408 - เก้าญาณวิเศษลึกลับ?
408 - เก้าญาณวิเศษลึกลับ?
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่ อย่าบอกนะว่าทุกคนล้วนตายที่นี่แล้ว?” หัวใจของเย่ฟ่านสั่นไหว
ขณะนั้นเย่ฟ่านรู้สึกถึงพลังเต๋าขั้นสูงสุดที่เหลืออยู่ ในเวลาเดียวกันเขาพบกระดูกสามชิ้นในเลือดเนื้อเหนอะหนะที่มีความแวววาวเหมือนหยก
จักรพรรดิดำที่เห็นเช่นนั้นดวงตาของมันก็เปล่งประกายเล็กน้อย
"มันคือกระดูกหยกสามศพที่แปลกประหลาด เจ้าของกระดูกนี้ต้องเคยอยู่ในระดับผู้สูงสุดก่อนตาย
เขาถูกสังเวยร่างกายให้กับวิญญาณหยินหลังจากที่ตายแล้ว แม้ว่าพลังของเขาจะไม่สามารถเทียบได้กับตอนที่ยังมีชีวิตอยู่แต่มันก็ยังน่ากลัวมาก”
"แม้แต่ร่างของสิ่งมีชีวิตสูงสุดก็ยังหาได้?” เย่ฟ่านอุทานด้วยความตกใจ
ซากศพที่ถูกทำลายพวกนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นการลงมือของเอี๋ยนหรูหยู ด้วยอาวุธเต๋าสุดขั้วในมือของนาง กระดูกของผู้สูงสุดที่เหลืออยู่มีเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
ไม่นานก็ได้ยินเสียงการต่อสู้อันดุเดือด มหาสงครามกำลังเกิดขึ้นอีกครั้งและมันไม่ไกลจากที่นี่
เย่ฟ่านไม่ได้หยุดและเดินไปห้องโถงที่หก นี่เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างยาวไกล
ห่างออกไปหนึ่งลี้ข้างหน้าเหลือเพียงห้องโถงสว่างสุดท้ายเท่านั้นที่ส่องประกายอยู่ในความมืดใต้ดิน พื้นดินเป็นโพรงลึกและห้องโถงที่หกนั้นกว้างมาก แทบจะสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว
“ห้องโถงสุดท้าย ความลับทั้งหมดอยู่ที่นั่น!”
เย่ฟ่านรู้สึกตื่นเต้น บางทีอาจจะมีเก้าญาณวิเศษลึกลับ อาจจะมีคนอื่นเข้าไปก่อนแล้วแต่มันยังคงเป็นสถานที่พิเศษ เขารีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว
จักรพรรดิดำเดินบนทางลาดเบาๆและติดตามหลังเย่ฟ่านอย่างใกล้ชิด
เมื่อมาถึงห้องโถงสุดท้ายเย่ฟ่านก็รู้สึกถึงกลิ่นอายเต๋าที่ทำให้จิตใจของเขาสั่นสะท้าน
"อาวุธเต๋าสุดขั้ว "
จักรพรรดิดำดวงตาเป็นประกาย แทบรอไม่ไหวที่จะคว้ามันมา มันอยู่ในห้องโถงแห่งแสงสุดท้ายนี้
เห็นได้ชัดว่าสงครามครั้งยิ่งใหญ่กำลังเกิดขึ้น แม้แต่การใช้อาวุธเต๋าสุดขั้วก็ดุเดือดมาก ใครจะจินตนาการได้ว่าคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งขนาดไหน
เย่ฟ่านไม่ได้เข้าไปทันทีเขายืนมองอยู่ไกลๆกับจักรพรรดิดำและรออย่างเงียบๆ โลกใต้ดินทั้งโลกสั่นสะเทือน แต่ห้องโถงชั้นที่หกนั้นงดงามและไม่ได้รับผลกระทบใด ยังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม
ตรงกลางห้องโถงชั้นที่หกมีวิหารศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่
แม้แต่แรงสั่นสะเทือนใต้ดินอันรุนแรงก็ไม่สามารถทำให้มันพังทลายลงมาได้
"วิหารนี้ค่อนข้างคุ้นตา" จักรพรรดิดำประหลาดใจ
อย่างไรก็ตามในตอนนี้เย่ฟ่านตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ในพื้นที่มืดด้านหลังยังมีโลงศพยักษ์สามอันตั้งอยู่ในมุมสุด
“นั่นคือ... สามโลงศพ!
หัวใจของเขาสั่น สามโลงศพตั้งสูงตระหง่านในความมืด
“โลงศพขนาดใหญ่สามใบประกอบเข้าด้วยกัน” เย่ฟ่านพูดกับตัวเอง
ในเวลานี้การต่อสู้ที่รุนแรงซึ่งเกิดขึ้นในห้องโถงได้จบลงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความเงียบสงบ
“จบแล้วเหรอ?”
เย่ฟ่านกล่าวด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย เขาและสุนัขตัวใหญ่สีดำรีบวิ่งเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว
“ไม่ว่าโลงศพทั้งสามจะเป็นอย่างไร พวกเราก็ต้องเข้าไปดู”
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังวิ่งไปข้างหน้าอยู่ๆจักรพรรดิ์ดำก็หยุดนิ่งและมีใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างยิ่ง!
"เจ้าเห็นอะไร?" เย่ฟ่านก็หยุดการเคลื่อนไหวเช่นกัน
"เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือสุสานของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต มีไอ้สาระเลวบางคนเข้ามาที่นี่และพยายามกลบเกลื่อนมันไว้ไม่ให้ผู้ใดพบเห็น?!!” สุนัขสีดำตัวใหญ่สาปแช่งเสียงต่ำ
“อะไรนะ!”
เย่ฟ่านตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อจักรพรรดิดำไม่ต้องการพูดอะไรต่อเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ห้องโถงที่สว่างไสวนี้กว้างขวางมาก สงครามที่หยุดลงเมื่อสักครู่นี้ก็ได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ฝึกฝนเผ่าพันธุ์มนุษย์และอสูรจำนวนมากต่างก็เริ่มต่อสู้ด้วยดวงตาแดงก่ำ
ในใจกลางของห้องโถงที่งดงามและว่างเปล่ามีแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่กลางอากาศ แท่นบูชานั้นถูกทาด้วยสีดำและมันยิงลูกไฟออกมาโจมตีผู้ฝึกฝนที่อยู่ในห้องโถงนี้อย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ มีม้วนหนังสัตว์โบราณแขวนอยู่บนแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่ามันจะดูเหมือนม้วนหนังสัตว์ที่ธรรมดามากแต่ก็ทำให้ทุกคนตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด
ตอนนี้การต่อสู้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะผู้ฝึกฝนและวิญญาณหยินเท่านั้น พวกเขาต่างก็ต่อสู้กันเองจนบ้าคลั่ง
มีความเป็นไปได้สูงว่านั่นคือเก้าญาณวิเศษลึกลับ ผู้ใดกันเล่าที่ไม่ต้องการจะได้มันมาครอบครอง? การต่อสู้จึงขยายตัวจนกลายเป็นความโกลาหลอย่างสมบูรณ์
ร่างศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเจียง ยอดฝีมือของคฤหาสน์สีม่วง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อาณาจักรเต๋า ร่างศักดิ์สิทธิ์ตระกูลจี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง และดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่อื่น ๆ
ผู้สืบทอดที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขานั้นยังต่อสู้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและยังไม่มีผู้ใดเริ่มต่อสู้กันเอง
ในห้องโถงใหญ่จี้ฮ่าวเยว่, บุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง เหยาซี ร่างศักดิ์สิทธิ์ตระกูลเจียง สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก และอื่นๆ ต่างก็ปกป้องซึ่งกันและกัน
ดูเหมือนว่าพวกเขาได้ตกลงกันแล้วว่าจะแบ่งปันญาณวิเศษลึกลับที่อยู่ในคัมภีร์บนแท่นบูชาสีดำนั้น
สายตาของเย่ฟ่านกวาดมองไปทั่วห้องโถง ที่นี่ขาดบุคคลที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งนั่นคือเอี๋ยนหรูหยู นางมีอาวุธเต๋าสุดขั้วอยู่ในครอบครอง ตอนนี้นางอยู่ที่ไหน?
“ที่นั่น!”
เขาพบว่ามีเจดีย์โบราณอยู่ในห้องโถง ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นอาคารแห่งหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาพบว่ามันเป็นอาวุธที่น่ากลัว
เจดีย์มีเจ็ดชั้น ที่นั่งอยู่ชั้นบนสุดคือเงาสีดำที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้บงการวิญญาณลึกลับให้ปกป้องญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้าที่อยู่บนแท่นบูชา และตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับเอี๋ยนหรูหยู
เย่ฟ่านสูดลมหายใจเย็นยะเยือก บุคคลนี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง แม้ว่าเจดีย์ขนาดใหญ่นี้จะเป็นอาวุธสุดแสนวิเศษ แต่มันจะสามารถเปรียบเทียบกับอาวุธเต๋าสุดขั้วได้อย่างไร?
การที่เขาสามารถคุกคามเอี๋ยนหรูหยูจนตกที่นั่งลำบากได้ ก็พอจะเห็นแล้วว่าความแข็งแกร่งของเขามีมากแค่ไหน?
เย่ฟ่านขนลุกซู่ บุตรศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากไม่ได้ลงมือช่วยเหลือ ในขณะที่เอี๋ยนหรูหยูเผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่น่าสะพรึงกลัวเพียงลำพัง
“แท่นสีดำนั่นถูกสร้างมาจากอะไรกันแน่ มันจะลอยขึ้นไปในอากาศได้ยังไง” เย่ฟ่านส่งเสียงด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์
จักรพรรดิดำดูมีดวงตาที่เปล่งประกายในขณะที่มันตอบกลับด้วยความตื่นเต้นว่า
"นี่เป็นสมบัติ...ศิลาแห่งความโกลาหล มันเป็นเตียงที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เคยหลับใหล"
ในเวลานี้ผู้สืบทอดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างก็กลัวผลที่จะตามมา ไม่มีใครกล้าลงมือเป็นคนแรก มิฉะนั้นมีแนวโน้มสูงที่จะตกเป็นเป้าโจมตีของทุกคน
“ในเมื่อพวกเจ้าไม่กล้า เจ้าก็มอบมันให้กับข้าก็ได้!” ราชาเผิงน้อยปีกทองก้าวออกไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ
เขาเสียบง้าวลงบนพื้นและมีเสียงระเบิดดังขึ้น ทันใดนั้นวิหารก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาไปซ่อนอยู่ที่ไหน จนกระทั่งตอนนี้ถึงได้ปรากฏตัวออกมา
ผู้สืบทอดของดินแดนศักสิทธิ์ทั้งหมดเป็นตัวละครที่น่าทึ่ง แน่นอนว่าไม่มีใครกลัวราชาเผิงน้อยปีกทอง
แต่บรรยากาศภายในห้องโถงยังคงไม่น่าไว้ใจและอาจเกิดการต่อสู้นองเลือดขึ้นได้ตลอดเวลา
ราชาเผิงน้อยปีกทองกลายเป็นเส้นแสงสีทองพุ่งไปที่ศิลาแห่งความโกลาหลเขายื่นมือออกไปเพื่อคว้าม้วนกระดาษโบราณ
ในขณะเดียวกันยอดฝีมือรุ่นเยาว์หลายคนก็ลงมือเพื่อป้องกันไม่ให้เขาสัมผัสกับศิลาแห่งความโกลาหลได้ กระบี่บิน เสียงคำราม เจดีย์โบราณ หลายสิ่งหลายอย่างต่างก็โจมตีเข้าหาราชาเผิงน้อยปีกทองอย่างหักโหม
“กระบี่หนึ่งแสนแปดพันเล่ม!”
ราชาเผิงน้อยปีกทองตะโกนออกมา ทั้งร่างเปล่งแสงสีทองสดใส กระบี่ใหญ่นับแสนเสียดผ่านอากาศพร้อมกับโจมตีออกไปทุกทิศทางโดยไร้ซึ่งความกลัว
เมื่อเขาเริ่มโจมตีทุกคนความสมดุลอันละเอียดอ่อนก็ถูกทำลายบุตรศักดิ์สิทธิ์และยอดฝีมือรุ่นเยาว์หลายคนต่างก็ลงมือฆ่าสังหารอีกครั้ง
นี่คือจุดประสงค์ของราชาเผิงน้อยปีกทอง เขาไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับยอดฝีมือจำนวนมากเพียงลำพัง แต่ต้องการทำลายความสงบสุขและให้ทุกคนเริ่มต่อสู้
เขามีข้อดีคือความเร็ว ในขณะเดียวกันก็ไม่กลัวการต่อสู้ระยะประชิด ยิ่งวุ่นวายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีสำหรับเขา
เมื่อเกิดการต่อสู้ขึ้นเขาก็รีบถอยหลังในทันทีโดยไม่สนใจศิลาแห่งความโกลาหลแม้แต่น้อย