บทที่ 62 สอดปากเข้ายุ่ง
ขณะที่ด้านนอกนั้นส่งเสียงประมูลกันอย่างครื้นเครง แต่ภายในห้องส่วนตัวของหนิงเทียนกลับเงียบสนิทราวกับที่อยู่ของคนใบ้
ช่วงเวลาต่อมาเป็นจินเหล่าต้าที่ได้กล่าวขึ้นทำลายความเงียบนี้ “พี่ชายหนิงหรือว่าท่านจะ....ท่านจะเป็นลูกหลานของจักรพรรดิ” จินเหล่าต้ากล่าวถามอย่างไม่เต็มเสียงนัก
เวลานี้ความเคารพนับถือของมันที่มีแก่หนิงเทียนมากมายจนไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อีกแล้ว
“อย่าได้ใส่ใจคำพูดของคนแก่ให้มากนัก ข้าก็เป็นพี่ชายหนิงที่เจ้ารู้จัก” หนิงเทียนกล่าวออกด้วยน้ำเสียงราบเรียบเป็นปกติ
มันยังคงกล่าวต่อ “ถ้าเจ้าต้องการสิ่งใดในการประมูลนี้ ให้บอกแก่ข้า” หนิงเทียนใช้คำพูดเดียวกันกับที่จินเหล่าต้าเคยกล่าวกับมัน
“แต่ว่าท่าน...ท่าน”ก่อนที่จินเหล่าต้าจะเอ่ยถามอะไรมากไปกว่านี้
“อย่าได้ถามอันใดอีก ข้าแค่โชคดีนิดหน่อยเท่านั้นที่เกิดมาบนกองเงินกองทอง” หนิงเทียนโบกมืออย่าไม่ใส่ใจก่อนจะมองไปยังลานประมูลที่เวลานี้ล่วงเลยมาถึงชุดที่สี่ในรอบเช้าแล้ว
เวลานี้การประมูลยิ่งทวีความร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จากสิ่งของที่นำออกมา มีผู้ฝึกตนมากกว่าร้อยคนเพิ่มราคาในสิ่งของชิ้นเดียวกัน
ในการประมูลรอบที่สาม ด้วยอาวุธลมปราณระดับปราชญ์กลับมีราคาพุ่งสูงถึง6ล้านเหรียญทอง
เพียงไม่นานนัก เอี้ยหยวนประกาศออกเสียงดัง “สำหรับรายการต่อไปนี้ ข้าเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างเฝ้ารอคอยมันเพราะมันเป็นสมบัติวิเศษที่ตกทอดมานับร้อยปีของตระกูลจ้าว
เป็นสิ่งที่ผู้ฝึกตนในแดนวีรชนทุกคนถวิลหา มันคือ น้ำทิพย์อมฤทธิ์ส่วนประกอบหลักในการปรุงโอสถวิญญาณทรราชย์
โอสถระดับปฐพีที่ช่วยให้ผู้ฝึกตนในแดนวีรชนทะลวงระดับเข้าสู่ดินแดนทรราชย์ ข้าขอ เริ่มต้นมันที่ราคา5หยกนิล”
ด้วยราคาวัตถุดิบที่นำไปสกัดเป็นโอสถทิพย์นั้นจะมีราคาสูงกว่าวัตถุดิบที่นำไปสกัดเป็นโอสถพิษมากหลายเท่าตัวนัก
เพียงเพราะโอสถพิษเป็นเพียง1ใน100วิธีการเข่นฆ่ที่ใช้สังหาร มันนับว่าเป็นเพียงตัวเลือกหนึ่งเท่านั้น
แต่สำหรับโอสถทิพย์แล้วการที่จะใช้มันรักษาหรือยกระดับเข้าสู่ดินแดนใหม่ มันเป็นตัวเลือกที่นิยมและยังเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการฝึกตน
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วัตถุดิบในการปรุงโอสถทิพย์มีมูลค่าที่สูงมากกว่าวัตถุดิบที่ปรุงโอสถพิษอยู่หลายเท่าตัว
“ห้า...ห้าหยกนิลเทียบเท่ากับ 5สิบล้านเหรียญทอง ข้าไม่เคยฝันถึงเงินที่มากขนาดนี้มาก่อน”
“แม้แต่น้ำทิพย์อมฤทธิ์ก็ถูกนำออกมาประมูล ตระกูลจ้าวเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำสามตระกูลใหญ่แล้ว”
“บัดซบ!!! ข้าเคยได้ยินแต่ชื่อของมันวันนี้เป็นบุญตาจริงๆที่ได้เห็น”
“ของชิ้นนี้ต้องทำให้เวทีประมูลท่วมไปด้วยกองเหรียญทองอย่างแน่นอน”
กลุ่มผู้ฝึกตนในชั้นล่างต่างส่งเสียงโหวกเหวกขณะจับจ้องไปยังขวดหยกที่บรรจุอยู่ภายในกล่องสีคราม
น้ำทิพย์อมฤทธิ์ไม่เพียงแต่มันจะสร้างความแตกตื่นให้ผู้ฝึกตนในชั้นล่างเท่านั้น แม้แต่ด้านบนห้องส่วนตัวเองก็ไม่เว้น
ภายในห้องส่วนตัวหมายเลขต่างๆ พวกมันส่งเสียงปรึกษากันดังออกมา พวกมันต่างใช้หยกสื่อสารติดต่อกับไปยังตระกูลหรือสำนักของพวกมันกันอย่างเร่งรีบ
ขณะเดียวกันผ้าม่านที่ปกปิดห้องส่วนตัวหมายเลข8กำลังเลิกสูงขึ้นเผยให้เห็นชายชราลักษณะคล้ายขอทานนั่งอยู่เพียงคนเดียว มันจับจ้องไปยังน้ำทิพย์อมฤทธิ์อย่างไม่วางตา
ภายในห้องส่วนตัวที่1 ใบหน้าของจ้าวเทียนไห่ฉาบไปด้วยรอยยิ้ม มันกำลังเฝ้าดูการประมูลสินค้าของมันอย่างไม่ละสายตา
“ท่านพ่อ มันคุ้มแล้วหรอที่เราต้องนำเอาของวิเศษประจำตระกูลออกมาประมูลเช่นนี้” จ้าวหยางกล่าวถามพ่อของมันอย่างกล้าๆกลัวๆ
“เจ้าจะไปรู้อันใด คฤหาสน์ซื่อจิ้งนั้นตั้งอยู่ใต้เส้นเลือดมังกรฟ้า มันมีความหนาแน่นของลมปราณมากกว่าภายนอกถึง10เท่า
ถ้าตระกูลของเราสามารถครอบครองมันได้ พวกเราจะย้ายตระกูลจ้าวไปยังคฤหาสน์ซื่อจิ้งและภายในไม่เกิด10ปี
ตระกูลจ้าวของเราจะเต็มไปด้วยยอดยุทธในแดนวีรชนนับสิบๆคน ถึงเวลานั้นแม้แต่ ฉางเหล่ยก็ไม่มีสิทธิ์จะเป็นเจ้าเมืองฉางผิงอีกต่อไป”
เอี้ยหยวนมองไปรอบๆสักครู่หนึ่งก่อนจะประกาศออกมา “การเสนอราคา1ใน10นั้นอาจจะสูงเกินไป
ข้าขอเปลี่ยนแปลงมันเล็กน้อย ท่านทั้งหลายสามารถเสนอราคาขั้นต่ำได้ครั้งละ1ล้านเหรียญทอง ถ้าทุกคนเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าเอี้ยหยวนขอเริ่มประมูลน้ำทิพย์อมฤทธิ์”
“5หยกนิลกับอีก1ล้านเหรียญทอง” เสียงดังมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข2 ด้วยเสียงนี้มันทำให้ทุกสายตานับพันคู่มองขึ้นไปยังฮุยฟางผู้เป็นเจ้าของเสียงด้วยสายตาชื่นชม
“นิกายกระบี่เทวดาช่างร่ำรวยยิ่งนัก”
“แน่ละสิ 'กระบี่เทวดา ฮุยเหยียนฟาง' ติดอยู่ในครึ่งก้าวสู่ดินแดนทรราชย์มานับสิบปีแล้ว”
เสียงของฝูงชนที่กำลังคุยกันนั้นทำให้อีกๆหลายคนรู้ถึงเหตุผลของหนึ่งกระบี่ฮุยฟาง
ที่เข้าร่วมประมูลครั้งนี้และแน่นอนว่าถ้าฮุยฟางไม่ได้รับอนุญาตจากบิดาของมันแล้วการที่มันจะมีทรัพย์สินมากมายเช่นนี้มาร่วมประมูลนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
“นิกายกระบี่เทวดาจะร่ำรวยแค่ไหนกัน มาลองดูกันหน่อยเป็นไง? 5หยกนิลกับอีก3ล้านเหรียญทอง”น้ำเสียงอันยโสดังมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข3
“นั้นมันดาบอัปลักษณ์ มันร่ำรวยถึงเพียงนี้?”
“ไม่แปลก อาจารย์ของมันเองก็เหลืออีกเพียงครึ่งก้าวจะเข้าสู่ดินแดนทรราชย์”
“5หยกนิลกับอีก5ล้านเหรียญทอง” คราวนี้เป็นเสียงจากนักพรตชุดแดง
“ปรมาจารย์โอสถก็ร่วมประมูลกับเขาด้วย”
“วิเศษจริงๆ ได้เห็นการต่อสู้แย่งชิงของเหล่ายอดฝีมือระดับนี้ ไม่เสียแรงแล้วที่ข้าเดินทางมาไกลเพื่อเข้าร่วมงานประมูลครั้งนี้”
ความคิดเห็นของฝูงชนดังขึ้นมาอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะเงียบเสียงลง
ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข4 ท่าทีของจินเหล่าต้าเวลานี้ลุกลนอยู่ไม่น้อย มันทั้งยืนทั้งนั่งสลับกันไปมา โดยในมือของมันถือหยกสื่อสารไว้ติดกายราวกับว่ามันกำลังรอฟังเรื่องสำคัญจากใครบางคนอยู่
หนิงเทียนเห็นเช่นนี้ มันจึงกล่าวถามอย่างยิ้มแย้ม“เจ้าต้องการมัน?”
“ใช่...ข้าต้องการนำมันไปให้ท่านพ่อ” จินเหล่าต้ากล่าวตอบมันมองไปยังน้ำทิพย์อมฤทธิ์ด้วยสายตาเป็นประกาย
“หืมม์ ท่านจินต้องการมัน ?”
“พี่ชายหนิงเทียน ท่านพ่อต้องการน้ำทิพย์ในระดับปฐพีเพื่อนำไปเจือจางโอสถเลือดกระเรียนให้แก่ท่านแม่ ท่านพ่อนั้นตามหาน้ำทิพย์ทุกชนิดมานานแล้ว
ตลอดเวลา1ปีที่ผ่านมาทั่วทั้ง3เมืองใหญ่ไม่มีใครนำน้ำทิพย์ออกมาขายเลยแม้แต่ขวดเดียว พวกมันทั้งหลายต่างเก็บไว้เพื่อตัวเองกันกันหมด”
“หืมม์...ท่านแม่ของเจ้า? จริงสิข้าเองก็ไม่เคยพบฮูหยินจินเลยสักครั้ง ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะป่วยเป็นโรคเลือดผสมปราณ”
“พี่ชายหนิงเทียน ท่านรู้จักโรคนี้” จินเหล่าต้ากล่าวออกด้วยน้ำเสียงมีความหวัง ด้วยปาฎิหาริย์ที่หนิงเทียนแสดงออกมาหลายครั้งนั้น มีโอกาสไม่น้อยที่หนิงเทียนจะมีวิธีรักษาแม่ของมันได้
“มันไม่ใช่โรคแปลกอันใด?” การที่จะเกิดมามีเส้นเลือดและเส้นลมปราณร่วมกันนั้นมีโอกาสถึง1ใน100ส่วน
โดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้นั้นจะไม่สามารถฝึกฝนลมปราณได้และผู้ที่ไม่สามารถฝึกฝนลมปราณได้นั้นจะมีอายุขัยเพียง50-60ปีเท่านั้น
ด้วยโรคนี้แม้มันจะไม่แสดงอาการร้ายแรงออกมาก็ตาม แต่สำหรับผู้ป่วยแล้วมันนั้นไม่ต่างอะไรกับการหอบระเบิดเวลาที่กำลังรอวันจะระเบิดออกติดตัวไว้
“พี่ชายหนิงท่านมีวิธี!!?”จินเหล่าต้ากล่าวออกด้วยความตื่นเต้น
หนิงเทียนยกยิ้มขึ้นเล็กๆที่มุมปากพร้อมกล่าวกับจินเหล่าต้าด้วยท่าทีขับขัน“ถ้าเจ้าคือเจ้าแห่งปัญญา ข้าเองก็เป็นแพทย์อัจฉริยะอันดับ1”
….
……
ในขณะเดียวกันการประมูลน้ำทิพย์อมฤทธิ์ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น เวลานี้มันมีมูลค่าสูงถึง6หยกนิลกับอีก1ล้านเหรียญทองแล้ว
“6หยกนิลกับอีก2ล้านเหรียญทอง”หรงจื่อเสนอราคาต่อ
“6หยกนิลกับอีก3ล้านเหรียญทอง”ฮุยฟางเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าแต่อย่างใด
หานเจิงหัวเราะเยาะ พร้อมกล่าวออกนิกายทั้งสองแม้จะแข็งแกร่งแต่ไม่ได้ร่ำรวยเท่ากับท่านเจ้าเมืองแต่อย่างใด“6หยกนิลกับอีก5ล้านเหรียญทอง”
ฉางอวี้ที่นั่งข้างๆรีบกล่าวย้ำ“อาจารย์ท่านพ่อกำชับมาว่า ต้องนำน้ำทิพย์อมฤทธิ์มาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเสียเท่าใดก็ตามแต่”
กรอด!!! ฮุยฟางกัดฟันแน่นเมื่อได้ยินหานเจิงกล่าวเช่นนั้น ขณะที่มันส่งเสียงผ่านหยกหมื่นลี้ “ท่านพ่อเป้าหมายของเราคือคฤหาสน์ซื่อจิ้ง ถ้าเราจ่ายไปมากกว่านี้ เกรงว่า..”
ไม่นานนักมันได้ยินเสียงตอบกลับผ่านหยกหมื่นลี้ มันจึงกล่าวออกเสียงดัง “ท่านปรมาจารย์โอสถ ข้านั้นขอยอมแพ้ แม้น้ำทิพย์นี้จะเป็นของวิเศษแต่มันก็ไม่คุ้มที่จะต้องเสี่ยงกับการสูญเสียคฤหาสน์ซื่อจิ้งไป”
วาจาของมันนั้นแสดงให้เห็นชัดว่า ที่มันยอมตัดใจเป็นเพราะเป้าหมายที่ใหญ่กว่า
ฮ่าฮาฮา “แน่นอน นิกายกระบี่เทวดาไหนเลยจะยอมแพ้ด้วยเงินเพียง6หยกนิล มันต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว”หานเจิงกล่าวตอบเวลานี้มันคู่ต่อสู้มันเหลือเพียงนิกายเคลื่อนเมฆาเท่านั้น
ได้ยินคำพูดของฮุยฟางเช่นนั้น เหมือนเป็นการเตือนสติหรงจื่อทางอ้อม คิดได้เช่นนั้นมันจึงเงียบเสียงตัวเองลง มันไม่ได้กล่าวราคาสู้ต่อแต่อย่างใด
จ้าวเทียนไห่มองไปด้วยสายตาผิดหวัง มันคาดหวังไว้ถึง8หยกนิล“คนพวกนี้มีดีแต่ชื่อเสียงหรืออย่างไร?”มันอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมาด้วยสีหน้าดูถูก
เอี้ยหยวนประกาศออก “6หยกนิล5ล้านเหรียญทอง.....”ขณะที่มันกำลังจะอ้าปากกล่าวอันใดออกมา
เสียงแหบแห้งดังออกมาจากห้องส่วนตัวของชายชราที่ดูคล้ายขอทาน “6หยกนิล8ล้านเหรียญทอง”
หนิงเทียนถึงกับขมวดคิ้วเมื่อมันได้ยินราคาที่เกือบจะไปถึง7 หยกนิล มันพึมพำอย่างแผ่วเบา “น้ำเน่าๆนั้นกลับมีราคาถึง7หยกนิล”
จินเหล่าต้าที่นั่งอยู่ด้านข้างของหนิงเทียนอดไม่ได้ที่จะท้วงออก “พี่ชายหนิงน้ำทิพย์อมฤทธิ์นั้นมูลค่าที่แท้จริงมันควรที่สูงถึง8หยกนิลต่างหาก ถ้าขายได้ต่ำกว่านี้มันว่ามันขาดทุนแล้ว”
หนิงเทียนได้ฟังคำกล่าวของจินเหล่าต้า คิ้วของมันยิ่งขมวดกันเป็นปกมากขึ้นมันอดไม่ได้ที่จะกล่าวออก
“ถ้าน้ำเน่าๆเช่นนี้มีมูลค่า7หยกนิล เกรงว่าน้ำตกที่บ้านของข้าจะสามารถตีมูลค่าได้ถึง100หยกนิลแล้ว”
จินเหล่าต้าที่ได้ฟังหนิงเทียนบ่นอย่างติดตลก มันถึงกับหัวเราะออกเล็กน้อย
“พี่ชายหนิงเทียน ท่านก็พูดเกินไป น้ำทิพย์ที่ไหนจะมีปริมาณขนาดน้ำตกอย่างที่ท่านว่าได้”
หนิงเทียนมองไปยังจินเหล่าต้าด้วยสายตาจริงจัง “น้ำตกหน้าบ้านข้าไง หรือเจ้าไม่เชื่อ?”
ด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงของหนิงเทียน ทำให้จินเหล่าต้าไม่สามารถกล่าวคำใดออกมาได้อีก แม้แต่หยูหยูที่นั่งฟังอยู่ยังเกิดอาการเวียนศีรษะจากคำพูดเหล่านั้น
ในกลุ่มพวกมันทั้งสี่ เห็นทีจะมีแต่เสี่ยวซวงเพียงคนเดียวที่ไม่ได้มีความสนใจสิ่งรอบข้างใดๆเลยแม้แต่น้อยราวกับว่านางเป็นบุคคลที่ไร้ตัวตน
....
......
การประมูลยังคงดำเนินต่อไป “6หยกนิลกับ9ล้านเหรียญทอง”หานเจิงกล่าวออกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดมันหวังจะใช้เสียงของมันข่มอีกฝ่ายให้เกรงกลัว
ชายชราลึกลับกล่าวต่อด้วยสีหน้านิ่งเฉยมันหาได้สนใจท่าทีของหานเจิงไม่ “7หยกนิล”
เมื่อเห็นการประมูลยังคงต่อสู้กันต่อไปเช่นนี้ ใบหน้าของจ้าวเทียนไห่ยกยิ้มขึ้นอย่างมีสุข มันหัวเราะเสียดังอยู่ภายในห้อง “ดีดี เพิ่มราคากันเข้าไปอีก”
“7หยกนิลกับอีก1ล้านเหรียญทอง” หานเจิงกล่าวเพิ่มอีกครั้ง
ภายในห้องส่วนตัวที่4 หนิงเทียนกล่าวถามแก่จินเหล่าต้า “เจ้าต้องการให้ผู้ใดชนะการประมูลครั้งนี้?”
จินเหล่าต้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบออก “ข้าต้องการให้ชายชราผู้นั้นได้น้ำทิพย์อมฤทธิ์มากกว่าที่จะให้หานเจิงเอามันไป แต่จากรูปการเช่นนี้ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดคงหนีไม่พ้นจ้าวเทียนไห่”
หนิงเทียนอมยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย และไม่ได้กล่าวอันใดกับจินเหล่าต้าอีกต่อไป
มันแปรเปลี่ยนสายตาจับจ้องไปยังชายชราที่ลักษณะคล้ายขอทานด้วยท่าทีครุ่นคิดเพียงครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มและเอ่ยต่อหยูหยู “เปิดม่านขึ้นสิ ข้าต้องการร่วมสนุกในการประมูลครั้งนี้สักหน่อย”
ได้ยินเช่นนั้นด้วยหน้าที่ของหยูหยูแล้ว นางทำตามอย่างว่าง่าย เพียงเวลาลมหายใจเข้าออกผ้าม่านที่ปิดบังห้องส่วนตัวหลายเลข4ของกลุ่มหนิงเทียนอยู่ก็ได้เปิดขึ้น
หนิงเทียนลุกขึ้นจากเก้าอี้ของมัน พร้อมทั้งเปล่งเสียงออกไป “ผู้อาวุโส ข้าและท่านไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็จริง แต่ข้านั้นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามันเป็นการไม่ยุติธรรมกับท่าน ถ้าข้าไม่กล่าวความจริงออกไป
แน่นอนว่าน้ำทิพย์อมฤทธิ์นั้นเป็นของดี แต่สิ่งที่ท่านกำลังประมูลอยู่นั้นมันไร้ประโยชน์ การที่ท่านยอมสูญเสียเงินจำนวนมากเพื่อของไร้ประโยชน์ ท่านไม่คิดว่ามันเป็นการกระทำที่ดูเบาปัญญาไปหน่อยหรือ”
“เจ้าหมายความอย่างไร?” เสียงตวาดลั่นของจ้าวเทียนไห่ดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าสารเลวตัวนี้กำลังขัดขวางการประมูลสินค้าของมันอยู่ มันเปลี่ยนการแสดงออกเป็นดุร้ายทันที
หนิงเทียนนั้นทำเพียงแต่ส่งยิ้มให้แก่จ้าวเทียนไห่เล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่อ
“ในฐานะที่ข้าเป็นแพทย์อัจฉริยะ ข้าขออธิบายความรู้ให้แก่ ผู้คนทั้งหมดเล็กน้อย
ในตัวยานับพันชนิด น้ำทิพย์นั้นนับว่าหาได้ยากกว่าสมุนไพรตัวอื่นๆก็จริงอยู่ แต่สำหรับน้ำทิพย์อมฤทธิ์แล้วมันเป็นเพียงน้ำทิพย์ขั้นปฐพีระดับต่ำที่สุดในหมู่น้ำทิพย์ด้วยกัน
เพียงเพราะน้ำทิพย์อมฤทธิ์นั้นมีความเข้นข้นของการเป็นตัวยาที่ไม่สมดุล ถ้าใช้มันเป็นส่วนผสมมากเกินไป โอสถที่ได้จะรุนแรงและแปรเปลี่ยนคุณสมบัติเป็นพิษ แต่ถ้าใช้มันน้อยเกินไป มันจะเจือจางจนกลายเป็นโอสถที่ไร้คุณภาพ
ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นวัตถุดิบที่ยากในการกลั่นออกสำหรับบุคคลใน10ขั้นโลกหรือแม้แต่ระดับจ้าวโอสถปฐพียังมีความสำเร็จเพียง6ใน10เท่านั้น”
“เจ้าเด็กน้อยนั้นกำลังหมายความว่า น้ำทิพย์นี้มีแต่เซียนโอสถปฐพีขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้”
“ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าเด็กนั้นบอกจริง น้ำทิพย์อมฤทธิ์ไม่ใช่กลายเป็นเพียงของไร้ประโยชน์ของหรอกหรือ การที่จะให้เซียนโอสถปฐพียอมปรุงยาให้นั้น เห็นทีจะมีมูลเกินกว่า100หยกนิล”
“เจ้ากล่าววาจาตลกอันใดออกมา ถ้าต้องเสีย100หยกนิล ไม่สู้นำเงินไปซื้อโอสถสำเร็จมมาเลยไม่ดีกว่าหรือไง”
เสียงของผู้ฝึกตนคนอื่นๆในงานประมูล กำลังโต้เถียงกันอย่างสนุกปาก ด้วยคำพูดของหนิงเทียนนั้นทำให้เวลานี้การประมูลน้ำทิพย์อมฤทธิ์หยุดชะงักขึ้นมากลางคัน