405 - วังใต้ดิน
405 - วังใต้ดิน
"บูม“,”บูม“,”บูม”...
ลึกลงไปในพื้นดิน เสียงกลองทื่อๆก็ดังขึ้นอีกครั้งและปราณสีดำก็พุ่งออกมาเหมือนควันที่ปกคลุมดวงดาวและดวงจันทร์ทั้งหมดในคราวเดียว ทำให้บริเวณนี้มืดราวกับก้นมหาสมุทร
แน่นอนว่าทหารหยินชุดใหม่ที่มุ่งหน้าออกมาจากสุสานใต้ดินนั้นดุร้ายมากขึ้น และพวกมันก็ดูเหมือนจะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอีกด้วย
ทันใดนั้นพลังปราณสีม่วงที่พุ่งสูงขึ้นทางทิศตะวันออก หญิงสาวที่งดงามคนหนึ่งบินเข้ามายืนอยู่เบื้องหน้าของสุสานโบราณ
พลังปราณสีม่วงถูกปลดปล่อยออกไปจากร่างกายของนางเพื่อยับยั้งปราณสีดำ แต่แสงสีม่วงอันเล็กน้อยเช่นนี้จะทำลายล้างปราณสีดำที่ดุร้ายเหมือนหมาป่าได้อย่างไร
“คนของคฤหาสน์ม่วงไม่อยู่เฉยแล้ว...นั่นเป็นทายาทรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาหรือไม่ ดูเหมือนว่านางจะยังเทียบไม่ได้กับนักพรตหญิงเมื่อสักครู่นี้?” เย่ฟ่านถาม
ต้วนเต๋อมองขึ้นไปแล้วพูดว่า
“มันไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เจ้าก็เห็นอยู่ว่ากองทัพทหารหยินชุดใหม่นี้มีความแข็งแกร่งมากกว่าชุดที่แล้ว มีอะไรอยู่ข้างล่างกันแน่!” ต้วนเต๋อขมวดคิ้ว
ในเวลานี้เรือโบราณสีทองที่มีความยาวหลายร้อยวาก็บินขึ้นไปในแนวนอนในขณะเดียวกันมันก็ยิงปราณกระบี่ออกมานับพันเส้น
ปราณกระบี่ที่ปรากฏออกมาไม่มีอะไรจะหยุดได้ พวกมันบินเข้าหาทหารหยินด้วยเจตนาฆ่าที่ทรงพลัง!
"ค่ายกลสังหารที่ทรงพลังอย่างยิ่ง" ร่างศักดิ์สิทธิ์จี้ฮ่าวเยว่ก็พยักหน้าเช่นกัน
"เฉียง", "เฉียง", "เฉียง"...
ปราณกระบี่ถูกยิงเข้าไปในประตูของสุสานอย่างต่อเนื่อง และปากทางเข้าสุสานก็ถูกทำลายก่อนจะเปิดเผยบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ข้างล่าง!
นี่คือรอยแยกของหุบเขาซึ่งมีวังใต้ดินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง นี่มันไม่ใช่สุสานตามความหมายปกติ แต่เป็นเหมือนโลกใบเล็กๆที่ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
วังใต้ดินเมื่อกว่า 100,000 ปีก่อนนั้นไม่ถูกทำลายและไม่บุบสลายแม้จะผ่านวันเวลาอันยาวนาน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอักขระเต๋าที่ถูกสลักอยู่บนกำแพงของพวกมันนั้นทรงพลังมากแค่ไหน
ในขณะนั้นประตูเมืองโบราณขนาดใหญ่ที่แต่เดิมแง้มไว้และมีหมอกสีดำปรากฏขึ้น ในเวลานี้จู่ๆมันก็ปิดลงและตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
“ญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้าของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ให้ข้าดูว่ามันพิเศษมากแค่ไหนทำไมผู้คนมากมายถึงต้องการมัน”
ราชาเผิงน้อยปีกทองกรีดร้อง! เขาเป็นคนแรกที่เคลื่อนไหว ร่างกายของเขากลายเป็นแสงสีทองและบินเข้าหารอยแยกของประตูอย่างรวดเร็ว
ในมือของเขาปรากฏอาวุธสีดำสนิทหนักเหมือนภูเขาและสามารถบดขยี้ความว่างเปล่าให้แตกสลายคล้ายกับใยแมงมุม
เคร้ง
ราชาเผิงน้อยปีกทองถือง้าวใหญ่และกระแทกประตูพระราชวังใต้ดินอย่างรุนแรง วังใต้ดินไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกได้ และรอยแยกในประตูก็ถูกขยายขึ้นเล็กน้อย
ผู้คนที่จ้องมองเหตุการณ์นี้ต่างก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
ราชาเผิงน้อยปีกทองมีอนุภาพที่ไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานได้ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ทรงพลังจนน่าเหลือเชื่อ เพียงการโจมตีครั้งเดียวก็ทำให้ใบหน้าของทุกคนสูญเสียสีสัน
"เคร้ง"
ราชาเผิงน้อยปีกทองกวัดแกว่งง้าว เมื่อมันตกลงมาครั้งที่สาม ความว่างเปล่าก็สั่นสะท้านภายใต้แรงกดดันของง้าวสีดำที่ดุร้าย ในเวลานั้นประตูใหญ่ก็พังทลายลงจากการทุบของเขา
ร่างกายของเขานั้นสง่างามเหมือนเซียนอสูรผู้สูงศักดิ์ แต่การโจมตีของเขานั้นบ้าคลั่งไม่เข้ากับบุคลิกภาพแม้แต่น้อย ทำให้ผู้คนที่อยู่ในบริเวณต่างก็มองเขาด้วยดวงตาที่แปลกประหลาด
ทันใดนั้นก็มีเสียงอึกทึก ทหารหยินจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกจากวังใต้ดินและมุ่งหน้าไปทางราชาเผิงน้อยปีกทอง
“เข้ามา ข้ากำลังต้องการอยู่พอดี!” เขายืนอยู่หน้าประตูโดยถือง้าวใหญ่สีดำและตะโกนว่า
"กระบี่หนึ่งแสนเล่ม!"
ในเวลานี้แสงสีทองได้เปล่งออกมาเป็นพันเป็นหมื่นสาย และกระบี่สีทองหลายหมื่นเล่มสั่นสะเทือนเหนือท้องฟ้าพร้อมกับยิงถล่มเข้าใส่ประตูวังโบราณจนสวรรค์และปฐพีสะเทือน
กระบี่หนึ่งแสนแปดพันเล่มยิ่งออกไปอย่างต่อเนื่อง ทหารหยินทั้งหมดที่พุ่งเข้ามาถูกตัดศีรษะในทันที มีเพียงราชาเผิงน้อยปีกทองเท่านั้นยืนที่ตำแหน่งศูนย์กลาง
ราชาเผิงน้อยปีกทองมีรูปร่างที่แข็งแรง ผมสีทองของเขาโบกสะบัดอย่างยุ่งเหยิง! และแสงกระบี่ของเขาที่ยิงเข้าไปข้างหน้าก็ทำให้ทุกคนใจสั่นด้วยความกลัว
“ญาณวิเศษลึกลับทั้งเก้าของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ให้ข้าดูหน่อยสิว่ามันแข็งแกร่งมากแค่ไหน!” เขาตะโกนและบินเข้าไปในวังโบราณใต้ดินเป็นคนแรก
“เจ้าอสูรหยุดเดี๋ยวนี้” ผู้ฝึกตนด้านบนตะโกนและทุกคนก็เริ่มลงมือ
ทหารหยินเพิ่มจำนวนไม่มีที่สิ้นสุด หากพวกเขาต้องการเข้าเมือง พวกเขาต้องมีความสามารถในการสร้าง "ถนน" เท่านั้น ไม่มีทางอื่นให้หลีกเลี่ยงได้
ร่างศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเจียงผู้ลึกลับได้กลายเป็นกระแสแสงและบุกฝ่าเข้าไปท่ามกลางทหารหยินนับหมื่น
จากนั้นยอดฝีมือจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งไม่ว่าจะเป็น คฤหาสน์ม่วง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อาณาจักรเต๋า ทั้งหมดต่างก็บุกฝ่าเข้าไปในวังใต้ดิน
"ฆ่า!"
เหล่ามหาอำนาจทั้งหลายต่างโห่ร้องลั่นเพื่อสังหาร ทุกคนเร่งรุดไปข้างหน้าไม่ยอมล้าหลัง
การต่อสู้ที่ด้านหน้าประตูของวังโบราณไม่เพียงแต่เป็นการกำจัดลงมือฆ่าฟันทหารหยินเท่านั้น แม้แต่มนุษย์ด้วยกันเองก็ยังถูกฆ่าฟันอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในส่วนลึกของวังใต้ดิน เพียงการต่อสู้ที่ด้านหน้าของประตูวังโบราณก็น่ากลัวมากแล้ว แต่ถึงแม้จะมีคนตายอย่างต่อเนื่อง แรงผลักดันจากด้านนอกก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย
ในตอนนี้แม้แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยกที่ได้ชื่อว่ามีความบริสุทธิ์สูงๆและจิตใจงดงามก็ยังเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว หลังจากนั้นเอี๋ยนหรูหยูและองครักษ์อสูรของนางก็ตามเข้าไปติดๆ
“จื่อเยว่ เจ้ารออยู่ที่นี่อย่าตามมา ตัวข้าจะเข้าไปข้างในก่อน” หลังจากที่ราชันย์ศักดิ์สิทธิ์ในอนาคตของตระกูลจี้กล่าว เขาก็หายตัวไปในทันที
เหยาซีหัวเราะคิกคักและหายตัวไปเช่นกัน
“พี่ใหญ่...” จี้จื่อเยว่ส่งเสียงเรียกแต่ไม่ได้รับคำตอบ
“นี่เป็นโอกาสดีสำหรับการจับปลาในน้ำขุ่น น้องชายผู้เที่ยงธรรม พวกเราก็เข้าไปกันเถอะ”
นักพรตอ้วนหัวเราะ ในขณะที่เย่ฟ่านก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ข้ามาเพื่อเก้าญาณวิเศษลึกลับเท่านั้น อย่างอื่นล้วนไม่สำคัญ”
“นั่นเป็นเพียงสมบัติหลัก ในระหว่างทางพวกเราอาจจะได้รับผลประโยชน์อีกหลายอย่างก็ได้” ต้วนเต๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม
…………………………
ที่ด้านในมันเผยให้เห็นเพียงมุมหนึ่งของประตูเมืองเท่านั้น แต่ทัศนียภาพของมันนั้นงดงามและกว้างใหญ่
แม้ว่าพวกเย่ฟ่านจะเข้ามาข้างในแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าทหารหยินจำนวนมากวิ่งออกมาจากตรงไหน
ลูกศิษย์ที่โดดเด่นหลายคนของดินแดนศักสิทธิ์ได้ล่วงลึกลงไป นิกายใหญ่และศิษย์ของมหาอำนาจอื่นๆก็ติดตามอย่างใกล้ชิดในขณะที่พวกเขาได้ต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง
“บูม”, “บูม”, “บูม”...
กลองสงครามเป็นเหมือนฟ้าร้องที่ส่งเสียงดังมาจากส่วนลึกของพระราชวังใต้ดิน ทหารหยินเป็นเหมือนกระแสน้ำสีดำที่พุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องและต่อสู้กับผู้ฝึกตนจำนวนมากด้วยความรุนแรง
แต่เพื่อประโยชน์ของเก้าญาณวิเศษลึกลับ แม้ว่าจะมีผู้ฝึกตนจำนวนมากถูกฆ่าตายแต่ความปรารถนาของพวกเขาก็ไม่ได้ลดลงและยังคงเสริมกำลังเข้าไปอย่างไม่หยุดหย่อน
มีเสียงโห่ร้องสังหารทั่วบริเวณ สงครามครั้งยิ่งใหญ่ช่างน่าสลดใจ ศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่ทุกหนทุกแห่งที่หน้าพระราชวังใต้ดิน ทหารหยินพวกนั้นเยี่ยบย่ำศพจนกลายเป็นแอ่งเลือด