Cornered by the CEO ตอนที่ 7 : ความผิดพลาดร้ายแรงของการเกิดมาเป็นลูกผู้หญิง
“แม่ของเธอโทรมาถามฉันว่าควรจองตั๋วบินกลับมาเมื่อไหร่”หยุ่นซุยป๋อพูดขณะหั่นสเต๊กในจานของเขา เป็นเวลานานแล้วที่เธอไม่ได้กลับมาที่ห้องโถงบรรพบุรุษของเธอ ดังนั้นบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในห้องสุขามันทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก
เธอไม่รู้ว่าเธอรอดชีวิตมาได้อย่างไรตั้ง18ปีในที่แห่งนี้
“เธอถามเพื่ออะไรคะ!?”หยุ่นเฉียนเหมิงถามอย่างเฉยชา
“ก่อนงานแต่งงานของเธอ เธอก็ควรโทรหาไป่เย่ชิงและครอบครัวของเขาเพื่อนัดเดทด้วยล่ะ”ไม่มีคำถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของเธอในเรื่องนี้
“ถ้าอดีตภรรยาของพ่ออยากรู้ ก็ให้เธอก็โทรมาถามฉันเองก็ได้”เธอตอบอย่างตรงไปตรงมา
ซุนหลี่ แม่ของเธอจบการศึกษาจากโรงเรียนแพทย์และกำลังจะสำเร็จการศึกษาด้านศัลยกรรมประสาทที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมือง เมื่อหยุ่นเฉียนเหมิงอายุได้3ขวบสำหรับซุนหลี่แล้วมันเป็นความสำเร็จที่น่าอัศจรรย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอตั้งครรภ์ในขณะที่ใฝ่ฝันจะเป็นศัลยแพทย์ แม่ของเฉียนเหมิงได้เสียสละอย่างมากเพื่อที่จะได้ไปอยู่ในที่ๆเธออยู่ทุกวันนี้...อเมริกา
คำแรกของเฉียนเหมิงที่พูดได้คือ“เหมียว”นั่นคือชื่อของแมวที่เป็นของพี่เลี้ยงของเธอซึ่งอาศัยอยู่ที่ด้านหลังคฤหาสน์ของพวกเขา แม่ของเธอจะนำเธอไปฝากพี่เลี้ยงเมื่อใดก็ตามที่เธอต้องทำงานหรือเรียน
ซึ่งตลอดเวลาเฉียนเหมิงและเหมียวเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกัน และเธอใช้เวลา5ปีในชีวิตเพื่อรู้ว่าแมวตัวนั้นไม่ใช่แมวของเธอด้วยซ้ำ!
“ไม่ต้องพูดยอกย้อน ฉันเองก็อยากรู้”หยุ่นซุยป๋อพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ฉันรู้ว่าเธอทนไม่ได้ที่จะพูดเรื่องแม่กับเธอ พูดตามตรงฉันก็เหมือนกัน”เขาสูดลมหายใจ
เมื่อเฉียนเหมิงอายุได้6ขวบ ซุนหลี่ได้งานที่โรงพยาบาลหรูหราระดับโลกแห่งหนึ่งการต่อสู้ของเธอเริ่มขึ้นแล้ว แม่พาเฉียนเหมิงไปอยู่ด้วยกันที่อเมริกาและให้พ่อแม่ของเธอมาอาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด
ขณะที่แม่ของเธอไปทำงานที่โรงพยาบาลตายายของเธอก็แก่มากแล้ว ดังนั้นเธอจึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวและดูแลตัวเองมาตลอด
นี่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ทุกคนเริ่มสงสัยว่าหยุ่นซุยป๋อพ่อของเธออยู่ที่ไหน!? ถ้าคุณถามเฉียนเหมิงในตอนนั้นเธอจะบอกคุณว่า เธอเองก็สงสัยเหมือนกันความจริงเธอยังคงสงสัยในสิ่งเดิมๆมาตลอด
หยุ่นซุยป๋อใช้เวลาทั้งหมดของเขาในหยุ่นคอร์ปอเรชั่นเช่นกัน เขาปล่อยให้เธอเป็นเด็กที่ต้องดูแลตัวเองและเติบโตขึ้นมาด้วยตัวเอง
“ฉันยังไม่ค่อยรู้จักเขาดีเท่าไหร่เลยค่ะพ่อ ให้เวลาฉันได้ทำความรู้จักเขาให้มากกว่านี้หน่อยนะคะ”เธอตอบอย่างสุภาพแต่หนักแน่น สเต๊กชิ้นนั้นกินยากเกินไปสำหรับเธอ เธอเอนหลังพิงเก้าอี้รู้สึกเหนื่อยจากการสนทนาแล้ว
ทำไมบทสนทนาของพวกเขาถึงเป็นแบบนี้?ไม่สำคัญว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ของเธอ ทั้งคู่ไม่สนใจเว้นแต่เธอจะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาในทางใดทางหนึ่ง
ในช่วงเวลาสั้นๆที่เธออาศัยอยู่กับแม่ในอเมริกาเธอพบว่าแม่ของเธอมีแฟนใหม่แล้ว และใช่พ่อของเธอก็มีแฟนใหม่แล้วด้วยเช่นกัน เมื่อเธอถูกส่งตัวกลับไปปักกิ่งเธอจึงไม่แปลกใจเลย
ซุนหลี่ละทิ้งการดูแลเฉียนเหมิง พ่อของเธอรอ2-3เดือนหลังจากการหย่าร้าง ก่อนที่เขาจะนำภรรยาคนใหม่ เจี่ยงซิน เข้ามาอยู่ในบ้าน
เจี่ยงซิน แม่เลี้ยงที่แกล้งทำตัวเป็นนางฟ้าและน้องชายคนเล็กของเธอเกิดหลังจากที่ภรรยาใหม่ของพ่อเข้าบ้านมาได้แค่4เดือน
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียนเหมิงเข้าใจว่าทำไมพ่อของเธอถึงไม่เคยพูดกับเธอเลย เธอได้ทำผิดพลาดร้ายแรงเพราะเธอเกิดมาเป็นลูกผู้หญิง!
“หลังจากแต่งงานเธอสามารถทำความรู้จักกับเขาได้”พ่อของเธอกล่าวอย่างเรียบๆ
“ชิงหยวน วันนี้ที่บริษัทเป็นยังไงบ้าง?”หยุ่นซุยป๋อถามหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
หยุ่นซุยป๋อปฏิบัติต่อน้องชายของเธอเหมือนเขาเป็นเจ้าชายตัวน้อย และเธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากเขาเป็นเด็กที่น่ารัก เขายิ้มให้หยุ่นเฉียนเหมิงบ่อยๆ
“ฉันได้รับความรู้มากมายจากผู้อาวุโสในแผนก”หยุ่นชิงหยวนกล่าวด้วยเสียงต่ำ เฉียนเหมิงเหลือบมองไปทางเขา“พี่ใหญ่”เด็กชายพูดขึ้นทันใด
สิ่งนี้ทำให้เธอแปลกใจ“หลังจากฉันฝึกงาน1เดือนเสร็จ พี่จะอนุญาตให้ฉันดูแลพี่ในที่ทำงานได้ไหมครับ”มีความไร้เดียงสาปนอยู่ในน้ำเสียงของเขา เฉียนเหมิงถอนหายใจ
“ตอนนี้เธออายุ18ปีแล้ว เธอควรจะคิดถึงการเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยไม่ใช่หรอ?”เธอแสดงความคิดเห็น คำพูดของเธอต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเจ้าหนูน้อยคนนี้
“เหมิงเอ๋อ คุณช่วยเขาหน่อยไม่ได้หรอ เขาต้องการเรียนรู้วิธีการทำงานจากคุณ”เสียงหวานชวนปวดหัวดังขึ้นนี่คือสิ่งที่ชิงหยวนได้แนวคิดมาจากเจี่ยงซิน
แม่เลี้ยงชั่วร้ายได้ป้อนความคิดนี้ให้เขา“เขารักและเทิดทูนคุณมากนะ โปรดให้โอกาสเขาเถอะ”เจี่ยงซินกล่าวเสียงอ่อน
เฉียนเหมิงถอนหายใจ...ไม่ว่าเธอจะหิวแค่ไหนเมื่อเธอกลับมารับประทานอาหารกับครอบครัวนี้ เธอก็ดูเหมือนจะเบื่ออาหารในทันทีทุกครั้งไป