ตอนที่แล้วบทที่ 6 ความภาคภูมิใจของมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 สามวิธี

บทที่ 7 ระบบสายเลือด


3 วันผ่านไปนับตั้งแต่วันที่เฟลิกซ์ตะคอกใส่แอสน่า

ตั้งแต่นั้นมา เฟลิกซ์ก็เพิกเฉยต่อเธออย่างสมบูรณ์ เขาไม่ตอบรับคำขอโทษของเธอ และไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องน้ำ

เขาแค่ออกกำลังกายด้วยการปีนขึ้นลงบันไดในแต่ละวัน และพัฒนากล้ามเนื้อด้วยการใช้เวลาหลายชั่วโมงในโรงยิม

สุดท้าย สำรวจโรงแรมและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ บนเกาะ และจดสิ่งที่เขาสนใจลงในสมุดบันทึกเพื่อทำให้แผนการในอนาคตของเขาสมบูรณ์แบบ

.....

บนเนินเขา เฟลิกซ์นั่งอยู่บนเก้าอี้และดูโรงแรมจากด้านบนอย่างมีสมาธิ ทว่าความสนใจของเขากลับถูกทำลายโดยแอสน่าส่งเสียงครวญครางอีกครั้ง

“เฟลิกซ์ หยุดเมินฉันซะที ฉันขอโทษจริง ๆ กับสิ่งที่พูดไป ฉันไม่รู้ว่ามนุษย์ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อเอาชีวิตรอด”

“ฉันไม่เคยโต้ตอบกับเผ่าพันธุ์เช่นมนุษย์ซึ่งไม่เป็นที่โปรดปรานของจักรวาล เพราะฉันใช้เวลาทั้งชีวิตล้อมรอบด้วยสิ่งมีชีวิตในเผ่าพันธุ์ของฉัน และเผ่าพันธุ์เอื่น ๆ ที่มีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกับเรา ดังนั้นวิสัยทัศน์ของฉันจึงคดเคี้ยวเมื่อฉันวิเคราะห์เผ่าพันธุ์ของนาย”

“ตอนนี้ฉันรู้ว่าระบบสายเลือดของเผ่าพันธุ์นายถูกสร้างขึ้นด้วยหยาดเหงื่อและเลือด ฉันเคารพมันมาก และฉันสามารถช่วยนายปรับปรุงระบบสายเลือด เปิดโอกาสที่ไร้ขีดจำกัดได้”

เฟลิกซ์ไม่สามารถทำหูหนวกได้อีกต่อไปหลังจากได้ยินคำสุดท้าย

หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย เพราะเขารู้ว่าเธออ่านความทรงจำของเขาได้ ซึ่งหมายความว่าเธอมีรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับกระบวนการที่มนุษย์หลอมรวมสายเลือด ดังนั้นเมื่อเธอบอกว่าเธอมีวิธีปรับปรุงมัน มันทำให้เขาประทับใจอย่างมาก

ท้ายที่สุด ความฝันของมนุษย์ทุกคนในกาแล็กซีทางช้างเผือกคือการทำลายคอขวดของ ‘อาณาจักรต้นกำเนิด’ และก้าวเข้าสู่อาณาจักรที่สูงขึ้น

น่าเสียดายที่เวลาผ่านไปกว่าหกแสนปี และไม่มีใครสามารถเปิดเส้นทางต่อไปได้

ที่แย่กว่านั้นคือความแข็งแกร่งของมนุษย์ลดลงอย่างช้า ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องแกนหลักของการวิจัยเส้นทางสายเลือดได้เสียชีวิตลงทั้งหมดหลังจากการสร้างกลุ่มต่าง ๆ

เพื่อให้เข้าใจว่าเหตุใดกลุ่มต่าง ๆ จึงทำลายอนาคตของมนุษย์ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าระบบสายเลือดมีที่มาอย่างไร

จากความรู้ของเฟลิกซ์ที่ได้รับจากข้อมูลสาธารณะฟรีใน UVR มนุษย์ในส่วนอื่น ๆ ของดาราจักรนั้นถือกำเนิดขึ้นเหมือนกับมนุษย์โลกพวกเขาอ่อนแอและไม่มีแกนวิญญาณ หรือเวทมนตร์ที่จะฝึกฝนเหมือนเผ่าพันธุ์อื่น ๆ

สิ่งเดียวที่พวกเขามีคือความสัมพันธ์ที่อ่อนแอต่อองค์ประกอบ ซึ่งทุกเผ่าพันธุ์มี

ดังนั้นเนื่องจากแรงกดดันของสงครามจากสัตว์ร้ายและสัตว์ประหลาดอวกาศ พวกเขามีความคิดที่จะรวมสายเลือดของสัตว์ร้ายที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษเข้ากับองค์ประกอบที่อ่อนแอนั้น

การทดลองครั้งแรกจบลงที่ร่างมนุษย์ระเบิด เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถรับมือกับแรงกดดันที่สายเลือดเดิมถูกแทนที่ด้วยสายเลือดอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบธาตุในร่างกายแตกต่างจากองค์ประกอบธาตุที่สัตว์ร้ายมี

มนุษย์จึงพัฒนาสิ่งต่าง ๆ อย่างแรก พวกเขาสร้างอุปกรณ์ที่สามารถสแกนความสัมพันธ์องค์ประกอบของพวกเขา อย่างที่สอง พวกเขาพยายามรวมสายเลือดของสัตว์ร้ายเพียง 1% แทนที่จะเป็น 100% เหมือนก่อนหน้านี้

กระบวนการนี้เจ็บปวดอย่างมาก และหลายคนเสียชีวิตเนื่องจากไม่สามารถรับมือได้ แต่คนอื่น ๆ ที่รอดชีวิตก็สามารถมีสายเลือดของเผ่าพันธุ์อื่น 1% ในร่างกายได้!

พวกเขาเรียกกระบวนการนี้ว่า การตื่น

หลังจากตื่นขึ้นได้สำเร็จ คนคนนั้นก็ได้เริ่มต้นการเดินทางเพื่อชำระสายเลือดของสัตว์ร้ายให้บริสุทธิ์

อาณาจักรนี้มี 3 ขั้นตอน ขั้นชำระล้างหรือเรียกสั้น ๆ ว่าอาณาจักรแห่งการชำระล้าง หมายถึงการชำระสายเลือดให้บริสุทธิ์ถึง 99%

ขั้นตอนแรกเรียกว่าความบริสุทธิ์น้อยกว่า และเพื่อให้บรรลุสิ่งนั้น บุคคลนั้นจำเป็นต้องชำระสายเลือดให้บริสุทธิ์ถึง 30% ขั้นตอนที่สองเรียกว่าความบริสุทธิ์มากกว่า และต้องการ 60% ขั้นตอนสุดท้ายเรียกว่าความบริสุทธิ์ดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่าสายเลือดเกือบจะถึงความบริสุทธิ์แบบเดียวกับสัตว์ที่ใช้หลอมรวมแล้ว จำเป็นต้องมีชำระเลือดเพื่อให้ถึง 99% ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของขั้นตอนการทำให้บริสุทธิ์

ทุกครั้งที่ชำระสายเลือดถึง 15% เขาจะมีโอกาสได้รับความสามารถติดตัวของสัตว์ร้ายนั้น ๆ เช่น การต้านทานไฟ การมองเห็นในที่มืด ความต้านทานพิษเป็นต้น สิ่งนี้เรียกว่าขั้นเล็ก ๆ มี 3 ขั้นเล็ก ๆ คือ 15%, 45%, 75%!

ในขณะที่การบรรลุขั้นสำคัญเช่น ‘ความบริสุทธิ์น้อยกว่า’ ซึ่งก็คือ 30% มนุษย์จะได้รับความสามารถเชิงรุกของสัตว์ร้ายตัวนั้น ๆ เช่น การลอบเร้น พ่นไฟ กระสุนลม ฯลฯ และ 3 ขั้นตอนหลักคือ 30% 60% 99%

นั่นหมายความว่า ในช่วงระยะเวลาของขั้นตอนการทำให้บริสุทธิ์ จาก 0% ถึง 99% เขาสามารถรับ 3 ความสามารถเชิงรุก และ 3 ความสามารถติดตัวของสปีชีส์นั้น ๆ

มนุษย์ติดอยู่ในอาณาจักรนี้มานานกว่า 1 ล้านปี โดยไม่รู้ว่าจะพัฒนาต่อไปอย่างไร หรือจะกำจัดพันธนาการสายเลือดของพวกเขาได้อย่างไร (มนุษย์ในกาแล็กซีทางช้างเผือกทั้งหมด ไม่ใช่แค่มนุษย์โลก)

จนกระทั่งหญิงสาวอัจฉริยะชื่อมาเรียนาปรากฏตัว และแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีที่แยบยลที่สุด

เธอใช้สายเลือดของสัตว์ร้ายระดับที่สูงกว่าเพื่อแทนที่สายเลือดของเธอ และเนื่องจากสัตว์เหล่านั้นมีลำดับชั้นที่เข้มงวด ซึ่งถูกจารึกไว้ในจิตวิญญาณของพวกมัน สายเลือดจึงสามารถแทนที่ได้อย่างเชื่อฟังเท่านั้น

แต่ถ้าเธอทำสิ่งนี้ เธอจะทำให้ความพยายามทั้งหมดของเธอในการรวมเข้ากับสัตว์ร้ายตัวแรกนั้นสูญเปล่า เพราะความสามารถทั้งหมดก็จะถูกแทนที่เช่นกัน

เพื่อแก้ปัญหานี้ เธอทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำ นั่นคือการสลักความสามารถที่เธอเลือกเพียง 1 ความสามารถอย่างถาวรจากสัตว์ร้ายตัวแรกใน 1% ของสายเลือดดั้งเดิม!!

ถ้าเธอล้มเหลว เธอจะทำลายตัวเอง เพราะ 1% สุดท้ายที่เหลือคือทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นมนุษย์

ตั้งแต่วินาทีที่มีมนุษย์ต้องการผสานสายเลือดของสิ่งมีชีวิตอื่น 100% เขาก็จะไม่เป็นอะไรนอกจากสัตว์ร้ายอีกตัว

โชคดีที่ความกล้าหาญและความปรารถนาของเธอที่จะปรับปรุงความแข็งแกร่งของมนุษยชาติได้รับการตอบรับเมื่อกระบวนการนี้จบลงด้วยความสำเร็จ

นี่เป็นการทำเครื่องหมายการสร้างอาณาจักรที่สอง

อาณาจักรแห่งการทดแทน

ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ยาวที่สุดด้วยเนื่องจากมีการเปลี่ยน 6 ขั้นตอน แต่ละขั้นตอนเป็นไปตามหลักการเดียวกันพวกเขาต้องชำระสายเลือด แต่คราวนี้แต่ละขั้นตอน ต้องมีสายเลือดที่แตกต่างจากสัตว์ร้ายที่แตกต่างกัน

เริ่มจากขั้นตอนแรกของการเปลี่ยน ผู้รับเลือดต้องเปลี่ยนสายเลือดสายแรกที่เขาตื่น โดยใช้สายเลือดสัตว์ร้ายอื่นที่มีระดับที่สูงกว่า

สิ่งนี้จะช่วยให้การเปลี่ยนแปลงระหว่างกันเป็นไปอย่างราบรื่น

เนื่องจากถ้าเขาแทนที่สัตว์ร้ายด้วยสัตว์อื่นที่มีระดับเดียวกัน ภายในร่างกายจะมีสงครามเกิดขึ้น เนื่องจากทั้งสองจะพยายามเอาชนะกันอย่างต่อเนื่องเพื่อสิทธิที่จะคงอยู่ในร่างโฮสต์ ซึ่งมักจะทำให้เจ้าของมีเลือดออกเสียชีวิต

นั่นเป็นเหตุผลที่ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ เราต้องเคารพลำดับชั้นของสัตว์ร้าย และแทนที่สายเลือดอื่นที่สามารถกดขี่ได้

ระดับสัตว์ร้ายที่รู้จักในปัจจุบันมีระดับ 1 ถึงระดับ 7

ดังนั้นเพื่อให้ ‘บลัดไลน์เนอร์’ มีรากฐานที่สมบูรณ์จนไปถึงจุดสูงสุดของระยะที่ 6 ของการทดแทน

(TL:ขอทับศัพท์เลยนะ)

เขาต้องไม่แทนที่สัตว์ร้ายระดับ 1 ด้วยระดับ 7 เพื่อไม่ให้ติดอยู่ในด่านนั้นไปตลอดชีวิตโดยที่ไม่มีทางก้าวหน้า เนื่องจากขณะนี้ไม่พบสัตว์ร้ายใดที่สามารถกดขี่สัตว์ระดับ 7 ได้

บลัดไลน์เนอร์ที่สมบูรณ์แบบต้องตื่นขึ้นพร้อมกับสัตว์ร้ายระดับ 1 และเริ่มแทนที่ทีละน้อยจากระดับ 1 ถึงระดับ 7 จนกว่าเขาจะถึงจุดสูงสุดของขั้นตอนที่ 6 ของการแทนที่

เมื่อถึงจุดนั้น เขาจะมีความสามารถที่แตกต่างกันทั้งหมด 6 อย่างในคลังแสง ซึ่งแต่ละอันเป็นของสัตว์ร้ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สลักถาวรใน 1% ของเขาอย่างถาวร บวกกับความสามารถแบบแอ็คทีฟ 3 แบบและแบบพาสซีฟ 3 แบบของสายเลือดสเตจ 6 ล่าสุด

ดังนั้นมนุษย์ที่มีความสามารถทั้งหมด 9 อย่างและพาสซีฟ 3 อย่าง จะสามารถผสมผสานกันเพื่อสร้างเทคนิคได้ตามต้องการ!

ช่วงเวลาที่มนุษย์ไปถึงจุดสูงสุดของขั้นตอนนี้

พวกเขาเริ่มที่จะชนะการต่อสู้กับสัตว์ร้ายมากขึ้น ทำให้พวกมันต้องล่าถอยเมื่อรู้ว่ามนุษย์จะไม่ถูกรังแกอีกต่อไปและถูกนำไปเป็นอาหาร ดังนั้น สัตว์ร้ายจึงหันไปหาเผ่าพันธุ์อื่นแทน

แต่มนุษย์จะปล่อยให้พวกมันทำเช่นนั้นหรือไม่? ไม่มีทาง

ทุกอย่างพลิกกลับเมื่อมนุษย์กลายเป็นผู้ล่าและเริ่มตอบโต้การรุกรานของสัตว์ร้าย สำหรับความอัปยศอดสูที่พวกเขาได้รับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

พวกเขายังคงบุกรุกดาวเคราะห์ทีละดวง สังหารและนำสายเลือดของสัตว์ร้ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไปใช้ในการวิจัย

สงครามนี้กินเวลานานกว่าหนึ่งแสนปี

และมันก็จบลงเมื่อชายคนหนึ่งใช้ชื่อไมเคิล•บาร์ดอต’ สามารถสร้างอาณาจักรต่อไปหลังจากอาณาจักรแห่งการทดแทนซึ่งเขาตั้งชื่อว่า ‘อาณาจักรต้นกำเนิด’

เขาใช้วิธีเดียวกันในการเปลี่ยนสายเลือด แต่คราวนี้ เขาใช้ 1% ที่มีความสามารถ 6 อย่างที่สลักไว้ เพื่อกดขี่ 99% ของสายเลือดระดับ 7!

เขาตระหนักว่าสายเลือดดั้งเดิมของมนุษย์นั้นอ่อนแอ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาได้เรียนรู้จากผู้อื่น และใช้เส้นทางของพวกเขา แต่ในขณะที่สายเลือดของมนุษย์มีความสามารถเท่ากับสัตว์ร้ายระดับ 7

เขาไม่เห็นเหตุผลที่จะใช้เส้นทางของพวกเขาอีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์จะต้องกลับไปยังต้นกำเนิดที่แข็งแกร่งกว่าที่เคย

ดังนั้นเขาจึงพยายามกิน 99% ของสายเลือดระดับ 7 โดยใช้เพียง 1% ของเขาเท่านั้น

งานที่มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่พยายามจะทำ เพราะหากพวกเขาล้มเหลว มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่

ท้ายที่สุด การอยู่ที่จุดสูงสุดของอาณาจักรทดแทน หมายความว่าพวกเขามีอำนาจสูงสุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์

ดังนั้น ใครจะคิดเสียสละทุกอย่างที่มีเพียงเพื่อทำตามลางสังหรณ์ที่อาจนำไปสู่ความตาย?

แต่บาร์ดอตไม่สนใจพลังอำนาจหรือความปลอดภัยของเขา สิ่งเดียวที่อยู่ในความคิดของเขาคือการเปิดเส้นทางข้างหน้าสำหรับตัวเขาเองและคนรุ่นต่อ ๆ ไป

อีกครั้ง เฉพาะผู้ที่ไม่กลัวความตายเท่านั้นที่จะได้รับสิ่งที่พวกเขาปรารถนา สามวันต่อมา เขาได้รับชัยชนะจากการต่อสู้ของเขา

นักประวัติศาสตร์จนถึงทุกวันนี้อ้างว่าผู้คนได้ยินจักรวาลปรบมือให้กับชัยชนะของเขา เพราะเขาขัดขืนการจัดเตรียมของมัน

เพราะเมื่อมนุษย์เกิดมา พวกเราไร้พลังและไม่มีอะไรให้ค้ำจุน ทว่าตอนนี้ เผ่าพันธุ์ย่อยมนุษย์ใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว

และลูกหลานของมนุษย์ผู้นั้นจะสืบทอดความสามารถและความแข็งแกร่งในสายเลือดของเขา ลูกหลานเหล่านั้นจะมีเส้นทางที่ปูทางสำหรับพวกเขาตั้งแต่แรกเกิด โดยอิงจากความบริสุทธิ์ของสายเลือดที่มาจากบรรพบุรุษของตน

บาร์ดอตตั้งชื่อเผ่าพันธุ์ย่อยมนุษย์ของเขาว่ามนุษย์ขนขาว ตามสายเลือดล่าสุดที่เขากินเข้าไป

ตั้งแต่นั้นมา เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็หยุดทำสงครามกับเผ่าสัตว์ร้าย เพราะอาณาจักรต้นกำเนิดของบลัดไลน์เนอร์มีสถานะเป็นสัตว์ร้ายระดับ 8 ดังนั้นพวกเขาจึงรักษาพวกมันไว้ และต้อนพวกมันเหมือนแกะ

หลังจากนั้น การปรับปรุงระบบสายเลือดของมนุษย์ก็หยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากพวกเขาได้พิชิตเผ่าพันธุ์ที่สร้างแรงกดดันให้กับพวกเขาได้

พวกเขาติดอยู่ในอาณาจักรต้นกำเนิดตั้งแต่หกแสนปีมาจนถึงปัจจุบัน

....

หมายเหตุจากผู้แต่ง: เฟลิกซ์ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่สัตว์ร้ายบุก ฉันกำลังใช้ความทรงจำของเขาเพื่อเล่าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติในกาแล็กซีทางช้างเผือกทั้งหมด ความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเปิดเผยต่อทุกคนใน UVR อ่านต่อไปและทุกอย่างจะคลี่คลาย

สรุปเล็กน้อย

ที่ 15% ได้ความสามารถแบบพาสซีฟ / ที่ 30% (ความบริสุทธิ์น้อยกว่า) ได้ความสามารถแอคทีฟ

ที่ 45% ได้ความสามารถแบบพาสซีฟ / ที่ 60% (ความบริสุทธิ์มากขึ้น) ได้ความสามารถแอคทีฟ

ที่ 75% ได้ความสามารถแบบพาสซีฟ / ที่ 99% (ความบริสุทธิ์ดั้งเดิม) ได้ความสามารถแอคทีฟ

รวม 6 ความสามารถ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด