บทที่ 65 บดขยี้ด้วยหยกนิล
หยูหยินที่เป็นผู้คุมการประมูลได้ยินเช่นนั้น คิ้วอันเรียวงามทั้งคู่ขมวดเข้าหากันโดยทันที นางนั้นไม่ต้องการให้เกิดการปะทะฝีปากกันไปมากกว่านี้จึงได้รีบกล่าวออก
“รายการที่2ของสมาคมการค้าเจ้าสมุทรมันคือแหวนมิติอสูรระดับหยก” กล่าวจบหยูหยินใช้มือข้างซ้ายถกแขนเสื้อขวาของนางขึ้นเผยให้เห็นข้อมืออันขาวผ่องและห้านิ้วที่เรียวยาว
ก่อนนางจะคลายนิ้วทั้งห้าออกจากกันให้เห็นแหวนสีเขียวอ่อนวาดรวดลายล้อมนิ้วชี้ของนาง
ก่อนจะกล่าวต่อ “แหวนมิติอสูรที่หยูหยินสวมใส่อยู่นั้นใช้สำหรับเก็บอสูรต่อสู้ โดยภายในแหวนมิตินี้มีแหล่งกำเนิดพลังปราณจากหยกน้ำดี ช่วยแก่การพัฒนาและฟื้นฟูพลังของสัตว์อสูรคู่ใจของท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย”
“หยูหยินของอนุญาตเริ่มในราคาที่3หยกนิล”
เมื่อสตรีในชุดสีครามกล่าวจบ เสียงของผู้ในในลานประมูลก็ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย “ของดีของดี”
“มันเป็นสิ่งที่ข้ารอคอย ข้าต้องการมันมาเป็นบ้านใหม่ของวานรวายุ”หรงจื่อกล่าวออกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“4หยกนิล” หรงจื่อเพิ่มราคาครั้งเดียวถึง1หยกนิล เพียงเพื่อแสดงความต้องการอย่างชัดเจนและให้พวกที่กำลังคิดจะประมูลนั้นตัดใจลง
ด้วยจำนวนเงินถึง4หยกนิลนั้นนับว่าเป็นรายได้ของศิษย์หลักอย่างมันตลอด10ปีเลยก็ว่าได้ ในที่แห่งนี้ยังจะมีผู้ฝึกตนหน้าไหนที่มีกำลังทรัพย์มากกว่าศิษย์สายหลักอย่างมันได้อีก?
“ดูเหมือนว่าดาบอัปลักษณ์ต้องการสินะ ขอให้พวกเราได้สู้ดูสักตั้งเถอะ” ตระกูลที่ร่ำรวยในห้องส่วนตัวต่างๆเริ่มจะเคลือนไหว
“4หยกนิลกับอีก1ล้านเหรียญทอง”
“4หยกนิลกับอีก2ล้านเหรียญทอง”หรงจือเพิ่มราคามากขึ้น ขณะเดียวกันมันมองไปยังกลุ่มที่กำลังประมูลราคาแข่งกับมัน ด้วยสายตาหรี่แคบ “สำนักฝึกอสูร”
สมาพันธ์ประลองอสูรให้ราคา “4หยกนิล 3ล้านเหรียญทอง”
“หืมม์แม้แต่สมาพันธ์ประลองอสูรก็เข้าร่วมด้วย หรงจื่อเสนอราคาเพิ่มเป็น4หยกนิล6ล้านเหรียญทอง พร้อมกับหันไปกล่าวแก่หนิงเทียนด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย”น้องชายผู้ร่ำรวยไม่สนใจที่จะเข้าร่วมบ้างหรือไร?”
หนิงเทียนเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจ “รอให้เจ้าชนะอีกสองคนให้ได้ก่อน ข้าถึงจะเล่นกับเจ้า”
"ช่างเป็นชายที่ยโสยิ่งนัก" หรงจื่อกล่าวออกด้วยน้ำเสียงรังเกียจ
“4หยกนิลกับอีก7ล้านเหรียญทอง” สำนักอสูรเพิ่มราคาประมูลเข้าไปอีก
สมาพันธ์ประลองอสูรเรามีงบทั้งหมด4หยกนิล9ล้านเหรียญทอง ถ้ามีผู้ใดให้มากกว่านี้ พวกเราจะยอมแพ้ด้วยความยินดี
หรงจื่อกัดฟันแน่น แม้ว่าราคาจะเกินกว่าที่มันคิดไปบ้างแต่ถึงอย่างไรของชิ้นนี้มันจะต้องได้มาไว้ในครอบครอง 5หยกนิล!!” ด้วยราคาที่สูงถึง5หยกนิลมันทำให้ผู้คนในลานประลองถึงกับเงียบลงทันที
“คุณชายหรงจื่อนับว่าเป็นผู้มีความสามารถมากมายทั้งยังร่ำรวยด้วยเงินทองอีกด้วย ตัวท่านนั้นจะต้องเป็นที่หมายปองของสาวๆทั่วทั้งทวีปฟ้าสวรรค์เป็นแน่”หยูหยินไม่รีรอที่จะกล่าวชม พร้อมทั้งประกาศออก
“มีผู้ใดให้มากกว่า5หยกนิลอีกหรือไม่?” น้ำเสียงของหยูหยินชวนให้ผู้คนคลั่งไคล้ในตัวของนางมากยิ่งขึ้น
หนิงเทียนระบายลมหายใจออกอย่างเสียดาย “อู๋ชางจะต้องบ่นไม่หยุดแน่ๆ” ความจริงแล้วมันต้องการแหวนมิติอสูรระดับนิลมากกว่า
“แต่เอาเถอะไว้คราวหน้าค่อยหาใหม่ก็ได้ ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าให้อู๋ชางอยู่ใต้แขนเสื้อข้าละนะ”หนิงเทียนพึมพำกับตัวเองอยู่ชั่วครู่พร้อมประกาศออก “5หยกนิล5ล้านเหรียญทอง”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ ผู้ฝึกตนที่เข้าร่วมประมูลทั้งหลายต่างรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก มันไม่อยากเชื่อว่า ตระกูลชั้นต่ำจะมีเงินมากมายถึงเพียงนี้
แม้แต่ในตระกูลชั้นกลางยังต้องก่อตั้งกันเป็นสมาพันธ์ถึงจะมีความสามารถในการเข้าร่วมประมูลครั้งนี้ได้
“ข้าข้าคงหูฝาดไป เด็กนั้นกล่าวออกเพียงแค่5ล้านเหรียญทองใช่หรือไม่”
“ไม่!! ข้าได้ยินว่า5หยกนิล5ล้านเหรียญทองเต็มสองหูเลย”
5หยกนิลนั้นเพียงพอที่จะใช้ตระกูลชั้นต่ำทำงานไปตลอดชีวิตหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนตระกูลชั้นต่ำให้กลายมาเป็นตระกูลชั้นกลางได้ภายในพริบตา
“คุณชายท่านนี้คงจะเป็นคุณชายหนิงเทียนสินะเจ้าค่ะ”หยูหยินมองไปยังหนิงเทียนด้วยสายตาหรี่เล็กลง
นางนั้นได้ยินเรื่องของหนิงเทียนมาบ้าง แต่ว่านางนั้นคิดเป็นเพียงเรื่องตลกหยอกล้อกันเล่นเท่านั้น ต้องเป็นบุคคลใดกันที่ทำให้ผู้ดูแลหลวนคุนคุกเข่าต่อหน้านั้นเป็นเรื่องที่ไร้สาระเกินกว่าจะเชื่อถือได้
แต่เมื่อนางหวนคิดถึงเรื่องที่ได้ยินมาอีกครั้ง นางนั้นตัวเย็นเฉียบทันทีเมื่อได้จับจ้องไปยังหนิงเทียนใหม่ ก่อนจะพยามทำเสียงให้เป็นปกติและกล่าวออก “5หยกนิล5ล้านเหรียญทอง มีใครให้มากกว่าคุณชายหนิงเทียนอีกหรือไม่”
หรงจื่อได้แต่ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ด้วยความตกตะลึง มันไม่สามารถกล่าวออกในราคาที่มากกว่านั้นได้อย่างดาย เพียงเพราะ6หยกนิลคือจำนวนเงินทั้งหมดที่มันมีแล้ว
ก่อนที่มันจะฉุกคิดเรื่องหนึ่งออกมา “เจ้าเด็กนี้ไม่สมควรมีเงินมากมายเพียงนี้ มันจงใจวางกับดักให้ข้าต้องเพิ่มในราคาที่สูงเกินไป
ดีข้าจะรอดูว่าเจ้าจะมีปัญญาจ่ายหรือไม่” คิดได้เช่นนั้นหรงจื่อได้แต่ตัดใจและไม่ได้สู้ราคาต่อแต่อย่างใด
“5หยกนิล5ล้านเหรียญทอง ครั้งที่หนึ่ง 5หยกนิล5ล้านเหรียญทองครั้งที่สอง และ5หยกนิล5ล้านเหรียญทอง ครั้งที่สาม ผู้ชนะรายการแหวนมิติอสูรระดับหยกได้แก่คุณชายหนิงเทียนผู้สูงศักดิ์” หยูหยินประกาศออกเสียงดัง
5หยกนิล5ล้านเหรียญทองนั้นถือว่าเป็นจำนวนเงินที่ทำให้ผู้ฝึกตนคนอื่นๆมองหนิงเทียนต่างจากที่พวกมันได้ยินมาเมื่อครู่
ตระกูลชั้นต่ำ? ที่ไหนจะมีเงินมากมายเพียงนี้ได้ ใครที่เชื่อเรื่องเช่นนั้นไม่บ้าก็ต้องฟั่นเฟืองไปแล้ว
ขณะเดียวกันฮุยฟางและฉางอวี้นั้นปิดปากเงียบสนิท พวกมันต่างคิดเช่นเดียวกันว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแหวนมิติหยกนิลนั้นแท้จริงแล้วคือตระกูลจินที่ประมูลไป
ฮ่าฮาฮาฮ่าๆ เสียงหัวเราะของจินเหล่าต้าดังออก พร้อมทั้งกล่าวเสียงดัง“ศิษย์อันดับ1ของนิกายเคลื่อนเมฆาที่แท้ก็ไม่ได้ร่ำรวยอย่างปาก”คร่านี้มันอดไม่ได้ที่จะกล่าววาจายั่วยุหรงจื่อ
“เจ้าพูดอะไร!!!”หรงจื่อคำรามออกเสียงดัง เวลานี้ใบหน้าของมันแดงก่ำไปด้วยโทสะ
จินเหล่าต้าดูมีความสุขมาก ตัวมันนั้นมีสองเรื่องที่ทำให้เบิกบานใจ หนึ่งคืออิสตรี สองคือการทับถมชาวบ้าน มันหัวเราะออกโดยไม่สนใจที่จะตอบคำถามของหรงจื่อแต่อย่างใด
หนิงเทียนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “แม่นางหยูหยินจะเริ่มประมูลของชิ้นต่อไปได้เมื่อไร?”
หยูหยินได้ยินเช่นนั้นนางได้แต่ยิ้มออกแก่หนิงเทียนพร้อมกล่าวต่อ “เนื่องจากมีคนเร่งมาแล้ว หยูหยินขอเริ่มในของชิ้นต่อไปเลยแล้วกัน นำมันออกมา”
สิ้นเสียงของนาง เอี้ยเซียวเดินมาพร้อมหีบสมบัติก่อนจะเปิดออกให้เห็นแก่สายตาทุกคน
เมื่อสายตาทุกคนจับจ้องไปยังของในหีบสมบัติแล้ว หยูหยินได้กล่าวอธิบายออกทันที
“มันคือ ปลอกแขนตัดอากาศ อาวุธลมปราณระดับวีรชน เมื่อร้อยปีก่อนมันเป็นได้หายสาบสูญไปพร้อมกับสำนักดัชนีธรรมแต่ด้วยความสามารถของสมาคมการค้าจ้าวสมุทรเรา
จึงสามารถพลิกแผ่นดินค้นหามันออกมาให้ทุกท่านร่วมประมูลเป็นเจ้าของมันได้และด้วยคุณสมบัติของมันนั้นคมยิ่งกว่ากระบี่แข็งแกร่งยิ่งกว่าโล่
มันเป็นศาสตราวุธที่ผสมผสานการรุกโจมตีและการถอยป้องกันได้อย่างลงตัว” ด้วยน้ำเสียงไพเราะและลักษณะท่าทางชวนหลงไหลของหยูหยินนั้นสามารถควบคุมให้ทุกคนจับจ้องฟังนางกล่าวแต่เพียงผู้เดียว
ในขณะที่ผู้คนภายในลานประมูลเงียบสงบลงด้วยความตกตะลึง นางเผยลักยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ออกมาก่อนจะกล่าวต่อ“หยูหยินขอเริ่มมันที่7หยกนิล”
เมื่อสิ้นเสียงของหยูหยินบรรยากาศโดยรอบอึกทึกครึกโครมขึ้นมาทันใด เสียงของผู้ฝึกตนรอบๆดังขึ้นราวกับระเบิดลงไปทั่วทั้งเวทีประมูล
“ปลอกแขนระดับวีรชน หายากยิ่งกว่าอาวุธประเภทกระบี่หรือดาบเสียอีก”
“สมแก่ชื่อของสมาคมการค้าจ้าวสมุทรแล้ว การประมูลในช่วงเช้านั้นเทียบไม่ได้เลยแม้แต่น้อย”
“ข้าเกรงว่าผู้ที่มาเพราะคฤหาสน์ซื่อจิ้ง จะทนแรงยั่วยุจากสมบัติต่างๆที่สมาคมการค้าจ้าวสมุทรนำออกมาไม่ไหว”
ในขณะที่คนอื่นๆกำลังพูดคุยและวิจารณ์ถึงเรื่องปลอกแขนตัดอากาศนั้น หนิงเทียนหันไปกล่าวกับจินเหล่าต้า “เจ้ามีความเห็นอย่างไรกับการใช้อาวุธประเภทปลอกแขน?”
“อืม...ถ้าให้ข้าคิดแม้มันจะรุกและรับเป็นหนึ่งแต่ระยะโจมตีและระยะป้องกันของมันยังคงจำกัด สำหรับผู้ฝึกฝนที่เน้นไปทางด้านทักษะท่าเท้าหรือทักษะกายานั้นจะไม่สามารถดึงศักยภาพของปลอกแขนตัดอากาศออกมาได้ทั้งหมด”
“ไม่เลว วิเคราะห์ได้ดี”หนิงเทียนพยักหน้าอย่างช้าๆ พร้อมกล่าวออก “8หยกนิล” ได้ยินเช่นนั้นจินเหล่าต้าสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะถามออกไป “พี่ชายท่านต้องการใช้อาวุธประเภทปลอกแขน?”
“ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเจ้า”หนิงเทียนกล่าวอย่างไม่ใสใจ
“เอ๋!! ข้าหรือ?” จินเหล่าต้ากล่าวออกขณะที่นิ้วของมันชี้ไปยังตัวเอง
“ในคราวก่อนเจ้าสู้กับเหอสุ่ยในเหลาชิงเยี่ยน ที่เจ้าแพ้มันเพราะเจ้าขาดอาวุธที่ช่วยส่งเสริมทักษะต่อสู้ของเจ้า” มันกล่าวขณะที่กำลังยกจอกสุราขึ้นดื่ม
ได้ยินเช่นนั้นปากของจินเหล่าต้าอ้ากว้างด้วยความดีใจ ดวงตาของมันเปล่งประกายด้วยความขอบคุณ มันรีบเดินมาด้านหน้าของหนิงเทียนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับยกสุรารินใส่จอกให้แก่หนิงเทียน “ขอบคุณพี่ชายหนิงเทียน”
ในเวลาเดียวกันกับที่หนิงเทียนกล่าวด้วยราคา 8หยกนิลออกไปนั้น สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังห้องส่วนตัวหมายเลข4อย่างพร้อมเพียง
“ใครกัน..... ใครกันที่ว่าตระกูลซือหม่าเป็นตระกูลชั้นต่ำ”
“เจ้าเคยเห็นตระกูลชั้นต่ำที่ไหนใช้เงิน 20หยกนิลภายในวันเดียวบ้าง”
เวลานี้เหล่าผู้คนที่เคยก่นด่าหนิงเทียนอย่างสนุกปากต่างนิ่งเงียบราวกับใบ้กิน บางคนถึงกับใช้สองมือปิดบังใบหน้าด้วยความอับอาย
ในส่วนของฮุยฟาง หรงจื่อพวกมันจับจ้องไปยังห้องส่วนตัวของหนิงเทียนด้วยสายตาเบิกกว้าง ภายในใจของมันบังเกิดคำถามเดียวกัน “มันเป็นใครกันแน่”
เช่นเดียวกับจ้าวเทียนไห่ คิ้วของมันเริ่มขมวดกันเป็นปม จะมีชนชั้นต่ำที่ร่ำรวยถึงขนาดนี้ได้อย่างไร
แม้แต่ฉางอวี้เองยังกระตุกแขนอาจารย์ของมัน พร้อมกับพึมพำออก “มันต้องขโมยมาแน่ๆ”
ถึงแม้ว่าพวกมันจะหวาดระแวงกับตัวตนเบื้องหลังของหนิงเทียน แต่ทุกคนกลับรู้สึกสบายใจขึ้นมาในเวลาเดียวกัน หนิงเทียนนั้นใช้เงินไปมากถึง20หยกนิลแล้ว
"มันคงจะแย่กว่านี้ถ้าเด็กนั้นใช้ออกในการประมูลคฤหาสน์ซื่อจิ้ง" เมื่อต่างคนต่างคิดได้เช่นนั้นพวกมันจึงเลือกที่จะนิ่งเงียบมากกว่าจะส่งเสียงใดๆออกมา
สำหรับรายการประมูลที่คาดว่าจะสร้างความฮือฮาและตื่นเต้นแก่ผู้ประมูล กลับกลายเป็นรายการประมูลที่สั่นและรวดเร็วที่สุด มันจบลงด้วยการการเสนอราคาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
หยูหยินแย้มยิ้มก่อนจะประกาศออก 8หยกนิลครั้งที่1 8หยกนิลครั้งที่2 8หยกนิลครั้งที่3 ปลอกแขนตัดอากาศเป็นของคุณชายหนิงเทียน
ขอแสดงความยินดีแก่คุณชายหนิงด้วยที่ได้รับสมบัติวิเศษชิ้นนี้ไป” ริมสีปากอันยั่วยวนและสายตาเปี่ยมเสน่ห์จับจ้องมายังหนิงเทียน
หนิงเทียนมองไปยังหยูหยินพร้อมกับยกยิ้มขึ้น ก่อนจะกล่าวว่า“แม่นาง ทักษาวาจากุมจิตของท่านนั้นสมควรใช้ให้ดี ถ้าใช้ออกพร่ำเพื่อมันจะเป็นผลร้ายแก่สตรีที่บอบบางเช่นเจ้า”
ดวงตาของหยูหยินหดแคบลงเมื่อได้ยินถึงทักษะวาจากุมจิตที่นางเก็บเป็นความลับมาตลอด นางตัดสินใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุคคลเช่นหนิงเทียนนี้อีกต่อไป
คิดได้เช่นนั้นนางโค้งศีรษะพลางย่อขาเล็กน้อยก่อนจะกล่าวด้วยเสียงผ่านลมปราณไปยังหนิงเทียน “หยูหยินขออภัยคุณชาย”
หยูหยินยังคงเผยลักยิ้มออกมาอีกครั้ง ก่อนจะประกาศ "สมบัติที่จะนำออกมาประมูลในชิ้นต่อไปนั้นมันคือ เสื้อแพรพรรณราย ชุดคลุมขาวครามในระดับวีรชน
มันสามารถป้องกันการโจมตีของผู้ฝึกตนในระดับวีรชนขั้นปลายหรือแม้แต่ทรราชขั้นต้นยังยากที่จะทะลวงพลังป้องกันของมันได้"
นางอธิบายถึงคุณสมบัติของเสื้อแพรก่อนจะประกาศเริ่มมันที่ "8หยกนิล"
"8หยกนิล1ล้านเหรียญทอง" ฉางอวี้กล่าวด้วยความพอใจ สิ่งของนี้และถึงจะคู่ควรกับว่าที่ฮูหยินรอง มู่เสวี่ยในอนาคต
"8หยกนิล3ล้านเหรียญทอง"
ได้ยินเช่นนั้นหนิงเทียนหันไปตามทิศทางเสียงของผู้ที่ประมูลแข่งกับฉางอวี้ ปรากฎเป็นสตรีในชุดสีแดง
"แม้แต่วีรสตรี เจินหนี่ ยังเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้" เสียงของผู้ฝึกตนคนหนึ่งโพงออกมา ทำให้หนิงเทียนรับรู้ถึงตัวตนของสตรีผู้นี้
"8หยกนิล5ล้านเหรียญทอง"
"8หยกนิล6ล้านเหรียญทอง"
"8หยกนิล7ล้านเหรียญทอง"ฉางอวี้ยังคงกล่าวด้วยเสียงที่เปี่ยมตัณหา แม่นางเจินหนี่ถ้าท่านสนใจจะเป็นฮูหยินรองให้แก่ข้า แน่นอนข้าจะมอบมันให้ท่านฟรีๆ
ไม่จำเป็น สตรีนามเจินหนี่ กล่าวออก"8หยกนิล8ล้านเหรียญทอง"
เสื้อแพรพรรณรายนั้นแม้จะเป็นของวิเศษแต่กลับมีผู้ร่วมประมูลมันเพียง2คนเท่านั้น เนื่องจากราคาที่มากถึง9หยกนิลมันทำให้ผู้ฝึกตนคนอื่นๆได้แต่มองตามเท่านั้น
การประมูลยังคงดำเนินไปต่อ เวลานี้มูลค่าของมันสูงถึง9หยกนิล3ล้านเหรียญทอง แต่สุดท้ายแล้วบุตรชายของเจ้าเมืองอย่างฉางอวี้ก็ยังคงเป็นผู้มั่งคั่งมากกว่าอยู่ดี
"9หยกนิล7ล้านเหรียญทอง"ฉางอวี้กล่าวออกด้วยสีหน้าภาคภูมิในความมั่งคั่งของตนเอง