บทที่ 97 ฉากการแย่งชิงความโปรดปรานครั้งยิ่งใหญ่❗️
หานเซียวรู้สึกว่าตัวเองค้นพบทวีปแห่งใหม่แล้ว และตัดสินใจจะกลับไปปรึกษากับภรรยาว่าจะมีลูกคนที่สองกันดีไหม? แล้วถ้าลูกที่คลอดออกมาเป็นลูกสาว เขาคงจะนอนตายตาหลับอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ซูเชิ่งจิ่งก็รู้สึกหดหู่มาก เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ทั้งๆที่ตัวเองก็มีลูก?
อุ้มอะไรกัน❗️
ได้โปรดวางลูกสาวของฉันลง แล้วฉันคนนี้จะขอบคุณมาก❗️
ส่วนเจ้าเด็กเหลือขอสองคนนั่น ก็เอาแต่จ้องลูกสาวของเขาตลอดเวลา มันหมายความว่ายังไง?
เมื่อฉากนี้ถูกตัดต่อและโพสต์ลงในอินเทอร์เน็ต ชาวเน็ตหลายคนต่างก็พากันหัวเราะ
[มาชมฉากการแย่งชิงความโปรดปรานครั้งยิ่งใหญ่❗️]
[เสี่ยวจิ่ว: ไม่สามารถน่ารักกับคนเพียงคนเดียวได้ เธอจึงต้องเป็นฝนและหยาดน้ำค้าง*ให้กับทุกคนจนเปียกโชก]
(我要雨露均沾 ฝนและหยาดน้ำค้าง* หมายถึง การปฏิบัติต่อผู้คนอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เอาใจใส่หรือละเลยใครมากเกินไป)
[มีฉันคนเดียวหรือเปล่าที่คิดว่าเสี่ยวจิ่วเป็นผู้ชนะในครั้งนี้? เพราะเธอได้รู้จักกับพี่ชายสุดหล่อทั้งสองคน แถมยังถูกหานเซียวและเซียวยางอุ้มอีกด้วย อ๊า…ปล่อยพวกเขา❗️ ปล่อยพวกเขามาให้ฉันบ้าง❗️]
[ความคิดเห็นข้างบน ฉันก็ไม่ต้องการที่จะกีดกันเธอหรอกนะ ถ้าเธอน่ารักได้สักครึ่งหนึ่งของเสี่ยวจิ่ว แต่ถ้าไม่… เธอก็คงต้องเคาะแป้นพิมพ์อยู่ที่บ้านของเธอต่อไป]
[ฉันรู้สึกได้ว่าซูเชิ่งจิ่งจะไม่ค่อยพอใจสักเท่าไร? ดูสายตาที่ขุ่นเคืองของเขาสิ ฮ่าๆๆๆ ฉันหัวเราะจะตายอยู่แล้ว❗️]
[คุณป๊ะป๋าโกรธซะแล้ว ฮ่าๆๆๆ]
[จิ๊ จิ๊ เสี่ยวจิ่วน่ารักจริงๆ (*ω*) และฉันก็มีความคิดที่กล้าหาญอยู่อย่างหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าจะสามารถพูดได้ไหม?]
[กลุ่มขโมยเด็กใช่ไหม? บังเอิญจัง ฉันก็มีความคิดแบบนั้นเหมือนกัน❗️]
…
ไม่นาน แขกรับเชิญอีกสองคู่ก็มาถึงเช่นเดียวกัน คู่แรกคือนักแสดงเฉินเคอและลูกสาวเฉินซีซีที่มีอายุห้าขวบ เธอเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่สุภาพอ่อนโยน และมีน้ำเสียงที่นุ่มนวล
และอีกคู่คือนักร้องร็อคหลีข่าย และลูกชายของเขาหลีนั่วเอ่อร์ ที่มีอายุ 5 ขวบครึ่ง เขามีหน้าตาหล่อเหลาเหมือนผู้เป็นพ่อ แต่งตัวเท่ห์ และมีบุคลิกร่าเริงสดใส
เมื่อเด็กทั้งสองคนมาถึง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ซูจิ่ว และทุกคนก็คิดเหมือนกันว่าน้องสาวคนนี้น่ารักมาก
ผู้กํากับหยางฟางผิงซ่อนตัวอยู่ในเงามืด และสั่งให้ช่างภาพถ่ายรูปในระหว่างที่กำลังรอแขกรับเชิญที่เหลือ และหลังจากที่ทุกคนมาถึงแล้ว เขาก็เดินออกไปพูดกับแขกรับเชิญทั้งห้าคู่ว่า “ขอบคุณ พ่อและลูกๆทุกคนที่เดินทางมาจากที่ไกลๆ เพื่อมาร่วมทํางานนี้กับฉัน ดังนั้น คืนนี้ก็ขอให้ทุกคนพักผ่อนให้เต็มที่ แล้วพรุ่งนี้เช้าพวกเราจะออกเดินทางไปที่หมู่บ้านกัน เด็กๆทุกคนตั้งตารอคอยมันอยู่ใช่ไหม?”
“ใช่ พวกเรากำลังรออยู่❗️” เด็กทุกคนตอบกลับอย่างให้เกียรติ
“ฮ่าๆๆๆ ดีมาก❗️ เอาล่ะ เด็กๆ ตามพ่อของตัวเองแล้วกลับไปพักผ่อนกันให้เต็มที่นะ”
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ซูจิ่วเดินตามซูเชิ่งจิ่งเพื่อจะไปขึ้นรถของทีมงาน และมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านใกล้เคียง
เมื่อหานเซียวและลูกชายมาถึงจุดรวมตัว พวกเขาก็บังเอิญเห็นซูจิ่วที่กำลังจะขึ้นรถ และเมื่อเห็นเป้าหมายที่กำลังตามหา หานซือเหย่ก็ไม่พูดพร่ำทําเพลงทิ้งพ่อของตัวเอง แล้ววิ่งตามหลังของซูจิ่วขึ้นรถไปอย่างรวดเร็ว
หานเซียว “....”
เจ้าเด็กเหลือขอนี่ลืมพ่อของตัวเองแล้วเหรอ?❗️
หลังจากที่หานซือเหย่มาถึงข้างรถ เขาก็เอื้อมมือออกไปแล้วดึงแขนของซูจิ่วไว้
ซูจิ่วหันหลังกลับไปมอง และเมื่อเห็นว่าเป็นหานซือเหย่ เธอก็ยิ้มแล้วพูดว่า “พี่ชาย”
วันนี้ซูจิ่วใส่ชุดสีชมพูอ่อน ผมของเธอถูกซูเชิ่งจิ่งมัดเป็นลูกชิ้นเล็กๆสองลูกอยู่บนศีรษะ และความน่ารักของเธอก็ยังคงได้รับคะแนนเต็ม จนทำให้หานซือเหย่รู้สึกเขินอายจนหูแดง แล้วเขาก็พูดอย่างอึดอัดว่า “เดี๋ยวก่อน เธอต้องมานั่งกับฉัน❗️”
## ?????????ในตอนที่ 101 เป็นต้นไป เสี่ยวจิ่วขอบอกว่าจะเป็นตอนคู่ควบกันแล้วนะคะ
ซูจิ่วส่ายหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว “ขอโทษนะพี่ชาย แต่ฉันอยากนั่งกับป๊ะป๋า ฉันทิ้งป๊ะป๋าไว้คนเดียวไม่ได้”
ถึงแม้ว่าเมื่อคืนเธอจะประสบความสําเร็จในการชนะเจ้าเด็กหมีคนนี้ได้ แต่เธอก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้ทุกอย่าง และต้องปฏิเสธอย่างหนักแน่นในเวลาที่เหมาะสม เพื่อที่เธอจะสามารถรักษาความสนใจของเขาเอาไว้ได้
ซูจิ่วรู้สึกว่าตัวเองเหมือนชาเขียวอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไร เพราะเธอแค่อยากเป็นชาเขียวที่ใครๆก็หลงรักไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพื่อเป็นการหาแฟนคลับตัวยงของตัวเองและของป๊ะป๋าให้ได้❗️