Cornered by the CEO ตอนที่ 5 : ความรู้สึกแปลกๆที่บ้านของตัวเอง
ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าตรงไปยังสำนักงาน หลี่หมินขับรถไปในความเงียบการเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น การจราจรก็ไม่เลวร้ายนักและหยุ่นเฉียนเหมิงก็ไม่ได้นึกถึงเรื่องความฝันเมื่อคืนอีก
แต่เรื่องราวที่ครอบคลุมความฝันนั้นชัดเจนมากสำหรับเธอ เมื่อต้องเผชิญกับความกลัวและความคิดที่ว่า...สัญชาตญาณของเธอได้เตือนตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัวหรือเปล่า!!
เธอขมวดคิ้วเพราะไม่ค่อยมีความฝันที่รู้สึกเหมือนจริงได้ขนาดนี้มาก่อนเลย แล้วเธอก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป
“จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าที่หลี่จุนจะได้รับข้อมูลทางการเงินและประวัติอย่างละเอียดเกี่ยวกับไป่เย่ชิง”เฉียนเหมิงถามเพราะรู้สึกตื่นตระหนกในจิตใจซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่คุ้นเคยเลย
ก่อนหน้านี้เธอเคยตอบตกลงกับพ่อของเธอ ตอนที่ไป่เย่ชิงได้ขอเธอแต่งงานเธอเคยพบเขาครั้งหนึ่งและไม่ได้รู้สึกแย่กับเขาแต่กลับประทับใจในตัวเขาเสียอีก
“ฉันส่งคำสั่งของคุณไปให้หลี่จุนเมื่อคืนนี้ ทีมงานของเขายุ่งอยู่กับคดีที่มีชื่อเสียงในขณะนี้ ดังนั้นเขาจะมอบหมายให้ผู้จัดการสำนักงานและนักสืบฝีมือดีจัดการเรื่องนี้ให้คุณค่ะ”หลี่หมินรายงานทันที
เฉียนเหมิงไม่รู้ว่าอะไรกระตุ้นให้เธอตัดสินใจไปสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับสามีในอนาคตของเธอ
“แล้วที่สำนักงานกฎหมายเป็นอย่างไรบ้าง”หยุ่นเฉียนเหมิงถามต่ออย่างไม่เป็นทางการ
“ราบรื่นและดำเนินไปได้ด้วยดีมากค่ะคุณหยุ่น” หลี่หมินกล่าว
เฉียนเหมิงพบว่าพี่ชายของหลี่หมินเป็นทนายความ ที่ทำงานให้กับ1ใน3บริษัทชั้นนำในประเทศหลังจากเธอจ้างเขามา1ปี เธอยังพบว่าเขากำลังมองหาทำเลที่จะเปิดสำนักงานทนายความของตัวเองอยู่ด้วย
หลี่จุนได้สืบสวนสอบสวน ว่าความความในสำนักงานอัยการและทำผลงานได้ดีมาก
เฉียนเหมิงต้องการทนายความในตอนนั้นและไม่ชอบทนายความที่เธอได้รับจากบริษัทอื่น เธอจึงขอให้หลี่หมินช่วยติดต่อกับพี่ชายของเธอให้ หลังจากการพบกันครั้งแรกเฉียนเหมิงก็ได้ร่วมงานกับเขาทันที
หลี่จุนเป็นทนายความที่มีความสามารถยอดเยี่ยม และเขามีวิธีต่อสู้กับข้อกฎหมายอย่างชาญฉลาด
หนังสือสัญญาที่มีหลักฐานครบถ้วน ภายใต้การแนะนำของหลี่จุนมันจึงยากมากหากจะมีการโกงเกิดขึ้น กรณีของลูกจ้างและงานจ้างภายนอกอื่นๆเขาก็รับทำเช่นกัน จากการแนะนำของเฉียนเหมิงเขาได้รับคะแนนความนิยมจากลูกค้าที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆมากมาย
รวมถึงคดีบริษัทจากทุกภาคส่วนและคดีอาญาที่ไม่มีทนายคนใดเต็มใจรับว่าความ
หลี่จุนสามารถทำการตรวจสอบประวัติทางกฎหมายได้ไม่เหมือนที่ใครทำ เขาค้นพบความลับอันสกปรกได้เร็วกว่าที่สังคมออนไลน์จะขุดพบเรื่องอื้อฉาวเสียอีก
หยุ่นเฉียนเหมิงสามารถไว้วางใจให้เขานำข้อมูลที่แท้จริงมาให้เธอได้ “ข่าวดี”เธอพูดในที่สุด...ส่วนที่เหลือหายไปในความเงียบ
เมื่อพวกเขามาถึงในสำนักงานแทบไม่มีใครมาถึงก่อนเลย นอกจากทีมรักษาความปลอดภัยและพนักงานต้อนรับ เธอได้รับคำทักทายและพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจนัก
เมื่อเธอนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานหลี่หมินก็เปิดแฟ้ม และรายงานการทำงานประจำวันของวันนั้นให้เธอได้รับทราบ
ในแต่ละวันการทำงานของเฉียนเหมิงมักจะมีลักษณะเช่นนี้วนไปในทุกๆวัน เข้าพบเลขาผู้บริหารและผู้ช่วยอื่นๆ,พบกับคณะผู้นำ,รายงานธุรกิจ,ข้อเสนอ,การประเมิน,การลงนามในโครงการใหม่,ลงไปกำกับดูแลทุกแผนกให้ทำงานออกมาดี การอัปเดตจากบริษัทการลงทุนทั้งหมดของเธอและเช็คอีเมล...หลายร้อยฉบับ
บางวันเธอลงไปยังแผนกต่างๆเพื่อตรวจสอบเป็นประจำ เธอไม่ชอบการจัดการที่ตึงเครียดดังนั้นเธอจึงไม่ได้ทำบ่อยเกินไป การทำงานใช้เวลาประมาณ12-14ชั่วโมงใน1วันของเธอ
จากนั้นมีเวลาเดินทางอีก2ชั่วโมง ชีวิตของCEOนั้นไม่ได้ง่ายเธอแทบจะไม่มีเวลาให้ตัวเองเลยด้วยซ้ำ และบรรดาCEOในนิยายต่างๆก็มีแต่เรื่องรักๆใคร่ๆซึ่งไม่ใช่เธอ
เสียงฝีเท้าดังมาจากทางประตู หลี่หมินรีบเดินเข้ามาบอกเฉียนเหมิงในทันที
“คุณหยุ่นต้องกลับบ้านไปรับประทานอาหารเย็นกับพ่อของคุณวันนี้นะคะ เขาโทรมาแจ้งให้คุณทราบเมื่อสักครู่”เฉียนเหมิงถอนหายใจก้มศีรษะไปที่มือของเธอ
“มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร?”เธอถามอย่างหงุดหงิดเธอพยายามให้เวลากับครอบครัวให้น้อยที่สุด ดังนั้นมื้ออาหารเย็นที่ไม่คาดฝันนี้จึงเป็นสิ่งที่เธอไม่ได้ต้องการ เพราะมันจะต้องทำให้เธอไม่มีความสุขอย่างแน่นอน
“เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องฉุกเฉิน”อย่างที่เคยเป็นมา แต่ถ้าเขาโทรหาหลี่หมินเพื่อนัดหมายมันต้องเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นการสนทนากับพ่อของเธอมักจะจบลงเมื่อเขาบอกในสิ่งที่เขาต้องการ
แน่นอนว่าเขาต้องการบางอย่าง เธอพยักหน้า“บอกให้เขารู้ว่าฉันจะไปถึงหลังเลิกงาน”หลี่หมินพยักหน้าโดยไม่ถามเวลาและออกจากห้องไป
1วันผ่านไปโดยไม่มีปัญหาอะไรเธอทำงานได้ดีเมื่อเลิกงานก็1ทุ่มแล้ว เธอถอนหายใจและขอให้หลี่หมินกลับบ้านไปก่อนได้เลย
เพราะเธอจะขับรถกลับเอง
เมื่อเธอขับรถมาถึงหน้าบ้านนี่เป็นครอบครัวของเธอ แต่ทำไมเธอจึงรู้สึกแปลกๆอาจเป็นเพราะเธอไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลานานมากแล้วจึงไม่รู้สึกเหมือนอยู่บ้านอีกต่อไป เธอสวมเสื้อคลุมแล้วเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน
ยามที่ประตูแจ้งกับคนในบ้านว่าเธอมาถึงแล้ว ดังนั้นจึงมีพี่เลี้ยงที่ทำงานอยู่ในบ้านมาตลอดระยะเวลา30ปี มายืนอยู่ที่หน้าประตูเพื่อรอรับเธอ
“คุณหนูหยุ่นมาแล้ว”ผู้หญิงคนนี้ทักทายพร้อมก้มหัวลง เฉียนเหมิงมองไปที่ใบหน้าที่เหี่ยวแห้งของหญิงสาวและรู้สึกถึงคิดถึงขึ้นมาอย่างจับใจ
มีคนน้อยมากที่อยู่ในบ้านหลังนี้ตั้งแต่ก่อนที่แม่เลี้ยงของเธอจะเข้ามา และโดยทั่วไปแล้วไม่มีคนรับใช้คนไหนมาสนใจเธอเลย ถึงพวกเขาจะปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพแต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าพวกเขาใส่ใจเธอมากนัก