณะที่เฟลิกซ์ยังคงล้างสมองปู่ด้วยข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวโดยใช้ภาพยนตร์
ขณะเดียวกันเขายังคงฝึกฝนร่างกายของเขาอยู่ทุกวัน จนกระทั่งในที่สุดเขาก็พิชิตบันไดได้
เมื่อเขาสามารถปีนขึ้นลงบันไดได้อย่างง่ายดายโดยที่มีเหงื่อออกเพียงเล็กน้อย แผนการสร้างเกาะใหม่ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว
สิ่งเดียวที่เขารอคือการมาถึงของความโกลาหลครั้งใหญ่ เมื่อเขาสามารถช่วยชีวิตปู่ได้ เขาก็จะเริ่มดำเนินการตามแผนของเขาได้สักที
....
15/06/2024 17:50 น. เหลือเวลาเพียง 5 นาทีก่อนการออกอากาศจะเริ่มขึ้น
เฟลิกซ์นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น
เขาเหลือบมองปู่ซึ่งกลายเป็นคนติดภาพยนตร์เอเลี่ยนไปแล้วอย่างกังวล
เขาสามารถดูภาพยนตร์จนจบไป 18 เรื่องในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่นี่
'ฉันอาจจะล้างสมองเขามากเกินไป ดูใบหน้าของปู่ที่เต็มไปด้วยความสุขเมื่อเห็นมนุษย์ต่างดาวฆ่ามนุษย์สิ ฉันไม่สงสัยเลยว่าเขาจะรู้สึกมีความสุขกับการออกอากาศแทนที่จะกลัว'
เขาเปิดดูโทรศัพท์และพบว่าเหลือเวลาอีกเพียง 5 นาทีเท่านั้น
“ปู่มานี่ มานั่งข้างผม”
โรเบิร์ตผลักเขาออกไปและชี้ไปที่ทีวี เป็นสัญญาณชัดเจนว่าอย่ารบกวนฉัน เฟลิกซ์ถอนหายใจและเดินไปนั่งข้างปู่แทน
เวลาเดินช้าลงทีละวินาที
เฟลิกซ์ซึ่งมีสีหน้ามั่นใจอยู่เสมออดไม่ได้ที่จะคิดในแง่ลบ
ถ้าเขาช่วยปู่ไม่ได้ เขาก็จะตาย
ในที่สุดช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง
เฟลิกซ์นับถอยหลังในใจ '3 2...1'
และมันก็เริ่มต้นขึ้น
...
สูงขึ้นไปในอากาศ บนเครื่องบินสาธารณะที่บรรทุกผู้โดยสารได้ 300 คน
ชายชราคนหนึ่งที่นั่งถัดจากเด็กซึ่งตัวสั่นเพราะกลัวเครื่องบินพูดอย่างใจดีว่า "ไม่ต้องกลัวไปหรอกเจ้าหนู เพราะเครื่องบินมีเที่ยวบินที่ประสบความสำเร็จกว่า 99.999% มันปลอดภัยกว่ารถยนต์ ดังนั้น..." ก่อนที่เขาจะทันพูดจบประโยค
เขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นในหัวของเขาเหมือนโองการจากสวรรค์
"สวัสดีมนุษย์ดึกดำบรรพ์ พวกเราเป็นหน่วยสอดแนมและลูกเรือติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณของราชอาณาจักรอเล็กซานเดอร์ ซึ่งเป็นเจ้าของ 10 เขต แต่ละเขตมีระบบสุริยะหลายร้อยระบบ เราค้นพบดาวเคราะห์ของคุณโดยบังเอิญเมื่ออุปกรณ์ส่งสัญญาณระหว่างดวงดาวของเรามีเหตุขัดข้องเล็กน้อย"
"ตอนนี้เราแนะนำตัวเองอย่างถูกต้องแล้ว มาเข้าเรื่องกันเถอะ ตามสนธิสัญญา Supremacy Games Alliance หมายเลข 12 ในหนังสือกฎ SGA เรามีหน้าที่ต้องอธิบาย 3 ทางเลือกที่คุณมีในขณะนี้
ทางเลือกแรกคือการยอมจำนนต่อราชอาณาจักรอเล็กซานเดอร์ และสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อราชวงศ์ของเราชั่วนิรันดร์ ซึ่งจะทำให้ท่านปลอดภัยจากผู้รุกรานกลุ่มอื่น ๆ
ทางเลือกที่สองคือการปฏิเสธเรา แต่เมื่ออิงจากระดับดั้งเดิมของเทคโนโลยีคุณ AI ของเราคำนวณโอกาสในการชนะของคุณคือ 0.0000000000000...1%
ทางเลือกสุดท้ายที่เหลือคือการเข้าร่วม Supremacy Game Alliance ซึ่งจะช่วยรับประกันว่าคุณจะรอดได้หากคุณไม่แหกกฎ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเลือกที่สาม คุณสามารถรับได้ด้วยตนเองเท่านั้น"
"คุณมีเวลา 7 วันในการส่งคนมาเป็นตัวแทนโลกเพื่อให้การตัดสินใจครั้งสุดท้ายแก่เรา คุณสามารถหาฐานทัพชั่วคราวของเราที่ใจกลางทวีปแอนตาร์กติกา นี่คือพิกัด 76.299965 - 148.003021"
“เราจะรอฟังข่าวดีจากคุณ การส่งสัญญาณจะปิดทันที”
ชายชราตัวสั่น ใบหน้าของเขาว่างเปล่านานกว่า 30 วินาที
ขณะที่ทุกคนต่างกลั้นหายใจลึก ๆ ทันใดนั้น อาการไอที่เจ็บปวดก็ดังก้องในเครื่องบิน
"แค่ก!!!" "แค่ก!"
ชายชราผมขาวจับหน้าอกด้วยความปวดร้าว แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล
อาการไอนั้นสามารถปลุกทุกคนให้ตื่นจากภวังค์ ขณะที่พวกเขาต้องการถามเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ยิน
การชนกันอย่างกะทันหันระหว่างเครื่องบินของพวกเขากับเครื่องบินอีกลำหนึ่งก็ทำให้เกิดการระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ เปลวไฟและเลือดร่วงลงมาจากท้องฟ้า
...
ชายผมบลอนด์กำลังขับรถบรรทุกขณะฟังเพลงโฟล์ค ทันใดนั้น ความว่างเปล่าก็จู่โจมเขาอย่างไม่รู้ตัว
ในขณะเดียวกัน รถบรรทุกของเขายังคงเคลื่อนที่ไปข้างหน้าจนทับรถหลายสิบคัน ซึ่งสูญเสียการควบคุมและเริ่มชนกันอย่างหนัก
ถังแก๊สระเบิด ควันดำลอยขึ้นในอากาศ
ผู้คนต่างร้องไห้ และร้องไห้ขณะที่พวกเขาถือร่างของสมาชิกในครอบครัว ขอความช่วยเหลือจากใครสักคนและเรียกร้องให้ 911 มาถึง
(TL: 911 หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินทั่วประเทศ)
น่าเสียดายที่ไม่มีใครตอบรับคำขอร้องของพวกเขา เนื่องจากโลกถูกพลิกกลับด้าน มันถูกทำลายด้วยเปลวเพลิงและการทำลายล้าง
ใครจะกล้าไปช่วยคนอื่น ๆ ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถรักษาความปลอดภัยของตัวเองได้?
...
ทุกประเทศในโลกไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ล้วนอยู่ในความโกลาหลและความระส่ำระสายอย่างสมบูรณ์
ประธานาธิบดียืนงุนงงอยู่หลายชั่วโมง หลังจากที่ตระหนักถึงอำนาจเหนือมวลชนของตนกำลังจะหายไป
ในขณะที่บางคนที่ตื่นจากความงุนงงก็ขยับตัวด้วยความเร็วแสงสั่งให้ลูกน้องควบคุมความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้น
ไม่ใช่ผู้นำทุกคนในโลกที่ไร้ความสามารถ
.....
เกาะสกายเพิร์ล ในห้องนั่งเล่น….
เฟลิกซ์รีบวิ่งไปหาปู่โดยไม่รอให้ออกอากาศจบ เขาจับข้อมือเขาและวัดการเต้นของหัวใจ
เหมือนที่เขากลัว มันค่อย ๆ สูงขึ้น
แต่เขายังทำอะไรไม่ได้ จนกว่าการออกอากาศจะสิ้นสุดลง เนื่องจากราชอาณาจักรอเล็กซานเดอร์ใช้เทคนิคของเผ่าพันธุ์ Hive(ไฮฟ์=รัง) ข้ามบาเรียจิตสำนึกที่อ่อนแอกว่าของเผ่าพันธุ์มนุษย์เพื่อส่งข้อความ
และก่อนที่กระบวนการจะเสร็จสิ้นต้องไม่ถูกขัดจังหวะ ไม่งั้นบาเรียจิตอาจจะร้าวหรือในกรณีที่แย่กว่านั้นคือแตกเป็นเสี่ยง ๆ
เฟลิกซ์สามารถเลี่ยงการควบคุมได้เนื่องจากบาเรียจิตของเขาเป็นหนึ่งบาเรียที่ดีที่สุด ยังไงซะมันก็ถูกสร้างขึ้นโดยการรวมกันของ 2 วิญญาณ และหนึ่งในนั้นมาจากเผ่าพันธุ์สูงสุด
30 วินาทีต่อมา
การออกอากาศสิ้นสุดลงและโรเบิร์ตที่หัวใจเต้นแรงขึ้นในระหว่างนั้นก็เริ่มลดลงอย่างช้า ๆ
“เฟลิกซ์ ช่วงนี้ฉันคงดูหนังเอเลี่ยนมากเกินไปสินะ ฉันเริ่มได้ยินเสียงในหัวบอกว่าราชอาณาจักรอเล็กซานเดอร์กำลังจะบุกเรา ถ้าเราไม่เลือกหรือทำเรื่องไร้สาระ” โรเบิร์ตถูขมับด้วยท่าทางที่ยุ่งเหยิง
เฟลิกซ์ไม่กล้าพูดว่าทุกสิ่งที่เขาได้ยินนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่งั้นเขาคงจะโง่ที่เสียโอกาสที่พระเจ้าส่งมาให้
“เอาล่ะ ปู่ไปพักผ่อนก่อนเถอะ ต่อจากนี้ดูหนังให้น้อยลง พวกมันเริ่มส่งผลต่อสุขภาพจิตปู่จริง ๆ แล้ว”
“เฮ้อ แกพูดถูก ฉันแก่แล้วจริง ๆ”
เฟลิกซ์พาเขาไปที่ห้องนอนแล้วพูดว่า "คืนนี้ปู่นอนที่นี่แหล่ะไม่ต้องกลับไปที่ห้อง ผมจะนอนในห้องรับแขก"
"ได้ ราตรีสวัสดิ์"
เฟลิกซ์ตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ราตรีสวัสดิ์ครับปู่”
'ก้าวแรกประสบความสำเร็จ ตอนนี้ฉันแค่ต้องป้อนยาอายุวัฒนะที่จะรักษาโรคหัวใจของเขา และให้เวลาอีกหลายร้อยปีแก่เขา'
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาไลลา
---------------------------