WS บทที่ 359 ฉุกเฉิน PART 2
เมอร์ลินเห็นพ่อมดลีโอเดินออกจากห้องทันทีที่เมอร์ลินมาถึง
“อาจารย์ลีโอ เกิดอะไรขึ้นขอรับ?” เมอร์ลินรีบถามเสียงต่ำ
พ่อมดลีโอสูดหายใจเข้าลึก ๆ และกางนิ้วอันบอบบางของเขาออก อักษรรูนลึกลับบินออกมาจากแหวนมนต์ดำบนนิ้วของเขาทันที เสียงอันดังก้องดังออกมาจากอักษรรูนลึกลับเหล่านี้ “ลีโอ รีบกลับไปที่ดินแดนมนต์ดำเดี๋ยวนี้ เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว!”
เมอร์ลินสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นรัว เสียงนี้ฟังดูคุ้นเคยมาก เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและถามอย่างลังเลว่า “นั่นพ่อมดฮิวเซียสใช่มั้ยขอรับ?”
เมอร์ลินไม่รู้จักนักเวทย์ระดับเจ็ดของดินแดนมนต์ดำมากนัก คนเดียวที่เขาคุ้นเคยคือพ่อมดฮิวเซียส เขารู้ด้วยว่าพ่อมดลีโอมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพ่อมดฮิวเซียส
“ใช่ มันเป็นเสียงของฮิวเซียส เขารู้ว่าข้ามาที่เมืองอิมพีเรียลเพราะข้าบอกเขาสั้น ๆ ก่อนจะจากไป ข้าไม่รู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ฮิวเซียสเป็นคนที่ระมัดระวังมาก เขาจะไม่ส่งข้อความดังกล่าวโดยไม่มีเหตุจำเป็น ข้าเกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริง ๆ เมอร์ลิน เราต้องกลับไปที่ดินแดนมนต์ดำโดยเร็วที่สุด!”
พ่อมดลีโอได้ตัดสินใจรีบกลับไปที่ดินแดนมนต์ดำทันที เขาจึงมาบอกเมอร์ลินในขณะที่เขาเตรียมจะพาเมอร์ลินกลับมากับเขา
เมอร์ลินก็พยักหน้าเช่นกัน “เข้าใจแล้วขอรับ ผมไปอธิบายสถานการณ์ให้องค์ชายแปดรับทราบก่อน”
ไม่นานหลังจากนั้น เมอร์ลินและพ่อมดลีโอไปทูลลาองค์ชายแปด
…
“ช่างน่าเสียดายที่พ่อมดลีโอ พ่อมดเมอร์ลินต้องเดินทางออกไป เนื่องจากมีบางอย่างเกิดขึ้นในดินแดนมนต์ดำ ฉันจะไม่ไม่ห้ามพวกคุณ อย่างไรก็ตาม ฉันแค่อยากให้คุณสองคนรู้ว่าพวกเรายินดีต้อนรับพวกคุณกลับมาทุกเมื่อ!”
หลังจากฟังสิ่งที่เมอร์ลินและพ่อมดลีโอพูด ความผิดหวังเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนพระพักตร์ขององค์ชายแปด พ่อมดลีโอเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาปกป้องเขา หากมีพ่อมดลีโออยู่เคียงข้าง องค์ชายแปดสามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเมืองอิมพีเรียล
“งั้นก็ไปกันเถอะ”
พ่อมดลีโอไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มเติม เขาพาเมอร์ลินไปด้วยและออกจากคฤหาสน์ขององค์ชายแปดทันที
เมอร์ลินสั่งพ่อมดแบมมูที่อยู่ข้างหลังเขา “แบมมู กลับไปที่ปราสาทวิลสันและปกป้องตระกูลวิลสัน ส่วนเรื่องอื่นคุณสามารถจัดการได้ตามใจชอบจนกว่าฉันจะกลับมา”
ลึกลงไปในใจ แบมมูรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ในที่สุดเขาก็สามารถกลับไปที่ปราสาทวิลสันและฟื้นฟูพลังเวทย์มนตร์ของเขาด้วยความสบายใจ เขาไม่ได้สนุกกับการอยู่เคียงข้างเมอร์ลินเพราะเขาพบว่าตัวเองยุ่งทุกวันราวกับว่าเขามีอะไรให้ทำไม่รู้จบ มันแทบไม่มีเวลาให้เขาฟื้นพลังเวทย์มนตร์ของเขา
*หวู่ม หวู่ม*
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เมอร์ลินและพ่อมดลีโอก็กระโดดขึ้นไปในอากาศและบินไปยังดินแดนมนต์ดำอย่างรวดเร็ว
…
*ครืน*
แสงสีขาวส่องผ่าน ทำให้นกทะเลสองสามตัวที่กำลังเล่นอยู่บนชายหาดตกใจบินขึ้นฟ้า
ร่างสองร่างโผล่ออกมาจากแสงสีขาว พวกเขาคือเมอร์ลินและพ่อมดลีโอที่กำลังเดินทางไกลจากเมืองอิมพีเรียลมายังดินแดนมนต์ดำ
พ่อมดลีโอไม่รีรอและเดินเข้าไปข้างในทันที ในขณะเดียวกัน เมอร์ลินมองดูแผ่นศิลาแห่งดินแดนมนต์ดำแต่กลับไม่พบเจ้าแมวดำ ไดอามอส ดูเหมือนมันจะไม่ได้ปรากฏตัวมาเป็นเวลานานแล้ว
“อาจารย์ลีโอ ทำไมวิญญาณของแผ่นศิลาถึงไม่ปรากฏตัวมาสักพักแล้ว?” เมอร์ลินอดไม่ได้ที่จะชี้ไปที่แผ่นศิลาขณะที่เขาถามพ่อมดลีโอ
พ่อมดลีโอจ้องเขม็งไปที่แผ่นศิลาและพูดอย่างมีความนัยว่า “ท่านไดอามอสอยู่ในสภาวะหลับลึก ในฐานะที่เป็นจิตวิญญาณของแผ่นศิลา ท่านสามารถควบคุมวงแหวนเวทย์ทั้งหมดของดินแดนมนต์ดำได้ นักเวทย์ระดับเก้าเพียงคนเดียวที่ควบคุมวงแหวนเวทย์ยังต้องการความร่วมมือจากท่านไดอามอส ดังนั้น คงอีกนานกว่าท่านจะตื่นขึ้นอีกครั้ง…เอาล่ะ ไปกันเถอะ มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ดินแดนมนต์ดำ”
หลังจากที่เขาพูดจบ พ่อมดลีโอก็เป็นผู้นำและเข้าสู่ดินแดนมนต์ดำ เมอร์ลินเหลือบมองแผ่นศิลาที่ไดอามอสศัยอยู่อีกครั้ง ในฐานะที่เป็นจิตวิญญาณของแผ่นศิลา เขาจำเป็นต้องร่วมมือกับนักเวทย์อันทรงพลังของดินแดนมนต์ดำเพื่อควบคุมวงแหวนเวทย์ทั้งหมด
เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับ ‘ความลับ’ บางอย่างของดินแดนมนต์ดำ ดังนั้น พ่อมดลีโอจึงไม่พูดมากเกินไป
เมอร์ลินไม่ได้หยุดอยู่ตรงนั้นนานนัก เขาติดตามพ่อมดลีโอเข้าไปในดินแดนมนต์ดำทันที
เมื่อเข้าสู่ดินแดนมนต์ดำ เมอร์ลินก็เห็นหอคอยสูงที่คุ้นเคยอีกครั้ง เมื่อคิดว่าเขาจะกลายเป็นนักเวทย์ระดับสี่ในอนาคตอันใกล้และสามารถสร้างหอคอยได้ด้วยตัวเองได้ มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ทุกอย่างยังดูสงบสุขดี ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงกระนั้น พวกเขาก็สามารถแน่ใจได้อย่างแท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้นจนกว่าพวกเขาจะได้พบกับพ่อมดฮิวเซียสด้วยตนเอง
“อาจารย์ลีโอ ผมจะกลับไปที่หอคอยก่อนขอรับ”
เมอร์ลินกล่าวพ่อมดลีโอ เนื่องด้วยพ่อมดฮิวเซียสที่ตามหาลีโอ มันต้องมีบางอย่างที่สำคัญมาก ดังนั้นเมอร์ลินจึงไม่มีเหตุผลที่จะไปต่อ
อย่างไรก็ตาม พ่อมดลีโอขมวดคิ้วแทนแล้วส่ายหัวเบาๆ “เจ้าไม่จำเป็นต้องไป ข้อความที่ข้าได้รับจากฮิวเซียส มันบอกว่าข้าต้องพาเจ้าไปด้วย”
“พาผมไปด้วย?” เมอร์ลินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเขาได้อย่างไร?
พ่อมดลีโอไม่ได้พูดอะไร เขาพาเมอร์ลินไปด้วยและบินไปยังหอคอยที่สูงที่สุดไม่กี่แห่งในดินแดนมนต์ดำ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมอร์ลินมาเยือนหอคอยของพ่อมดฮิวเซียส ดังนั้นเขาจึงมองดูมันแบบสบาย ๆ เพียงไม่กี่ครั้งแล้วมองไปทางด้านหน้า
เมื่อเมอร์ลินและพ่อมดลีโอเพิ่งมาถึงหอคอย นักเวทย์ชุดดำก็เข้ามาหาพวกเขาทันที นั่นคือพ่อมดฮิวเซียส
ในฐานะนักเวทย์ระดับเจ็ด พ่อมดฮิวเซียสมีสถานะที่สูงส่งมาก นอกจากนี้ เขามีรูปลักษณ์ที่สุขุมแต่คราวนี้ ท่าทางของเขาดูเคร่งขรึมอย่างยิ่งและดวงตาของเขาได้เผยให้เห็นถึงความกังวลของเขา
“ฮิวเซียส บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าจึงเรียกข้ากลับมาอย่างเร่งด่วนเช่นนี้”
ดวงตาแนวตั้งที่เปื้อนเลือดที่หน้าผากของพ่อมดลีโอหรี่มองเล็กน้อยบวกกับรูปร่างที่ผอมกะหร่องของพ่อมดลีโอราวกับ ‘ซากศพแห้ง’ มันดูน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก
ฮิวเซียสไม่ตอบในทันที แต่เขากลับถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมเล็กน้อย “ลีโอ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?”
รูปลักษณ์ปัจจุบันของพ่อมดลีโอเปลี่ยนแปลงมากเกินไป เป็นเพราะเขาบังคับใช้ดวงตาแห่งความมืด รูปแบบที่สี่เมื่อต้องรับมือกับพ่อมดทานนินกับพ่อมดมอร์สตัน มันเป็นผลให้เขาถูกกลืนกินโดยดวงตาแห่งความมืด นี่จึงส่งผลในรูปลักษณ์ของเขาน่าสยดสยองเช่นนี้
“ไม่มีอะไรจริง ๆ เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยกับดวงตาแห่งความมืดเท่านั้นและมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย” พ่อมดลีโอตอบแบบสบาย ๆ ดูเหมือนไม่กังวลเลย
เมื่อเห็นว่าลีโอพูดถึงดวงตาแห่งความมืด พ่อมดฮิวเซียสก็ไม่ถามต่อ ท้ายที่สุดแล้วดวงตาแห่งความมืดมันเป็นของวิเศษมาก ย้อนกลับไปในตอนนั้น ไม่มีใครคิดว่าลีโอจะสามารถฆ่าพ่อมดออสซีอุสจากออสมูได้ ดังนั้น มันอาจมีบางอย่างที่แปลกประหลาดกับดวงตาแห่งความมืดซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าทำไมมันถึงทำให้พ่อมดลีโอกลายเป็นแบบนี้
ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาของเขาอย่างรุนแรงซึ่งตอนนี้ดูน่ากลัวมาก พลังจิตบนร่างของลีโอก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
ฮิวเซียสชำเลืองมองเมอร์ลินแล้วพูดอย่างลึกซึ้งว่า “มีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้น มันเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรนักเวทย์ทั้งหมด! เมื่อไม่นานมานี้ดินแดนมนต์ดำของเราได้รับแจ้งจากป้อมปราการทรายดำซึ่งเป็นองค์กรของนักเวทย์ขนาดใหญ่ พวกเขาเชิญพวกเราให้ไปที่ป้อมปราการทรายดำภายในเวลาหนึ่งเดือนหลังจากนี้”
“การประชุมสุดยอดของป้อมปราการทรายดำจะจัดขึ้นทุก ๆ 10 ปีไม่ใช่หรือ? นี่เพิ่งผ่านมาไปเพียงแปดปีเอง แม้ว่าเหตุฉุกเฉินอะไรแต่พวกเขาก็จะจัดในอีกสองปีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
พ่อมดลีโอมองไปที่พ่อมดฮิวเซียสอย่างสงสัย มันต้องมีเหตุผลที่ซ่อนอยู่แน่นอน จึงเป็นเหตุให้ป้อมปราการทรายดำจัดการประชุมสุดยอดล่วงหน้า
ฮิวเซียสครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างช้า ๆ “เหตุผลที่ว่าทำไมป้อมปราการทรายดำจึงจัดการประชุมล่วงหน้า อันที่จริง การประชุมสุดยอดเป็นเพียงข้ออ้าง พวกเขาต้องการรวบรวมองค์กรนักเวทย์จากที่ต่าง ๆ โดยใช้ชื่อการประชุมสุดยอดเป็นข้ออ้างเพื่อเป็นการพูดคุยเรื่องใหญ่ในนั้น”
“เรื่องใหญ่อะไร?”
แม้แต่เมอร์ลินก็กลั้นหายใจและตั้งใจฟังคำตอบของพ่อมดฮิวเซียสอย่างระมัดระวัง
พ่อมดฮิวเซียสสูดหายใจเข้าลึก ๆ และคายคำพูดออกจากปากของเขา “ออสมู!”
“ออซมู? เจ้าหมายถึงป้อมปราการทรายดำพร้อมที่จะจัดการกับออสมูแล้วหรืองั้นหรือ?”
ดวงตาที่เปื้อนเลือดบนหน้าผากของพ่อมดลีโอเปิดอย่างดุเดือด ฉายแสงเลือดสาดออกมา เผยให้เห็นความไม่สงบในจิตใจของพ่อมดลีโอ
ออสมูเป็นองค์กรลึกลับ แทบไม่มีใครรู้ว่าที่ตั้งของพวกเขาอยู่ที่ไหน ไม่มีใครรู้ว่าออสมูมีสมาชิกกี่คนหรือแข็งแกร่งมากแค่ไหน
สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้คือออสมูจะทำการโจมตีครั้งใหญ่เป็นครั้งคราว ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่หรือการรับสมาชิกใหม่ ออสมูจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อนำนักเวทย์อัจฉริยะทั้งหมดขององค์กรนักเวทย์หรือตระกูลนักเวทย์กลับไปยังออสมู
นอกจากนี้ ออสมูยังมีกฎที่ชั่วร้ายซึ่งใช้กับนักเวทย์ทั้งหมดที่ได้รับคัดเลือก เมื่อพลังของพวกเขาบรรลุความสามารถสูงสุดในอนาคต พวกเขาต้องกลับไปที่องค์กรหรือตระกูลนักเวทย์ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาทรยศเพื่อกำจัดพวกเขา
ดังนั้นทุกองค์กรหรือตระกูลจึงเกลียดชังออสมู อย่างไรก็ตาม เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ออสมูยังคงมีอยู่และพวกเขาก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีใครสามารถสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ให้กับออสมูได้
ก่อนหน้านี้ พ่อมดลีโอได้ล่าออสซีอุสลงไปหลายพันไมล์และยังฆ่าเขาได้สำเร็จ เหตุการณ์นี้กลายเป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นในองค์กรนักเวทย์หลายแห่งจึงทำให้พ่อมดลีโอมีชื่อเสียงแพร่กระจายไปทั่วไพศาล
เหตุผลที่แท้จริงก็คือออสซีอุสเป็นนักเวทย์ระดับเจ็ดในออสมู ดังนั้นเหตุการณ์นี้อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงและทำให้เกิดความตกใจครั้งใหญ่ได้
ตอนนี้ที่ป้อมปราการทรายดำกำลังวางแผนที่จะจัดการกับออสมู ผ่านการจัดประชุมสุดยอด มันทำให้พ่อมดลีโอประหลาดใจมากโดยธรรมชาติ
พ่อมดฮิวเซียสส่ายหัวเบา ๆ แทน “ไม่ใช่ว่าตอนนี้ป้อมปราการทรายดำพร้อมที่จะจัดการกับออสมูแต่เป็นเพราะองค์กรนักเวทย์ขนาดใหญ่ที่ต้องการจัดการกับออสมูต่างหาก! หึหึ ผลกระทบของออสมูต่อองค์กรนักเวทย์ขนาดกลางและเล็กอย่างเราไม่ได้ดีขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ออสมูได้สร้างความเสียหายให้กับพวกเขาอย่างมาก ท้ายที่สุด มีนักเวทย์อัจฉริยะมากมายในองค์กรขนาดใหญ่ ดังนั้น ออสมูจึงได้ให้ความสำคัญกับองค์กรนักเวทย์ขนาดใหญ่เหล่านั้น
“คราวนี้ ป้อมปราการทรายดำได้พูดคุยกับองค์กรนักเวทย์ขนาดใหญ่อื่น ๆ พวกเขาจำเป็นต้องรวมองค์กรส่วนใหญ่และจัดการกับออสมู ดังนั้นขนาดของมันจึงใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา นอกจากนี้ องค์กรนักเวทย์ขนาดใหญ่เหล่านี้ได้ตัดสินใจไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถทำลายออสมูได้ในครั้งนี้ พวกเขาก็จะต้องทำให้ออสมูประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องสร้างปัญหาขึ้นอีกในเวลาอันสั้น”
สิ่งที่พ่อมดเฮอร์เซียสพูดควรเป็นที่รู้จักเฉพาะกับพวกระดับสูงเท่านั้น
ในการจัดการกับออสมูซึ่งองค์กรนักเวทย์ขนาดใหญ่หลายแห่งได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัวและตัดสินใจไปแล้ว นี่เป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อโลกของนักเวทย์ทั้งหมด