ตอนที่ 275+276 น่าเกลียด
“อะ แต่ถ้าคุณเหนื่อยจริง ๆ ล่ะก็ ฉันจะลองทำอาหารดูสักครั้งสองครั้ง แต่ถ้ามันไม่อร่อย ก็อย่าบ่นเชียวล่ะ!” เจียงเหยาขู่ “ถ้าคุณกล้าบ่น อย่าหวังว่าฉันจะทำอะไรให้คุณกินอีกเป็นครั้งที่สอง”
เมื่อดูท่าทางที่เธอส่งให้เขา ลู่ชิงสีก็อดไม่ได้ที่จะกดริมฝีปากของเขาลงกับริมฝีปากของเธอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไร แม้ว่าเธอใส่ยาพิษลงไป เขาก็จะกินโดยไม่ลังเล เขาจะสแงดความรังเกียจออกมาได้อย่างไรกัน?
“ไม่ว่าคุณทำอะไรให้กิน ผมก็กินได้ทั้งนั้นแหละ” ลู่ชิงสีรับปาก
เจียงเหยาพยักหน้าอย่างพอใจ และเธอก็ผลักเขา แต่เขากลับยิ่งเข้ามาชิดเธอมากยิ่งขึ้น พร้อมกับแก่นกายความเป็นชายของเขาที่ขยายใหญ่ขึ้นจนเธอรู้สึกได้ เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากพูดเบี่ยงเบนความสนใจจากมัน
“คุณต้องเตือนฉันให้ซื้อดอกไม้ใส่กระถางดี ๆ อย่างเช่น กระบองเพชร พลูด่างสวย ๆ ไว้ที่บ้านด้วย จะได้น่ามอง มีดอกไม้อะไรบ้างที่จะปลูได้ ทานตะวันล่ะดีไหม ส่วนที่ระเบียงก็เอาเป็นแดฟโฟดิล...” เมื่อเห็นว่าชายที่อยู่บนตัวของเธอจยับมือไปทั่วร่างกายของเธอไม่หยุดหย่อน เจียงเหยาก็ค่อย ๆ พูดช้าลง
กระนั้น ใครบางคนก็ยังคงเลื่อนมือไปมาราวกับไม่มีอะไรผิดปกติ มือของเขายังคงเคลื่อนไหว และเขายังคิดตามที่เธอพูด
“แดฟโฟดิลน่าเกลียดออก! ผมว่าดอกถั่วยังจะดูดีกว่าอีก มีดอกด้วย ออกผลด้วย ผมชอบกินถั่ว ดอกสตรอเบอรี่ก็สวยดีนะ อีกอย่างคุณชอบกินสตรอเบอรี่ด้วยนี่”
“...”
คำพูดของผู้ชายเจ้าชู้คนนี้นี่
“คุณกะจะทำสวนผัก สวนผลไม้หรือไร?” เจียงเหยาคว้ามือของลู่ชิงสีที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าไปใต้เสื้อผ้าของเธอ จ้องมองไปที่ชายคนนั้น ขณะที่พยายามยับยั้งมือที่ซุกซนของเขา
“นี่ อย่างห้ามเลยนะ ผมไม่ได้เจอคุณมาตั้งครึ่งเดือน จะให้แค่มองได้อย่างไรกัน” ลู่ชิงสีใช้มือข้างหนึ่งกดลงบนตัวหญิงสาวที่ไม่เชื่อฟังในขณะที่มืออีกข้างของเขาเล็ดลอดเข้าไปอยู่ใต้เสื้อผ้าของเธอ ทิ้งให้สัมผัสที่นุ่มนวลบนผิวสีขาวเนียนของเธอ บีบคลึงความนุ่มนวลนั้นใต้มือของเขาอย่างอ่อนโยน
ราวกับชุดนี้เป็นอุปสรรคอันน่ารำคาญ เขาดันเสื้อขึ้นด้วยมือข้างเดียว แสดงสีหน้าพอใจในขณะที่เขาก้มมองดูเธอโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง และแสดงความเห็นว่า “ดูโตขึ้นหน่อยหนึ่ง ใช่ไหมนะ”
เจียงเหยาถูกทำให้พูดไม่ออกจากพฤติกรรมที่ไร้ยางอายของเขา!
ความรู้สึกไม่พอใจแผ่ซ่านราวกับคลื่นคลื่นออกมาจากตัวภรรยาของเขา คนไร้ยางอายหวนคิดถึงเรื่องที่พวกเขายังคุยกันค้าง แล้วพูดต่ออีกครั้ง “จะเป็นสวนผักหรือสวนผลไม้ ผมก็ยินดีทั้งนั้น ตราบเท่าที่คุณชอบ”
หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาทีโดยไม่มีเสียงตอบรับจากคำพูดของเขา เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเธอ เจียงเหยากัดริมฝีปาก ดวงตาของเธอเป็นประกายไปด้วยอารมณ์และความเสน่หาในตัวของพวกเขา ไม่มีร่องรอยของความโกรธหรือความรำคาญเลย เธอยังคงจ้องมองมาที่ใบหน้าของเขา
“ถ้าเราพูดเรื่องนี้กันจบแล้ว ทำอย่างอื่นกันเถอะ” เขาพูดน้ำเสียงตึง ๆ อยู่เล็กน้อย ขณะที่เขารีบถอดรองเท้าแตะและเริ่มถอดเสื้อผ้า
เจียงเหยาได้สติคืนมาอย่างรวดเร็ว หลังจากหลุดจากความมึนงง “ไม่ นี่ยังกลางวันอยู่เลยนะ ผ้าม่านก็ไม่มี”
“ไม่เป็นไรน่า ข้างนอกไม่มีใครอยู่หรอก เขาอยู่ที่โรงฝึกกันหมด” ลู่ชิงสีเลื่อนตัวไปข้างหน้า ริมฝีปากของเขาสัมผัสใบหูของเธอ พร้อมกับพูดด้วยเสียงต่ำ “ใจคุณเต้นเร็วขนาดนี้ จะต้องอดกลั้นมันทำไมเล่า”
ป่าเถื่อน! โหดร้าย! ตอนที่เขาอยู่บนเตียง เหมือนเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน!
“ก็ไหนเมื่อกี้คุณพูดว่าไงนะ ไม่ให้คุณถอดเสื้อไม่ใช่เหรอ หึ ถ้าคุณทำอย่างนั้นก็แปลว่าคุณยอมให้ฉันเห็นแผลแล้วนะ” เจียงเหยารู้สึกถึงความกล้าหาญที่เพิ่มขึ้นในตัวเธอ เธอพูดแบบนั้น มือของเธอก็เอื้อมออกไป ไม่ได้ผลักเขาออก แต่เริ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาแทน
ลู่ชิงสีหยุดการกระทำของเขาครู่หนึ่ง ได้ยินคำพูดของเธอ เขาไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะยังจำอาการบาดเจ็บของเขาได้จนถึงตอนนี้
เมื่อมองดูว่ารอยยิ้มบนใบหน้าเธอที่แสดงถึงภาคภูมิใจเพียงใด เขาจับมือของเธอที่กำลังปลดกระดุมบนเสื้อของเขา หากเธอใช้ความคิดริเริ่มในการถอดเสื้อผ้าของเขาในสถานการณ์ปกติ เขาคงจะมีความสุขแม้จะเป็นความฝัน
__
เขาไม่มีสิทธิได้รับอะไรดี ๆ ในตอนนี้ อาจเป็นเพราะเสื้อผ้าของเขา หรือการที่เขาไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้ในตอนนี้
แต่อย่างไรเขาก็ไม่ยอมให้เธอเอาชนะเขาได้นานจนเกินไป
“ไม่เป็นไร ถ้างั้นผมไม่ถอดเสื้อ ยังไงซะผมก็ไม่จำเป็นต้องใช้ร่างกายท่อนบนอยู่แล้วนี่” ลู่ชิงสียิ้ม ดวงตาของเขามืดมัวไปด้วยราคะในขณะที่เขาพูดเสียบแหบแห้ง “แค่ถอดเสื้อของคุณออกก็พอแล้ว”
เจียงเหยาอาจคิดว่าเธอได้เปรียบเขาในครั้งนี้ และลู่ชิงกลับมาถอดเสื้อผ้าของเธอแทน ทำให้เธอถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
ประตูห้องนอนไม่ได้ปิด จึงได้ยินเสียงใครบางคนเคาะประตูห้องดังขึ้นมาถี่ ๆ
“จ่า จ่าครับ ผู้บัญชาการสูงสุดให้ผมมาบอกว่าจะมีงานเลี้ยงต้อนรับพี่สะใภ้คืนนี้ที่โรงอาหาร”
เจียงเหยาเหลือบมองไปที่ใบหน้าบิดเบี้ยวของลู่ชิงสี เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ขณะที่เธอหัวเราะ เธอก็ติดกระดุมเสื้อที่เขาเคยปลดออกก่อนหน้านี้
“ไม่ต้องสนใจเขาหรอก ต่อกันเถอะ” ลู่ชิงสีขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ได้ยินเสียงดังลอยเข้ามาจากภายนอก เขารู้ว่านั่นเป็นเสียงของเจ้าโง่ เฉินเฟยไป่
เจียงเหยาไม่มีโอกาสตอบสนองอะไร เสียงภายนอกก็ดังขึ้นอีก
“จ่า พี่สะใภ้ ผมรู้นะว่าพวกพี่อยู่กันข้างใน รีบออกมาเร็ว เข้า นี่กลางวันแสก ๆ อยู่เลยนะ พวกพี่ทำอะไรกันในนั้น หืม?”
เจียงเหยาอดหัวเราะไมได้ เธอกุมท้องหัวเราะอย่างหนัก คนที่อยู่นอกประตูรู้อยู่แล้วว่าคนในห้องกำลังทำอะไรอยู่ เขาจึงพูดเสียงดังอย่างนั้นเหรอ
“ลู่ชิงสี ลู่ชิงสีดูสิ ทำตัวให้ดีหน่อย”
ลู่ชิงสีถอนหายใจอย่างกระวนกระวายใจ คว้าผ้าห่มคลุมให้กับเจียงเหยา ขณะที่ตัวเธอยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย
“สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วรออยู่ข้างในห้อง อย่าออกมานะ”
จากนั้นเขาก็กระแทกปิดประตูห้องนอน กระทืบเท้าออกไปที่ห้องนั่งแล้ว แล้วเปิดประตูด้วยอาการโกรธจัด เมื่อเห็นคน ๆ นั้นเดินสะดุดล้มหลังจากเสียการทรงตัว เขาลากคน ๆ นั้นขึ้นมาอย่างไม่เบามือ
“เฉินเฟยไป่ อย่าคิดนะว่าฉันไม่กล้าจัดการกับนาย” ในขณะนี้สิ่งหนึ่งที่ลู่ชิงสีอยากทำมากที่สุดคือการโยนเจ้าบ้านี่ออกไปจากกอง แล้วไม่รับเขากลับเข้ามาอีกเลย!
“จ่า กลางวันแสก ๆ จะโกรธอะไรขนาดนั้น ผมได้ยินว่าพี่สะใภ้มาถึงแล้ว ใช่ไหม พี่สะใภ้กวนใจจ่าหรือเปล่า ต่อให้เธอทำอะไรให้จ่าไม่พอใจ จ่าก็ต้องอดทนสิ ไม่ใช่ทหารใหม่เสียหน่อย ไม่สมกับเป็นจ่าเลย”
เฉินเฟยไป่เป็นหนึ่งในไม่กี่คนในกองทัพที่กล้าเผชิญหน้ากับยมทูตลู่ แม้ว่าลู่ชิงสีจะจับที่ปลอกคอเสื้อของเขาไว้ แต่ก็ไม่มีร่องรอยความกลัวปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขาเลย ดวงตาของเขาสแกนเข้าไปในห้อง ราวกับกำลังมองหาใครสักคน แล้วก็อ้าปากตะโกน เสียงนั้นเต็มไปด้วยความกลัว “พี่สะใภ้ พี่สะใภ้! เร็วข้า จ่าเขากำลังจะตีผม!”
ลู่ชิงสีบอกเธอก่อนหน้านี้แล้วว่าให้อยู่ข้างในห้อง เจียงเหยาเลยแสร้งทำเป็นว่าเธอไม่ได้ยินอะไรเลย ตอนนี้เธอสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าของเธอยังคงแดงระเรื่อ หากใครได้เห็นหน้าของเธอในตอนนี้ ก็คงจะเดาออกว่าเธอและลู่ชิงสีกำลังทำอะไรกันอยู่หลังประตู
คิ้วของลู่ชิงสีขมวดเข้าหากันและตะโกนผ่านประตู “ที่รัก ผมออกไปคุยกับเขาข้างนอกแปบหนึ่งนะ”
โดยไม่รอคำตอบจากเจียงเหยา ในขณะที่เขากลัวว่าเธอจะออกมา เขาลากเฉินเฟยไป่ออกไปนอกประตู เตะเขาอย่างรุนแรงแล้วไล่เขากลับไปอย่างเร็ว
เขารู้ว่าภรรยาของเขามีเสน่ห์เพียงใดเมื่อเธอถูกปลุกเร้า ดวงตาที่มีเสน่ห์จะยิ่งดูโดดเด่นยิ่งขึ้นราวกับสามารถดูดวิญญาณได้เพียงแค่จ้องมองตาคู่นั้น เสียงที่เร่าร้อนของเธอจะทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน
หากเจียงเหยาในช่วงเวลาปกติเหมือนดั่งนางฟ้า ขณะที่ถูกปลุกเร้าเธอเหมือนปีศาจสาว
ปกติเธอเปรียบเสมือนดอกบัวสีขาวธรรมดา ทว่าตอนที่เธออยู่ใต้ตัวเขา เธอเปรียบเสมือนดอกป๊อปปี้สีแดงสด
ภาพนั้น เขาอนุญาตให้เขาคนเดียวเท่านั้นที่เห็นได้