บทที่ 396 ทำเงินอย่างบ้าคลั่ง
บทที่ 396 ทำเงินอย่างบ้าคลั่ง
เป็นธรรมดาที่เย่จงหมิงจะไม่ใช่มรณาชนคนพเนจร เขาแค่ใช้ตัวตนนี้เพื่อดำเนินการตามแผนเพื่อเข้าเมืองราชามรณาชน
แน่นอนว่าเย่จงหมิงไม่เคยล้มเลิกความคิดที่จะรวบรวมผลึกวิเศษที่ไร้ประโยชน์ของที่นี่
อันที่จริง การเดินทางสู่อาณาจักรลับนี้ประสบผลสำเร็จ มันไม่เพียงแต่ทำให้เย่จงหมิงมีโอกาสที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการของวงล้อรูเล็ตเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาสามารถแข็งแกร่งต่อไปได้จนถึงระดับวิวัฒนาการ 9 ดาว และแม้กระทั่ง… เหนือกว่า 9 ดาว เติมเต็มในสิ่งต่างๆที่ผู้แข็งแกร่งระดับ 9 ดาวในชีวิตก่อนไม่เคยทำได้มาก่อน
แต่ก่อนที่สิ่งเหล่านี้จะเป็นความจริง เย่จงหมิงยังต้องการผลึกวิเศษ แม้ว่าในอนาคตเขาจะไม่ต้องการมันแล้วก็ตาม แต่คนของเขายังต้องการมัน เนื่องจากในขณะนี้เย่จงหมิงยังไม่แน่ใจว่าคนอื่นๆจะสามารถฝึกทักษะลับของอาณาจักรลับได้หรือไม่ แต่ไม่ว่าจะฝึกฝนได้หรือไม่ก็ตาม ผลึกวิเศษเหล่านี้จะต้องถูกนำกลับโลก เพราะพวกมันสามารถนำผลประโยชน์มากมายมาให้กับเย่จงหมิง
ดังนั้นเย่จงหมิงจึงได้รวบรวมสิ่งเหล่านี้มาตลอดทาง ซึ่งเขามักจะพบบางอย่างในระหว่างการเดินทาง อย่างเช่นเมื่อวานเขายังเก็บผลึกวิเศษสีส้มจากใต้ซากกองกระดูกของสัตว์ประหลาดที่ไม่รู้จักได้
นี่คือผลึกวิเศษของชีวิตกลายพันธุ์ระดับแปด!
ในชีวิตก่อนต้องจ่ายมากเท่าไหร่กว่าจะได้มาซึ่งผลึกวิเศษระดับนี้?
แต่ตอนนี้เขากลับเก็บมันได้โดยบังเอิญ
พูดตามตรง อารมณ์ของเย่จงหมิงซับซ้อนมาก ตอนที่เขาเก็บผลึกวิเศษระดับ 8 นี้ได้
เนื่องจากอาเถาเคยไปที่เมืองราชามรณาชนเพียงครั้งเดียวเมื่อตอนที่เขายังเด็ก ดังนั้นในแผนที่ ที่เขาให้กับเย่จงหมิงจึงมีจุดหลักเพียงไม่กี่จุดที่ระบุไว้ และเย่จงหมิงต้องมองหามันเองขณะเดินทาง
หลังจากที่คิดหาวิธีเข้าเมืองราชามรณาชนได้ เย่จงหมิงก็อาศัยคุณลักษณะของแหล่งที่มาของความแข็งแกร่ง และความสามารถในการฟื้นฟูของรองเท้าบู๊ทเหยียบโลหิต เขาหยุดพักเพียงวันละประมาณ 3 ชั่วโมง โดยใช้เป็นเวลานอน 1 ชั่วโมง และใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการทำอาวุธ
อย่างที่คาดไว้ นี่คือบันไดที่จะนำไปสู่เมืองราชามรณาชน
ตอนที่เขาเจอชนเผ่าเชวี่ยเป่ย เขาไม่ได้เข้าไปติดต่อทันที แต่เฝ้าสังเกตดูเป็นเวลาหนึ่งวันทรายตก เมื่อพิจารณาแล้วว่าพวกเขามาจากชุมนุมอันเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในประตูสู่เมืองราชามรณาชน เขาจึงจงใจสร้างตัวตนสำหรับการติดต่อ จากนั้นเขาก็ประสบความสำเร็จในการขายลูกศรขนนกระดับสีเทาที่เขาสร้าง และได้รับความไว้วางใจจากคนเหล่านั้น
แน่นอนว่ายังมีผลึกวิเศษที่ได้มาจากคนเหล่านี้ แม้ว่าจะมีไม่มากนักก็ตาม
แต่เย่จงหมิงเชื่อว่า ข่าวจะแพร่กระจายไปในเทือกเขาเหวินหลัวในไม่ช้า และจะมีชนเผ่าต่างๆมาค้นหาเขา เพื่อแลกเปลี่ยนอาวุธมากขึ้น ตัวตนของเขาก็จะยิ่งมั่นคง และไม่มีใครสงสัยในการทำธุรกรรมนี้ อีกทั้งชื่อเสียงนี้ก็จะแผ่ขยายไปยังเมืองราชามรณาชน
ในขณะที่ได้รับผลึกวิเศษระดับสูงจำนวนมากในเวลาเดียวกัน เนื่องจากผลประโยชน์ดังกล่าว เย่จงหมิงจึงมีความสุขมาก
การติดต่อกับชนเผ่าที่สองประสบความสำเร็จด้วยอารมณ์นี้
ต่างจากชนเผ่าเชวี่ยเป่ยก่อนหน้า นักรบเผ่านี้เก่งเรื่องหอกกระดูก อย่างไรก็ตามเย่จงหมิงได้เตรียมบางอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นหลังจากติดต่อกับพวกเขา การค้าก็เป็นไปอย่างราบรื่น แต่เมื่อเทียบกับลูกศรขนนก ราคาของหอกกระดูกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งต้องใช้ผลึกวิเศษระดับ 5 สีน้ำเงินถึง 4 ชิ้น
บนโลก ผลึกวิเศษระดับนี้หายาก แต่ในอาณาจักรลับปู้หลู่ ด้วยการคงอยู่มานานจนนับจำนวนปีไม่ได้ของมรณาชน ผลึกวิเศษระดับนี้ แม้จะมีไม่มาก แต่ก็มีไม่น้อยเกินไป
น่าเสียดายที่โชคไม่ดีนัก จำนวนผลึกวิเศษที่ชนเผ่านี้พกพามามีไม่มาก ส่วนใหญ่ของผลึกวิเศษพวกเขาเก็บสะสมไว้ในเผ่าเพื่อเป็นของเล่นให้กับลูกๆ แต่ด้วยจำนวนที่พกพามาก็สามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนระดับต่ำได้ เย่จงหมิงใช้เวลาทั้งคืน ขุดพวกมันทั้งหมดออกมาจากกระเป๋าของพวกเขา พร้อมกับบางสิ่งที่เขาเรียกร้อง เพื่อแลกเปลี่ยนกับหอกกระดูกระดับสีเทา 20 เล่ม อย่างไรก็ตามมรณาชนเหล่านี้ก็ไม่คิดว่าเย่จงหมิงเป็นสิงโตปากใหญ่
(ผู้แปล – สิงโตปากใหญ่ หมายถึงเรียกราคาสูงเกินไป)
นี่เป็นเหมือนกับการเริ่มต้น เนื่องจากโอกาสล่าสัตว์ครั้งสุดท้ายในฤดูหนาว ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปก็มีชนเผ่ามรณาชนมาหาเขามากขึ้น และเย่จงหมิงก็เริ่มการรวบรวมผลึกวิเศษอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าวัสดุในพื้นที่มิติของเขาจะถูกนำออกไปใช้ แต่เขาก็นำผลึกวิเศษระดับสูงเหล่านั้นใส่เข้าไปแทน
การทำเงินอย่างบ้าคลั่งนี้เกิดขึ้นเมื่อชนเผ่าขนาดใหญ่ของเทือกเขาเหวินหลัวมาหาเขาเพื่อแลกเปลี่ยนอาวุธ
คนที่มาหาเย่จงหมิงในนามของเผ่าใหญ่ก็คือผู้อาวุโสหัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยที่พบกับชนเผ่าเชวี่ยเป่ย หลังจากพบกับเย่จงหมิงและได้เห็นอาวุธเรืองแสงของเขา ผู้อาวุโสกับเย่จงหมิงก็คุยเรื่องธุรกิจกันอย่างตรงไปตรงมา
ในตอนนี้ ผู้อาวุโสของเผ่าใหญ่ที่ชื่อฝ่านปาน ได้ถูกโน้มน้าวให้รู้จักตัวตนของเย่จงหมิงในฐานะคนพเนจร แม้ว่าคำว่าคนพเนจรจะเป็นชื่อที่มรณาชนรู้จักดีมาเป็นเวลานานแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครพบกับบุคคลเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว ผู้โดดเดี่ยวที่ท่องเที่ยวไปตามลำพังได้ทิ้งชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ พวกเขาทั้งหมดมีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับราชามรณาชน หรือแม้กระทั่งแข็งแกร่งกว่าราชามรณาชนอีกด้วย
ในสายตาของผู้อาวุโสฝ่านปาน เย่จงหมิงอยู่ในฐานะของผู้มาใหม่ที่ได้รับมรดกจากคนพเนจรที่ทรงพลัง เป็นมรณาชนคนต่างถิ่นที่มีความสามารถด้านเวทย์มนตร์
ความสามารถของเย่จงหมิงเป็นจุดศูนย์กลางของการเจรจา ความต้องการของชนเผ่าใหญ่นั้นไม่ง่ายเหมือนชนเผ่าเล็กๆ นับสิบๆเผ่า เผ่าใหญ่ของผู้อาวุโสฝ่านปานมีความต้องการที่มากกว่า แม้เย่จงหมิงจะมีอาวุธมากมายสำหรับความต้องการของพวกเขาจริงๆก็ตาม แต่มันก็ไม่สมเหตุสมผลที่จะใช้พวกมันสำหรับการแลกเปลี่ยนในทุกๆครั้งกับชนเผ่าขนาดใหญ่ที่มีจำนวนนักรบนับพัน
หลังจากเย่จงหมิงแสดงอาวุธสามชิ้นให้กับผู้อาวุโสดู และได้แจ้งให้ทราบถึงความสามารถในการผลิตของเขา ผู้อาวุโสจึงตัดสินใจเชิญเย่จงหมิงไปที่เทือกเขาเหวินหลัวทันที เรื่องราคา…มีปัญหางั้นหรือ? แม้ว่าจะไม่มีใครใช้ผลึกวิเศษอย่างจริงจังมานานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ขอแค่ให้รวบรวม มันก็จะมีเป็นกองพะเนินเช่นกัน และมีมากเท่าที่ต้องการ!
นั่นเป็นเพราะอาวุธสามชิ้นที่ถูกนำมาแสดงเป็นอาวุธระดับสีเทา สีขาว และสีเงิน!
ด้วยเหตุนี้เย่จงหมิงจึงได้รับเชิญเข้าสู่เทือกเขาเหวินหลัวประตูสู่เมืองราชามรณาชน
การเจรจากับผู้อาวุโสระดับ 6 ที่ชื่อฝ่านปานนั้นเป็นสิ่งที่จะพลาดมิได้ มรณาชนเป็นคนเรียบง่าย แต่ว่าไม่โง่ อย่างไรก็ตาม เป็นความธรรมดาที่เมื่อผู้คนเผชิญหน้ากับผลประโยชน์ พวกเขาก็จะมีความโลภ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการบังคับให้คนที่สามารถสร้างอาวุธเรืองแสงที่ทรงพลังนี้ให้อยู่กับเผ่า แต่พวกเขาก็ต้องล้มเลิกความคิดนี้หลังจากเย่จงหมิงได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขา
เขามีแข็งแกร่งพอๆกับ นักรบที่ทรงพลังมากที่สุดในเทือกเขาเหวินหลัว! หัวหน้าเผ่าขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งระหว่างระดับ 6 กับ 7
ทำไมพวกเขาถึงไม่มีระดับ 7…
เพราะผู้แข็งแกร่งระดับ 7 จะสามารถสร้างเผ่าสุดยอด มีคุณสมบัติในการเข้าสู่เมืองราชามรณาชน และสามารถกำหนดพื้นที่ล่าสัตว์ของตัวเอง ด้วยฐานะนี้ เขาจะได้รับการแบ่งปันทรัพยากรจากเผ่าอื่นๆมากมาย
หลังจากการประชุมร่วมกันของหัวหน้าเผ่าที่เป็นตัวแทนของเทือกเขาเหวินหลัว ทั้งหมดก็ตัดสินใจจะร่วมมืออย่างเต็มที่กับเย่จงหมิง คลื่นของผู้คนที่รวบรวมผลึกวิเศษก็เริ่มขึ้นในพื้นที่ภูเขาเล็กๆทันที!
ทำไมน่ะหรือ? เพราะสิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยถูกทิ้งเหมือนรองเท้าขาดๆ กลับสามารถแลกเปลี่ยนเป็นอาวุธที่ส่องประกายและทรงพลังได้ ด้วยอาวุธนี้ นักรบจะปลอดภัยขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และล่าเหยื่อได้มากขึ้นและดีขึ้น!
ดังนั้นในช่วงเวลาสั้นๆ ผลึกวิเศษจึงกลายเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด
หลังจากการสอบถาม เย่จงหมิงพบว่า ที่นี่อยู่ห่างจากเมืองราชามรณาชนเพียงสามวันทรายตก เขาก็โล่งใจ และใช้เวลา 2 วันติดต่อกันสร้างอาวุธและอุปกรณ์อย่างวางใจ ด้วยพลังจิตวิญญาณขนาดใหญ่ของเขาในตอนนี้ บวกกับผลึกวิเศษระดับต่ำนับไม่ถ้วนในผลึกมิติ เขาสามารถผลิตอาวุธและอุปกรณ์ได้ถึง 2,000 ชิ้นต่อวัน และราคาก็เพิ่มขึ้นด้วย เพราะเขาไม่ต้องเป็นฝ่ายจัดหาวัตถุดิบเองอีกต่อไป แต่มรณาชนต้องเป็นฝ่ายจัดหาพิมพ์เขียวของอาวุธและอุปกรณ์กับวัสดุให้กับเขา ส่วนราคานั้น…เหมือนเดิม
เมื่อเย่จงหมิงอยู่ที่นี่เป็นเวลา 7 วันทรายตก ในที่สุดก็มีข่าวมาจากเมืองราชามรณาชนว่า ราชามรณาชนต้องการพบเขา
ก่อนจากไป เย่จงหมิงก็ต้องตกใจ เมื่อเขานับผลึกวิเศษที่มีอยู่ในมือ
*****
โปรโมชั่นอ่านฟรี สิ้นสุดลงที่บทนี้