ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 32 โอกาสบนความเสี่ยง
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 32 โอกาสบนความเสี่ยง
คงหนิงเดินตามหลังหญิงสาวไปอย่างรวดเร็ว ออกจากบ้านร้างตระกูลเถียนที่เต็มไปด้วยวัชพืช
ด้วยคำแนะนำของหญิงสาว ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสถานที่แห่งหนึ่งในเมืองที่มีพลังหยินแข็งแกร่ง มันคือลานด้านหลังหอสายลมใบไม้ผลิ
ที่นี่มีวิญญาณชั่วร้ายแฝงตัวอยู่ท่ามกลางหญิงโสเภณี คอยดูดปราณหยางของลูกค้าเข้าไป
และผีร้ายที่หว่านเอ๋อกล่าวถึงก็ไม่ได้แข็งแกร่งมาก เมื่อหญิงสาวร่ายคาถา ผีร้ายก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน คงหนิงซึ่งเตรียมพร้อมรออยู่แล้วก็กำจัดมันด้วยปราณกระบี่
ผีร้ายพลันกลายเป็นพลังงานหยิน ค่อยๆ สลายหายไป ไม่มีเวลาที่จะกรีดร้องออกมาด้วยซ้ำ
ในเวลาเดียวกัน ไหดำลึกลับภายในตันเถียนของคงหนิงก็เปิดออก ปรับแต่งพลังงานวิญญาณ เพิ่มพลังตบะเจ็ดปีให้แก่คงหนิง
พลังตบะเจ็ดปี......
เมื่อมองดูเงาผีที่หายไปใต้แสงจันทร์ คงหนิงก็รู้สึกพูดไม่ออก
มันสามารถเพิ่มพลังตบะให้เขาได้ถึงเจ็ดปี ผีร้ายตนนี้ไม่ง่ายที่จะรับมือแน่ๆ
หากเป็นก่อนที่จะได้รับไหดำลึกลับ เกรงว่าถ้าได้เจอผีร้ายตนนี้ เขาจะต้องถูกสังหารภายในชั่วพริบตา
ท้ายที่สุด ผีร้ายตนนี้ก็ไม่ได้ง่ายที่จะจัดการเหมือนกับปีศาจที่มีร่างกายอ่อนแออย่างตัวกินวิญญาณ
แต่ไม่ว่าพลังของผีร้ายจะเป็นเช่นไร ภายใต้คมกระบี่แสงวิจิตรที่เฉียบคมไร้เปรียบ มันก็ไม่สามารถขยับตัวได้ทันแม้เพียงนิด...... <คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร> นี้ทรงพลังไม่มีสิ่งใดเทียบได้จริงๆ
แม้แต่หว่านเอ๋อก็อดประหลาดใจไม่ได้เมื่อเห็นคงหนิงบั่นหัวผีร้าย
“ปราณกระบี่ของหัวหน้ามือปราบหนิงแข็งแกร่งอะไรเช่นนี้......”
การสังหารผีร้ายครั้งแรกของคงหนิงจบลงอย่างง่ายดาย
อย่างไรเสียผีร้ายที่พวกเขาพบก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากขนาดนั้น เป็นเรื่องปกติที่สามารถผ่อนคลายได้
หลังจากสังหารผีร้ายภายในหอสายลมใบไม้ผลิ คงหนิงก็บอกลาหญิงสาวโดยไม่รีรอ รีบกลับไปยังตรอกฮว๋ายชู่ กลับเข้าบ้านนอน
ในตอนนี้ยังไม่ถึงยามสามเสียด้วยซ้ำ
คงหนิงกำลังนอนอยู่บนเตียง แต่อารมณ์ของเขาปั่นป่วนยากที่จะสงบลง
แม้จะเป็นเพียงความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นไม่นาน แต่หว่านเอ๋อก็บอกข้อมูลมากมายให้คงหนิงรับรู้
แม้ว่าทุกวันนี้เขตชานหลานจะดูสงบสุข แต่กลับกลายเป็นว่าจริงๆ แล้ววุ่นวายไม่น้อย ทุกคืนเหล่าปีศาจกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด
แต่ที่น่าแปลกคือเด็กสาวออกค้นหาไปทั่วทั้งเขตชานหลาน แต่กลับไม่พบสถานที่ที่พวกปีศาจกำลังต่อสู้กันอยู่ เพียงแต่สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังปีศาจภายในเมืองจึงยืนยันได้ว่าเหล่าปีศาจกำลังต่อสู้กันทุกคืน และการต่อสู้ก็ดูจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงสองสามคืนที่ผ่านมา หญิงสาวสัมผัสได้ว่าไอปีศาจที่ทรงพลังได้หายไปถึงสองตัว
นอกเหนือจากการต่อสู้ของปีศาจแล้ว บรรยากาศมืดมนและแสนอันตรายภายในเขตเมืองก็ยังทำให้หญิงสาวไม่สบายใจ
หญิงสาวพูดตามตรงว่า แม้วันสารทจีนกำลังใกล้เข้ามาและประตูผีได้เปิดออก แต่ก็ไม่ควรจะมีไอพลังหยินแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ภายในเมืองไม่มีผีแม้แต่น้อยในตอนนี้ แต่พลังหยินนั้นแข็งแกร่งมากจนไร้เหตุผล ความประหลาดนี้ทำให้ผมบนหัวลุกชัน
เด็กสาวคาดว่าน่าจะมีสิ่งน่ากลัวเกิดขึ้นภายในศาลเจ้าเทพประจำเมือง มันจะต้องเกิดอะไรสักอย่างขึ้นแน่ๆ ในวันสารทจีน จึงมีบรรยากาศอึมครึม ให้ความรู้สึกอันตรายถึงตายเช่นนี้
เพียงแต่ว่าหญิงสาวก็ไปสำรวจศาลเจ้าประจำเมืองทางตอนเหนือของเมืองมาแล้ว แต่ก็ไม่พบอะไร
ทางตอนเหนือของเขตชานหลาน ห่างจากกำแพงเมืองไปประมาณสองลี้ มีศาลเจ้าประจำเมืองที่ดูทรุดโทรมอยู่จริงๆ ในความทรงจำของคงหนิง มันเป็นสถานที่ที่แทบจะเป็นที่รกร้าง
ซุ้มประตูขนาดใหญ่ทรุดโทรมไร้การดูแล มีตะไคร่น้ำเกาะอยู่เต็มไปหมด ผนังด้านนอกของศาลเจ้าเต็มไปด้วยรอยแตกระแหง และหลายแห่งก็ทรุดตัวพังทลาย เผยให้เห็นวัชพืชที่ขึ้นสูงภายในกำแพง
ห้องโถงหลายแห่งเองก็ว่างเปล่ารกร้าง หลังคาเต็มไปด้วยเถาวัลย์ และขื่อคานหลายด้านก็หักพัง เผยให้เห็นความทรุดโทรมภายในเพราะไม่มีชายคาคอยปิดกั้น
แม้แต่รูปปั้นเทพเจ้าประจำเมืองภายในห้องโถงใหญ่ก็ยังล้มลง และไม่เพียงแค่ล้มลงเฉยๆ เท่านั้น แต่รูปปั้นเทพเจ้าประจำเมืองยังหัวขาดอีกด้วย รูปปั้นดินเผาขนาดใหญ่ร่วงลงสู่พื้นเต็มไปด้วยฝุ่นเกรอะกรังและใยแมงมุมติดไปทั่วส่วนลำคอที่ไร้หัว ทำให้ดูสกปรกและน่ากลัวไม่น้อย
เหมือนเป็นศพของยักษ์หัวขาดที่น่าสะพรึงกลัว
หญิงสาวบอกว่านางเดินวนดูทั้งภายนอกและภายในศาลเจ้าเทพประจำเมือง
พบว่ากลิ่นธูปที่อยู่ที่นี่จางหายไปนานแล้ว เมื่อทดลองใช้เคล็ดวิชาเรียกเทพเจ้าประจำเมืองก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ
เทพเจ้าประจำเมืองเขตชานหลานที่อยู่แสนจะห่างไกลนี้อาจถูกทำลายลงไปนานแล้ว ตั้งแต่เทพเจ้าประจำเมืองและโถงศาลเจ้าทั้งหมดล้วนพังทลายไม่มีเหลือ
แม้แต่ประตูผี หญิงสาวก็เข้าไปภายในนั้นไม่ได้
ส่วนสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกวิญญาณ นางทำได้เพียงคาดเดาเท่านั้น
หญิงสาวเชื่อว่าต้องมีวิญญาณร้ายที่สร้างความหายนะให้กับโลกวิญญาณในเขตชานหลาน ดังนั้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหล่าวิญญาณที่ตกตายอย่างน่าอนาถภายในเขตชานหลานจึงไม่ถูกควบคุมอีกต่อไป เหล่าผีร้ายยังคอยกัดกินวิญญาณฝ่ายดีเข้าไปด้วย โลกวิญญาณในทุกวันนี้จึงหลุดออกจากการควบคุมไปอย่างไม่อาจเลี่ยง
ด้านหลังประตูผี เกรงว่าคงจะเต็มไปด้วยผีร้ายวิญญาณร้ายที่อยากจะออกมากัดกินผู้คน
ถ้าไม่ใช่เพราะกลุ่มปีศาจในเมืองได้แบ่งอาณาเขตของตนและกักขังผู้คนทั้งเมืองเอาไว้ เกรงว่าเมื่อวันสารทจีนมาถึง ยามที่ประตูผีเปิดออก เขตชานหลานคงมีสภาพไม่ต่างไปจากนรก
“แต่สถานการณ์ในปีนี้ไม่อาจมองในแง่ดีได้”
เสียงที่ดูกังวลของหญิงสาวยังดังก้องอยู่ภายในหัว
“ปีศาจแมงป่องที่มีพลังตบะสามร้อยปีอยู่ในเขตชานหลาน เข้าต่อสู้กับปีศาจภายในเมืองอย่างดุเดือด ทำให้ปีศาจที่มีพลังแข็งแกร่งตกตายไปถึงสองตัวติดต่อกัน”
“ในกรณีนี้ ปีศาจในเขตเมืองคงต้องเหน็ดเหนื่อยและยุ่งอยู่กับการจัดการปีศาจแมงป่อง ในวันสารทจีนที่จะถึงนี้ กลัวว่าเหล่าปีศาจจะไม่มีพลังเหลือพอมาจัดการผีร้ายที่โผล่พรวดออกมาจากโลกวิญญาณอีกต่อไป”
“ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย จะมีผู้เสียชีวิตในเขตชานหลานจำนวนมากในช่วงเทศกาลวันสารทจีนปีนี้......”
ข้อเท็จจริงดังกล่าวที่หญิงสาวได้บอกมา ทำให้คงหนิงรู้สึกหดหู่
หากการคาดเดาของหญิงสาวเป็นจริง จะต้องมีผีร้ายหลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่องในเทศกาลวันสารทจีน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็นับเป็นทั้งความอันตรายและเป็นทั้งโอกาส
ไหดำลึกลับของเขาสามารถกลั่นผีร้ายได้
ถ้าสามารถสังหารผีร้ายได้ บางทีในชั่วข้ามคืน พลังบ่มเพาะของเขาอาจจะก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่คงหนิงจะนั่งอยู่เฉยๆ ในช่วงวันสารทจีนที่กำลังใกล้เข้ามา
นี่เป็นโอกาสอันดีสำหรับเขา
แต่โอกาสอันดีสำหรับคงหนิงนี้ ก็มีอันตรายซ่อนอยู่ด้วย
ตามที่คาดการณ์ไว้ เมื่อวันสารทจีนมาถึงและประตูผีเปิดออก ปีศาจในบ้านย่อมใช้โอกาสนี้โจมตีและสร้างปัญหาให้ปีศาจตัวอื่นๆ ในเมืองเป็นแน่ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพลาดโอกาสครั้งสำคัญเช่นนี้
ในเวลานั้น ถ้าคงหนิงและหว่านเอ๋อไล่สังหารผีร้ายภายในเมือง พวกเขาอาจจะดึงดูดความสนใจจากปีศาจเหล่านั้น......
“พวกเราต้องเตรียมการล่วงหน้า” หญิงสาวได้กล่าวออกมาพร้อมกับความกังวล “ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเรา ไม่สามารถปล่อยให้เหล่าปีศาจค้นพบตัวตนของพวกเราได้ ดังนั้นวิธีการสังหารผีร้ายและปกป้องผู้คนในเมืองช่วงวันสารทจีนจะต้องวางแผนระยะยาว”
“และเราก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในประตูผีเลย การคาดเดาของเราอาจจะผิดก็ได้”
หญิงสาวกล่าวว่า “สิ่งที่ข้ากังวลมากที่สุดไม่ใช่กลัวว่าประตูผีจะเต็มไปด้วยวิญญาณชั่วร้าย แต่ที่ข้ากังวลมากกว่านั้นคือด้านในจะมีผีร้ายเพียงไม่กี่ตน......”
ผีร้ายสามารถกลืนกินพลังตบะของกันและกันได้ หากผ่านไปหลายปีแล้วเหลือผีร้ายเพียงไม่มากภายในประตูผี......
ความเป็นไปได้ดังกล่าวทำให้เด็กสาวรู้สึกกลัวขึ้นมาเพียงแค่นึกถึงมัน
“แต่ข่าวดีคือผีร้ายเหล่านั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้คนในเขตชานหลานมานานหลายปีแล้ว กล่าวคือไม่ว่าผีร้ายจะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกมันก็ยังอ่อนแอกว่าปีศาจ”
“ไม่ควรจะมีตัวตนที่ทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวจนเกินไป”
“สำหรับพวกเรานั้น นี่นับเป็นข่าวดีเพียงหนึ่งเดียว......”