ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 31 วันสารทจีนกำลังมาถึง
ข้าถูกเลี้ยงในกรงมาร 31 วันสารทจีนกำลังมาถึง
คงหนิงฝันร้าย
ในความฝันดูเหมือนพ่อแม่ทะเลาะกัน แต่ไม่รู้ว่าพวกเขากำลังโต้เถียงกันเรื่องอะไร
เมื่อตื่นเช้าขึ้นมา ก็ยังรู้สึกเพลียๆ ไม่หาย
มันรู้สึกเพลียเสียยิ่งกว่าตอนที่ถูกดูดแก่นแท้ธาตุหยางไปเมื่อคืนเสียอีก ---เป็นไปได้ไหมว่าหลังจากที่ปีศาจสาวกลับมากลางดึก นางมาดูดแก่นแท้ของเขาอีกแล้ว?
คงหนิงมองไปยังภรรยาที่เดินเข้ามาพร้อมกับโจ๊กข้าวฟ่างด้วยสายตาแปลกๆ ไม่กล้าถามคำถามเพิ่มอีก
วันนี้ซูหยานดูเหมือนจะมีความสุขมาก เดิมฮัมเพลงเบาๆ เหมือนว่านางจะได้พบกับเรื่องน่ายินดี
คงหนิงรู้ว่าปีศาจตนนี้ต้องมีความก้าวหน้าบางอย่าง
แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่พูด เขาก็ไม่คิดจะถาม
ความรู้สึกหดหู่และตึงเครียดที่ไม่สามารถอธิบายได้แผ่ซ่านไปทั่วจิตใจของคงหนิง ราวกับว่ากำลังจะมีบางสิ่งเกิดขึ้น
แต่คงหนิงไม่รู้ว่าความตึงเครียดแปลกๆ นั่นมาจากอะไรกันแน่
เขาซดโจ๊กข้าวฟ่างในชามอย่างใจเย็นที่สุด สวมเครื่องแบบมือปราบ และนำม้าสีเหลืองพุทราออกเดินทางไปศาลาว่าการ
ตั้งใจจะอยู่ให้ห่างจากปีศาจสาวภายในบ้าน
อย่างไรก็ตาม หลังจากเดินออกจากลานบ้านไป ความตึงเครียดที่ไม่สามารถอธิบายได้นั้นก็ไม่ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สิ่งนี้ทำให้คงหนิงตื่นตระหนก
แสงแดดยามเช้าสาดส่อง ใต้ต้นฉัตรจีนหน้าบ้าน ใบไม้ร่วงเกลื่อนกลาดเต็มพื้น
ผู้เป็นพ่อกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ ดูเหนื่อยๆ เล็กน้อย แม้จะดูเย็นชาไม่แยแสต่อสรรพสิ่งเช่นเคย แต่ก็ดูเหมือนว่าสภาพอารมณ์ของเขาไม่ได้เป็นเหมือนเช่นปกติ
ในทางกลับกัน แม่ผมขาวยังคงอ่อนโยนใจดี รู้สึกได้ถึงความกระฉับกระเฉง ตรงกันข้ามกับพ่อที่ดูเหนื่อยล้าอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเห็นคงหนิงจูงม้าออกไป แม่ของเขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “หนิงเอ๋อ กำลังจะไปศาลาว่าการแล้วหรือ”
“อื้อ ข้าจะไปรายงานตัวที่ศาลาว่าการ” คงหนิงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ท่านแม่ ท่านพ่อเป็นอะไรหรือเปล่า? เมื่อคืนไม่ได้พักผ่อนหรือไร?”
คงหนิงมองไปยังพ่อที่ดูท่าทางเหนื่อยอ่อนด้วยความกังวล จึงถามว่า “รู้สึกเจ็บไข้ไม่สบายตรงไหนหรือไม่?”
แต่ว่าพ่อผู้เย็นชาก็ไม่ได้ตอบ ยังคงพลิกหนังสือในมือต่อไป โดยไม่ได้สนใจจะตอบคงหนิง
แต่แม่ก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไรหรอก พ่อของเจ้าอาการเก่ากำเริบน่ะ ทุกปีเมื่อเข้าใกล้วันสารทจีนก็มักจะเป็นเช่นนี้แหละ”
คงหนิงถอนหายใจ เหลือบมองพ่อที่นั่งอยู่ใต้ต้นฉัตรจีน ไม่ได้ถามอะไรต่อไปอีก
อันที่จริงในช่วงวันสารทจีนของทุกปี พ่อของเขาก็มักจะอารมณ์ไม่ค่อยดี
แต่ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า พ่อดูเหนื่อยมากในเช้าวันนี้ เป็นสภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
แล้วต้นฉัตรจีนหน้าบ้านทำไมใบไม้ร่วงเยอะขนาดนี้? เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าต้นฉัตรจีนเขียวชอุ่มตลอดปีหรอกหรือ? แม้ว่าฤดูใบไม้ร่วงมาถึง ใบไม้ก็ยังไม่ร่วงลงมาเลย นี่ยังไม่ต้องกล่าวถึงว่านี่ไม่ใช่ฤดูใบไม้ร่วง
คงหนิงประหลาดใจ และก่อนที่จะจากไป เขาก็มองไปที่ต้นฉัตรจีนต้นใหญ่หน้าบ้าน
ภายใต้แสงอาทิตย์ ต้นฉัตรจีนนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นปกติ แต่ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า เขารู้สึกว่าต้นฉัตรจีนดูโทรมมาก......ผิดไปจากเดิมจริงๆ
เมื่อคืนโดนดูดซับแก่นแท้ธาตุหยางเยอะเกินไป เลยเห็นภาพหลอนหรือเปล่า??
ปีศาจในบ้านนี่น่ากลัวจริงๆ
ขี่ม้าสีเหลืองพุทราไปยังศาลาว่าการด้วยความเหนื่อยล้า รายงานตัวที่ศาลาว่าการด้วยอาการอ่อนแรง หลังจากนั้นจึงหามุมพัก เอนหลังหลับตา
วันนี้เขาเหนื่อยอย่างยิ่ง ไม่อยากออกไปเดินเล่นที่ไหน ถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรให้ทำอยู่แล้ว
แม้หว่านเอ๋อจะอยู่ทางตอนใต้ของเมือง แต่คงหนิงไม่ต้องการไปที่นั่นหากไม่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้ปีศาจในบ้านจับได้หากไปปรึกษาหารือกับนางบ่อยเกินไป
ในช่วงสั้นๆ นี้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ไม่ว่าจะเป็นปีศาจในตระกูลสวีหรือการสังหารผีร้ายภายในเมือง ทุกอย่างต้องรอฟังข่าวคราวจากหว่านเอ๋อ
หรือไม่ก็รอให้หมอกขาวในไหดำลึกลับสะสมจนเต็ม
คงหนิงมีลางสังหรณ์อย่างหนึ่งว่า ตอนนี้เขาบรรลุวิชาจาก <คัมภีร์กระบี่แสงวิจิตร> แล้ว ไม่จำเป็นต้องกลัวปีศาจในคฤหาสน์ตระกูลสวีอีกต่อไป
ครั้งหน้าที่ใช้ความสามารถในการค้นหาของไหดำลึกลับ หมอกที่ชี้ไปยังคฤหาสน์ตระกูลซู อาจไม่ใช่หมอกสีเลือดอีกต่อไป แต่เป็นหมอกสีขาว......
แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น คงหนิงยังต้องรอยืนยันด้วยตัวเองอีกที
รอให้หมอกภายในไหดำลึกลับสะสมจนเต็ม และระหว่างที่รอคอยอยู่แบบนี้ เวลาก็ผ่านเลยไปอย่างรวดเร็ว
คงหนิงเดินทางไปกลับที่ทำงานตรงเวลาทุกวัน และกลับบ้านก่อนมืด มากินข้าวเย็นฝีมือปีศาจ แล้วก็เข้านอน ช่วงนี้ไม่ได้มีเรื่องผิดปกติอะไร
และปีศาจในบ้านก็ยังออกไปข้างนอกทุกคืนไม่ว่าฝนจะตกหรือสภาพอากาศเป็นเช่นไร
และนางก็เริ่มออกเร็วขึ้นทุกวัน ในอดีตต้องผ่านไปเกือบถึงยามสามก่อนค่อยออกไป แต่ตอนนี้แค่ฟ้ามืดก็ออกไปทันที
เมื่อกลับมาก่อนรุ่งสาง บาดแผลบนร่างก็เพิ่มมากขึ้นทุกที สภาพบาดแผลดูแย่กว่าเดิมมาก บางครั้งที่ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารให้คงหนิง บาดแผลบนร่างก็ยังไม่หายดี เป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่ง
แต่ในทางกลับกัน อารมณ์ของนางดูจะดีขึ้นเรื่อยๆ และการที่ซูหยานอารมณ์ดีขึ้นก็หมายความว่าปีศาจในเขตเมืองต้องพบกับสถานการณ์เลวร้าย
บางครั้งคงหนิงอดคิดไม่ได้ว่าถ้าปีศาจในเขตชานหลานมีพลังมากพอ สามารถสังหารปีศาจแมงป่องจนตายได้ แปลว่าเขาก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวสิ่งใดแล้วไม่ใช่หรือ?
น่าเสียดายที่ความคาดหวังดังกล่าวไม่เคยเป็นจริง
แม้ว่าปีศาจในเขตชานหลานสามารถทิ้งรอยแผลไว้บนร่างของซูหยานได้ แต่ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงให้กับซูหยานได้เลย นับประสาอะไรกับการฆ่านาง
แค่ปีศาจพวกนั้นยังไม่มากพอ
เวลาล่วงเลยมาจนวันที่ห้า เดือนเจ็ด
คงหนิงเดินออกมาจากศาลาว่าการเมื่อตอนเลิกงาน เขาเห็นนกสีม่วงตัวเล็กๆ ยืนอยู่บนหลังคาอาคารเซียนเมามายที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ทันทีที่คงหนิงสังเกตเห็นเจ้านกน้อย นกตัวน้อยก็หายตัวไปอย่างเงียบๆ
นี่คือรหัสลับที่เขาและหว่านเอ๋อตกลงกันไว้ก่อน ถ้าพบว่ามีผีร้ายอยู่ภายในเมือง หว่านเอ๋อจะใช้วิธีเช่นนี้เพื่อแจ้งให้ทราบ
คงหนิงตื่นเต้นมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับสัญญาณลับจากหว่านเอ๋อ
อย่างไรก็ตาม เขายังคงรักษาท่าทีเหมือนปกติ กลับจากที่ทำงาน มากินข้าวเย็นกับปีศาจภายในบ้าน
เพียงไม่นานฟ้าก็มืด และปีศาจในชุดสีน้ำเงินก็เดินออกจากบ้านเข้าไปในความมืด มองหาปีศาจตัวอื่นๆ ที่อยู่ในเมือง
ในทางกลับกัน คงหนิงกำลังนอนอยู่บนเตียง รอเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง จนกระทั่งเขตเมืองเข้าสู่ความสงบยามค่ำคืนโดยสมบูรณ์ จากนั้นเขาก็ลงจากเตียงเงียบๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินทางไปยังทิศใต้ของเมือง
ท่ามกลางความมืดยามราตรี ร่างของคงหนิงวูบวาบผ่านบ้านเรือนไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยพลังตบะกว่าเจ็ดสิบปีของคงหนิง สามารถโหนทะยานข้ามหลังคา เดินไต่กำแพงได้ตามใจนึก ภายในเวลาหนึ่งเค่อก็เดินทางมาถึงบ้านร้างตระกูลเถียนทางตอนใต้ของเมืองด้วยถนนเส้นเล็กๆ เร็วกว่าควบม้ามาเสียอีก
ภายใต้แสงจันทร์เย็นยะเยือก หญิงสาวชุดขาวกำลังนั่งขัดสมาธิบ่มเพาะอยู่บนหิน
เมื่อเห็นคงหนิงเดินมา เด็กสาวก็ลืมตาขึ้นและยิ้มออกมาเล็กน้อย “หัวหน้ามือปราบหนิง มาเริ่มกันเถอะ”
แม้ว่าแซ่ของคงหนิงจะเป็นคง แต่ทุกคนกลับเรียกเขาว่าหัวหน้ามือปราบหนิง สิ่งนี้ทำให้คงหนิงพูดไม่ออก
แต่นี่ไม่ใช่เวลามามีปัญหากับเรื่องเช่นนี้ คงหนิงกล่าวว่า “มีผีร้ายอยู่ภายในเมืองใช่หรือไม่?”
หญิงสาวพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “วันสารทจีนใกล้เข้ามา พลังหยินภายในเมืองก็แข็งแกร่งขึ้น ข้าได้แอบสำรวจมาหลายวันแล้ว และในที่สุดก็พบเข้ากับวิญญาณร้ายที่หนีออกจากประตูผีก่อนกำหนด”
“ถึงแม้ความแข็งแกร่งจะไม่ได้มากนัก แต่ก็ช่วยให้หัวหน้ามือปราบหนิงฝึกปรือฝีมือได้......พวกเราไปกันเถอะ จบการต่อสู้ให้รวดเร็ว อย่าได้ชักช้าเกินไป”
“วันสารทจีนใกล้เข้ามาแล้ว ช่วงนี้ปีศาจในเมืองดูจะกระสับกระส่ายมากทีเดียว และการต่อสู้ก็ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ”
“ตอนนี้พวกเราไม่ควรแหวกหญ้าให้งูตื่น”