Cornered by the CEO ตอนที่ 1 : การแต่งงานที่ได้เปรียบของทายาทผู้มั่งคั่ง
หยุ่นเฉียนเหมิง มีอายุครบ25ปีตอนที่เธอแต่งงาน เธอมาจากครอบครัวมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง แต่ก็ยังมีความคิดหัวโบราณอยู่ว่าลูกสาวที่ดีจะต้องไม่ปฏิเสธความต้องการของพ่อแม่
พ่อของเธอต้องการให้เธอแต่งงานและเธอก็กล่าวว่า“ถ้านั่นคือสิ่งที่ทำให้พ่อมีความสุข ฉันก็จะทำด้วยความยินดี”
แต่มันไม่ใช่“ความรัก!”ทายาทผู้มั่งคั่งถูกสอนว่าอย่าไปยุ่งกับเรื่องวุ่นวายนั่น การตัดสินใจทางธุรกิจทั้งหมด หยุ่นซุยป๋อ พ่อของเธอได้จัดการทุกอย่างไว้ให้กับเธอหมดแล้ว
เฉียนเหมิงเติบโตขึ้นมาในครอบครัวหยุ่นคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้สร้างอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศนี้
แล้วความฝันที่เธอคิดว่ามันจะแสนหวานก็ได้เริ่มต้นขึ้น
เมื่อสหภาพแรงงานมีการเคลื่อนไหวเพื่อเอาชนะ โมบิลดิ่งโซลูชั่น ซึ่งเป็นคู่แข่งตัวฉกาจที่น่าจับตามองสำหรับพวกเขา
ครอบครัวไป่เป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าวัสดุก่อสร้างที่มีชื่อเสียงในแผ่นดินใหญ่ ซึ่งช่วยเอื้ออำนวยให้ราคาวัสดุที่ใช้ในการดำเนินงานของบริษัทหยุ่นคอร์ปอเรชั่นมีราคาถูกลง
นั่นถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของครอบครัวไป่และหยุ่น พวกเขาร่วมมือกันเพื่อขยายโอกาสทางการเงินให้กับบริษัทของพวกเขา ซึ่งเฉียนเหมิงยอมรับในสิ่งที่พ่อของเธอเลือกให้อย่างสง่างาม
เมื่อถึงเวลาเฉียนเหมิงก็ได้พบกับว่าที่สามี เธอรู้สึกซาบซึ้งใจกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มผู้นี้มาก พฤติกรรมที่ให้เกียรติเรียบร้อยดูดี คำพูดที่อ่อนโยนและการเคารพพื้นที่ส่วนตัวของเธอ ที่เขาแสดงออกมานั้นทำให้เฉียนเหมิงประทับใจเขาอย่างมาก
ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดีแต่ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่เลวร้ายอาจจะกำลังเกิดขึ้น
ครอบครัวไป่มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในเรื่องความประพฤติของลูกสะใภ้ เฉียนเหมิงได้รับอนุญาตให้สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดเรียบร้อยเท่านั้น และเธอจะดื่มสังสรรค์นอกบ้านไม่ได้แม้แต่จะดื่มกับสามีของตัวเอง
แต่เฉียนเหมิงรักการดื่มไวน์และเบียร์ เธอชอบใส่ชุดเดรสสวยๆและสวมกระโปรงแฟชั่น ในตอนแรกเฉียนเหมิงแหกกฎที่มี เธอดื่มในสิ่งที่เธอชอบและสวมใส่ในสิ่งที่เธอต้องการ และแล้วก็มีเสียงสะท้อนที่ไม่ดีมาจากแม่สามีและคำพูดนั้นก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
สามีของหยุ่นเฉียนเหมิง ไป่เย่ชิง บุคลิกภายนอกที่ปรากฎแก่สายตาผู้คนทั่วไป เขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและแก่กว่าเฉียนเหมิง1ปี แต่ด้วยการอบรมเลี้ยงดูเขาจึงมีนิสัยเสียบางอย่างตั้งแต่ยังเด็ก แม้ขณะนี้เขาจะอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นในบริษัทของพ่อเขาก็ตาม
เขามักจะมีความคิดและการตัดสินใจที่ผิดพลาดเสมอเพราะเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เขาควรจะลงทุนได้อย่างเด็ดขาดชัดเจน กล่าวคือไป่เย่ชิงไม่ได้มีประสบการณ์ทางด้านธุรกิจที่ดีเลย
“คุณต้องช่วยให้ฉันได้ขึ้นเป็นเจ้าของบริษัท!”ไป่เย่ชิงกล่าวขึ้นในวันหนึ่ง หยุ่นเฉียนเหมิงได้ยินแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ
“เพราะคุณสามารถสร้างบริษัทด้วยมือของคุณเองและคุณก็เป็นนักลงทุนที่ยอดเยี่ยม ฉันอยากให้คุณสอนฉันบ้าง”ไป่เย่ชิงกล่าว
ในตอนแรกเฉียนเหมิงไม่รู้จะพูดอะไรเพราะตั้งแต่ยังเด็ก เธอได้รับการสั่งสอนจากครอบครัวว่า การเป็นภรรยาที่ดีจะต้องช่วยสนับสนุนสามีทุกด้านและต้องช่วยปูทางให้สามีก้าวไปสู่ความสำเร็จ นั่นจะเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุดของคนเป็นภรรยา
ดังนั้นจากประสบการณ์ทั้งหมดที่เธอมีไม่ว่าจะเป็นด้านการบริหารด้านการลงทุนต่างๆในธุรกิจ เธอจึงถ่ายทอดความรู้และสอนเขาทั้งหมดทุกอย่าง
อีกทั้งเธอยังช่วยเป็นที่ปรึกษาในเรื่องการลงทุนและในการตัดสินใจทุกๆเรื่องที่สำคัญของเขาอีกด้วย
ผลที่ออกมาคือตำแหน่งในบริษัทของไป่เย่ชิงแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมกับอำนาจภายในครอบครัวของเขาก็เติบโตขึ้นอย่างก้าวหน้า เฉียนเหมิงภูมิใจมากกับสิ่งที่เธอได้ทุ่มเทให้กับเขา
แต่ถ้าหากเป็นความรู้สึกในด้านของความรักแล้ว เธอกลับไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเป็นพิเศษเลย ลึกๆแล้วเธอรู้สึกว่าเขาไม่ต่างจากเพื่อนคนหนึ่งเพราะเธอเองก็ไม่เคยได้รับความรักจากครอบครัวไป่
หรือความเอาใจใส่จากสามีที่เธอสมควรได้รับจากเขาเลย
ภายใน1ปีหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน พ่อของไป่เย่ชิงได้เสียชีวิตลง ถึงหยุ่นเฉียนเหมิงจะไม่ได้ใกล้ชิดกับพ่อของสามีมากนัก แต่เธอก็รู้ว่าเขาเป็นคนขยันมาก
เขาสร้างธุรกิจของครอบครัวขึ้นมาด้วยตัวเองเพียงลำพัง เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเคารพเขาอย่างมากในฐานะพ่อของสามี หลังจากที่พ่อสามีได้จากไปแม่สามีของเธอก็กลายเป็นปีศาจร้ายภายในบ้าน
เกิดการตะโกนด่าทอและการล่วงละเมิดสิทธิตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการแต่งงานจนตอนนี้มันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ในที่สุดเฉียนเหมิงก็เข้าใจดีว่าการที่สะใภ้คนหนึ่งอยู่ๆต้องกลายมาเป็นคนที่ชั่วร้าย
มันเป็นอย่างไรและมันไม่ใช่เรื่องตลกสำหรับเธอเช่นกัน!
หลังจากเวลาผ่านไปได้2-3สัปดาห์ ไป่เย่ชิงก็ได้เข้ามาช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัวเฉียนเหมิงด้วย เฉียนเหมิงมีความสุขมากและพร้อมที่จะสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่
แต่ด้วยการกระทำจากแม่สามีที่บ้านก็ทำให้เธอเหลือจะทน ซึ่งไป่เย่ชิงก็รับรู้รื่องนี้มาโดยตลอด
โดยส่วนใหญ่เฉียนเหมิงไม่สามารถไปทำงานหรือติดตามการลงทุนของเธอได้ เพราะเธอยุ่งเกินไปเธอต้องคอยช่วยทำให้สามีของเธอประสบความสำเร็จในทุกด้านเสียก่อน
อยู่มาวันหนึ่งไป่เย่ชิงกลับมาที่บ้านและกล่าวว่าพวกเขาจะย้ายไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ใกล้กับที่ทำงานและเพื่อความสบายใจของเฉียนเหมิง สิ่งนี้มันเขย่าจิตใจแม่สามีของเธอมาก
แต่เฉียนเหมิงก็รู้สึกสุขใจในเวลาเดียวกัน
ในวันที่พวกเขาย้ายเข้าไปอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งใหม่ เฉียนเหมิงจ้องมองไปยังพื้นที่ว่างอันกว้างขวางและตัดสินใจว่าจะออกแบบตกแต่งอย่างไรดี
เพราะนี่คงจะเป็นบ้านของเธอในระยะยาว เธอจะประดับตกแต่งมันตามที่เธอปรารถนาและเธอก็ทำอย่างนั้น เธอเติมเต็มสถานที่นี้ด้วยความรักและความตั้งใจ
เมื่อเวลาผ่านไปอีก1ปี
เฉียนเหมิงและไป่เย่ชิงพยายามอย่างมากที่จะมีลูกแต่ไป่เย่ชิงก็งานยุ่งมากขึ้นทุกวัน บ่อยครั้งที่เฉียนเหมิงถูกทิ้งไว้คนเดียวในอพาร์ตเมนต์ขนาดมหึมานี้
เธอนอนพักผ่อนบนโซฟาสายตาก็จ้องมองไปที่เพดานและคิดทบทวนบางอย่างช้าๆบางครั้งเธอก็อยากร้องไห้
บางครั้งเธอก็สงสัยว่าเธอทำอะไรผิดจึงสมควรได้รับสิ่งนี้ เธอรู้สึกอนาถใจกับตัวเองมาก 2ปีแล้วที่เธอพยายาม...2ปีของการพยายามแต่เธอไม่ตั้งครรภ์สักที
บรรดาผู้ที่เกลียดชังและอิจฉาเธอแสยะยิ้มแล้วบอกกับเธอว่า“น่าเสียดายจริงๆแต่พยายามต่อไปนะพวกเราจะเป็นกำลังใจให้”แต่เธอไม่ได้พูดอะไรมากเพียงยิ้มเล็กๆเป็นการตอบแทน
เฉียนเหมิงล้มเหลวในหน้าที่ของลูกสาวและภรรยาที่ดี หยุ่นซุยป๋อโทรหาเธอบ่อยครั้งเพื่อย้ำเตือนเธอถึงข้อตกลงกับครอบครัวไป่ซึ่งเธอก็พยายามอย่างมาก
เธอจำเป็นต้องสร้างทายาทเพื่อเอาใจครอบครัวและไป่เย่ชิง เฉียนเหมิงไม่มีหน้าจะไปบอกพ่อของเธอด้วยซ้ำว่าเธอไม่สามารถทำได้
ในเวลาต่อมาเฉียนเหมิงไม่ได้เจอครอบครัวของเธอมาเป็นเวลา1ปีแล้ว พ่อของเธอก็ไม่ค่อยโทรหาเธอเหมือนเมื่อก่อนและแม่เลี้ยงของเธอก็ดูจะมีความสุขมากๆที่ได้กำจัดเธอออกจากบ้าน
น้องชายต่างแม่ของเธอไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศจนไม่มีเวลากลับมาจากการเรียนหนังสือเลย
เฉียนเหมิงทำได้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น เธอได้เซ็นชื่อยกหุ้นในบริษัทของเธอให้กับไป่เย่ชิง ทำให้เขามีตำแหน่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิด
เพื่อประโยชน์ของหยุ่นคอร์ปอเรชั่น เธอจำเป็นต้องทำอย่างนั้น
โมบิลดิ่งโซลูชั่น มีความก้าวหน้ามากขึ้นโดยได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างรวดเร็ว ทำให้หยุ่นคอร์ปอเรชั่นล้าหลังอย่างมากในทางธุรกิจ
และภายใต้การบริหารงานของประธานคนใหม่ โม่ชิงเฉิน ทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างราบรื่นราวกับความฝัน
เวลาผ่านไปอีก1ปี ไป่เย่ชิงได้ซื้ออพาร์ตเมนต์เพิ่มเพื่อขยายพื้นที่ของพวกเขา และพื้นที่ใหม่ส่วนหนึ่งชั้นล่างได้กลายเป็นสำนักงานใหม่ของเขาด้วย
ไป่เย่ชิงได้บอกกับเฉียนเหมิงว่าเขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองบ้าง
“ทำไมคุณถึงต้องการพื้นที่ส่วนตัว?ฉันออกแบบตกแต่งห้องได้ไม่ดีพอเหรอคะ หรือมีอะไรที่คุณไม่ชอบ!?”เฉียนเหมิงถามเขาด้วยความผิดหวัง
“ไม่ใช่อย่างนั้นเหมิงเอ๋อ ทุกอย่างที่คุณทำมันวิเศษมาก!”เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและลูบไล้ใบหน้าของเธอ
นี่เป็นเวลา4ปีในการแต่งงานของเธอ หลังจากที่เขาพูดจบเธอก็ออกไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้ออาหารมาเตรียมสำหรับทำอาหารในแต่ละมื้อ
และเมื่อเธอกลับมาถึงอพาร์ตเมนต์ รปภ.ก็ยื่นซองจดหมายสีขาวให้กับเธอ