ตอนที่แล้วตอนที่ 277+278 สร้างปัญหาให้กับผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 281+282 อย่าตามใจ

ตอนที่ 279+280 การพบปะ


กำลังโหลดไฟล์

สำหรับลู่ชิงสีแล้ว เฉินเฟยไป่ไม่ได้ต่างไปจากมูลหนูในกองทัพ แต่ก็ยังมีคนที่คอยสนับสนุนเขาอยู่

การขึ้นไปยังชั้นห้าสำหรับลู่ชิงสี เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที และเมื่อนึกถึงเจียงเหยาที่รอเขาอยู่ในบ้าน ย่างก้าวของเขาเบาราวกับกำลังเดินอยู่บนอากาศ

เมื่อไปถึงประตู เขายืนอยู่ข้างนอกสองสามวินาที รวบรวมตัวเองและระบายอารมณ์และการแสดงออกของเขาให้ราบเรียบ ก่อนยกมือขึ้นเคาะประตู

เมื่อเจียงเหยามาเปิดประตู เขาเดินตรงเข้าไป ไม่มีร่องรอยของความโกรธและความตึงเครียดในตัวของเขาที่ได้แสดงออกตอนตำหนิคนอื่นอยู่ที่ชั้นล่างเลยแม้แต่นิดเดียว

“กลับมาแล้วเหรอคะ” เจียงเหยาพูด เธอเอียงศีรษะมองออกไปนอกประตู ไม่เห็นใครเลย เธอไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม

“หัวหน้าตามหาผมอยู่น่ะ ผมคงต้องออกไปสักพัก ผมจะรีบกลับมาก่อนอาหารเย็น แล้วพาคุณไปที่โรงอาหาร เย็นนี้จะมีงานเลี้ยงต้อนรับคุณ” น้ำเสียงของเขาเบาและแหบแห้งเป็นปกติ ทว่าถูกเจือด้วยความอ่อนโยน เป็นการยากที่จะซ่อนความรักและความเสน่หาในคำพูดของเขา เมื่อเขาพูดกับเธอ

เจียงเหยาตระหนักดีว่าลู่ชิงสียุ่งแค่ไหน และเธอไม่คาดหวังว่าเขาจะสามารถอยู่กับเธอได้ตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน ตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่นี่

“ไปเถอะ รีบไปเถอะค่ะ ฉันจะหาอะไรกินที่บ้านเอง” เจียงเหยาพูดพร้อมกับพยักหน้า หลังจากการเล่นบทรักกันเล็กน้อยในห้องกับลู่ชิงสี ผมของเธอก็ยุ่งเหยิง

ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ชิงสีชอบเล่นกับผมของเธอเป็นพิเศษ เธอรีบหวีผม ก่อนจะออกมา ทำให้เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เธอดูแปลกไปหรือไม่

เมื่อได้ยินคำว่า ‘บ้าน’ ลู่ชิงสีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ในขณะที่เขายิ้ม เพราะเธอรู้ดีว่าที่นี่ควรเป็นอย่างไร ทำให้เขาพอใจอย่างยิ่ง

หลังจากลู่ชิงสีจากไปแล้ว สิ่งแรกที่เจียงเหยาทำคือหวีผม ได้เดือนหนึ่งแล้วที่เธอปล่อยให้ผมยาว ตอนนี้ผมยาวจนน่าอึดอัด การมัดผมยิ่งทำให้ดูแปลก หากปล่อยผมลงมาก็ยุ่งเกินไป ด้วยความคิดที่ว่า คืนนี้ต้องออกไปข้างนอก เธอจำเป็นต้องจัดผมให้เข้ากับมัน โดยการม้วนผมด้านหน้าของเธอขึ้น และปล่อยที่เหลือไว้ ทำให้ตอนนี้ผมเธอไม่ยุ่งเหมือนที่ก่อนหน้านี้

เจียงเหยาสังเกตว่าเสื้อผ้าที่ลู่ชิงสีสวมใส่เมื่อวานถูกวางไว้ที่ด้านในห้องน้ำ บ่งบอกว่าเขาคงไม่มีเวลาพอที่จะซักมัน

ไหน ๆ วันนี้เธอก็ไม่มีอะไรทำอยู่เลย เธอยึงมุ่งหน้าเข้าไปโดยตั้งใจว่าจะซักผ้า

เธอไม่คิดว่าจะได้ยินเสียงเคาะประตูดัง ขณะที่เธอนำเสื้อผ้าไปยังระเบียง

เมื่อเปิดประตูก็พบว่าเป็นคุณนายเกอกำลังอุ้มเวินเวิน ลูกสาวของเขาไว้อีกมือ ส่วนอีกมือถือผักมาด้วย

“ฉันจำได้ว่าจ่าลู่บอกว่าคุณชื่อเจียงเหยาใช่ไหม เพิ่งมาถึงวันนี้เหรอ คงไม่มีเวลาออกไปซื้อของล่ะสิ นี่จ๊ะผัก ไม่ต้องห่วง จ่าลู่เขารู้สถานการณ์ของบ้านฉันดี ของดีกว่านี้ฉันก็ไม่มีให้หรอก รับไปสิ”

คุณนายเกอไม่รอให้เจียงเหยาเชิญเธอเข้าไปในบ้าน เธอก็เดินเข้าไปเอง เมื่อเห็นว่าบ้านค่อนข้างโล่งเธอก็แปลกใจ

ในบ้านของครอบครัวเก พื้นและผนังไม่ได้ทาสีหรือปูกระเบื้องใหม่ และแทบจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใด ๆ ในห้องว่างเปล่าคล้าย ๆ กัน เหตุการณ์เช่นนี่ถือเป็นเรื่องปกติของครอบครัวเก เพราะครอบครัวเขาค่อนข้างลำบากอยู่มาก คุณเกเธอมาอยู่ในกองทัพได้สองสามเดือนแล้ว เธอจึงรู้ดีว่าครอบครัวของจ่าลู่นั้นร่ำรวย เธอได้ยินว่าภรรยาของเขากำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย และคิดว่าบ้านของเขาน่าจะมีอะไรดี ๆ มากมาย

น่าเสียดายที่บุคลิกของจ่าลู่นั่นเย็นชานัก โดยปกติก็ไม่ค่อยจะสูสีกับใคร ทำให้คุณนายเกอไม่มีโอกาสได้มาเยี่ยมเขา ตั้งแต่ที่เธอย้ายมาอยู่ที่นี่

ด้วยเงินเดือนและสภาพครอบครัวของจ่าลู่ เธอคาดหวังว่าบ้านจะได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม

ดังนั้นเมื่อเธอเดินเข้ามาในห้อง เธอจึงค่อนข้างแปลกใจ ผนังและพื้นนั้นดีกว่าบ้านของเธอ แต่บ้านค่อนข้างจะว่างเปล่า

เจียงเหยามองไปที่คุณนายเกอ ซึ่งยังคงถือผักอยู่ในมือและเชิญตัวเองเข้ามาข้างใน ความจริงแล้วเธอรู้สึกตกตะลึงกับสถานการณ์นี้ เพราะเธอไม่เคยติดต่อกับคนอย่างคุณนายเกอมาก่อน

__

ในชีวิตที่แล้ว ปฏสัมพันธ์ของเธอกับคนอื่น ๆ นั้นเรียบง่าย หลังจากเรียนจบจากมหาวิทยาลัย เธอไปทำงานที่โรงพยาบาล ซึ่งหมายความว่าเธอต้องเข้ากับเพื่อนร่วมงานเท่านั้น ปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาถูกจำกัดเพียงแค่การพยักหน้าทักทายกันและกัน โดยไม่รู้จักตัวตนและภูมิหลังของครอบครัวของเธอ

หลังจากนั้น เธอก็ไปทำงานที่หมู่บ้านเล็ก ๆ บนภูเขา คนที่นั่นส่วนใหญ่เรียบง่ายและให้ความเคารพต่อเธอกับเวินเสวี่ยฮุ่ยอย่างมาก การติดต่อระหว่างเธอกับคนหมู่บ้านเป็นไปอย่างระมัดระวัง

เธอรู้สึกไม่สบายกับกับนางเกอที่จู่ ๆ ก็ทำทีเป็นสนิทเช่นนี้ เจียงเหยาสูญเสียสติไปชั่วขณะ

“คุณนายเกอคะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากรับความปรารถนาดีของคุณหรอกนะคะ แต่คุณก็เห็นในบ้านของฉันตอนนี้ ไม่มีอุปกรณ์ทำอาหารเลย และไม่มีที่ให้ทำอาหาร แล้วเย็นนี้จะมีงานเลี้ยงต้อนรับฉันที่โรงอาหาร ฉันเลยไม่ต้องเตรียมอาหารค่ะ พรุ่งนี้ฉันกับสามีจะเข้าไปงานแต่งเพื่อนของเขาที่ในเมือง และคงไม่ได้อยู่บ้านสองสามวัน ให้ของมาก็คงจะสูญเปล่าคะ” เจียงเหยาไม่ได้จงใจปฏิเสธ แต่ก็ไม่มีโอกาสดีกว่าที่จะเปล่งเสียงออกมา

“อ้อ งานเลี้ยงต้อนรับเหรอ จะมีงานเลี้ยงต้อนรับคุณที่โรงอาหารด้วยเหรอ” นางเกอจดจ่อกับประเด็นนี้ แล้วพึมพำเบา ๆ

“ตอนที่ฉันกับเวินเวินมาครั้งแรก ไม่เห็นมีใครเตรียมอาหาร เลี้ยงต้อนรับพวกเขาเลย”

ได้ยินเช่นนั้นเจียงเหยาก็รู้สึกอึดอัด ดูเหมือนว่าเธอจะพูดมากเกินไป และพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด

เธอได้เห็นแล้วว่าคุณนายเกอเป็นคนใจแคบ เพราะคำพูดที่ออกมาจากปากของเธอมีความไม่พอใจปนอยู่ในนั้น

เมื่อเธอเข้าใจแล้ว เธอจึงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เธอเพิ่งพูดออกไป แต่มันสายเกินไปแล้ว เจียงเหยาทำได้เพียงแสร้งทำเป็นว่าเธอไม่ได้ยินเสียงพึมพำของนางเกอ ขณะที่เธอยืนเงียบ ๆ อย่างงุ่มง่าม

นางเกอมองไปที่เจียงเหยา รู้สึกว่าความแตกต่างในการดูแลต้อนรับระหว่างพวกเขานั้นไม่ยุติธรรม และยังแอบคิดว่าภรรยาของจ่าลู่ป็นคนที่ไม่รู้ว่าจะเป็นคนดีหรือเปล่า เธอจะไม่เชิญแม่ ลูกที่ยืนอยู่ตรงหน้าไปกินข้าวที่โรงอาหารด้วยเลยเหรอ?

หลังจากรอไม่กี่วินาที เจียงเหยาก็ไม่เอ่ยปากเชิญ นางเกอรู้สึกไม่พอใจ เธอรู้สึกว่าภรรยาของจ่าลู่เป็นเพียงหญิงสาวที่ไม่ใช่คนดีเด่อะไร

แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา และเธอรู้สึกไม่ดีที่บอกว่าเธอกับลูกสาวอยากไปกินอะไรอร่อย ๆ ด้วย

นายเกอและเจียงเหยาต่างก็เงียบ และเพื่อหลีกเลี่ยงความอึดอัดใจ เธอจึงยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวของเธอ เมื่อมองไปที่เวินเวิน เจียงเหยาก็นึกถึงเด็กหญิงตัวน้อยที่น่ารักอีกคน หวงเฉินเฉิน

เกอเวินเวิน และหวงเฉินเฉินนั้นเทียบกันไม่ได้ เมื่อมองไปที่หวงเฉินเฉิน ก็สามารถบอกได้ว่าเธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย เธอแต่งตัวเรียบร้อยและฉลาด ใบหน้าและมือสะอาดสะอ้าน อีกทั้งยังดูเรียบร้อยอย่างน่าประหลาด

เสื้อผ้าของเกอเวินเวินที่สวมอยู่นั่นมีรอยเปื้อนเป็นหย่อม ๆ แม้แต่สภาพอากาศเช่นนี้ เสื้อผ้าของเธอก็สกปรก เจียงเหยาแอบดูนางเกอและแอบคิดว่าสำหรับเด็กจะสกปรกและไม่สนใจเรื่องสุขอนามัยนั้นเป็นเพราะการดูแลของผู้ใหญ่หรือเปล่า นายเกอเองก็ไม่ได้แต่งตัวสะอาดสะอ้านเช่นกัน

“น้าลู่ มีอะไรให้กินไหม หนูหิว”

ขณะที่เจียงเหยากำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง เกอเวินเวินก็ถามคำถามกับเธอ และมันก็ส่งให้เจียงเหยาเข้าสู่ความเงียบงันอีกครั้ง

“เอ๊ะ เด็กโง่นี่ แกจะไปขออาหารคนอื่นได้ยังไง” นางเกอตบที่หลังศีรษะของเวินเวิน แม้จะทำเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้เด็กหญิงเริ่มร้องไห้เสียงดัง

“แต่หนูหิวนะ หนูหิว! แม่ไม่ได้บอกเหรอว่าน้าลู่มาจากเมืองใหญ่ เธอต้องเอาของดี ๆ มาด้วยอย่างแน่นอนน่ะ” เกอเวินเวินพูดขณะที่เธอร้องไห้ และยืนมือออกไปดึงเจียงเหยา “น้าลู่ หนูหิว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด