บทที่ 96 คุณลุงอุ้มหนูหน่อย~
เมื่อเห็นความอิจฉาบนใบหน้าของหานเซียว อารมณ์ของซูเชิ่งจิ่งก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง และเขาก็เชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิใจ
ในหัวของหานซือเหย่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่ซูจิ่วช่วยพูดแต่สิ่งดีๆให้กับตัวเอง และเขาก็จะไม่ถูกพ่อสั่งสอนเมื่อเขากลับไปถึงห้องพัก
เขาต้องคิดให้ดีว่าจะให้ของขวัญอะไรกับเธอ นอกจากนี้ เขาต้องช่วยเธอทําภารกิจให้สำเร็จให้ได้❗️
ในเวลาต่อมา ก็มีชายรูปร่างสูงโปร่งและดูอ่อนโยน เขาเดินจูงเด็กชายตัวเล็กๆ เข้ามาในร้านอาหาร
และเมื่อเห็นหานเซียวกับซูเชิ่งจิ่ง เขาก็ดึงเด็กชายตัวน้อยเดินเข้ามาหาทันที จากนั้น น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ไพเราะก็ดังขึ้น “ทำไมถึงมากันเร็วจัง?”
ทั้งสี่คนเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ทันที และคนที่มาก็คือนักเปียโนที่มีชื่อเสียงเซียวยาง
รูปลักษณ์ของเซียวยางพูดได้ว่าดีที่สุดในวงการเปียโนก็ว่าได้ และส่วนสูงของผู้ชายคนนี้ก็สูงเท่ากับซูเชิ่งจิ่งและหานเซียว ที่สูงกว่า 185 เซนติเมตร
ชายทั้งสามคนที่มีหน้าตาเป็นอาวุธมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ และเมื่อพนักงานเสิร์ฟที่อยู่รอบๆเห็นพวกเขา พวกเธอก็รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองกําลังจะหยุดเต้น
นี่คือการต่อสู้ระหว่างทวยเทพ และพวกเธอก็รู้สึกแสบตามาก❗️
เซียวยางกับหานเซียวรู้จักกันดี เพราะพวกเขาเคยร่วมงานกันในภาพยนตร์และต่อมาก็กลายเป็นเพื่อนกัน ดังนั้น เซียวยางจึงทักหานเซียวก่อน แล้วหันไปมองซูเชิ่งจิ่งและซูจิ่วที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ซูเชิ่งจิ่งผอมลงมาก คาดว่าน่าจะเป็นเพราะรายการนี้ เขาจึงพยายามลดน้ำหนักอย่างสุดชีวิต และเขาก็มีความพากเพียรจริงๆ ส่วนลูกสาวของเขา…
น่ารักจริงๆเลย❗️
## ? ? ?
เด็กน้อยคนนี้ดูเหมือนตุ๊กตามาก จนทําให้เขาต้องการที่จะอุ้มเธอขึ้นมากอด
เมื่อผู้ใหญ่ทักทายกันเสร็จแล้ว ซูจิ่วก็ทักทายเซียวยางด้วยเสียงน้ำนมว่า “สวัสดีค่ะคุณลุง” จากนั้น สายตาของเธอก็จับจ้องไปที่เด็กชายที่อยู่ข้างๆเขา
ว้าว เด็กน้อยคนนี้ก็ดูดีมากเช่นกัน❗️
ใบหน้าเล็กๆนั้นละเอียดอ่อนและช่างบอบบาง เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสีดํา และเมื่อเขาเห็นซูจิ่วมองมาที่ตัวเอง เด็กชายตัวน้อยก็ส่งยิ้มให้อย่างเขินอาย ซึ่งทำให้เขาดูเหมือนเด็กที่มีอัธยาศัยดีและอ่อนโยน
นี่ก็คือเซียวเว่ยลูกชายของเซียวยางใช่ไหม?
ในคลิปนําร่องเขาเป็นเด็กน้อยที่เชื่อฟังและเงียบขรึม ซึ่งเป็นผู้สืบทอดพรสวรรค์ด้านเปียโนจากผู้เป็นพ่อของเขามาทุกระเบียบนิ้ว และเขาก็เคยขึ้นเวทีการแสดงหลายครั้งมากตั้งแต่อายุเพียงแค่หกขวบ
เซียวยางพูดเบาๆกับซูจิ่วว่า “หนูคือเสี่ยวจิ่วใช่ไหม? น่ารักจัง ให้ลุงอุ้มหนูหน่อยได้ไหม?”
ซูเชิ่งจิ่งยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา หานเซียวก็เป็นคนแรกที่พูดขึ้นว่า “ไม่ได้❗️”
หานเซียวชําเลืองมองเซียวยางอย่างรังเกียจ “ฉันยังไม่ได้อุ้มเธอเลย แล้วนายเป็นใครมาจากไหนถึงจะมาอุ้มเธอก่อนฉัน? ไปต่อแถวเลย”
เซียวยางรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างเล็กน้อย “เฮ้❗️ เกิดอะไรขึ้นกับนายงั้นหรอ? หรือว่าสาวน้อยไม่ยอมให้นายอุ้มสินะ นายถึงไม่ยอมให้ฉันอุ้มเธอใช่ไหม? หานเซียวฉันไม่เคยคิดเลยว่านายจะเป็นคนแบบนี้”
หานเซียวกระแอมเบาๆ เพราะเขาก็อยากอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยด้วยเหมือนกัน แต่เขาไม่กล้าที่จะเปิดปากพูด เนื่องจากละอายที่เมื่อกี้เธอเพิ่งจะถูกลูกชายของเขารังแก
ซูจิ่วจึงรีบคว้าโอกาสนี้ และเธอก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเอาชนะใจพวกเขาเพื่อป๊ะป๋าของเธอให้ได้ เธอจึงลงจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปหาเซียวยาง จากนั้น มือเล็กๆของเธอก็ยื่นออกไปข้างหน้า และพูดอย่างนุ่มนวลว่า “คุณลุงสุดหล่อ อุ้มหนูหน่อย❗️”
เซียวหยาง "...‼️"
เซียวยางสูดลมหายใจเข้าทันที และเขาก็รู้สึกเหมือนถูกตีด้วยพายที่ตกลงมาจากฟากฟ้า จากนั้น เขาก็รีบก้มลงและอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมาในอ้อมแขนของตัวเอง และชําเลืองมองหานเซียวอย่างภาคภูมิใจ
เมื่อเห็นซูจิ่วอยู่ในอ้อมแขนของเซียวยาง ภายในดวงตาของนักแสดงหานเซียวก็บอกเป็นนัยๆว่า : ฉันอิจฉามาก
ซูจิ่วพูดคุยกับเซียวยางไม่นานนัก หลังจากนั้น เธอก็ลงมาจากอ้อมแขนของเขา และหันไปส่งคลื่นแสงน่ารักๆให้กับหานเซียว “คุณลุงอุ้มหนูหน่อย~”
โอ้…ว๊าว❗️
หานเซียวรู้สึกดีใจขึ้นมาทันที แล้วเขาก็อุ้มเธอขึ้นมาจากพื้น และก็ปล่อยให้เด็กหญิงตัวน้อยนั่งลงบนตักของตัวเอง
ให้ตายสิ❗️ เด็กน้อยคนนี้น่ารักกว่าเจ้าเด็กเหลือขอของเขามาก และเมื่อกอดเธอไว้ในอ้อมแขนก็เหมือนกอดปุยฝ้ายก้อนหนึ่งอยู่ ซึ่งทําให้ผู้คนรู้สึกใจอ่อนได้อย่างง่ายดาย